ตอนที่แล้วตอนที่ 1349 ผนึกประตูชีวิตนิรันดร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1351 ใครจะรู้ใจสตรี?

ตอนที่ 1350 ข้าคือนักรบ!


“ปรากฏว่านางถึงขีดจำกัดก่อนไม่สามารถยืนหยัดได้!” เหล่าปีศาจเฒ่าพูดคุยกัน

“ฉวนคงซ่างนั้นตายอย่างไม่ยุติธรรมหรือเปล่า?”  มีใครบางคนสามารถแทนฉวนคงซ่างแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าไม่ทำการถ่วงเวลา อย่างนั้นก็ชนะไปแล้ว

“ใครให้เขาไปยั่วยุคู่ต่อสู้เล่า?”มีบางคนเยาะเย้ย  “สมควรแล้ว”

“ข้าคิดว่าเด็กสาวนี่แปลกเกินไป นักสู้ระดับเทพเดิมทีเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันได้ทันที”  มีคนเห็นด้วยกับมุมมองนี้มากขึ้น

“ข้าขอบอกก่อนว่าไม่ต้องกังวลว่านางแปลก หรือปกติ ในขณะที่นางหมดสติและไม่ได้เตรียมพร้อมนี่เป็นเวลาดีที่สุดที่จะฆ่านาง” นักสู้ระดับเทพที่สู้กับจื้อจุนต่อจากเจี้ยนจางเซิงกล่าว  “ถ้าเจ้าพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดนี้ไป  ถ้านางฟื้นขึ้นมานางอาจฆ่าปีศาจเฒ่าอีกคนหนึ่งก็ได้แต่ข้าไม่รู้ว่าคนที่โชคร้ายต่อจากฉวนคงซางจะเป็นใครในพวกเจ้า”

“ชี่ตันจื้อ เจ้าดีแต่พูดแต่ไม่ได้ร่วมลงมือ  ทำไมเจ้าไม่ลงมือเล่า?เจ้ารู้ได้ยังไงว่าคนต่อไปจะไม่ใช่เจ้า?” มีเสียงชราเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ข้าสู้กับนางไปแล้วตอนนี้จะว่าข้าไม่ได้ลงมือกับนางได้อย่างไร?” นักสู้ชั้นเทพชื่อชี่ตันจื้อหัวเราะ

“ถ้าเจ้ายังยุแหย่ให้เราสู้กับนางอย่างสิ้นหวังเพราะสาวน้อยนั้นฆ่าอสูรศึกขยะของเจ้าไปหลายสิบตัวนั่นไม่จำเป็นเลย อย่างน้อยเราผู้เฒ่าก็ไม่ยอมให้คนอื่นใช้เป็นหน่วยหน้ากล้าตายแน่”เสียงชราพึมพำเหยียดหยามไม่พอใจ

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอะไร”  ชี่ตันจื้อไม่พูดต่อเท่าใดนัก

“อย่าส่งเสียงดัง  จะฆ่าเด็กหญิงที่เป็นลมอยู่ไม่ใช่หรือ? นั่นเป็นอะไรที่ง่ายมาก!” บุรุษเสียงอู้อี้และแหบแห้งส่งเสียงดังราวกับงูพิษที่ซุ่มอยู่ในความมืดกล่าว“พวกเจ้าล้วนแต่เป็นเทพชั้นสูงเหยียดหยามการกระทำสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างนี้ไม่ใช่หรือ? ไม่เป็นไรข้าจะลงมือจัดการให้! ฮ่าฮ่า สิ่งที่ข้าชอบที่สุดก็คือการสร้างความสุขให้กับคนอื่นไม่ว่าเมื่อใดหรือที่ไหนมันไม่สำคัญตราบเท่าที่ข้าระบายความในใจออกมา พวกเจ้าต้องการให้ข้าข่มขืนนางก่อนแล้วค่อยฆ่าให้พวกเจ้าดูไหมเล่า?   ข้าสาบานได้ ในนามของเทพอสรพิษโบราณข้าสัญญาว่าจะบิดหัวนางออกและอภิรมย์กับนาง นางจะไม่ตายอย่างสมบูรณ์ ถ้าพวกเจ้าไม่ชอบเนื้อเผ็ดร้อนใช่ไหม? ไม่เป็นไรข้าไม่ได้ชิมสาวน้อยที่แสนอ่อนโยนอย่างนี้มานานแล้ว!”

“จะย่างเนื้อ?”  สตรีเสียงยั่วยวนส่งเสียงแหลม  “จิวหลาน เจ้ามันโรคจิต!”

“ไม่มีรสชาติเลยแม้แต่น้อยเจ้าลองนึกดู ถ้ามีรากยาวแทงมาจากข้างล่างทะลุท้องน้อยทะลวงถึงคอทะลุออกปากที่มีริมฝีปากแดงมีฟันสองแถวได้ภาพอย่างนั้นจะวิเศษขนาดไหน สมมติว่ายังมีไฟย่างกรุ่นอยู่ข้างล่างดูมันค่อยๆสุกและสูดดมทีละนิดได้กลิ่นหอมอบอวล ต้องกินตอนร้อนๆ หั่นชิ้นใหญ่และยัดใส่ปากให้เร็วที่สุดเพื่อให้กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั้งปาก....นี่คือความสุขสูงสุดในชีวิต!”  จิวหลานพูดอู้อี้อย่างนั้น ต้องบอกว่าปีศาจเฒ่าหลายคนที่รู้จักเขาอดไม่ได้ที่จะอยู่ห่างๆ จากเขา

เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วพวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีงานอดิเรกที่ผิดปกติอย่างนี้

ต้องซ่อนตัวให้ห่างจากเจ้าผู้นี้ให้ดี!

แน่นอนว่าอาจไม่ใช่แค่จิวหลานที่ต้องซ่อนตัวให้ดีแต่ที่แกนสมดุลโลกนี้ไม่มีโอกาสให้เขาแสดงออก ในแกนสมดุลโลกแห่งนี้มีแต่นักสู้ระดับเทพ สำหรับจิวหลานที่มีพลังปานกลางไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกินพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ถึงอยากจะกินก็ทำได้ยาก  ดังนั้นจึงไม่มีการเอางานอดิเรกมาแสดงโอ้อวด

เสียงของตัวประหลาดหญิงอดสบถด่าไม่ได้  นางมีความสัมพันธ์กับจิวหลานไม่เลว

ตอนนี้นางคิดว่าบุรุษคนนี้อาจจะคิดไปเองเมื่อนึกถึงการที่ตัวนางเองถูกวางบนตะแกรงมันน่าขยะแขยง

“ต่อไปอย่าได้คุยกับยายแก่และอย่าบอกว่ารู้จักยายแก่อีกเลย” เสียงของสตรีผู้เย้ายวนแสดงความรักรังเกียจอย่างยิ่ง  “ไม่อย่างนั้นยายเฒ่านี้จะฆ่าเจ้า!”

“ดี,แม้ว่าเจ้าจะเคยนอนกับข้า แต่ข้าก็จะไม่พูด!” จิวหลานหัวเราะ

“อยากตายนักหรือ?”  เสียงสตรีนั้นดังขึ้นด้วยความโมโห

“ก็ได้ ก็ได้ไม่ต้องทะเลาะกันในเรื่องอื่น มีบางเรื่องต้องกลับมาพูดกันอีกครั้ง ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปนอนหรือทะเลาะกันเราผู้เฒ่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้พวกเจ้าต้องจัดการกับนางทันทีมิฉะนั้นจะสายเกินกว่าที่พวกเจ้าจะเสียใจ ก่อนที่จิ๋วซื่อจะวางโดมท้องฟ้าลง” เสียงของคนชราผู้ถือว่าแก่กว่า เขาห้ามการทะเลาะนี้ได้อย่างรวดเร็ว

“เจ้างูที่น่าตายเรายายเฒ่ายังไม่ยอมจบเรื่องลงง่ายๆ เจ้ารอดูได้เลย!” เสียงสตรียั่วยวนข่มความคิดจะทะเลาะกัน แต่ก่นด่าด้วยความโมโห

“ที่ไหนเล่า?  บนเตียงดีไหม” จิวหลานไม่กลัวแม้แต่น้อย แต่เขาพอใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าหยุดหน่อยได้ไหม!”  เสียงคนชราตะโกน  “จิวหลาน เรื่องครั้งนี้ให้เจ้ารับผิดชอบเจ้าชอบนึ่ง ชอบปรุง ชอบย่าง เผา อบ ทำได้ตามสบาย เราไม่สนใจ แต่เจ้าต้องแบกบาปนี้ด้วยตัวเองในกรณีที่มีคนที่อยู่เบื้องหลังเด็กสาวนี่พยายามสอบสวนตามมาพูดง่ายๆ คือเจ้าอย่าลากเราลงน้ำ”

“เข้าใจแล้วในเมื่อท่านอยากเพลิดเพลินกับอาหารก็ต้องจ่ายมา” จิวหลานหัวเราะ “แล้วความผิดเล่า? ข้าอยู่ที่นี่มานานไม่ได้ออกไปจากที่นี่ได้เท่าที่ต้องการได้!  ถ้ามีอาหารดีๆข้าไม่สนใจบาปกรรมใดๆ ทั้งนั้น แม้ว่าโลกจะแตกทำลายในอนาคตข้าจะสนุกกับมันทันที... ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าสนใจ เจ้าสามารถมาแบ่งปันกับข้าได้ แต่ข้ามีความสุขมากที่ได้พบกับคนสนิทที่มีใจเดียวได้สำราญอาหารแห่งชีวิตร่วมกัน!”

