ตอนที่ 1346 ค้อนชะตา
เลือดสาดกระเซ็น
หมัดทั้งหกแยกกันและเข้าเป้าเสียงดังกึกก้องไม่มีพลาด
ยักษ์เทพยืนตัวตรงมั่นคงอยู่กับที่มังกรปีศาจเซถอยหลังไปสามก้าว เย่ว์หยางกระเด็นไปถึงเก้าชั้นฟ้า แขนของเทพยักษ์ชูขึ้นในท้องฟ้า พลังเทพควบสร้างเป็นคมดาบเงื้ออยู่เหนือคอมังกรปีศาจ ตราบเท่าที่เขาคิดขยับอย่างนั้นมังกรปีศาจคงถูกผ่าเป็นสองเสี่ยงมังกรปีศาจไม่ถอยแต่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“หือ?”ยักษ์เทพงงงวยในตอนแรก
แต่จากนั้นเขาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่ามีปลายดาบทะลุผ่านหัวใจของเขาออกมาจากข้างใน
ดาบเล่มนี้แทงเข้ามาเมื่อไหร่?และทะลุออกมาจากหัวใจของเขาได้อย่างไร? นี่เป็นดาบแบบไหน?
เขายื่นมือออกและกำลังจะถอนดาบออกมา แต่มังกรปีศาจที่อยู่ตรงข้ามกลับหัวเราะจนน้ำตาไหล มันไม่ง่ายเลยในที่สุดเขาก็แทงทำร้ายเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงได้ ถ้าคนผู้นี้ไม่มีความมั่นใจบางที....
ยักษ์เทพตกใจหันกลับไปมองข้างหลังม่านตาสีทองขยายออกหลายเท่าและสิ่งที่ดึงดูดนัยน์ตาเขาก็คือหัวมังกรที่โกรธเกรี้ยว
มังกรพิโรธอ้าปากขนาดใหญ่เพื่อกลืนท้องฟ้า
ศัตรูไม่ยอมให้ดิ้นรนต่อสู้ และมันกัดกินโดยตรงด้วยพลังดาบเทพในท้องฟ้าก็ถูกมันกลืนเข้าไปในลำคอด้วย
หากไม่มีการช่วยเหลือจากบัลลังก์เทพแม้แต่สิ่งมีชีวิตอย่างเทพพิทักษ์เขากวงหมิง ภายใต้การร่วมมือโจมตีของมังกรปีศาจและเย่ว์หยางก็จะต้องล่าถอยและกลายเป็นฝ่ายแพ้ทันทีแม้จะเป็นเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงก็ตามภายใต้การผนึกกำลังกันของเย่ว์หยางกับมังกรปีศาจพวกเขาจะต้องหายไปทันทีมังกรพิโรธในเส้นทางมิติโบราณ
“จัดการได้ไหม?” เย่ว์หยางไม่รู้กลับมาตั้งแต่เมื่อใดเขาถามด้วยความประหลาดใจ
“อ๊า.....ควรจัดการได้แล้ว...” มังกรปีศาจไม่มีความมั่นใจแม้ว่ามังกรจะกลืนกินได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามคือระดับหัวหน้าใหญ่ของเขากวงหมิง!
“บัลลังก์เทพตรงนั้นดูเหมือนจะไม่สลายไป”เย่ว์หยางที่ยังมีรอยกำปั้นขนาดใหญ่ที่หน้าอกเอามือแตะที่ซี่โครงเข้าต้องการรักษาตนเอง เขาพบว่าบัลลังก์เทพยังคงอยู่ไกลและรีบตะโกนร้อง
“มันไม่คล้าย!” มังกรปีศาจตาเปลี่ยนเป็นสีดำ
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เย่ว์หยางกลืนน้ำลายด้วยความกลัว
“หมายความว่าข้าเท่ากับไม่ได้ทำ และต้องลงมือทำอีก!” หน้าของมังกรปีศาจแสดงออกเหมือนกัน
“เอาอีกหรือ?” เย่ว์หยางรู้สึกว่าตลอดทั้งร่างแทบทรุดลงทันที ลงมืออีกครั้ง โธ่เว้ยแล้วนี่จะไม่โดนอีกฝ่ายทุบเอาหรือ? เขาถามผู้อ้างตัวเป็นพี่ใหญ่เพิ่ม “เจ้ามีทักษะพิเศษอะไรอีกไหม?”
