ตอนที่ 103 การร่วงหล่นของกษัตริย์

ตอนที่ 103 การร่วงหล่นของกษัตริย์

เรื่องราวของผู้ฝึกตนที่มาสร้างปัญหาที่ถนนสายหลักก็ได้สิ้นสุดลง

หลังจากที่ได้ฟังเจ้าหน้าที่หลายๆ คนที่พูดถึงเรื่องเมืองซวนหยาง เขาพูดปลอบโยนเหล่าชาวเมือง อยู่ครู่หนึ่ง หลิน ยู ก็กลับยังดินแดนพร้อมกับกองกำลังของเขา

ผู้คนบนถนนถอนหายใจออกมาทันทีด้วยความโล่งอก และร่วมกลุ่มกันเพื่อพูดคุยทันที

"นี้มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! นี้คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของราชันแห่งเมืองหวงซา งั้นเหรอ?"

"แม่แต่ผู้ฝึกตนระดับ 6 10 คนก็ไม่สามารถแม้แต่จะต้านทานได้!"

"จำนวนของพืชเหล่านั้นมันจะเยอะเกินไปแล้ว"

"ไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงสามารถฟื้นฟูเมืองหวงซาให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียว เกรงว่าราชันคนอื่นในละแวกใกล้เคียงคงตามหลังเขาอีกไกล"

"เมืองหวงซา แห่งนี้กำลังจะผงาดขึ้นมาจริงๆแล้ว..."

คนจำนวนมากเหล่านี้เพิ่งได้รับข่าวจึงรีบเดินทางมาจากเมืองอื่นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ และมองหาโอกาศในการทำธุรกิจ

แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าความแข็งแกร่งของ หลิน ยู จะน่าหวาดกลัวขนาดนี้

ด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียวสามารถที่จะจัดการกับผู้ที่มาสร้างปัญหาในเมืองหวงซาได้อย่างหมดจด

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเมืองหวงซาที่จะสามารถพัฒนาไปเป็นเมืองขนาดใหญ่ได้

ดังนั้น หลังจากที่พูดคุยกับเสร็จแล้ว มีหลายคนที่รีบติดต่อไปยัง เซียว ฉางกุ้ย ผู้บัญชาการสูงสุดทันที เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการร่วมมือในระยะยาว กองคาราวานบางกลุ่มถึงกับเช่าที่ดินและวางแผนที่จะเปิดสาขาอีกแห่งที่เมืองหวงซา

ในชั่วพริบตานั้น เซียว ฉางกุ้ย ก็ได้กลายเป็นคนที่ร้อนแรงที่สุดในเมืองหวงซา

แม้แต่ เหว่ย กัง และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมเยียนเขา นำของขวัญมามอบให้อย่างต่อเนื่อง

เพราะพวกเขารู้ดีว่า ในฐานะผู้มีอำนาจที่ทำงานอยู่ภายใต้การดูแลของ หลิน ยู ในเมืองหวงซา ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนั้น คนเหล่านี้จะกลายเป็นเสาหลักของเมืองหวงซา ในอนาคตอย่างแน่นอน

หากพวกเขาต้องการส่วนแบ่งในเมืองหวงซา พวกเขาต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านี้เอาไว้!

เซียว ฉางกุ้ย พวกเขาเคยมีประสบการณ์แบบนี้ที่ไหนกัน ?

ทันใดนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่ลืมคำสั่งของ หลิน ยู ที่พวกเขายังคนทำเป็นตัวเป็นกลางไม่กล้าที่จะลำเอียง

ผู้คนบนถนนค่อยๆแยกย้ายกันออกไปเมื่อเวลาผ่านไป ความมีชีวิตชีวาในอดีตได้กลับมาอีกครั้ง

โดยที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น

ในซอยถัดจากจุดที่เกิดเหจุ มีร่างๆหนึ่งซ่อนตัวอยู่ที่นั้น จ้องมองความเคลื่อนไหวบนถนนสายหลัง

จนกระทั่งทุกคนแยกย้ายกันออกไป ร่างๆนั้นก็ออกมาจากตรอกข้างๆรีบออกไปจากเมือง รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฏกขึ้นที่มุมปากของเขา

"ไอ้พวกงี่เง่านี้โดนหลอกง่ายชะมัด ฉันต้องรีบไปรายงานเรื่องนี้!"

