บทที่ 21: เจ้าห้าปลดทุกข์
เช้าวันรุ่งขึ้น
สงฮวาที่ตื่นเต้นมาตลอดทั้งคืนรีบลุกขึ้นมาปลุกให้สงจวงออกไปล่าสัตว์ ส่วนตัวนางจะไปที่บ้านของท่านผู้เฒ่าคนเดียว
ก่อนจะออกเดินทาง นางหันไปกำชับกับสงชิวว่า "วันนี้เจ้าต้องอยู่เฝ้าบ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
เมื่อแม่หมีนึกถึงหูเจียวเจียว ยัยจิ้งจอกน้อยตัวนั้นมีความแค้นกับนางมาตลอด นางกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาขโมยของที่บ้านไปในตอนที่ตนไม่อยู่
อาจเป็นเพราะเจ้าลูกหมีสงชิวที่เคยกินอิ่มหน่ำสำราญไม่เคยอดข้าวเช่นนี้มาก่อน เขาเลยรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับคำของผู้เป็นแม่อย่างอ่อนแรง
"เข้าใจแล้ว"
แม่ไม่จำเป็นต้องบอกเขาหรอก เพราะถึงอย่างไรวันนี้เด็กหนุ่มก็ไม่อยากขยับตัวออกไปไหนอยู่แล้ว
ไม่นานหลังจากที่สงฮวาออกจากบ้าน สงชิวก็ได้กลิ่นเนื้อโชยมาตามสายลม
โครกคราก~~
แล้วท้องของเขาก็ประท้วงร้องหาอาหารทันที
นั่นทำให้ลูกหมีตัวอ้วนทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบเดินตรงไปที่หน้าประตูเพื่อตามหาต้นตอของกลิ่นที่แสนยั่วยวนใจนั้น
"อื้อหือ เนื้ออร่อยมากจริง ๆ น่าสงสารที่บางคนต้องมานั่งทนหิวอยู่แถวนี้เนอะ..."
"วะฮ่าฮ่าฮ่า~"
ที่นอกบ้านของสงชิว หลงหลิงเอ๋อกำลังถือเนื้อย่างชิ้นหนึ่งอยู่ในมือ นางพูดจบแล้วก็กัดเนื้อกินอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับหลงเหยา
เมื่อลูกหมีน้อยเห็นเนื้อตรงหน้า ดวงตาของเขาก็จ้องเขม็งไปที่เนื้อในมือเด็กสาวในสภาพน้ำลายไหลลงมาที่มุมปาก
"หลงหลิงเอ๋อ เอาเนื้อนั่นมาให้ข้านะ! มันคือเนื้อของครอบครัวข้า!"
พอสงชิวเห็นว่าคนที่มานั่งกินเนื้อล่อหน้าล่อตาเขาเป็นเพียงเด็กผู้หญิงกับเด็กไม่สมประกอบ เขาก็ก้าวเข้าไปตั้งท่าจะแย่งเนื้อมาจากมือของอีกฝ่าย
ทั้ง ๆ ที่เขาต้องมานั่งทนหิวอยู่อย่างนี้ ทำไมไอ้ตัวเล็กพวกนั้นถึงได้กินเนื้อกันล่ะ!?
แต่เหมือนว่าหลงหลิงเอ๋อจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ก่อนที่ลูกหมีอ้วนจะทันได้เข้าใกล้นาง ๆ ก็ขยับตัวหลบอย่างรวดเร็ว
จากนั้นสาวน้อยก็ทำหน้าเยาะเย้ยอีกฝ่ายพลางพูดว่า “ถ้าเจ้าอยากได้ก็เข้ามาแย่งเองสิ!”
ยามนี้สงชิวที่หิวโหยจนหน้ามืดตามัวไม่สนใจอะไรอีก เขาฝ่าฝืนคำพูดของแม่หมีทันทีโดยที่ดวงตาสีดำสนิท 2 ข้างกำลังจ้องเขม็งไปที่เนื้อ ในมือของหลงหลิงเอ๋อไม่วางตา
“เจ้าท้าทายข้าเองนะ! นังสวะ เอาเนื้อมาให้ข้า!”
"น้องห้า วิ่ง!"
ถัดมา หลงหลิงเอ๋อโยนชิ้นเนื้อที่เหลือเพียงครึ่งเดียวไปข้างหน้า และจังหวะนั้น หลงเหยาก็พุ่งออกไปงับเนื้อราวกับจรวด
“เอื๊อก” เขากลืนเนื้อชิ้นนั้นลงท้องไปภายในคำเดียว
ไม่นานเด็กทั้ง 2 ก็วิ่งหายเข้าไปในป่าทีละคน
"หยุด! ไอ้ตัวเล็ก อย่าหนีนะ!" สงชิวเองก็ไม่ลดละรีบวิ่งไล่ตามทั้งคู่ไปเต็มฝีเท้า
หลังจากที่เด็กตัวจ้ำม่ำวิ่งตามอีกฝ่ายเข้าไปในป่าสักพัก เขาก็เห็นว่าคนที่เขาไล่ตามมานั้นหยุดยืนอยู่ข้างหน้าเหมือนกับว่าพวกเขาไม่สามารถวิ่งไปต่อได้อีก
ภาพดังกล่าวทำให้เด็กหนุ่มมีความสุขมาก ก่อนที่เขาจะเร่งฝีเท้าวิ่งต่อไปในสภาพที่เหงื่อท่วมตัว
“ไอ้ตัวเล็ก พวกเจ้าไม่รอดแน่!”
ถ้าเขาจับเจ้าเด็กกวนประสาทพวกนั้นได้ เขาจะทุบพวกมันให้เละโทษฐานที่อีกฝ่ายกล้าลอยหน้าลอยตากินเนื้อต่อหน้าเขา!
แต่ทันใดนั้น ในขณะที่สงชิวกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าตัวหลงหลิงเอ๋อ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าพื้นใต้เท้าหายไปก่อนที่เขาจะตกลงไปในหลุมลึก
โครม!
“พี่ใหญ่ พี่สาม เจ้าอ้วนมันตกลงไปแล้ว!”
ในเวลาเดียวกัน มีหัวเล็ก ๆ 3 หัวโผล่ออกมาจากขอบหลุมที่สงชิวตกลงไป พร้อมกับเสียงของสาวน้อยที่พูดอย่างตื่นเต้น ประกอบกับดวงตาที่เปล่งประกายของเด็กน้อยอันใสซื่อ
"อูยยย... ไอ้พวกสารเลว พวกเจ้ากล้าวางกับดักข้างั้นรึ!"
เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งขึ้นสูงหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลงหลิงเอ๋อ ในขณะที่เขาตะโกนต่อว่าอีกฝ่าย ก้อนหินขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยลงมาจากด้านบน
ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!
"โอ๊ย! พวกเจ้ากล้าทำร้ายข้า—"
“เจ้าคนชั่ว คนนิสัยไม่ดี ครอบครัวของเจ้าสารเลวกันทั้งบ้านนั่นแหละ โทษฐานที่พวกเจ้ามารังแกพวกเราทุกวัน แค่นี้มันยังน้อยไป ต่อจากนี้ไปถ้าเจ้ากล้ามารังแกพวกเราอีก เราจะทุบหัวเจ้าให้แหลกคามือเลย!”
ในระหว่างที่เด็กทั้ง 3 พูดตอบโต้อีกฝ่าย พวกเขาก็ขว้างปาก้อนหินลงไปเยอะกว่าเดิม แม้แต่ตัวหลงเหยาก็ยังใช้ปากคาบก้อนหินโยนลงไปในหลุมด้วย
แต่การเคลื่อนไหวของเจ้ามังกรน้อยช้าเกินไป เขาเอียงศีรษะและใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็บินตรงไปที่เหนือปากหลุม
ภาพที่กำลังเกิดขึ้นนั้นไม่น่ามองสุด ๆ!
พรูดดดด!
ขณะนี้เสียงบางอย่างดังแหวกอากาศลงไปในหลุม แล้วเด็กอีก 3 คนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ยกมือขึ้นมาบีบจมูกตัวเองอย่างพร้อมเพรียงกัน พลางมองน้องชายคนเล็กด้วยสีหน้าขยะแขยง
"เสี่ยวเหยา เจ้ามันบ้าไปแล้ว..."
เนื่องด้วยหลงเหยายังอยู่ในร่างสัตว์ เขาจึงไม่รู้สึกละอายใจเลยที่ทำแบบนี้
หลังจากที่ได้ปลดปล่อยแล้ว เขาก็สะบัดหางตัวเองอย่างสบายใจ ก่อนจะหันหลังบินไปทางหลงอวี้ด้วยท่าทางภาคภูมิใจในตัวเอง
วันนี้เขาได้ช่วยงานแม่ใจร้ายด้วย พอกลับไปที่บ้าน แม่คงจะให้เขากินเนื้อเยอะ ๆ ใช่ไหม?
เมื่อเจ้ามังกรตัวน้อยคิดถึงเนื้อแสนอร่อย เขาก็ระงับอาการลิงโลดในใจแล้วพยายามให้หนักขึ้น
ที่ใต้หลุม…
ลูกหมีตัวอ้วนถูกหินกระแทกเข้าใส่จนเจ็บไปทั้งตัว เขาจึงอ้าปากร้องลั่น แต่ใครจะไปรู้ว่าพออ้าปากแล้วก็มีของลื่น ๆ หล่นเข้ามาในปาก...
หลังจากนั้นกลิ่นที่อธิบายไม่ถูกก็โชยเข้ามาในจมูก ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดสนิททันทีพร้อมกับตั้งท่าจะพ่นมันออกมา
แต่เขาทำไปด้วยความลนลาน ผลก็คือเขาสำลักจนสิ่งนั้นไหลลงไปในคอ
“อึก! แค่ก ๆ!”
"แอวะ…"
สงชิวคุกเข่าลงบนพื้นในหลุมและอาเจียนออกมา ส่วนหลงอวี้, หลงจง และหลงหลิงเอ๋อก็หันหน้าหนีด้วยใบหน้าพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนตามเช่นกัน
ข้าทนดูไม่ไหวแล้วจริง ๆ!
เด็กทั้ง 3 เอามือปิดจมูกแล้วดึงหลงเหยาออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นสงชิวถูกพาออกมาไกลจากตัวบ้าน เธอก็เดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับถังน้ำมัน แล้วสาดน้ำมันลงบนผนังบ้านของพวกสงฮวา
ก่อนจะเริ่มแผนการทั้งหมด เธอพบของสิ่งนี้เมื่อวาน มันถูกวางอยู่บนชั้นวางในมิติที่เพิ่งปลดล็อก
ในขณะนั้นพอเธอสาดน้ำมันเบนซินไปจนทั่วบ้านของศัตรูแล้ว เธอก็ทำการจุดไฟเผามัน
พรึ่บ!
เมื่อน้ำมันปะทะกับไฟมันก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เปลวเพลิงสีแดงจะโหมกระหน่ำกลืนกินบ้านไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่นักจนวอดวาย
หญิงสาวเฝ้ามองผลงานตรงหน้าพลางปัดฝุ่นออกจากมือ ก่อนจะเก็บถังน้ำมันเข้าไปในมิติ แล้วรีบหนีออกไปจากพื้นที่นั้น
ในเวลาเดียวกัน
สงฮวามาถึงบ้านของหัวหน้าเผ่าและเล่าให้ท่านผู้เฒ่าฟังเกี่ยวกับเรื่องที่หูเจียวเจียวสามารถจุดไฟได้เอง
“สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ?” เมื่อชายแก่ได้ยินคำพูดของแม่หมี เขาก็แสดงสีหน้าจริงจัง
“จริงสิ ข้าเห็นหูเจียวเจียวจุดไฟด้วยตาของข้าเอง นางถึงขั้นจะใช้ไฟนั้นเผาข้าจนตาย คนขี้ขโมยแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ในเผ่าของเรา!”
การลักขโมยถือได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับคนในเผ่าแห่งนี้
ยิ่งการขโมยวิธีการจุดไฟของท่านผู้เฒ่ายิ่งเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นไปอีก
นั่นทำให้หัวหน้าเผ่ามีสีหน้าเย็นชา จากนั้นเขาเดินเอามือไพล่หลังออกไปนอกประตูทันที "ข้าจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"
แม้ว่าชายชราจะรีบร้อน แต่เขาก็ไม่ได้ตัดสินว่าหูเจียวเจียวผิดเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของสงฮวา
ในตอนนั้นแม่หมีตัวใหญ่แอบรู้สึกลิงโลดอยู่ในใจและรีบเดินตามท่านผู้เฒ่าไปติด ๆ
การขโมยวิธีการจุดไฟของหัวหน้าเผ่าถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง บางทีหูเจียวเจียวอาจถูกขับไล่ออกจากเผ่าไปได้เลย!
ไม่นานหลังจากที่ทั้ง 2 คนเดินออกไป ชายคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาพวกเขา
“สงฮวา แย่แล้ว บ้านเจ้าไฟไหม้!”
“อะไรนะ! ทำไมบ้านข้าไฟไหม้ล่ะ!?”
สงฮวาตกตะลึงมากเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูด
“ไม่รู้ เจ้ากลับไปดูก่อนเร็วเข้า!” เขาเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น เขามาที่นี่เพื่อส่งข่าวเท่านั้น
"ตายแล้ว ลูกข้ายังอยู่ในบ้าน!"
เมื่อคิดถึงตอนที่ตนบอกให้สงชิวอยู่เฝ้าบ้านแล้วห้ามออกไปไหน นางก็ตื่นตระหนกรีบวิ่งกลับบ้านไปอย่างร้อนรน
เวลาผ่านไปไม่นานหลังจากที่สงฮวามาถึงบ้าน นางก็เห็นว่าไฟลุกลามจนท่วมบ้านของนางแล้ว ภาพนั้นมันทำให้หัวอกคนเป็นแม่แทบจะเป็นลมล้มลงกับพื้น
จากนั้นเหล่าภูตที่เฝ้าดูก็รีบเข้ามาช่วยกันพยุงแม่หมีร่างใหญ่ "สงฮวา ทำใจดี ๆ เอาไว้"
"ลูก! ลูกข้ายังอยู่ข้างใน ช่วยกันดับไฟเร็วเข้า! ลูกข้ายังอยู่ข้างใน..." สงฮวานึกขึ้นได้ว่าลูกของตนยังอยู่ในบ้าน นางรีบจับมือของคนอื่นแน่นพลางตะโกนเสียงดังอย่างสิ้นหวัง
เมื่อชาวบ้านรอบ ๆ ได้ยินว่ามีเด็กติดอยู่ข้างใน พวกเขาก็รีบวิ่งไปตักน้ำที่แม่น้ำมาดับไฟให้เร็วที่สุด
“สงฮวา ไม่ต้องห่วง พวกเขากำลังช่วยกันดับไฟแล้ว”
"บางทีลูกของเจ้าอาจจะออกไปเล่นข้างนอกแล้วก็ได้..."
เมื่อผู้หญิงหลายคนเห็นว่าสงฮวามีสภาพน่าสงสาร พวกนางก็เข้ามาช่วยปลอบโยนอีกฝ่าย
ไม่นานพวกภูตที่วิ่งไปตักน้ำก็กลับมาและสาดน้ำถังแล้วถังเล่าเข้าใส่กองไฟ
แต่ความรุนแรงของไฟไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย พอมันเจอกับน้ำ มันกลับยิ่งโหมกระหน่ำขึ้นไม่ต่างจากการเทน้ำมันลงไปเลย
"ไฟนี้ใช้น้ำดับไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้น..." หลังจากเทน้ำลงไปหลาย 10 ถัง ภูตบางตัวก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อสงฮวาเห็นพวกเขาหยุดนิ่งไป นางก็ผลักผู้หญิงที่พยุงตัวเองออกไป แล้วตะโกนด่าทอคนอื่นที่มาช่วยกันดับไฟ
“พวกเจ้าจะหยุดมือทำไม แค่ตักน้ำมาดับไฟยังทำไม่ได้ หลังจากนี้จะทำมาหากินอะไรได้อีก!”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของข้า พวกเจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อื้อหือ เจียวเจียวโหดมาก เวรย่อมระงับด้วยการเผาบ้านเวรจ้า