“ไม้ตายถูกนำมาใช้แต่แรกแล้ว!” มังกรปีศาจทำท่าเหลือกตาอารมณ์ไม่ดี
“อย่างนั้นก็แย่แล้ว!” เย่ว์หยางยิ่งเวียนหัวใหญ่
“ไม่ไม่ ต่อให้เราต้องการลงมือทำ แต่ข้าเกรงว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็นด้วย” มังกรปีศาจกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาพบว่ายักษ์เทพกลับมาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาโดยร่างกายไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดทักษะแฝงเร้นพิเศษที่ไม่เหมือนใครอย่างมังกรปีศาจกลืนโลกไม่ได้สร้างผลเสียหายใดๆเลย ยักษ์เทพและบัลลังก์เทพรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้งและบัลลังก์เทพเปล่งรัศมีเทพเป็นล้านๆสายอาบร่างเจ้านายฟื้นฟูอาการบาดเจ็บภายในที่มองไม่เห็นของยักษ์เทพได้ตลอดเวลาทั้งยังดูเหมือนมีความก้าวหน้ามากขึ้น
“ไม้ตายของเจ้านี่ไม่ได้ทรงพลังน่ากลัวนั่นยังไม่ถือเป็นไม้ตายที่น่ากลัว!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นอดถ่มน้ำลายไม่ได้
“ถ้าข้าไม่มี อย่างนั้นเจ้ามีไม้ตายดีๆ บ้างไหมเล่า?” มังกรปีศาจโมโห
ไม้ตายส่วนตัวไม่ทรงพลัง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เดิมทีไม้ตาย ‘มังกรปีศาจกลืนโลก’ มีพลังทำลายทุกอย่าง แต่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้มีแค่มีบัลลังก์เทพเท่านั้นแต่ยังควบคุมเส้นทางโบราณนี้ไว้ถึงครึ่งหนึ่งที่นี่มังกรปีศาจไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของเขาได้ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ที่ผิดธรรมดา ร่างกายก็แข็งแกร่งยากจะโค่นล้มลงได้แล้วยังมีอะไรอื่นอีก?
ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กำจัดบัลลังก์เทพก็คงไม่พอ
ต้องหลีกหลีกเลี่ยงเส้นทางโบราณนี้ซึ่งถือว่าเป็นถิ่นของฝ่ายตรงข้ามมิฉะนั้นไม่มีทางสู้ต่อไปได้เลย
ยักษ์เทพไม่ได้โกรธ หน้าของเขายังคงสงบราวกับว่า คนที่ถูกมังกรปีศาจกัดและเย่ว์หยางไม่ใช่เขาก้าวเดินไปหามังกรปีศาจและเย่ว์หยางข้างหน้าช้าๆ และพยักหน้าเล็กน้อยชมเชย
“พวกเจ้าคู่ควรกับการยอมรับนี้”ยักษ์เทพพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “จากนี้ไปเราผู้เป็นเทพยอมรับว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ รวมทั้งเจ้าด้วยเย่ว์ไตตัน เราผู้เป็นเทพความจริงไม่ควรปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นมดแมลง เจ้าห้าวหาญและร้ายกาจเกินคาดไปมาก เราผู้เป็นเทพเข้าใจผิดเจ้าเองความจริงเจ้าเป็นศัตรูที่อันตรายไม่ด้อยไปกว่ามังกรปีศาจเลย”
“เราคุณชายร้ายกาจขนาดนั้นเชียวหรือ?” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกดีใจมังกรปีศาจที่อยู่ด้านข้างแทบไม่สามารถยืนขึ้นได้
“ใช่แล้ว เจ้าซ่อนทุกอย่างไว้เบื้องหลังมังกรปีศาจถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อครู่หนี้พลังโจมตีของเจ้าเกือบจะทำร้ายประกายเทพของข้าผู้เป็นเทพได้แล้วข้าผู้เป็นเทพก็ยังคงงมงายอยู่ในความมืด ปราณกระบี่ของเจ้ามีพลังทำลายล้างที่พิเศษมันยังไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ดูเหมือนว่ายังไม่สมบูรณ์แต่ไม่สามารถปฏิเสธและต้านรับได้นี่คือปราณกระบี่อมตะชนิดพิเศษที่สุดเท่าที่เราผู้เป็นเทพเคยพบเจอมาในชีวิตยากจะนึกคิดได้จริงๆ ว่าด้วยอายุขนาดเจ้าสามารถฝึกปราณกระบี่เทพที่คนอื่นใช้เวลาเป็นพันๆปีก็ยังฝึกไม่สำเร็จ” ยักษ์เทพพึมพำเบาๆ ในที่สุดเขาพูดคำนี้ “แม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่เราผู้เป็นเทพนี้มีเหตุผลพอจะสงสัยว่าอาจารย์แบบไหนกันที่ดูแลอยู่เบื้องหลังเจ้าอาจจะมากกว่าหนึ่ง... เย่ว์ไตตันน้อย อนาคตของเจ้าไม่มีขีดจำกัดตราบใดที่เจ้ายอมรับเงื่อนไขหนึ่งของเราผู้เป็นเทพข้ารับประกันได้ว่าเจ้ากับมังกรปีศาจจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ”
“เงื่อนไขอะไร?” เย่ว์หยางได้ยินเข้าก็ตาสว่างถ้าเป็นไปได้ใครก็ไม่อยากตาย
“ตราบเท่าที่เจ้าทั้งสองอยู่ที่นี่หนึ่งปีเราผู้เป็นเทพรับประกันว่าจะไม่ตรวจสอบเจ้าเจ้าสามารถพัฒนาบัลลังก์เทพใหม่ของตนเองได้” เทพอุปถัมภ์แห่งเขากวงหมิงมองดูเย่ว์หยางอย่างจริงใจ
“เมื่อครู่นี้เจ้ายังไล่ทุบตีเราอยู่ไม่ใช่หรือ?”เย่ว์หยางถามอย่างไม่สบายใจ
“เราผู้เป็นเทพเองก็ถูกเจ้าไล่ทุบไล่ทำร้าย”ยักษ์เทพพูดอย่างเปิดใจและผายมือกว้าง
“ท่านไม่ต้องการลงมือกับเราอีกจริงๆ หรือ?” เย่ว์หยางตัดสินใจถามให้ชัดเจนขึ้นเพื่อไม่ให้เสียใจ
“เราผู้เป็นเทพไม่แน่ใจว่าเจ้ามีเทพคุ้มกันแบบไหนอยู่เบื้องหลังกันแน่” ยักษ์เทพพูดอย่างตรงไปตรงมา “เราผู้เป็นเทพไม่ยินดีจะล่วงละเมิดเทพเบื้องบนกว่านั่นไม่มีประโยชน์ต่อเราผู้เป็นเทพเอง! ก็เหมือนกับมังกรปีศาจถ้าไม่ใช้เพราะความผิดที่ร้ายแรง เจ้าก็คงไม่ถูกตัดบัลลังก์เทพออกไป!”
“แล้วจะเป็นอย่างไรถ้ามีผู้พิทักษ์อยู่เบื้องหลังข้า?” เย่ว์หยางกังวลว่าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงลดความโกรธเกรี้ยวลงได้
“ถ้าเจ้าไม่มีในตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าต่อไปในอนาคตเจ้าจะไม่มี เด็กที่โดดเด่นอย่างเจ้าจะต้องรู้ยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต และเจ้าจะมีความสุขยิ่งขึ้น”ยักษ์เทพแสดงคำมั่นปลอบโยนเย่ว์หยาง
“นี่ ความจริงข้าก็ไม่ต้องการสู้เช่นกันแต่ข้าไม่สามารถทำได้!” เย่ว์หยางโยนเผือกร้อนให้มังกรปีศาจ “เจ้าเป็นพี่ใหญ่ไม่ใช่หรือ?”
“ไอ่เด็กเปรต, พอยอมรับข้าเป็นพี่ใหญ่ก็โยนเผือกร้อนให้ข้าเชียว!” มังกรปีศาจโมโห
“พี่ใหญ่ อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม?” เย่ว์หยางขอร้องอย่างอ่อนล้า
“ในเมื่อข้าเป็นพี่ใหญ่ อย่างนั้นหลายอย่างก็ง่ายคำเดียวสั้นๆ ลุย!” มังกรปีศาจอารมณ์เสียกับการแสดงออกของเย่ว์หยาง
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?” เย่ว์หยางทำตาโต สถานการณ์ตอนนี้ยังจะสู้ไหวอีกหรือ?จะหาเรื่องตายหรือเปล่า? พี่ใหญ่ไม่ควรทำอย่างนี้!”
“ถ้าเราไม่สู้ เราจะตายเร็วขึ้น เจ้าไม่เห็นหรือเขาทดสอบปฏิกิริยาของเจ้าและต้องการทำลายความกระตือรือร้นในการต่อสู้ของเจ้า?” มังกรปีศาจแค่นเสียง “ตอนนี้เจ้าปล่อยให้เขาทดสอบเจ้าดูพอไม่มีใครหนุนหลังเจ้าอยู่ จิตวิญญาณนักสู้ของเจ้าก็แทบจะสลายไปแล้ว ถ้าเจ้าไม่สู้รอสักครู่เขาจะเอาชนะเจ้าด้วยเพียงมือเดียวได้เลย! การต่อรองกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตนเองเป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุด ไม่ต่างอะไรกับการแหย่พยัคฆ์!”
“ไม่, คงไม่กระมัง? อีกฝ่ายหนึ่งดูเหมือนมีความจริงใจอย่างมาก...” เย่ว์หยางหันไปมองยักษ์เทพเพียงแว่บเดียวก็ไม่สามารถพูดต่อไปได้
“ไม่ต้องกังวล เราผู้เป็นเทพจะไม่ฆ่าพวกเจ้า” ยักษ์เทพส่ายหน้าช้าๆ“เพราะเราผู้เป็นเทพไม่สามารถมองทะลุได้ว่ามีใครหนุนหลังเจ้า? แต่มังกรปีศาจ เราผู้เป็นเทพจะต้องฆ่าเราผู้เป็นเทพจะไม่ทิ้งเภทภัยคุกคามให้อยู่รอดต่อไปได้”
“ข้าคืออะไร? เจ้าถึงได้บอกว่าจะฆ่าๆ?” มังกรปีศาจนึกอะไรขึ้นมาได้ “ข้าถูกใครบางคนปกปิดซ่อนไว้!”
“ใคร” เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจ
“เทพมังกรทอง!” มังกรปีศาจตอบไม่เต็มเสียง
“เจ้าแน่ใจนะ? ดี” เย่ว์หยางไม่มีหวังในใจ เขาหวังว่าคนผู้ตัดบัลลังก์เทพและผนึกไว้จะเป็นตัวเขาเองแต่ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก จึงไม่น่าแปลกใจว่าน้ำเสียงของมังกรปีศาจรู้สึกผิด
“ฮ่าฮ่า,ถ้าเป็นเช่นนั้นเราผู้เป็นเทพก็เสี่ยงจะถูกลงโทษจากเทพมังกรทองเขาจะต้องมาตรวจสอบความถูกต้องบางทีเทพมังกรทองอาจส่งทูตมาขอบคุณเราผู้เป็นเทพที่จับกุมและประหารชีวิตผู้หลบหนีให้กับเขา!” ยักษ์เทพหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้เขารู้สึกว่าเรื่องที่ตลกที่สุดยังด้อยกว่าเรื่องนี้สามส่วนใครก็รู้ว่าตอนนั้นเทพมังกรทองผู้ตัดสินปิดผนึกมังกรปีศาจฆาตกรอันดับหนึ่งในแดนสวรรค์ตอนนั้นมังกรปีศาจกล้าพูดว่าพี่ใหญ่ของเขาคือเทพมังกรทองและเขาไม่กลัวที่จะเป็นที่หัวเราะเยาะของชาวโลก!
“บัดซบ...” หน้าของมังกรปีศาจเขียวคล้ำต่อให้เขาไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเลย!
“ข้าเชื่อเจ้าจริงๆ” เย่ว์หยางกลัวว่าคนผู้นี้จะฆ่าตัวตายจึงแสร้งทำเป็นเชื่อแต่สีหน้าของเขากับปากไม่ค่อยให้ความร่วมกันนั่นยิ่งทำให้มังกรปีศาจโกรธมากกว่าเดิม
“ในเมื่อเจ้าไม่มีคนที่เหนือกว่าคอยหนุน เรื่องต่างๆก็ง่ายมากขึ้น” ยักษ์เทพยิ้ม
พลังเทพหลายล้านสายเปลี่ยนเป็นอุกกาบาตไม่มีที่สิ้นสุดคลุมเส้นทางโบราณไว้อย่างหนาแน่น
ในพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีแต่ดาวตกเต็มไปหมด
การชนปะทะกันของอุกกาบาตอาจทำให้เกิดพลังระเบิดดวงดาว...สิ่งเหล่านี้ยังไม่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือหมัดของยักษ์เทพซึ่งกลายเป็นหัวมังกรขนาดใหญ่สองหัวซึ่งแต่ละหัวมีขนาดใหญ่กว่ามังกรพิโรธที่มังกรปีศาจสร้างก่อนนั้นถึงสิบเท่า ตราบเท่าที่รอโอกาสที่ดีที่สุดหัวมังกรนี้จะระเบิดพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าพลังของมังกรปีศาจนั้นเพื่อกลืนกินมังกรปีศาจและเย่ว์หยาง
มังกรปีศาจกัดฟันและเขาพุ่งไปข้างหน้า ร่างกายของเขาแบกรับการโจมตีของดาวตกไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะเดียวกันเขายังต่อสู้เพื่อเปิดโอกาสให้เย่ว์หยางซึ่งสนับสนุนหลังคอยตอบโต้กลับ
มังกรทั้งสองไล่ตามมาทีละตัว
ค่อยๆ ตามไล่กัด
มังกรปีศาจร้องอย่างบ้าคลั่งและร่างกายกลับคืนสู่สภาพร่างมังกรดำยาวสามกิโลเมตรม้วนรัดมังกรทั้งสองทะยานขึ้นสู่โดมท้องฟ้าด้วยกันแล้ววกกลับลงมาหายักษ์เทพ
ดวงตาของยักษ์เทพตื่นเต้นและมีความดีใจและนี่คือไม้ตายที่เขารอใช้
แทบจะในเวลาเดียวกันเมื่อมังกรดำถูกมังกรกัดร่างหลักของเขายังขยายตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ร่างสุดท้ายกลับคืนสภาพเดิมที่มีความสูงสี่กิโลเมตรเพชฌฆาตโบราณร่างกำยำ เขากระโดดทะยานให้สูงกว่ามังกรดำใช้กรงเล็บจับมังกรดำและใช้หมัดทุบจมูกมังกรดำ
กรงเล็บคู่คว้าเขามังกรและกระแทกลงทันที
แต่มังกรดำมีปฏิกิริยารวดเร็วมากและร่างของเพชฌฆาตโบราณถูกพันรัดทันที
เมื่อสัตว์ประหลาดทั้งสองต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งพลังเทพชะตาปะทุขึ้นทันที พลังเทพชะตาร้อยเมตรอยู่ในมือของเย่ว์หยาง เย่ว์หยางควบพลังสร้างเป็นค้อนชะตาซึ่งมีพลังไม่สิ้นสุด
เก้าอาวุธเทพชะตาเปิดตัวใช้งานครั้งแรก
การปรากฏของค้อนเทพชะตาทำให้เพชฌฆาตโบราณที่กลับคืนร่างเดิมตกใจเล็กน้อย น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่มีโอกาสเสียใจมังกรดำสู้อย่างสุดกำลังกวาดหางไปที่ด้านหนึ่งดึงเอาดาวตกหลายร้อยดวงมารายล้อมบัลลังก์เทพ บัลลังก์เทพสั่นสะเทือนเล็กน้อยบางทีอาจไม่ถึงเสี้ยววินาทีที่มันถูกตัดการติดต่อทางใจกับเจ้าของๆ มัน
“ปรากฏว่าเดิมทีเจ้าเป็นกอริลลานี่เอง! อย่างนั้นเราคุณชายจะให้กล้วยเจ้ากินเอง” เย่ว์หยางอดกลั้นไว้นานมากเขาแทบรอไม่ไหวที่จะใช้ค้อนชะตาในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเขาใช้ค้อนหวดใส่เพชฌฆาตโบราณร่างทองที่หน้าผาก!
*** *** ***