ความเร็วของชายคนนี้นั้นเร็วมาก มันเร็วกว่าผู้ฝึกตนระดับ 6 ธรรมดาถึง 2 3 ส่วน ดูเหมือนเขาจะเชี่ยวชาญมีการซ่อนเร้น

ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไปหลายไมค์บนท้องฟ้า

หลิน ยู ที่นั่งอยู่บนหลังจากมังกรสนมปิศาจ ก็เฝ้าดูร่างที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้านล่าง ดวงตาของเขาก็ค่อยๆหรี่ลง

"ในที่สุดก็เจอเจ้าหนูสกปรกซักที"

ทันทีที่สิ้นเสียง มังกรสนมปิศาจก็ติดชายคนนั้นตามหลังไป หลังจากติดตามเขาไปเกือบ 100 ไมล์ เมืองที่ไม่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาของ หลิน ยู

เมื่อเขาพิจารณาดู แท้จริงที่นี้คือเมือง โม่หยวน ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเมืองที่อยู่ใกล้มันเมืองหวงซา

"เอาละ พอได้แล้ว..."

ดวงตาของ หลิน ยู กลายเป็นลุ่มลึกขึ้นทันที

เมื่อเขาพบตราสัญลักษณ์ เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพราะเข้าเจอหลักฐานนี้ง่ายเกินไป

ต้องขอบคุณความรอบครอบของเขาที่คอยจับตาดูอยู่ ไม่อย่างนั้น เขาเกรงว่าต้องโดนหลอกให้ต่อสู้กับเมืองซวนหยางแน่ๆ

ราชันแห่งเมือง โม่หยวน นี้ฉลาดจริงๆ

หลังจากที่มองไปยังประตูเมืองโม่หยวนที่อยู่ห่างไกลจาก หลิน ยู เขาสั่งให้มังกรสนามปิศาจหันหลังรีบกลับไปยังดินแดน

เขายังรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเมือง โม่หยวน ดังนั้นแน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำให้งูตกใจได้ เขาต้องตรวจสอบสถานการณ์เพิ่มเติมก่อน

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้นั้นเขาพบตัวการแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเนื่องจากอีกฝ่ายใช้แผนในการล่อลวงเขา เขาจึงจำเป็นต้องรอบครอบไม่ทำอะไรบู่มบาม

มันยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่ม หลังจากที่เขาได้รับมอนสเตอร์ระดับ 7 อีก 2 3 ตัว และตรวจสอบสถานการณ์ภายในเมืองโม่หยวนเพิ่มเติม

เขายังสามารถใช้ประโยชน์จากเวลาในช่วง 2 3 วันนี้การรวบรวมทรัพยากรให้มากขึ้นไปอีก

อีกอย่างที่เขาสงสัย ราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่ ไม่ได้บอกมาก่อนงั้นเหรอว่าเขาจะให้รางวัลสำหรับการสังหาร?

ทำไมถึงยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย

ทันใดนั้น หลิน ยู นึกถึงสิ่งที่ จี้ ชิงเหอ ราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่ เคยบอกไว้ในช่องแชทภูมิภาคก่อนจะออกเดินทางไปยังสงครามหมื่นโลก

ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดถูกวาปกลับมาจากสนามรบหมื่นโลกเป้นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย

เป็นไปได้ไหมว่าจำนวนการสังหารของเขาไม่ถึงเกณฑ์?

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเขา หลิน ยู จึงเปิดไปยังช่องแชทภูมิภาคทันที

ในตอนนั้นเอง เขาได้รับข่าวที่ทำให้เขาต้องตกใจ

ช่วงเวลานี้ช่องทางระดับภูมิภาคกำลังพูดถึงราชาของพวกเขา ทิศทางการสนทนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นั้นคือ...

ราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่ ได้รับบาดเจ็บ!

แถมเขายังบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย!

นี้มันทำให้ หลิน ยู ตกใจอย่างมาก

ใครคือราชาแห่งอาราจักรหวงหวู่กัน?

เขาคือราชันระดับ 10 !!

ไม่ใช่หมาแมวที่ไหน

ถึงขนาดทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ คนที่สร้างบาดแผลให้กับเขานี้ต้องน่ากลัวขนาดไหนกัน

หลิน ยู ตกตะลึงอย่างมากรีบตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง

เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ จี้ ชิงเหอ ถูกรุมโดยราชันระดับ 10 ถึง 4 อาณาจักร เมื่อเขาเข้าไปยังสนามรบระดับ 10 ในที่สุดเขาก็พ่ายแพ้และหลบหนีออกมา แม้แต่กองกำลังทหารที่อยู่รอบตัวเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บกลับมานับไม่ถ้วน

โชคดีที่เขาสามารถหลบหนีออกมาได้ในที่สุด

ข่าวเหล่านี้มาจากราชันระดับ 9 ของเผ่าเทวดา ที่ถูกเรียกตัวไปรักษา จี้ ชิงเหอ อย่างเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงอย่างแน่นอน

ทันทีที่ข่าวกระจายออกไปก็เกิดความโกลาหลขึ้นทันที

"แม้แต่ราชายังบาดเจ็บสาหัส? สนามรบระดับ 10 นี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว"

"ถูกราชัน 4 คนปิดล้อม เป็นไปได้ไหมว่าเขาตกเป็นเป้าหมายตั้งแต่แรก?"

"นั้นก็เป็นไปได้ ดูจากช่องแชทโลก พวกเขาทั้งหมดเกือบจะทำสงครามน้ำลายใส่กัน ดูเหมือนผลงานของทวีปดึกดำบรรพ์ของพวกเราในสงครามหมื่นโลกจะไม่ค่อยดีเท่าไร"

"แม้แต่ระดับ 10 ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจะไปดีได้อย่างไร"

ราชันระดับ 10 นั้นแตกต่างจากราชันระดับ 6 พวกเขานั้นจะสูญเสียไปเท่าไรก็ได้

แต่ในฐานะของมหาอำนาจที่สู้รบกันในทวีปดึกดำบรรพ์ แม้ว่าจะสูญเสียพวกเขาไปหนึ่งคน แต่มันสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อโลกของเขา

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเหล่านั้นกำหนดเป้าหมายมาที่โลกของพวกเขา

ไม่อย่างนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏข่าวร้ายแบบนี้ออกมา

ด้วยโชคชะตาที่ขาดหายไปนั้น ทำให้ทวีปดึกดำบรรพ์ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายร้ายแรง

.....

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มันจะเลวร้ายมากกว่าที่เขาคิด

ใบหน้าของ หลิน ยู มืดมนลง

สภาพของทวีปดึกดำบรรพ์เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาเกรงว่าต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่แหลกสลายทวีปดึกดำบรรพ์ถูกทำลายลง

ขณะที่หลิน ยู หมกมุ่นอยู่ความจริงที่หนักอึ้งนี้อยู่นั้น

ไกลออกมาจากแดนรกร้าง ยอดเขาที่สูงนับหมื่นไมค์

กลุ่มคนได้มารวมตัวกันในวังที่หรูหรา มันสูงตะหง่านดูยิ่งใหญ่ ผู้คนเหล่านั้นโกรธเกี้ยวและสาปแช่ง

"เจ้าพวกโลกวิญญาณแท้จริงที่น่ารังเกียจนั้น! พวกมันมุ่งเป้าหมายมาที่พวกเราด้วยเหตุผลไร้สาระแบบนี้จริงๆ!"

"ใช่แล้ว! มันวางแผนร่วมกับราชันจาก จินซู่เจย่ เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการที่ครอบครองโชคชะตาของพวกเรา!"

"ราชันระดับ 10 4 คน เห็นได้ชัดว่านี้เป็นแผนเตรียมการมาอย่างยาวนาน"

"แต่เดิมนั้นเอาเป็นศัตรูกับโลกหวงซา แต่ตอนนี้ได้เพิ่มโลกวิญญาณแท้จริงมาอีก 1 ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการสังหารพวกเราให้สิ้นจริงๆ"

แต่ละคนที่อยู่วังมีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

และชายผู้ที่สง่างามที่นั่งอยู่บนบัลลังที่ดูโอ่อ่า

เพียงแค่เขานั่งอยู่ที่นั้น โลกทั้งใบก็ราวกับหยุดการเคลื่อนไหว ด้วยดวงตาที่ล้ำลึก สายตาที่เฉียบคมคู่นั้น เขาเฝ้าดูการสนทนาด้านล่างอย่างเงียบงัน

คนๆนี้

คือราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่ จี้ ชิงเหอ

และคนเหล่านี้คือราชันระดับ 9 ที่อยู่ภายใต้จี้ ชิงเหอพวกเขาเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงที่รับผิดชอบจัดการอาณาเขตทั้งหมดของอาณาจักร

อย่างไรก้ตาม ร่างที่ทรงพลังเหล่านั้นดูเหมือนจะปากร้ายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สบถด่าออกมาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

"เอาละ พอได้แล้ว!"

ในที่สุด จี้ ชิงเหอ ที่อยู่บนบังลังก์ก็พูดขึ้น

เสียงทุ้มต่ำของเขาทำให้ราชันระดับ 9 ที่อยู่ด้านล่างเงียบลงทันที และมองมาที่เขา

"โลกวิญญาณแท้จริงและโลกหยวานซานั้นอยู่ติดกับเรา การที่พวกเขาติดต่อกันอย่างใกล้ชิด เมื่อเร็วๆนี้นั้น มีสัญญาณของการร่วมมือกันมานานแล้ว แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้!"

"ในครั้งนี้พวกเราสูญเสียไปมากกว่า 10 ส่วนเลยทีเดียว กษัตริย์ เทียนหยาง และกษัตริย์ เย่วฮวา ตายลง กษัตริย์ เซิงเหยาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้แน่ๆ"

ราชันที่อยู่ด้านล่างตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาหดลงทันที ราวกับพวกเขาเพิ่มได้ยินชื่อที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง!