ตอนที่แล้วตอนที่ 995 เมื่อนั้นเธอจะได้รู้ว่าฉัน ..ไม่ใช่คนที่เธอจะสามารถมาทำให้ขุ่นเคืองได้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 997 นี่มันบังเอิญ ..หรือจงใจ?

ตอนที่ 996 แล้วพวกเขาจะปล่อยให้เราออกไปได้งั้นเหรอ?


หัว อี้อู่ ได้ริเริ่มเข้าไปทักทาย หลิว จินเวย แต่ตอนนี้เขาเองก็เพิ่งจะถูก หลินฟาน ทำให้โกรธ.. และความโกรธนี้ของเขามันก็ยังคงไม่หายไป แม้ว่าเขาจะแสร้งปั้นรอยยิ้มที่ดูประจบสอพลอที่มันฉายชัดอยู่บนใบหน้า แต่ หลิว จินเวย ก็ยังคงมองออกว่าเขาดูมีอารมณ์โกรธอยู่อย่างเห็นได้ชัด…

“พี่เวย ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมเองก็ไม่ใช่ว่ารู้จักกับคนๆ นี้.. ผมเองเพียงเห็นว่าเขาได้อยู่กับ หนิง เสี่ยวเยว่” หัว อี้อู่ ได้พูดออกไป

หลิว จินเวย ได้ร้องโอ้ ออกมา และพูดไปว่า : “ผู้ชายคนนี้ อายุราวๆ 20 ปี หน้าตาดี ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวใช่ไหม?”

หัว อี้อู่ ได้รู้สึกประหลาดใจมาก และเขาได้พูดไปว่า : “ใช่ครับ นี่คงไม่ใช่ว่า ..พี่เวย รู้จักเขาคนนี้หรอก ..ใช่ไหมครับ?”

หลิว จินเวย ได้ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา และพูดไปว่า : “แน่นอนว่าฉันรู้จักชายคนนี้อยู่ แต่ก็ช่างเถอะ หากว่าเป็นผู้ชายคนนี้จริงๆ คุณเองก็หมดห่วงได้ เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่คุณเท่านั้น แต่ฉันเองก็โกรธเขาแค่ตายเช่นกัน..”

แน่นอนว่าคนที่ หัว อี้อู่ กล่าวออกมา ย่อมเป็น หลินฟาน โดยไม่ต้องสงสัย…

หลิว อีน่า ได้เช็ดเหงื่อเย็นๆ ของเธอ หลินฟาน คนนี้ เอาจริงๆ เถอะ.. ทําไมเขาต้องมาเป็นปฏิปักษ์กับคนที่อยู่รอบข้างเธอด้วย? ยั่วยุพ่อของเธอยังไม่พอ นี่ยังไปยั่วยุ พี่อี้อู่? นี่มันทำให้เธอ อยากหัวเราะ และร้องไห้ออกมาจริงๆ…

หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “มันไม่มีเหตุผลจริงๆ ผมไม่เคยโกรธถึงขนาดนี้มากก่อนเลย บอกตามตรง ผมไม่กลัวที่จะพูดเรื่องตลกต่อหน้า พี่เวย หากให้พูดตามตรงแล้ว ผมเองมีสถานะในวงการบันเทิงไม่ใช่น้อยๆ และโดยปกติทั่วไปแล้ว เมื่อดาราหญิงเหล่านั้นได้พบเห็นผม พวกเขาก็จะต้องริเริ่มเข้ามาทักทายผม บางคนถึงกับทําตัวประจบสอพลออย่างสุดความสามารถ แต่ หนิง เสี่ยวเยว่ คนนี้ ผมเองมองว่าเธอเป็นผู้มาใหม่ และเธออาจไม่เข้าใจสิ่งนี้ และนั่นมันก็คือทั้งหมด แล้วในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพี่จึงได้ริเริ่มอาสาเข้าไปพูดคุยกับเธอ แต่แล้วเธอกลับไม่สนใจผม ผมได้พูดสอนเธอไปไม่กี่คำ ผู้ชายคนนี้ก็ได้ออกมาดุด่าว่าผม แล้วทำให้ผมโกรธ.. บอกตามตรงผมทนไม่ได้!”

หลิว จินเวย ยิ้ม และพูดไปว่า : “การที่คุณต้องการที่จะระบายความโกรธของคุณ นี่มันก็ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ”

หัว อี้อู่ เกิดสงสัย : “พี่เวย นี่พี่กำลังหมายความว่าอะไร?”

หลิว จินเวย ได้เดินเข้าไปตบไหล่เขา และกล่าวออกไปว่า : “คุณก็เตรียมตัวดูละครเถอะ”

หัว อี้อู่ ได้ยิ้ม และพูดว่า : “พี่เวย โปรดชี้แจงให้ชัดเจน…”

หลิว จินเวย กล่าวว่า : “คุณคิดว่าทําไมคืนนี้ ..ฉันถึงได้เชิญ หนิง เสี่ยวเยว่ ให้มาที่นี่ด้วย?”

หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “เป็นเพราะเมื่อเร็วๆ นี้ หนิง เสี่ยวเยว่ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยเรื่องนี้หรือไม่? พี่เวย เองก็มีใบหน้าใหญ่ ดาราดังๆ ต่างก็ได้ไว้หน้า พี่เวย..”

หลิว จินเวย ได้ส่ายหัว และพูดไปว่า : “ไม่ใช่.. การที่ฉันเชิญ หนิง เสี่ยวเยว่ มา ก็เพื่อที่จะทําลายเธอ อีกสักพักฉันจะเชิญ หนิง เสี่ยวเยว่ ให้ขึ้นไปทำการแสดงบนเวที ในเรื่องนี้เธอเองก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย และบวกกับความสามารถโดยรวมของเธอเอง ..ก็ไม่ใช่ว่าดี ดังนั้นอีกเพียงสักพักหนึ่งเท่านั้น ..เธอก็จะได้กลายมาเป็นเรื่องตลกของเหล่าผู้ชมภายในงาน”

หัว อี้อู่ ก็ได้ยกยิ้มขึ้นมาทันที จากนั้นเขาได้หัวเราะ และกล่าวไปว่า : “ที่แท้ ก็คือจะทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณชน เป็นความคิดที่ดีจริงๆ ในตอนนี้ผมเองก็ต้องรู้สึกโล่งใจได้แล้วสินะ? ฮ่าๆ ในเรื่องนี้ผมเองก็คงต้องขอบคุณ พี่เวย ที่ได้ช่วยผมระบายความโกรธ”

หลิว จินเวย กล่าวต่อไปว่า : “มันคงไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เพราะในคืนนี้.. หนิง เสี่ยวเยว่ เดิมเอง เธอก็ยังมีกิจกรรมกลุ่ม ที่ต้องไปเข้าร่วม แต่หากถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ และได้พลาดกิจกรรมไป คุณก็ลองคิดดูเองสิว่า เพื่อที่จะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเศรษฐี เธอกลับต้องขาดงานไปโดยไม่มีเหตุผล เมื่อถึงตอนนั้น.. ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะเป็นอย่างไร?”

หัว อี้อู่ ได้ตกใจมาก การกระทำเช่นนี้ ..มันโหดร้ายเกินไปจริงๆ เมื่อ หนิง เสี่ยวเยว่ ขาดงาน ..เพื่อไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคนรวย เธอก็จะต้องเผชิญหน้ากับความคิดเห็นเชิงลบที่ได้เข้ามาอย่างท่วมท้น ..และอาชีพการงานของเธอก็จะถูกทําลายภายในชั่วข้ามคืน แล้วแบบนี้.. ใครกันจะกล้าไปใช้งานเธออีก ..ในอนาคต!

นี่มันความอาฆาตแค้นอะไรกัน? หลิว จินเวย ถึงขนาดใช้วิธีการที่ชั่วร้ายเช่นนี้มาเพื่อจัดการกับ หนิง เสี่ยวเยว่?

หัว อี้อู่ ไม่ใช่คนโง่ เขาตระหนักได้ว่าสิ่งต่างๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และหลิว จินเวย คนนี้ ก็ไม่มีทางที่เขาจะต้องเข้าไปจัดการกับดาราตัวเล็กๆ โดยไม่มีเหตุผล หนิง เสี่ยวเยว่ ..ไม่รู้ว่าเธอได้ไปทำอะไรผิด เธอถึงได้ทำให้ หลิว จินเวย ขุ่นเคืองได้ถึงขนาดนี้!

อะไรที่ไม่สมควรถามก็อย่าได้ถามไป.. หัว อี้อู่ ได้เข้าใจถึงข้อนี้ เลยไม่ได้กล่าวถามอะไรออกไป

หลิว จินเวย ได้มองไปที่เขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า : “เสี่ยวหัว คุณคิดว่าที่ฉันทํา ..มันมากเกินไปหรือเปล่า?”

หัว อี้อู่ รีบพูดขึ้นว่า : “ไม่หรอกครับ หนิง เสี่ยวเยว่ คนนี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เธอก็สมควรที่จะได้รับบทเรียนบ้าง!”

หัว อี้อู่ ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกที แต่เพราะเรื่องนี้มันไม่เป็นอันตรายต่อเขา แต่มันกลับเป็นผลดีด้วยซ้ำ หลิว จินเวย ที่ทำเช่นนี้ จุดจบของ หนิง เสี่ยวเยว่ ส่วนใหญ่ก็ต้องถอนตัวออกจากวงการอยู่แล้ว ในเวลานั้นทุนที่อยู่เบื้องหลังของ หนิง เสี่ยวเยว่ ก็จะไม่คิดเข้าสนับสนุน หนิง เสี่ยวเยว่ อีกต่อไป นั่นเพราะ หนิง เสี่ยวเยว่ ในตอนนั้น เธอมันก็ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว เมื่อนั้นเขาจะมีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ และเขาก็เชื่อว่า หนิง เสี่ยวเยว่ จะต้องกลายมาเป็นคนของเขา.. ในไม่ช้าก็เร็ว!

พอคิดแบบนี้ หัว อี้อู่ ก็มีความสุขขึ้นมาอย่างมาก งานเลี้ยงวันเกิดนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เขาในตอนนี้แทบรอไม่ไหวแล้ว ที่จะได้เห็น หนิง เสี่ยวเยว่ ขึ้นไปทำการแสดงบนเวที

ในเวลานี้ หนิง เสี่ยวเยว่ และหลินฟาน ได้พากันเดินออกไปด้านข้าง

หนิง เสี่ยวเยว่ ได้ถามอย่างรู้สึกสงสัยออกไปว่า : “พี่หลินฟาน เมื่อกี้พี่เพิ่งบอกว่า จะให้ฉันขึ้นไปแสดงบนเวที พอมาตอนนี้ก็ได้บอกว่าจะส่งฉันกลับไปร่วมกิจกรรมกลุ่ม แล้วนี่.. อันไหนจริงอันไหนเท็จกันแน่?”

หลินฟาน พูดว่า : “ทั้งสองเป็นเรื่องจริงทั้งคู่ , เสี่ยวเยว่, จะว่าไปแล้วหากให้พูดถึงเรื่องนี้ ผมเองก็เป็นคนทำให้คุณต้องเข้ามามีส่วนร่วม.. หลิว จินเวย ได้มุ่งเป้ามาที่ผม นั่นเพราะผมไม่ยอมก้มหัวให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงได้ต้องการแก้แค้นผม ด้วยการลงโทษคุณ”

หนิง เสี่ยวเยว่ : “.....”

เธอพูดไม่ออกจริงๆ หลิว จินเวย คนนี้วิปริตไปแล้วหรือยังไง? ทำไมต้องมาลงโทษที่เธอด้วย?

หลินฟาน พูดว่า : “เสี่ยวเยว่ ครั้งนี้ผมทําให้คุณได้รับความคับข้องใจแล้ว”

หนิง เสี่ยวเยว่ กล่าวว่า : “ไม่ใช่.. เรื่องครั้งนี้ ไม่ใช่ความผิดของ พี่หลินฟาน หลิว จินเวย คนนี้ ก็วิปริตเกินไป พี่ชายหลินฟาน ไม่คิดก้มหัวให้กับเขา เรื่องนี้ก็ถูกแล้ว คนประเภทนี้ไม่คู่ควรให้ พี่ชายหลินฟาน ก้มหัวให้ ไม่ว่ายังไงเรื่องครั้งนี้มันก็เป็นปัญหาที่เขา ไม่ใช่ที่เราอย่างแน่นอน!”

หลินฟาน ได้ยิ้ม และพูดว่า : “เป็นเช่นนั้นจริงๆ”

หนิง เสี่ยวเยว่ กลับได้พูดปลอบใจ หลินฟาน ไปว่า : “พี่หลินฟาน ไม่เป็นไรแค่ให้ฉันขึ้นเวทีไปแสดงไม่ใช่เหรอ? เรื่องแค่นี้เอง ฉันเองก็ได้ทำมันมาตลอด และก็จริงๆ แล้วความแข็งแกร่งของฉันก็ดีขึ้นมากแล้วด้วย เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปแสดงบนเวที และจะพยายามไม่ให้ขายหน้า…”

หลินฟาน ที่ได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกตลกเล็กน้อย แต่เขาก็กลับรู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน หนิง เสี่ยวเยว่ เธอร้องเพลง และเต้นไม่ได้ดีอะไร และนับตั้งแต่ที่เธอได้เข้าร่วมรายการ Creation Stars จนมาถึงตอนนี้ เธอก็มักจะรีบเร่งฝึกฝนตัวเอง ทั้งนี้ตัวเธอเองก็ต้องผ่านประสบการณ์การต่อสู้ทางจิตใจมาไม่ใช่น้อย ก่อนที่เธอจะสร้างทัศนคติในแง่ดีขึ้นมาได้ เด็กคนนี้ ที่ได้ผ่านสิ่งต่างๆ เหล่านี้มา นับได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย…

“ถ้าเรื่องมันง่ายดายขนาดนั้น มันก็ไม่เป็นไร.. แต่ หลิว จินเวย คนนี้เขาคงไม่ทำให้การแสดงของคุณออกมาดี สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่ให้คุณทำการแสดงอะไรก็ได้ แต่จุดประสงค์หลักของเขาก็คือ เพื่อทำให้คุณต้องอับอาย ดังนั้นเขาจะต้องทําทุกวิถีทางเพื่อให้คุณต้องอับอายบนเวทีอย่างแน่นอน..” หลินฟาน ได้กล่าว

หนิง เสี่ยวเยว่ ในตอนนี้.. เธอทําสีหน้าไม่ถูกแล้ว

หลินฟาน พูดต่อว่า : “ถ้าเขาเพียงแค่ทําให้คุณอับอายขายหน้าบนเวที เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาก็คือการทําลายอาชีพการงานของคุณ”

“อ๊ะ?” หนิง เสี่ยวเยว่ รู้สึกตกใจมาก

เธอมักที่จะซาบซึ้งใจ และขอบคุณรายการ Creation Stars มาโดยตลอด เพราะระบบการแข่งขันของรายการนี้ ทำให้เธอที่เป็นคนร้องเพลง และเต้นไม่เก่ง สามารถได้รับความนิยมสูงเป็นพิเศษ และคาดไม่ถึงว่าจะได้เข้าสู่รอบเดบิวต์ได้ ซึ่งมันก็ได้เปลี่ยนชะตากรรมของเธอ ..ไปอย่างสิ้นเชิง

เธอได้ถือมันเสมอว่านี่เป็นคำอวยพรจากเทพเจ้า เทพเจ้าทั้งหลายคงเห็นว่าชีวิตของเธอนั้นมันช่างดูขมขื่นเกินไป จึงได้โยนชามข้าวเหล็ก(1) ลงมาให้กับเธอ และสิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็คือถือจับชามข้าวเหล็กใบนี้เอาไว้ให้แน่น แล้วพยายามกินข้าวให้มากขึ้น..

มาตอนนี้ หลินฟาน บอกว่า คืนนี้.. หลิว จินเวย ต้องการที่จะทําลายเธอ ..แล้วจริงๆ แล้วนี่.. ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายกำลังทุบชามข้าวเหล็กที่คุณปู่เทพเจ้าทั้งหลายได้มอบมันให้กับเธอหรอกหรือ!

หลินฟาน ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ไม่ต้องตกใจไป ผมจะไม่ให้เขาทําแบบนี้กับคุณหรอกนะ ผมจะพาคุณออกไปในตอนนี้ และตอนนี้ผมเองก็คิดว่าเวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว หากว่าพวกเราออกไปตอนนี้ คุณเองก็ยังสามารถกลับไปเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มของคุณ ..ได้ทันเวลา”

หนิง เสี่ยวเยว่ กล่าวว่า : “แต่สถานที่นี้เต็มไปด้วยคนของ หลิว จินเวย.. แล้วพวกเขาจะปล่อยให้เราออกไปได้งั้นเหรอ?”

หลินฟาน ได้เงยหน้าขึ้น และพบว่า หลิว จินเวย อยู่ไม่ไกล และกําลังทักทายกับผู้คนอยู่..

หลินฟาน ได้จับมือของ หนิง เสี่ยวเยว่ แล้วพูดว่า : “เราไปคุยกับ หลิว จินเวย กันเถอะ..”

ดังนั้น หลินฟาน และหนิง เสี่ยวเยว่ จึงได้พากันเดินเข้าไปหา หลิว จินเวย

“โอ้.. ต้องขอโทษด้วย พี่เวย เสี่ยวเยว่ ยังคงมีธุระนิดหน่อยที่ต้องไปทำ ผมเองก็ว่าจะพาเธอออกไปแล้ว” หลินฟาน ได้พูดมันออกไปตรงๆ

หลิว จินเวย ได้ตกตะลึงไปทันที นี่.. หลินฟาน กำลังพูดเรื่องตลกอันใด เขาบอกว่า.. จะพา หนิง เสี่ยวเยว่ ออกไปโดยตรง นี่เขาไม่ได้แม้แต่จะคิดจริงจังกับคำพูดของเขาเลยงั้นเหรอไง!

(1)[ชามข้าวเหล็ก (铁饭碗)] - คนมักจะขยายความหมายถึงหน่วยงาน หรือแผนกงานที่ดีที่มั่นคง และไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ ในประเทศจีน สิ่งที่เรียกว่า “ชามข้าวเหล็ก (铁饭碗)” มักจะหมายถึง งานในหน่วยงานของรัฐ ที่มันมักจะหมายถึง หน้าที่การงานที่มั่นคง…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด