ตอนที่ 63: เดินทางในอวกาศ
ตอนที่ 63: เดินทางในอวกาศ
สุสานยานอวกาศในภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่ตั้งอยู่บนดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า ACG21 และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นศูนย์ทำลายยานอวกาศที่ปลดประจำการทั้งหมดในภูมิภาคดาวอีกด้วย
เนื่องมาจากว่ามันไม่มีเที่ยวบินตรงจากดาวโลกมายังดาว ACG21 เซี่ยเฟยจึงจำเป็นที่จะต้องบินไปยังดาวโบลินก่อนแล้วค่อยต่อเที่ยวบินมายังดาวดวงนี้
ท้ายที่สุดสหพันธ์โลกก็พึ่งเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์ระหว่างดวงดาวได้ไม่นานและระดับอารยธรรมของดาวโลกก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเที่ยวบินข้ามดาวจากดาวโลกจึงมีเพียงแค่ 2 เที่ยวบินเท่านั้น
สนามบินระหว่างดวงดาวบนโลกถูกตั้งขึ้นในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของรัฐเดลาแวร์ประเทศอเมริกาโดยตัวสนามบินมีพื้นที่อันกว้างใหญ่, ไม่มีผู้คนอาศัยและมีสภาพอากาศค่อนข้างเหมาะสม
ปัจจุบันเซี่ยเฟยยืนอยู่ในอาคารผู้โดยสารของสนามบินและมองไปรอบ ๆ ผ่านหน้าต่างบานใหญ่แต่พื้นที่โดยรอบกลับเป็นพื้นที่อันว่างเปล่าสุดลูกหูลูกตาและเนื่องมาจากยานอวกาศบินขึ้นบินลงในแนวตั้งมันจึงทำให้สนามบินแห่งนี้ไม่มีรันเวย์
ห่างจากสนามบินแห่งนี้ไปไม่ไกลตัวอาคารสนามบินแห่งใหม่ก็อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยสนามบินแห่งใหม่นี้มีพื้นที่มากกว่า 2 ล้านตารางเมตรและสามารถรับส่งผู้โดยสารได้มากกว่าวันละ 1 ล้านคน
รอบ ๆ อาคารผู้โดยสารหลักมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่พิเศษทั้งสิ้น 4 แห่งเพื่อคอยรองรับปริมาณของผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการในอนาคต
ถึงแม้ว่าภาพภายนอกจะดูยิ่งใหญ่อลังการแต่เซี่ยเฟยกลับคิดว่าภาพตรงหน้าเป็นเรื่องที่น่าขำจริง ๆ เพราะในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากต่างดาวเดินทางเข้ามายังดาวโลกปีละไม่ถึง 10,000 คนด้วยซ้ำ แต่ทางสหพันธ์กลับใช้เม็ดเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อก่อสร้างสนามบินที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้หลักล้านคนต่อวัน
“คุณเซี่ยเฟยไม่ทราบว่าต้องการแชมเปญไหมคะ?” เสียงหญิงสาวดังขึ้นมาจากด้านหลังของชายหนุ่ม
ห่างไปไม่ไกลได้มีพนักงานประจำสายการบินคอยให้บริการอยู่ด้านหลังของเขาเป็นแถวยาว เนื่องมาจากว่าในปัจจุบันเซี่ยเฟยเป็นลูกค้าของทางสนามบินเพียงแค่คนเดียว พนักงานทั้งหมดจึงได้มายืนรอให้บริการอยู่ในบริเวณนี้
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกเขินอายอยู่เล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบปฏิเสธกลับไปอย่างสุภาพ
พนักงานทุกคนให้บริการเขาดีมากเกินไปซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่คุ้นเคยเลยจริง ๆ
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานยานอวกาศขนาดเล็กก็เริ่มปรากฏให้เห็นบนท้องฟ้าก่อนที่ยานลำนี้จะเข้าใกล้สนามบินมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่ร้องคำรามเสียงดังสนั่น
เซี่ยเฟยหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังขึ้นมาเตรียมพร้อมแล้วเดินไปยังประตูเชื่อมยานโดยมีพนักงานหลายสิบคนคอยเดินให้บริการอยู่รอบ ๆ
ยานอวกาศลำนี้เป็นยานโดยสารขนาดเล็กที่มีที่นั่งเพียงแค่สิบกว่าที่เท่านั้น ซึ่งเซี่ยเฟยก็เลือกนั่งยังที่นั่งใกล้ช่องหน้าต่างพร้อมกับวางกระเป๋าเป้เอาไว้บนตัก
บนยานอวกาศมีพนักงานหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินคอยบริการอยู่ 1 คน แต่พนักงานคนนี้ดูมีอายุเพียงแค่ประมาณ 20 กว่าปีเท่านั้น
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่กงตาร์แอร์ไลน์ ผมขออนุญาตตรวจตั๋วโดยสารของคุณหน่อยครับ” พนักงานหนุ่มเดินเข้ามาหาเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหยิบตั๋วจากเซี่ยเฟยไปตรวจสอบ
เมื่อพนักงานได้เห็นว่าตั๋วโดยสารไม่ได้ผิดพลาดอะไรเขาก็คืนตั๋วให้กับชายหนุ่มก่อนที่จะกดปุ่มเพื่อสื่อสารไปยังห้องนักบินว่าได้เวลาออกเดินทางแล้ว
“ไม่ทราบว่าคุณเซี่ยเฟยกำลังจะไปรายงานตัวที่สมาพันธ์จัสทิสใช่ไหมครับ?” พนักงานหนุ่มกล่าวถาม
“คุณรู้จักผมด้วยหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามขึ้นไปด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้เห็นท่าทางของเซี่ยเฟยแล้วพนักงานหนุ่มก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้คุณได้กลายเป็นคนดังแล้วครับ การแข่งขันระหว่างคุณกับเฉินตงโด่งดังไปทั่วทั้งภูมิภาคดาว พูดตามตรงนะครับว่าตอนที่ผมเห็นรายชื่อของคุณในรายชื่อแขก ผมยังแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย”
“แค่คุณเห็นผมก็จำได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
พนักงานมองดูเสื้อผ้าธรรมดาของเซี่ยเฟยเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า
“ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าคุณจะเป็นคนสมถะขนาดนี้เหมือนกันครับ”
คำตอบจากพนักงานทำให้เซี่ยเฟยค่อนข้างที่จะรู้สึกโล่งใจ เพราะถ้าหากไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถที่จะจดจำตัวตนของเขาได้ง่าย ๆ มันก็อาจจะมีแฟนคลับเข้ามาล้อมรอบเขาในทุก ๆ ที่
ในเวลาไม่นานยานอวกาศขนาดเล็กก็หลุดออกจากวงโคจรของโลกและเดินทางเข้าสู่อวกาศทำให้เซี่ยเฟยเริ่มมองเห็นยานอวกาศขนาดใหญ่ที่จอดอยู่นอกวงโคจร โดยยานลำนี้มีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร
“โอ้โห โคตรใหญ่!” เซี่ยเฟยอุทานขณะมองดูยานอวกาศ
“นั่นคือยานโดยสารขนาดกลางรุ่นดราก้อนฟลายซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งสิ้น 176,100 คนและรองรับลูกเรือได้ 8,322 คน โดยยานลำนี้จะคอยส่งยานอวกาศขนาดเล็ก 25 ลำออกไปรับส่งผู้โดยสารยังสถานีต่าง ๆ”
“นอกจากนี้บนตัวยานยังมีร้านอาหาร 162 ร้าน, มีไนท์คลับ 37 แห่ง, คาสิโน 14 แห่ง, สระว่ายน้ำ, โรงยิมและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกชนิด ผมรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องหลงรักยานอวกาศสุดหรูลำนี้แน่นอน” พนักงานกล่าวแนะนำยานดราก้อนฟลายด้วยแววตาอันเปล่งประกาย
เมื่อยานอวกาศของเซี่ยเฟยเคลื่อนที่ไปบริเวณด้านหลังยานดราก้อนฟลาย มันก็มีช่องประตูขนาดเล็กได้เปิดรอต้อนรับเอาไว้อยู่แล้ว ก่อนที่ตัวยานจะบินลงจอดอย่างมั่นคง
หลังจากประตูด้านนอกได้ปิดลงมันก็มีเสียงของแรงดันอากาศดังขึ้น ซึ่งมันเป็นระบบอัตโนมัติที่กำลังปรับสภาพแรงดันเพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางต่อไปยังยานลำใหญ่ได้
ไม่กี่นาทีต่อมามันก็มีไฟแสงสีเขียวสว่างทั่วทิศทางซึ่งมันเป็นสัญญาณว่ายานได้จอดเทียบท่าเรียบร้อยแล้วและผู้โดยสารสามารถหายใจได้ตามปกติ
ต่อมาพนักงานหนุ่มได้เดินไปเปิดประตูพร้อมกับนำทางเซี่ยเฟยลงจากยาน จากนั้นเขาก็นำทางชายหนุ่มเดินไปยังลิฟต์ขนาดใหญ่ที่นำพาเซี่ยเฟยไปยังเขตห้องพักบนชั้น 17F
“นี่คือห้องพักของคุณครับ ถ้าหากว่าคุณต้องการอะไรสามารถเรียกพนักงานผ่านทางเครื่องสื่อสารภายในห้องได้เลย การเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลาทั้งสิ้น 47 ชั่วโมงก่อนไปถึงดาวโบลิน เชิญคุณเข้าไปพักผ่อนด้านในได้เลยครับ” พนักงานกล่าวพร้อมกับช่วยเซี่ยเฟยเปิดประตู
พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความกว้างเพียงแค่ 20 ตารางเมตรเท่านั้นโดยภายในห้องมีเตียง, โต๊ะ, เก้าอี้และหน้าต่างที่โชว์วิวในอวกาศ
หลังจากเข้ามาภายในห้องเซี่ยเฟยก็โยนกระเป๋าเป้เอาไว้บนเตียงพร้อมกับขยับเก้าอี้ลงมานั่งข้างหน้าต่าง จากนั้นเขาก็จุดบุหรี่ขณะมองดูห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันพร่างพราว
ค่าเดินทางในครั้งนี้อยู่ที่ 92,000 สตาร์คอยน์ซึ่งไม่ใช่การเดินทางราคาถูก แต่เนื่องมาจากการเดินทางต้องใช้เวลาถึง 47 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงเลือกจองห้องติดหน้าต่างซึ่งแพงกว่าห้องด้านในที่มีราคา 60,000 สตาร์คอยน์
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องจ่ายแพงกว่าปกติเล็กน้อยแต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะมันคงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายถ้าหากว่าเขาไม่สามารถชมวิวในขณะที่เดินทางในอวกาศได้
“จักรวาลช่างเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ” เซี่ยเฟยส่งเสียงพึมพำกับตัวเองขณะที่เขาได้จับจ้องมองไปยังทะเลดวงดาว
“ไม่ว่าใครที่ท่องเที่ยวไปในอวกาศครั้งแรกต่างก็พูดแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่ถ้าหากว่านายได้อยู่ในอวกาศเป็นเวลานาน นายจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลยที่ต้องเผชิญกับความมืดเป็นเวลานานและนายอาจจะอ้วกแตกออกมาเลยก็ได้ ถ้านายเอาแต่จ้องมองไปด้านนอกแบบนั้น” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยโดยไม่สนใจความคิดเห็นของอันธเลย เขายังคงนั่งอยู่ริมหน้าต่างเพื่อชื่นชมความงามของอวกาศต่อไป
การเดินทางไปยังดาวบลูซีครั้งก่อนนั้นเป็นการเดินทางที่สั้นมากและยานอวกาศที่พาตัวเขามา ยังเป็นเพียงแค่ยานอวกาศลำเล็กที่ทรุดโทรม จนทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกอวกาศได้เลย
นอกจากนี้ในระหว่างการเดินทางเขายังถูกควบคุมตัวทำให้ความรู้สึกในการเดินทางเป็นเรื่องที่แตกต่างจากครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นสำหรับตัวของเขาเองแล้วเขาจึงถือว่าการเดินทางในครั้งนี้เป็นการเดินทางในอวกาศครั้งแรกของเขา
ขณะเดียวกันยานอวกาศลำใหญ่ก็เคลื่อนที่ไปได้อย่างเชื่องช้าเพราะตัวยานได้ติดตั้งเครื่องยนต์เอาไว้เพียงแค่ 2 ตัว โดยเครื่องยนต์ตัวแรกเป็นเครื่องยนต์ไอพ่นสำหรับการขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ตัวที่ 2 เป็นเครื่องยนต์สำหรับการวาร์ป
เครื่องยนต์เหล่านี้ช่วยให้ยานอวกาศเดินทางข้ามจักรวาลได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถทำให้ตัวยานเคลื่อนที่เกินกว่าความเร็วแสงได้
เทคโนโลยีการวาร์ปคือการสร้างรูหนอนเทียมขึ้นมาในจักรวาลเพื่อเชื่อมต่อสถานที่อันห่างไกล 2 แห่งเข้าด้วยกัน จากนั้นยานอวกาศจะเคลื่อนที่ผ่านรูหนอนเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งด้วยความรวดเร็ว
เทคโนโลยีนี้คล้ายกับการพับกระดาษ 2 ด้านเข้าด้วยกันก่อนที่ยานอวกาศจะพุ่งทะลุกระดาษจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่งเป็นเส้นตรง แต่ความยากลำบากคือการเคลื่อนที่ผ่านความหนาของกระดาษไปให้ได้อย่างปลอดภัย
ปัจจุบันระยะทางที่ไกลที่สุดสำหรับการใช้เทคโนโลยีวาร์ปอยู่ที่ 50,000 ปีแสง ซึ่งเป็นระยะทางที่ยานบินธรรมดาจะต้องใช้เวลาในการบินหลายชั่วอายุคน
แต่การถือกำเนิดของเครื่องยนต์วาร์ปได้เปลี่ยนแนวคิดเรื่องการเดินทางไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะยานอวกาศสามารถเดินทางผ่านระยะ 50,000 ปีแสงได้ด้วยเวลาเพียงแค่ 10 นาที มันจึงทำให้แม้แต่การเดินทางในระยะหลายสิบล้านปีแสงก็กลายเป็นเรื่องง่ายและทำให้เกิดสังคมระดับจักรวาลอย่างในปัจจุบัน
ทุกครั้งที่ยานอวกาศทำการวาร์ปมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานปริมาณมากและต้องเสียเวลาในการชาร์จพลังงานหลายชั่วโมง โดยระยะเวลาในการชาร์จก็จะขึ้นอยู่กับขนาดและระดับของเครื่องยนต์
หลังจากตัวยานเริ่มขับเคลื่อนออกมาได้ไม่นานดราก้อนฟลายก็เคลื่อนที่เข้าไปในรูหนอนเพื่อเริ่มทำการวาร์ปไปยังอีกจุดหนึ่ง
ทันทีที่ตัวยานได้เข้ามาในรูหนอนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวบริเวณโดยรอบก็หายไปจากเดิมอย่างไร้ร่องรอยและวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างก็เปลี่ยนเป็นอุกกาบาตจำนวนนับพันอย่างกระทันหัน
เมื่อมองผ่านหน้าต่างเซี่ยเฟยได้มองเห็นอุกกาบาตเคลื่อนที่ผ่านไปด้วยความรวดเร็วราวกับเขาได้เห็นฝนดาวตกขนาดใหญ่ ซึ่งมันก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในภาพที่งดงามภาพหนึ่ง
ภาพเหตุการณ์นี้กินเวลานานถึง 10 นาทีเต็ม ๆ ก่อนที่ยานอวกาศจะเคลื่อนที่ผ่านรูหนอนได้สำเร็จและออกมายังพื้นที่แห่งใหม่
พื้นที่ในบริเวณนี้เต็มไปด้วยเนบิวลาสีแดงที่ล้อมรอบดาวเคราะห์ต่าง ๆ จนทำให้ในบางครั้งภาพที่ปรากฏจึงดูเหมือนกับภาพของดวงดาวที่กำลังลุกไหม้
ขณะเดียวกันภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้ดวงตาของเซี่ยเฟยเปล่งประกายระยิบระยับและเขาก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้พร้อมกับอุทานออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“โคตรสวย! เนบิวลาสีแดงพวกนี้โคตรสวยเลย!!”
เซี่ยเฟยรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้จริง ๆ
ขณะเดียวกันอันธยังคงหน้ามุ่ยพร้อมกับบ่นกระปอดกระแปด “นายกำลังบอกว่าเนบิวลาสีแดงพวกนี้สวยเนี่ยนะ! รสนิยมของนายแปลกประหลาดจริง ๆ”
ตลอดการเดินทางเซี่ยเฟยแทบที่จะไม่นอนหลับพักผ่อนเลย เพราะเขารู้สึกตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์อยู่เสมอและคอยชื่นชมฉากที่คล้ายกับเวทมนตร์ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ผู้โดยสารทุกคนโปรดทราบพวกเรากำลังจะเดินทางถึงดาวเคราะ ACG21 ในอีก 30 นาที ผู้โดยสารท่านใดที่ต้องการเดินทางไปยังดาวดวงนี้ โปรดเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังยานขนส่งขนาดเล็กด้วยค่ะ” เสียงประกาศจากระบบอัตโนมัติดังขึ้นทั่วทั้งยานแต่ภาพของดาวเคราะห์สีดำนอกหน้าต่างกลับทำให้เซี่ยเฟยต้องขมวดคิ้ว
‘ทำไมดาวมันถึงเป็นแบบนั้น?’
***************
อ่านตอนนี้แล้วให้ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำเยอะๆ เนื้อนิดหน่อย! โอเค๊ (ชิงบ่นก่อนถือว่าได้เปรียบ ฮ่าๆๆ)