“ข้าเองก็สนใจแต่เด็กสาวนี่ไม่ใช่ง่ายอย่างที่เห็น คราวนี้ลืมไปก่อน ไว้คราวหน้าข้าค่อยเพลิดเพลินกับอาหารร่วมกัน”  ปีศาจเฒ่าแสดงความสนใจ  แต่ก็ระมัดระวังพอๆ กัน อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่ามีใครอยู่เบื้องหลังจื้อจุนหรือไม่

“รีบกำจัดนางได้แล้วก่อนที่จิ๋วซื่อจะมาถึงเร็วๆ นี้”  เสียงชราเร่งรัดจิวหลาน

“ดีถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องอิ่มอร่อยกับอาหารมื้อนี้ด้วยตนเอง” จิวหลานผู้มีเสียงอู้อี้แหบแห้งปรากฏตัวขึ้นจากความมืดพร้อกับร่างหางงูตางูที่น่ากลัวกระพริบเหมือนไฟฟอสฟอรัสระหว่างริมฝีปากบางครั้งจะมีอักขระงูกระพริบวิบวับ  ไม่เป็นไร เขาบิดร่างของเขาและโน้มตัวมาข้างหน้า แม้จะดูหยิ่งผยองแต่ความจริงแล้วเขามีความระมัดระวังและกลัวว่าจื้อจุนจะฟื้นขึ้นมา

จื้อจุนเพิ่งสังหารฉวนคงซางทำให้ผู้ชมดูตกตะลึง

ถ้าไม่ใช่เพราะนางหมดสติล้มลงกับพื้นโดยไม่มีการคุกคามใดๆแม้ว่าเขาจะมีความกล้ามากกว่านี้ร้อยเท่า จิวหลานก็ไม่กล้าจับนางเป็นอาหาร

แม้ว่าการกระทำของจิวหลานจะน่าขยะแขยงแต่สตรีผู้มีเสียงเย้ายวนก็ไม่คัดค้าน แม้แต่นางก็กลัวว่าจื้อจุนอาจตื่นขึ้นมาอีกครั้งในไม่กี่วินาที

อย่างไรก็ตามเมื่อจิวหลานเลื้อยเข้ามาใกล้จื้อจุนจู่ๆ ก็มีคนที่คาดไม่ถึงมายืนขัดขวาง

อย่างข้างหน้าจิวหลาน

คนผู้นี้

ไม่ใช่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแต่เป็นคนที่ต่อสู้กับจื้อจุนในรอบแรก นามเจี้ยนจางเซิง

การต่อสู้ระหว่างเจี้ยนจางเซิงและจื้อจุนยังไม่ได้ผลสรุปที่ดีทั้งสองฝ่ายคู่ต่อสู้ทั้งสองสู้กันยืดเยื้อ เขาไม่สามารถเอาชนะจื้อจุนได้ด้วยวิธีการทั้งหมดและจื้อจุนก็เคลื่อนไหวอย่างดุดันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ใช่เพราะชี่ตันจื้อหมดความอดทนที่จะรอและเข้าร่วมกลุ่มต่อสู้   การต่อสู้อาจไม่ดำเนินมาถึงตอนนี้!

“เจี้ยนจางเซิงเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” จิวหลานรู้สึกงุนงง

“ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น”  เสียงของเจี้ยนจางเซิงดังเฉื่อยชา“ข้าแค่ทนดูไม่ได้!”

“ไม่ใช่กงการของเจ้า,ไสหัวไป!”  จิวหลานโมโหสงสัยว่าเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ เขาคิดว่าอยู่ฝ่ายของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ?    เขาเป็นเผ่าพันธุ์เทีที่เสื่อมโทรม เป็นนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ในทะเลมรณะแล้วทำไมเจ้าต้องรักษาความยุติธรรม? นอกจากนี้วีรกรรมช่วยหญิงงามไม่ได้ทำให้เจ้าเด่นกว่าดาวร้ายทั่วไป!

“ถ้าเจ้าต้องการฆ่านางอย่างนั้นข้าไม่สนใจ แต่ถ้าเจ้าต้องการกินนาง อย่างนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่”เจี้ยนจางเซิงพูดถึงหลักการ

“ข้าก็แค่ต้องการนางเป็นอาหารเพื่อดูถูกนาง เจ้าจะทำอย่างไรเล่า?”จิวหลานรู้สึกว่าบุรุษคนนี้กำลังต่อต้านเขาโดยเจตนา  ทุกคนเห็นด้วยกับเขา ทำไมเจ้าถึงต้องคัดค้าน

“เจ้าต้องการดูถูกนางก็เท่ากับดูถูกข้า นางคือศัตรูที่แข็งแกร่งของข้าเจี้ยนจางเซิง ไม่ใช่อาหารแน่นอน!” เจี้ยนจางเซิงแค่นเสียง “ถ้าเจ้าสามารถข้ามศพข้าไปได้ อย่างนั้นข้าไม่มีคำอะไรจะพูด ก่อนตอนนี้นางขยับนิ้วไม่ได้ด้วยซ้ำ  มาได้เลยถ้าเจ้าต้องการเราจะสู้กันก็ได้!”

“ถ้าก่อนหน้านี้ข้ายังมีปัญหาเล็กน้อยแต่ตอนนี้เจ้าเจี้ยนจางเซิงโจมตีคนอื่นในเรื่องเล็กน้อยเพื่ออะไร?” จิวหลานคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเอาชนะนักสู้ที่อันดับสูงกว่าเขา

“อย่าว่าแต่แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ต่อให้ข้าเจี้ยนจางเซิงจะเหลือเพียงลมหายใจอึดสุดท้าย  เจ้าก็อย่าคิดหวังจะท้าทายตำแหน่งของข้า!” เจี้ยนจางเซิงรู้สึกภูมิใจมาก

“เจ้าแน่ใจนะ?”จิวหลานหัวเราะครั้งแล้วครั้งเล่า และน้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป  “เจ้าแน่ใจนะว่าพฤติกรรมโง่ๆของเจ้าจะไม่ทำให้ทุกคนขุ่นเคือง ยังไม่ถึงคราวเจ้าควบคุมอำนาจ เจี้ยนจางเซิง?”

“จิวหลานพูดถูก  ตอนนี้ทำลายศัตรูก่อนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”เสียงชราพูดห้ามอย่างรวดเร็ว “เจี้ยนจางเซิง เจ้าให้เกียรติแก่ศัตรูที่แข็งแกร่งเราสามารถเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม นี่คือศัตรูคนหนึ่ง!  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออาจปล่อยวางโดมท้องฟ้าได้ทุกเมื่อและมาโจมตีเราตอนนี้เราไม่สามารถทำผิดพลาดได้! เจี้ยนจางเซิง เราหมายความว่า ต้องจัดการกับเด็กสาวนี้ก่อนเจตจำนงของนางและกฎสวรรค์นางอันตรายเกินไป! จิวหลาน เจ้าก็ต้องเคารพให้เกียรติ อย่างไรก็ตามสถานะของเขาอยู่เหนือเจ้า เจ้าควรดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อสังหารเป้าหมายแทนที่จะดูหมิ่นศพหรือกระทำการอื่นๆที่ไม่จำเป็น ตราบใดที่เราได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เรื่องจะง่ายขึ้น และเจ้าก็เชี่ยวชาญ!”

“เข้าใจแล้ว”หลังจากได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิวหลานหัวเราะ “เจ้าได้ยินไหม? เจี้ยนจางเซิง ข้าชนะ ปล่อยข้าข้าบอกเจ้าได้เลยว่าข้าจะฆ่านังหนูนี่จากนั้นค่อยปรุงอาหารอีก”

“ไปตายซะ!” เจี้ยนจางเซิงต่อยจิวหลานที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยทันที

เขาเรียกไฟออกมาทันที

ดวงตาเขาสว่างเจิดจ้า

เขายืนอยู่หน้าจื้อจุนที่หมดสติกับพื้นความตั้งใจของเขามั่นคงไม่สิ้นสุด “นี่คือศัตรูที่น่านับถือ ใครก็ตามที่ต้องการทำลายนางให้ข้ามศพข้าไปก่อน!  ถ้านางมีสติข้าจะช่วยคนของเราและสู้กับนางจนถึงที่สุดโดยไม่เสียใจ  แต่เมื่อนางหมดสติล้มลงกับพื้นพวกเจ้าปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตมานานเป็นหมื่นปีต้องการจะฆ่านางและทำลายร่างกายนางอย่าบังอาจคิดเรื่องนี้ ข้าเจี้ยนจางเซิงเป็นคนร้ายกาจหยาบช้าก็จริง  แต่ข้าคือนักรบ!”

*** *** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด