ตอนที่ 7: แหวนทะลุลม
ตอนที่ 7: แหวนทะลุลม
การพัฒนาอารยธรรมไม่มีเส้นทางที่แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น อารยธรรมภายในประเทศจีนที่นอกเหนือจากประเทศจีนในยุคโบราณแล้วมันก็ไม่มีประเทศจีนในยุคอื่นใดที่สามารถสร้างสรรค์บทกวีอันสวยงามเช่นนั้นขึ้นมาได้อีกเลย มันจึงทำให้ทายาทในยุคสมัยใหม่ทำได้เพียงแต่ท่องบทกวีของบรรพบุรุษเท่านั้น
เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นโจทย์ปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สิ่งที่แสดงออกมามันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าบทกวีที่ดีมักจะถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาและสถานการณ์อันเหมาะสมเท่านั้น
ท้ายที่สุดบทกวีก็ไม่ได้เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ของโลกเท่านั้นแต่มันยังเป็นอารยธรรมโบราณที่มีความโดดเด่นแม้กระทั่งในระดับจักรวาลอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เมื่อเซี่ยเฟยได้ทำการอัปโหลดบทกวีทั้ง 13 บทลงในเว็บไซต์กวีนิพนธ์ มันจึงทำให้ผู้คลั่งไคล้บทกวีทั่วทั้งภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่ถึงกับรู้สึกบ้าคลั่ง
ขณะเดียวกันไมโครชิพแปลภาษาภายในร่างกายของเซี่ยเฟยก็มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถแปลแก่นแท้ของบทกวีออกมาได้เป็นอย่างดี มันจึงทำให้ผลงานของต้นฉบับแทบที่จะไม่ถูกดัดแปลง
ในเวลาเพียงแค่ 3 วันบทกวีที่เซี่ยเฟยได้นำไปลงขายก็ถูกซื้อไปไม่น้อยกว่า 10,000 ครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเฟยมีรายได้มากกว่า 100,000 สตาร์คอยน์
สตาร์คอยน์ถือว่าเป็นสกุลเงินสากลในระดับจักรวาล ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยได้ทำการแลกเปลี่ยนสตาร์คอยน์เหล่านี้เป็นเงินสกุลแอลไลคอยน์ มันก็จะทำให้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีระดับร้อยล้าน!
ในขณะเดียวกันชื่อบัญชีของเซี่ยเฟยภายในเว็บไซต์กวีนิพนธ์ก็ใช้นามปากกาว่า ‘ผู้เล่าขานจากสายลม’ และมันก็ทำให้ทุกคนต่างก็พยายามตามหาว่านักเขียนลึกลับคนนี้คือใครถึงสามารถเขียนบทกวีออกมาได้อย่างสง่างามเช่นนี้
ปัจจุบันมันมีผู้ชื่นชอบบทกวีเป็นจำนวนมากที่เฝ้าดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายวันโดยหวังว่าจะได้เห็นผู้เล่าขานจากสายลมออนไลน์เข้ามาในระบบ แต่น่าเสียดายที่นับตั้งแต่การเข้าสู่ระบบในครั้งก่อน ผู้เล่าขานจากสายลมก็ไม่ได้กลับมาออนไลน์อีกเลย ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกสงสัยในตัวตนของนักเขียนคนนี้เป็นอย่างมาก
—--
เมื่อเซี่ยเฟยได้เดินทางออกมาจากหุบเขาเขาก็รู้สึกเหนื่อยล้ามาก ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับประทานอาหารร้อน ๆ ภายในร้านตงไหลซุ่นเขาก็ได้กลับไปพักผ่อนยังโรงแรมอีกครั้ง
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ตื่นขึ้นมาเขาก็ได้เดินทางไปยังห้องชั้นบนสุดของสำนักงานจัดการพลเมือง ซึ่งสถานที่แห่งนี้มันก็เป็นสถานที่ตั้งของคอมพิวเตอร์ AI นั่นเอง
เมื่อเซี่ยเฟยได้เชื่อมต่อเข้าไปยังเว็บไซต์กวีนิพนธ์ เขาก็ทำการคลิกที่บัญชีเพื่อทำการตรวจสอบยอดขายบทกวีในระหว่างที่เขาได้เข้าป่าไปทำการฝึกฝน
“แม่เจ้าโว้ย!!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะถึงแม้ว่าเขาจะโดนหักค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมไป 50% แล้วแต่ภายในบัญชีมันก็ยังมีตัวเลขอยู่ทั้งสิ้นถึงห้าหลัก
ในปัจจุบันบัญชีของเขามีเงินอยู่ทั้งหมด 74,351 สตาร์คอยน์ซึ่งจำนวนของมันก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ 2-3 วินาที
นอกจากนี้มันยังมีอีเมลถูกส่งเข้ามาหาเขาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วมันก็มีอีเมลบางฉบับที่ถูกส่งมาจากเว็บไซต์กวีนิพนธ์อีกด้วย
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้เลือกจดหมายมาอ่านแบบสุ่ม ๆ เขาก็ได้พบว่ามันมีคนต้องการที่จะซื้อลิขสิทธิ์ผูกขาดบทกวีที่เขานำไปลง โดยค่าซื้อลิขสิทธิ์อยู่ที่ 1,000 สตาร์คอยน์ต่อคำซึ่งมันถือได้ว่าเป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาล!
ซื้อลิขสิทธิ์คำเดียว 1,000 สตาร์คอยน์เนี่ยนะ!!
หากได้นับจำนวนคำภายในบทกวีที่บรรพบุรุษได้ทิ้งเอาไว้มันย่อมมีจำนวนคำนับเป็นหมื่น ๆ คำอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็จะมีมูลค่าหลายสิบล้านสตาร์คอยน์!
เซี่ยเฟยได้ทำการไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะปิดอีเมลไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“รีบตอบรับข้อเสนอของพวกเขาเร็วเข้า! ถ้าหากว่าพวกเราขายลิขสิทธิ์บทกวีพวกนั้นออกไปพวกเราก็จะมีเงินมากเพียงพอที่จะซื้อส่วนผสมน้ำยา นายไม่อยากจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงหรือยังไง?” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล
“ถ้าฉันขายลิขสิทธิ์บทกวีออกไปพวกเขาก็จะใช้โอกาสนี้เพิ่มราคาของบทกวีขึ้นไปจากเดิม ในตอนนั้นผู้ที่ชื่นชอบบทกวีโดยทั่วไปก็คงจะไม่มีโอกาสได้อ่านบทกวีเหล่านี้อีกแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยก็อยากที่จะขายลิขสิทธิ์บทกวีออกไปเหมือนกัน เพราะท้ายที่สุดผู้ที่แต่งบทกวีเหล่านี้ก็ล่วงลับไปเป็นเวลานานแล้ว
ขณะเดียวกันถ้าหากไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยได้ใช้ช่องว่างระหว่างที่อารยธรรมภายในโลกมนุษย์ยังขาดความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมนอกโลก เขาก็คงจะไม่สามารถหาเงินจากวิธีนี้ได้
อย่างไรก็ตามมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดมากนักถ้าหากว่าเขาจะต้องเข้าไปพัวพันกับข้อพิพาทในเรื่องลิขสิทธิ์ที่ยังไม่มีการระบุสิทธิ์กันอย่างชัดเจน
แน่นอนว่าอันธย่อมไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงเชื่อคำพูดของชายหนุ่มคนนี้อย่างสนิทใจและเขาก็ได้กล่าวออกไปด้วยความชื่นชมว่า
“ฉันต้องขอยกย่องความคิดของนายจริง ๆ นายนี่ถือได้ว่าเป็นพระผู้มาโปรดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบทกวีทุกคนเลย”
คำพูดของอันธถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออกเพราะเขาไม่ได้เป็นพระผู้มาโปรดเหมือนกับที่อันธได้กล่าวเอาไว้
เมื่อเขาได้ทำการตรวจสอบอีเมลส่วนใหญ่เขาก็ได้พบว่ามันเป็นอีเมลที่พยายามพูดคุยทำความรู้จักไปจนถึงอีเมลของสื่อที่ต้องการจะขอสัมภาษณ์ แต่เนื่องมาจากเซี่ยเฟยต้องการที่จะปิดบังตัวตนเอาไว้ เขาจึงเลิกให้ความสนใจกับอีเมลทั้งหมด
ในบรรดาอีเมลทั้งหมดมันมีอีเมลฉบับหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นอย่างมาก เพราะอีเมลส่วนใหญ่จะเป็นอีเมลสีเทาและแม้แต่อีเมลของเว็บไซต์กวีนิพนธ์เองก็เป็นอีเมลสีดำ แต่อีเมลฉบับนี้กลับเป็นอีเมลสีชมพู
เมื่อเซี่ยเฟยได้เหลือบมองไปยังไอดีของผู้ส่งอีเมลเขาก็ได้พบว่าเจ้าของอีเมลฉบับนี้มีชื่อว่าแอวริล
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็ลองทำการเปิดอีเมลฉบับนี้ดูซึ่งมันก็ทำให้เขาอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เพราะเนื้อหาในจดหมายนั้นก็คือ
ฉันขอสั่งให้คุณเขียนบทกวีที่มีหัวข้อเป็นมหาสมุทรในฤดูใบไม้ร่วงแล้วส่งมาที่อีเมลของฉัน
เมื่อพิจารณาจากชื่อบัญชี เธอคนนี้ก็น่าจะเป็นผู้หญิง แต่ทัศนคติที่เธอได้แสดงออกมามันก็ทำให้เขาไม่อยากจะเข้าไปสุงสิงกับผู้หญิงคนนี้เลยจริง ๆ
“คำสั่ง? เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาสั่งคนที่ไม่รู้จักแบบนี้?” เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะได้ตอบอีเมลกลับไปว่า
โอ้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่
ฤดูใบไม้ร่วงช่างแห้งแล้งอย่างแท้จริง
แต่ถึงแม้ว่าใบไม้จะร่วงหล่น
