บทที่ 17: ใครจะไปสนใจคำชมของนาง
“ไม่ ข้าปล่อยให้นางเอาเนื้อไปไม่ได้ ถ้านางหนีไปล่ะเราจะทำยังไง!” หลงจงคัดค้านขึ้นมาแบบไม่ต้องคิด
ในระหว่างที่พูด เขาก็จ้องมองหูเจียวเจียวอย่างเย็นชา "พี่ใหญ่ ท่านลืมไปแล้วหรือว่าทุกครั้งที่นางได้เนื้อมา นางก็จะเอาไปให้อิงหยวน นางเต็มใจจะมอบมันให้กับคนอื่นมากกว่าเอามาแบ่งให้พวกเรา ข้าไม่ยอมให้นางไปหาหมอเด็ดขาด!"
เด็กหนุ่มคิดเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ในเมื่อวันนี้พวกเขาได้เหยื่อมามากมาย หากเหล่าพี่น้องร่วมมือกันก็มีโอกาสที่จะฉกเหยื่อไปเก็บไว้กินเองได้บางส่วนแน่นอน
แล้วหลังจากนี้พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้หญิงสารเลวคนนี้อีก
ถึงอย่างไรก็ตาม เด็กทั้ง 5 ก็ไม่มีบ้านให้อยู่มาตั้งนานแล้ว การที่จะไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอกอาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการทนทุกข์ทรมานอยู่ตรงนี้เป็นร้อยเท่า!
"เจ้าอย่ากังวลไปเลย แม่ไม่เอาเนื้อของเจ้าไปหรอก อีกอย่างแม่ไม่ตายง่ายขนาดนั้น" หูเจียวเจียวคิดถึงหมอที่ถูกบรรยายในนิยายแล้วเธอก็รู้สึกขยาดอยู่ในใจ
เธอจำได้ว่าหมอที่อยู่ในเผ่าแห่งนี้เป็นชายแก่หลังค่อมที่แค่ลำพังตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วคนที่เขารักษานั้นไม่เคยมีใครรอดชีวิตไปได้สักราย
ภาพเบื้องหน้าทุกคนคิดว่าเขาเป็นหมอ แต่แท้จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นไส้ศึกที่ภูตจากดินแดนอื่นส่งมา!
หญิงสาวไม่กล้าให้หมอแบบนี้มารักษาเธอหรอก!
"อย่ามาทำเป็นพูดดี" หลงจงจ้องมองแม่จิ้งจอกเขม็งโดยทำท่าทางเหมือนกับว่าเขาจะกระโดดเข้าไปกัดถ้าเธอขยับตัวแม้แต่ก้าวเดียว
"แต่ท่านแม่..." หลงหลิงเอ๋อมองไปที่ผู้เป็นแม่อย่างเป็นกังวล
“หลิงเอ๋อ อย่าห่วงไปเลย แม่ไม่เป็นอะไรไปหรอก แม่จะอยู่ปกป้องเจ้าไปตลอดชีวิตเอง” หูเจียวเจียวก้มลงบีบแก้มที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกของสาวน้อยเบา ๆ
เด็กผู้หญิงคนนี้ผอมแห้งเกินไป
เธอต้องพยายามขุนลูก ๆ ให้อ้วนขึ้นเสียแล้ว!
“ว่าแต่…ของในบ้านเราหายไปไหนหมดล่ะ?”
ทันใดนั้นหูเจียวเจียวก็สังเกตเห็นว่าเครื่องครัวของเธอหายไป
คงไม่ใช่ว่าพวกสงฮวาขโมยไปหรอกใช่ไหม?
“ท่านแม่ พี่รองกลัวข้าวของเสียหาย พวกเราก็เลยขนของไปซ่อนไว้หลังบ้าน!”
หลงหลิงเอ๋อที่เริ่มรู้สึกหวาดกลัวแม่ของตนน้อยลงเอ่ยตอบอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ
จิ้งจอกสาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหลงเซียวที่ยืนแอบอยู่ในมุมเงียบ ๆ
เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าลูกชายคนรองที่พยายามคาดคั้นถามถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอก่อนหน้านี้จะช่วยเธอปกปิดเรื่องทุกอย่างเอาไว้
ในนิยาย หลงเซียวเป็นวายร้ายที่คิดรอบคอบที่สุด เธอเดาว่าอีกฝ่ายคงจะรู้อยู่แล้วว่าของพวกนี้มีต้นกำเนิดที่คลุมเครือ ดังนั้นเขาจึงให้คนอื่นนำมันไปซ่อนเพราะกลัวว่าพวกสงฮวาจะเห็นเข้าแล้วใช้มันเป็นข้ออ้างหาเรื่องพวกเขา
เมื่อหญิงสาวนึกถึงสิ่งนี้ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของตนเอง
“เซียวเซียว เจ้าทำได้ดีมาก ขอบคุณที่ช่วยซ่อนของพวกนั้นไว้ ไม่อย่างนั้นของของแม่คงจะพังไปหมดแล้ว!”
ในระหว่างที่พูดหญิงสาวก็ก้าวเข้าไปลูบหัวเล็ก ๆ ของหลงเซียวที่มองไม่เห็น พร้อมกันนั้นเธอก็พูดชื่นชมเด็กหนุ่มไม่ขาดปาก
พอเด็ก ๆ ได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียว หูของแต่ละคนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างพร้อมเพรียงกัน
“ข้าไม่ได้ทำไปเพื่อท่าน ข้าแค่กลัวว่าท่านจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการทำร้ายเราต่างหาก…” หลงเซียวเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ทว่าดวงตาคู่เล็ก ๆ ของหลงหลิงเอ๋อโค้งจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว นางไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าท่านแม่จะชมพวกนาง นี่เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่นางได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้!
ทางด้านหลงจง เขารีบหันหน้าออกไปอีกทาง
ใครจะไปสนใจคำชมของนางกันล่ะ! ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย…
ส่วนใบหน้าของหลงอวี้ยังคงเหมือนปกติที่ไม่แยแสสิ่งใดอีกเช่นเคย
แต่นิ้วเท้าทั้ง 10 กำลังจิกลงบนพื้นแน่น เผยให้เห็นร่องรอยของความรู้สึกที่แท้จริงของเจ้าตัว
และยามที่หลงเหยาได้ยินคำชม ดูท่าทางเขาจะเข้าใจคำพูดเหล่านั้นจึงบินมาตรงหน้าของผู้เป็นแม่
"แผล่บ~" จู่ ๆ เจ้ามังกรน้อยก็แลบลิ้นเลียใบหน้าของหูเจียวเจียวคล้ายกับกำลังประจบเธออยู่
ในเวลาเดียวกัน หางเรียวเล็กกระดิกไปมาเหมือนลูกสุนัขที่มีความสุขที่เจ้าของกลับมาบ้าน
ปัจจุบันความรู้สึกในใจของหูเจียวเจียวตอนนี้ผสมปนเปกันไปหมดจนไม่รู้ว่าเธอควรหัวเราะหรือร้องไห้ก่อนดีในระหว่างที่เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายบนใบหน้า
“พวกเจ้าเล่นกันอยู่ที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะไปจัดการเหยื่อที่แม่น้ำ แล้วแม่จะกลับมาทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเจ้ากิน”
หญิงสาวชำเลืองมองเหยื่อที่อยู่บนพื้น ก่อนจะลากกวางซิกาตัวเล็กไปที่แม่น้ำโดยไม่สนใจสุนัขจิ้งจอกขาวที่ตายอย่างอนาถที่สุด
เนื่องจากบ้านของพวกเธอพังไปแล้ว เธอจึงเข้าไปในมิติจากในบ้านไม่ได้ มิฉะนั้นคนอื่น ๆ จะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น
เมื่อเหล่าเด็กน้อยที่ชาญฉลาดเห็นว่าแม่จิ้งจอกไปจัดการกับเหยื่อ พวกเขาก็ช่วยกันเก็บกวาดบ้านให้กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อย
ประกอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้ 5 พี่น้องเหนื่อยล้ามากเพราะกว่าที่ทุกคนจะไล่สงฮวากับสามีออกไปได้ ตอนนี้พวกเขาจึงไม่อยากขัดแย้งกับหูเจียวเจียวให้ตัวเองเหนื่อยเพิ่มอีก
พอหญิงสาวมาถึงบริเวณข้างแม่น้ำ เธอก็หันไปตรวจสอบโดยรอบแล้วไม่เห็นใคร ไม่นานเธอก็หลบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบผ้าสะอาดมาพันแผลให้ตนเอง
เมื่อเธอเข้ามาข้างในมิติแล้ว เธอก็พบว่าตอนนี้มีชั้นวางอีกชั้นหนึ่งที่สามารถหยิบของออกมาใช้ได้แล้ว เธอจึงรีบตรงเข้าไปสำรวจด้วยความดีใจ
ชั้นวางของที่เพิ่งเปิดใหม่นี้เต็มไปด้วยของจิปาถะมากมาย
หลังจากใช้เวลาสำรวจอยู่นาน ในที่สุดเธอก็พบกล่องยา
มาได้ทันเวลาพอดีเลย!
ต่อมา หูเจียวเจียวรีบใช้ยาในกล่องยารักษาบาดแผลของตัวเองก่อนจะพันแผลด้วยผ้าก๊อซ
แต่หลังจากที่หญิงสาวไตร่ตรองอยู่สักพัก เธอก็รู้สึกว่าถ้าเธอออกไปทั้งอย่างนี้ มันจะทำให้คนอื่นสงสัยว่าเธอไปเอาของจำพวกนี้มาจากไหน เธอจึงใช้หนังสัตว์ผืนหนึ่งพันศีรษะตนไว้
เพียงแค่นี้ก็ไม่มีใครเห็นผ้าก๊อซที่เธอพันแผลไว้แล้ว
ตอนนี้ทางที่ดีที่สุดก็คือ เธอไม่ควรให้ใครเห็นสิ่งของที่นำออกมาจากมิติ หากคนที่ไม่หวังดีอย่างเช่นสงฮวาเห็นมัน พวกนางอาจจะวางแผนทำอะไรบางอย่างไม่ดีกับเธอแน่นอน
พอทำความสะอาดบาดแผลของตัวเองเรียบร้อยแล้ว จิ้งจอกสาวก็ออกจากมิติทันที
ขณะที่เธอกำลังใช้มีดปลายแหลมผ่าท้องกวางอยู่นั้น เธอก็ครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในใจ
แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องในมิติ ครั้งสุดท้ายที่เธอเข้าไปในนี้ เธอสามารถหยิบของได้จากชั้นวางแรกเท่านั้น แล้วทำไมวันนี้ถึงมีชั้นวางเพิ่มขึ้นมาเสียล่ะ? เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างที่ส่งผลต่อมิติ?
“หรือเป็นเพราะว่าลูก ๆ?” จู่ ๆ หูเจียวเจียวก็คิดถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เป็นไปได้
เมื่อคิดถึงท่าทีของพวกเด็กน้อยที่มีต่อเธอเปลี่ยนไป ความคิดแวบหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของหญิงสาว
ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็หมายความว่าหากเธอสามารถพิชิตใจลูก ๆ ได้ เธอจะสามารถปลดล็อกชั้นวางในมิติเพิ่มได้เช่นกัน!
อีกด้านหนึ่งในลานบ้าน หลงหลิงเอ๋อเฝ้าดูผู้เป็นแม่เดินไปที่แม่น้ำ แต่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางกลับเต็มไปด้วยความเศร้า
ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะตายใช่ไหม?
นางเคยเห็นคนในเผ่าตายเพราะได้รับบาดเจ็บแบบนี้มาก่อน เมื่อนึกถึงว่าหูเจียวเจียวเปลี่ยนไปมากแค่ไหนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เด็กสาวก็ยิ่งรู้สึกสับสนในใจมากขึ้น
ถึงแม้ว่าในอดีตผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจมากจริง ๆ แต่ถ้าอีกฝ่ายจะตายก็ควรตายด้วยน้ำมือของพี่น้องของนาง!
จะปล่อยให้นางตายไปง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร!
ในตอนนั้นเอง หลงหลิงเอ๋อชำเลืองมองพี่น้องของนางก่อนจะแอบออกไปจากบ้านในขณะที่คนอื่นไม่ได้สนใจตน
“พี่ใหญ่ เมื่อกี้หลิงเอ๋อแอบออกไปจากบ้านแล้ว ข้าจะไปพานางกลับมา!” เป็นหลงจงที่สังเกตเห็นท่าทางแปลกประหลาดของน้องสาว
"ปล่อยนางไปเถอะ เราไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว" หลงอวี้พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพราะท่าทางที่เกินวัยของเขาทำให้เขาไม่ต่างจากชายชราที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
แม้ว่าหลงจงจะไม่พอใจ แต่เขาก็ยังเชื่อฟังคำพูดของอีกฝ่ายอยู่ ตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงมองตามหลังหลงหลิงเอ๋อไป "พวกผู้หญิงนี่ชอบสร้างปัญหากันเสียจริง…"
…
ในเวลานี้หูเจียวเจียวจัดการแล่กวางซิกาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะล้างมันในแม่น้ำจนเลือดไหลไปตามทาง
จากนั้นเธอก็นำเนื้อกวางมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านของตน
เนื่องด้วยเวลาที่มีไม่มาก เธอจึงวางแผนที่จะจัดการกับเหยื่อที่เหลือในวันพรุ่งนี้ แล้วใช้เวลาของวันนี้ในการซ่อมแซมบ้านไม้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นคืนนี้ทุกคนจะต้องนอนอยู่ข้างนอก
ทันทีที่หญิงสาววางเนื้อกวางลง เธอก็ได้ยินเสียงกังวลดังมาจากด้านหลัง
“ลูกเอ๋ย ลูกรักของแม่ ลูกเจ็บตรงไหนบ้าง มาให้แม่ดูหน่อย ใครมันกล้ามาทำร้ายลูกแม่ แม่จะไปหักขามัน...”
หูเจียวเจียวหันหลังไปมองต้นเสียง และเห็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างเพรียวบาง ตามมาด้วยผู้ชายอีก 2 คนโดยที่คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่มีร่างกายแข็งแรงสมส่วน แล้วอีกคนเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำ
ในระหว่างที่เธอกำลังงุนงง ผู้หญิงคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าเธอแล้ว
จากนั้นนางก็จับมือหูเจียวเจียวพลางน้ำตาคลอ ก่อนที่นางจะมองสำรวจไปทั่วตัวของหญิงสาวอย่างกระวนกระวายใจ
“ลูกแม่ ให้แม่ดูหน่อยว่าเจ้าบาดเจ็บตรงไหน แม่จะพาเจ้าไปหาหมอเอง แม่จะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องลำบากแน่นอน!”