ตอนที่ 1342 สาวน้อยคนนี้นิสัยไม่ดีเลย!
“ตงฟาง?”แม้ว่าจื้อจุนจะไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่นางสอบถามการชักนำของตนเองแน่ใจว่าไม่ผิด
ทำไมตงฟางมาอยู่ในประตูเทพ
เขาอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรือ?
“สมแล้วที่เป็นจื้อจุนนักสู้อันดับหนึ่งของหอทงเทียน...” บุรุษวัยกลางคนอยู่ในชุดขาวมองดูเหมือนปราชญ์ขงจื๊อยืนอยู่หน้าจื้อจุน หน้าของเขาประดับไปด้วยรอยยิ้มเขาพยายามแสดงมารยาทอย่างสง่างามเช่นเดียวกับผู้คงแก่เรียนที่พบเห็นได้ในหอทงเทียน
“เจ้าก็สมกับเป็นตงฟางกบฏอันดับหนึ่งแห่งหอทงเทียนจริงๆ...” จื้อจุนได้ยินเช่นนี้ก็เชิดปากพูดอย่างไม่เกรงใจ
“จื้อจุน! โปรดอย่าได้แปลกใจกับการปรากฏตัวขึ้นของข้าเลย” ตงฟางไม่โกรธแม้แต่น้อยยังคงแสดงมารยาทเหมือนเดิม “อันที่จริงข้ามาที่นี่ได้เพราะคนๆ เดียว แน่นอนเจ้าอาจมีคำตอบอยู่ในใจ”
“จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อน่ะหรือ? ข้าคิดว่าต้องเป็นเจ้าแน่ๆ ที่ทำอะไรบางอย่างบังคับให้เขายินยอมพาเจ้าเข้ามา”
“ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสจิ๋วซื่อจะไม่เต็มใจเท่าไหร่ แต่เขาก็สัญญากับข้าในตอนนั้น เขาต้องทำตามสัญญานี้ ดังนั้นเมื่อข้าพบเขาและขอให้เขาพาข้าเข้าไปในประตูเทพเจ้าเขาปฏิเสธไม่ได้...เจ้ากับเย่ว์ไตตันและแม้กระทั่งเฟ่ยเหวินหลีที่ซุ่มรอโจมตีเทียนอี้ก็คงแปลกใจมากทำไมข้าถึงมั่นใจว่าจะชนะในที่สุด ตอนนี้เจ้าควรเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือ? เย่ว์ไตตันที่อยู่นอกประตูเทพเขามีพลังในการต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ แต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูเทพเข้ามาในแกนสมดุลโลกเป็นไปไม่ได้ที่จะหาข้าพบในช่วงเวลาสิบวัน”
“ฉลาดมาก”จื้อจุนแค่นเสียงเย็นชา แม้ว่านางไม่ต้องการจะยอมรับแต่ตงฟางผู้นี้รอบคอบถี่ถ้วนดีจริงๆ
“ขอบคุณ ทันทีที่กฎสวรรค์ของโลกกระดานหมากรุกและวงกตมิติเวลาไม่สามารถทำลายได้ หอทงเทียนก็ต้องล่มสลายพังพินาศไปตลอดกาล เข้าใจหรือยังเหตุผลที่ข้ามั่นใจ เพราะข้าใช้พลังสติปัญญานี่คือประตูเทพที่เป็นอมตะ แกนสมดุลโลกที่ตัดขาดจากทุกสรรพสิ่ง นี่คือที่มาของความเชื่อมั่นของข้าตงฟาง!”
“ฆ่าเจ้าทุกอย่างก็ถูกทำลายแล้ว” จื้อจุนไม่ขยับหน้าของนางเย็นชาเหมือนเคย นางคุ้นเคยกับการใช้วิธีตรงไปตรงมาที่สุด
ขอเพียงฆ่าตงฟาง
โลกกระดานหมากรุกจะพังทลายและหายไปทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ทุกอย่างจะสลายไปเอง
ส่วนเย่ว์หยางจะเคลื่อนไหวหรือไม่ก็ไม่สำคัญเลย ไม่มีอะไรผิดที่นางจะลงมือด้วยตนเอง!
“ไม่” ตงฟางได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ เขาหัวเราะหมุนตัวก้าวเดินออกไปช้าๆอย่างสง่างาม “ที่นี่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อก็ยังฆ่าข้าไม่ได้ บางทีข้าอาจไม่มีวันออกไปจากแกนสมดุลโลกแห่งนี้และข้าจะไม่มีวันก้าวพ้นประตูเทพออกไปได้ แต่ที่นี่ข้าสามารถชมดูการล่มสลายของหอทงเทียนได้อย่างเงียบๆ ซึ่งนั่นเป็นความบันเทิงและเป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เหลือของข้า”
“ลาก่อนจื้อจุนชาวมนุษย์! ข้าหวังว่าเจ้าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียนจะยืนหยัดได้จนกระทั่งเย่ว์ไตตันมาถึงภายใต้การโจมตีด้วยความโกรธและเกรี้ยวกราดของเหล่าเทพวิบัตินับไม่ถ้วนในทะเลมรณะ หวังว่าเจ้าจะอยู่ได้จนกว่าเย่ว์ไตตันจะมาถึง หลักฐานก็คือเขารู้ว่าเจ้าหายไปด้วยและมีวิธีลับเข้าประตูเทพ..ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าตงฟางแม้ไม่ใช่นักสู้อันดับหนึ่งแต่ข้าตงฟางมีสติปัญญาพอจะพลิกเกมกระดานหมากรุกได้ทั่วทั้งโลกเต็มที่เปลี่ยนขาวให้เป็นดำได้! โชคชะตาของข้าข้าควบคุมได้เอง และโชคชะตาของคนอื่นก็ถูกควบคุมด้วยสติปัญญาของข้าด้วย!”
ตงฟางหัวเราะและเดินจากไป
เงาดำสองสามร่างแอบแฝงตัวอยู่เงียบๆในความมืด ต่อหน้าจื้อจุน นักฆ่าเหล่านี้เหมือนกับหมาป่าเสือดาวที่พบเหยื่อของพวกเขา พวกเขาวางแผนและหาช่วงเวลาที่มั่นเหมาะเลือกคนใช้เขี้ยวเล็บตะปบและกัด
หน้าของจื้อจุนเฉยเมยราวกับว่าไม่เห็นสิ่งต่างๆรอบตัว
เมื่อเงาดำหลายร่างค่อยๆเข้ามาใกล้ สายตานางยังคงมีแววดูถูก
นางลอบบิดมือและชูขึ้นเหนือศีรษะอย่างนุ่มนวลสง่างามราวกับเต้นรำ แต่ปากของนางเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยไร้ปราณี “เจ้าพวกตัวตลกทั้งหลาย ไม่กล้าออกมาหรือไง?
ทันทีที่คำพูดที่คล้ายเม็ดน้ำแข็งร่วงจบลงปรากฏแสงสว่างกว้างใหญ่ท่วมทั้งแผ่นฟ้าและพื้นโลก
มองดูคล้ายทะเล
ในทันทีนั้น
แสงได้สาดท่วมไปทั้งแกนสมดุลโลก
มหาสมุทรแสงประกอบไปด้วยธนูแสงลูกดอกแสง กระบี่แสงหอกแสงและขนนกกวาดไปทั่วโลกกลบจิตสำนึกของชีวิตในที่นั้นทันที
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเทพธิดาบุปผาหน้าเปลี่ยนสีทันที
เมื่อทั้งสองเห็นฝาครอบของกฎของเทพบรรพตศักดิ์สิทธิ์พวกเขาถูกตรึงด้วยแสงเทพอย่างแน่นหนา กระสวยแสงจำนวนมากเจาะลึกมาถึงด้านหน้าของทั้งสอง โชคดีที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อสร้างโล่พลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเมืองมีพลังเทพต้านทานการโจมตีของลำแสงฝนได้มิฉะนั้นเทพธิดาบุปผาที่เป็นหินอาจถูกโจมตีอย่างหนัก
หลังจากผ่านไปนานแสงนี้ยังมีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้
และศัตรูในสนามรบเล่าเป็นใคร?
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเทพธิดาบุปผามองหน้ากันทั้งคู่เชื่อว่าภายใต้แสงที่น่าสิ้นหวังและสะพรึงกลัวนี้ศัตรูจะไม่สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ดี....
เงาร่างดำ
ถูกขจัดทำลายโดยตรงแทบจะยังไม่มีเวลาปรากฏตัว
เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักร่วงหล่นกับพื้นแม้ว่าจะไม่เสียชีวิต แต่คนตาบอดก็มองออกว่า เจ้าผู้นี้เป็นร่างที่ไม่มีศักยภาพเหลือพอแม้โดนแค่หมัดทารกต่อยใส่ เป็นไปได้ว่าจะไม่อาจทนรับไว้ได้ ที่เหลืออีกสามคนกลิ้งไปมาบนพื้นร้องคร่ำครวญโหยหวนน่าสมเพชเวทนาเสียงดังก้องไปทั้งหุบเขา
“อ่อนแอเสียจริง! เฮ้อ,แค่นี้ก็ล้มเหลว” มีเสียงเกียจคร้านดังอยู่เบื้องหลังจื้อจุนเจ้าของเสียงดูผิดหวังและไม่พอใจกับเงาร่างที่ร้องคร่ำครวญ
“เจ้าจะร่วมกับพวกเขาด้วยในไม่ช้านี้” จื้อจุนไม่ขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าจริงๆแล้วคนที่มาทีหลังก็เหมือนกัน
“น่าขันเป็นบ้า!” เสียงเกียจคร้านด้านหลังประสานเสียงเกียจคร้านหัวเราะร่า “อย่าบอกนะว่าอสูรที่อยู่ข้างล่างเป็นเทพแท้? นี่คือความเข้าใจและความแข็งแกร่งของยอดฝีมือชั้นนำในปัจจุบันของหอทงเทียนอย่างนั้นหรือ? ขอโทษ หอทงเทียนยังไม่พินาศตกต่ำลงยังไงก็ยังมีเทพที่แข็งแกร่งสองสามคนที่มีบัลลังก์เทพและแม่เด็กผมทองตัวเล็กนี่เป็นตัวอะไร? ถูกแล้วข้าทำเรื่องชั่วร้ายมามากมายถูกขังเอาไว้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมาดูถูกข้าแบบนี้ได้!”
“ข้าขอจองเล่นเกมที่สอง! ถึงแม้จะอายุน้อยแต่พลังแห่งแสงนับว่ายังไม่เลว!” อีกเสียงดังมาจากขอบฟ้า “ซวนคงซางขอเข้าร่วมด้วยคนได้ไหม?”
“ไม่ข้าผู้นี้ต้องการดูความตื่นเต้น” มีเสียงชราลอยลมมาจากเหนือท้องฟ้า
“เจี้ยนจางเซิงเจ้าบ้านักกำจัดสาวน้อยนี้คาดว่านางคงไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูกแน่นอน ข้าไม่อยากจะแย่งชิง”มีเสียงสตรีเย้ายวนใจดังออกมาจากด้านล่างเหมือนบึ้งที่อยู่ใต้ดินเหมือนกับว่าจะแฝงอยู่ในใจผู้คนจนถึงขณะนี้ จากนั้นในขณะที่ผู้คนหลงใหลเสียงนางนางจะแอบออกมากินหัวใจคนอื่น
“ดูสิทุกคนข้ามีความสุขมากที่เป็นคนแรกจะได้ฆ่าแม่สาวผมทอง จากนั้นค่อยจัดท่าทาง 32ท่าให้ทุกคนได้ชมดู” คนเสียงเกียจคร้านที่อยู่ด้านหลังเพิ่มน้ำหนักเสียงสักเล็กน้อยฟังแล้วน่าจะเป็นตัวประหลาดที่ประจบเจี้ยนจางเซิง
“ดี ดี เอาเลยๆ!” ปีศาจเฒ่าหลายตนไม่รู้ว่าซุ่มซ่อนอยู่ที่ใด ถือโอกาสปรบมือส่งเสียงโห่ร้อง
“ดูฝีมือที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินของข้าเสียก่อน!”
เจี้ยนจางเซิงที่น้ำเสียงเฉื่อยชายังคงเหมือนเดิมแต่พลังของเขาระเบิดออกราวกับดวงอาทิตย์ระเบิด
พลังพายุเทพทำให้โลกสั่นสะเทือนด้วยเจตจำนงของเขา ทุกอย่างอยู่ในสภาพพังพินาศในพริบตานับประสาอะไรกับคน ภูเขาผืนทะเลลดระดับลง ภายใต้พลังเทพนี้ทำให้เกิดการระเหยแห้ง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด
พายุพลังเทพค่อยสงบลง
หุบเขาสมดุลฟ้าดินและสะพานเชื่อมหน้าผาที่ถูกทำลายค่อยๆฟื้นฟูอย่างช้าๆ ภายใต้เจตจำนงโบราณและกฎสวรรค์แห่งการสมดุลอย่างช้าๆ กลับคืนสู่สภาพรูปลักษณ์ดั้งเดิมเหมือนที่ผ่านมาจื้อจุนที่อยู่กลางสะพานหายไปในอากาศที่เบาบาง ไม่มีใครเห็นร่องรอยนาง ไม่มีใครรู้และตัดสินได้ว่าตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ภายใต้พลังถล่มฟ้าทลายดินของเจี้ยนจางเซิงทุกคนพากันหลบหลีกพวกเขาไม่สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในกลางสนามรบ
อย่างไรก็ตามเกือบทุกคนเชื่อว่าผลลัพธ์ถูกกำหนดไว้แล้ว
นางต้องถูกกำจัดโดยพลังเทพของเจี้ยนจางเซิง
ภายใต้บัลลังก์เทพ
ไม่มีเทพไม่มีศัตรู
“โอว! อ่อนแอเสียเหลือเกิน ข้าอุตส่าห์ยั้งมือแล้ว ใช้พลังเทพไปสามส่วนนึกไม่ถึงเลยว่าผลลัพธ์ที่ได้น่าผิดหวังขนาดนี้! จิ๋วซื่อ! หรือว่าเจ้าจะมาสู้กับข้า ตอนนี้ผู้เยาว์จากหอทงเทียนอ่อนแอเหลือเกิน นี่เป็นเรื่องน่าอายของหอทงเทียนเจ้าหรือเปล่า?” เจี้ยนจางเซิงพูดอย่างเบื่อหน่าย
“เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับข้า!” คำพูดของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมีพลังมากกว่าการลงมืออย่างโหดเหี้ยมเสียอีกเหมือนเป็นการตบหน้าเจี้ยงจางเซิงโดยตรง
“เจ้าว่ายังไงนะ?” เจี้ยนจางเซิงเป็นเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง ขนลุกชี้ชัน
“ข้างหลัง!” เสียงดังจากขอบฟ้า เป็นคนที่ขอสมัครสู้รอบสองแต่ก่อนที่เขาจะเตือนได้ทันหมัดก็ต่อยเข้าที่หน้าของเจี้ยนจางเซิงที่กำลังหันไปมองด้วยความประหลาดใจ
“อา..น่าทึ่ง!” เจี้ยนจางเซิงถูกหมัดถอยไปสองก้าว จมูกและปากมีเลือดฉีดพุ่งราวกับน้ำพุแต่เขาไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะ เขาไม่ถอยแต่เดินหน้าแทนและควงปล่อยหมัดราวกับคนบ้า เสียงหมัดดังสนั่นจื้อจุนยกเรียวงามรับหมัดของฝ่ายตรงข้ามอีกมือหนึ่งจับศอกของเจี้ยนจางเซิงผลักร่างเขาด้วยพลังที่แยบยล
เจี้ยนจางเซิงลอยตัวในอากาศและโจมตีที่ท้องน้อยของจื้อจุน
จื้อจุนไวกว่า
ขายาวของนางวาดเป็นแนวโค้งนางบิดเอวเตะ เท้าของนางเร็วกว่าดาวตกเข้าที่ชายโครงเจี้ยนจางเซิงพลังทะลุทะลวงทำให้เจี้ยนจางเซิงปวดหัวใจเหมือนถูกค้อนสายฟ้าหวดเจ็บปวดตัวแทบระเบิด
เจี้ยนจางเซิงโจมตีพลาดเขาพยายามดิ้นรนโจมตีศีรษะของจื้อจุน
น่าเสียดายที่ร่างของจื้อจุนหายไปอยู่ด้านบนศีรษะของเจี้ยนจางเซิงทันที
พร้อมกับตวัดขา
สับลงเหมือนขวาน
ขานางสับลงที่หลังของเจี้ยนจางเซิง เจี้ยนจางเซิงมีผิวหนังที่หนาและทนทานยังอดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่ได้
เจี้ยนจางเซิงโดนทุบร่วงลงไปที่สะพานจนกระทั่งแขนของเขาใช้ไม่ได้ตาของเขายังไม่ทันฟื้นคืนจากอาการเจ็บก็ถูกโจมตีต่อเนื่องมองเห็นแต่มีแสงโจมตีและกระแทกเข้าที่คางของเจี้ยนจางเซิง
“บึ้ม!”
เจี้ยนจางเซิงควงในอากาศสิบสองรอบและร่วงไปบนสะพานสมดุลโลก
ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
เมื่อเขาไอและลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซอยู่บนสะพานด้วยความมึนงงมีเสียงหัวเราะหยอกล้อดังขึ้น “เฮ้ เจี้ยนจางเซิงใช้ท่าไม้ตายได้แต่ดูเหมือนไม่ใช่ท่าถล่มฟ้าทลายดินนะ แต่เป็นท่าสุนัขหิวโหยจมโคลนใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า ไม่เลวนี่คงเป็นท่าแรกในสามสิบสองท่า” เสียงของชายชราซ่วนคงซางดังเยาะเย้ย
“ดีนี่เป็นการแสดงฝีมือที่ยอดเยี่ยม!”เสียงของคนที่สมัครสู้รอบสองเงียบอยู่ชั่วครู่ แต่เขาสนองได้ไว และรีบหัวเราะทันที
“พวกเจ้าหุบปากเลย!” เจี้ยนจางเซิงขยับคอบิดข้อมือ เขาตวาดด้วยความโมโห “ข้าแค่เผลอเลินเล่อไปหน่อยปล่อยให้แม่เด็กนี่ได้ลงมือแต่ตอนนี้ข้าเอาจริงแล้ว!”
“เลินเล่อน่ะหรือ....” ตัวประหลาดเสียงสตรีอดหัวเราะไม่ได้
“ไม่เลว ไม่เลว!” เสียงปีศาจเฒ่าซึ่งไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ที่ไหนปรบมือให้กำลังใจแต่ทำท่าโห่ไล่เจี้ยนจางเซิง เจี้ยนจางเซิงสบถด่าพวกเดียวกัน
พวกเขาปรบมือส่งเสียงเชียร์
ตอนนี้ทุกคนเห็นความจริงแล้วว่าสาวผมทองที่ดูเหมือนอ่อนแอนี้ไม่ใช่เด็กที่น่ารัก!
*** *** ***