มหาสมุทรก็ยังคงยิ่งใหญ่มากอยู่ดี…
เซี่ยเฟยได้ทำการพิมพ์บทกวีอันเลวร้ายของอันธลงไป ซึ่งหลังจากที่เขาได้ทำการส่งอีเมลตอบกลับไปแล้วเขาก็เผยรอยยิ้มอันสนุกสนานออกมา
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ตอบกลับอีเมลของหญิงสาวคนนี้ไปแล้ว เขาก็ได้ทำการอัปโหลดบทกวีลงไปในเว็บไซต์อีก 24 บท โดยในปัจจุบันเขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตั้งใจเรียนวิชาเกี่ยวกับบทกวีอย่างเพียงพอ เพราะถ้าหากว่าเขารู้ว่ามันสามารถนำมาสร้างความร่ำรวยให้กับเขาได้เขาก็คงจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้
เมื่อเซี่ยเฟยได้ทำการโอนเงินจำนวน 74,000 สตาร์คอยน์เข้าไปยังธนาคารของตนเองแล้วเขาก็เริ่มทำการเปิดเว็บไซต์การค้าอื่น ๆ เพื่อเตรียมการซื้อส่วนผสมสำหรับการปรุงน้ำยาเพิ่มระดับความสามารถของตนเองและมันก็รวมถึงสินค้าไฮเทคบางอย่างที่ไม่มีวางขายภายในดาวโลก
“ซื้อสมุนไพรอีกาทองคำไป 10 ต้น, ผลไม้เรืองแสง 10 ลูก, ว่านเขียว…” อันธเริ่มสั่งวัตถุดิบต่าง ๆ ราวกับว่าวัตถุดิบพวกนี้ไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินซื้อ
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ทำได้เพียงแต่อดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ในใจและทำการสั่งซื้อวัตถุดิบตามที่อันธต้องการ ซึ่งทุกครั้งที่เขาทำการกดคลิกเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบออกไปเขาก็จะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจลึก ๆ
ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องซื้อวัตถุดิบมาทำการปรุงน้ำยา เพราะเขาได้สูญเสียความสามารถในการเพิ่มระดับด้วยตัวเองไปแล้ว ดังนั้นถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะมีระดับความสามารถที่แข็งแกร่งมากกว่านี้เขาก็จำเป็นที่จะต้องทำการซื้อวัตถุดิบไปปรุงน้ำยาเท่านั้น
อันธได้ทำการสั่งซื้อวัตถุดิบสำหรับส่วนผสมทำน้ำยาทั้งหมด 17 ชนิดพร้อมกับชุดเครื่องมือสำหรับการปรุงยาโดยเฉพาะ ซึ่งราคาของสินค้าเหล่านี้มีราคาโดยรวมอยู่ที่ 63,800 สตาร์คอยน์ มันจึงทำให้ความร่ำรวยที่เขาเพิ่งได้รับมาหายวับไปกับตาในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที
การชอปปิงออนไลน์มันเป็นการผลาญเงินชัด ๆ!
“วัตถุดิบพวกนี้มันเป็นเพียงแค่วัตถุดิบเกรดต่ำเท่านั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะไม่แม้แต่ชำเลืองตามองพวกมันเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกเรายังมีเงินไม่มากนัก พวกเราเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องพึ่งพาวัตถุดิบเกรดต่ำพวกนี้ไปก่อน” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเซี่ยเฟยก็ถึงกับพูดไม่ออก เพราะท้ายที่สุดเขาก็เคยเป็นคนยากจนมาก่อนและเขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเหมือนอย่างอันธ
หลังจากที่ออกมาจากตลาดส่วนผสมน้ำยาแล้วเซี่ยเฟยก็เริ่มทำการสำรวจตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดต่อ โดยตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดนี้วางขายสินค้าคล้ายกับตลาดนัดบนโลกซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ามือสอง
ด้วยเงินทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดเซี่ยเฟยจึงไม่สามารถที่จะซื้อสินค้าระดับสูงได้ เขาจึงทำได้เพียงแต่พยายามค้นหาโอกาสที่เล็ดลอดมาจากร้านค้าเหล่านี้เท่านั้น
การพยายามซื้อสินค้ารอบ ๆ ตลาดโดยไม่มีหมวกเสมือนจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สะดวกเลย เพราะมันมีสินค้าถูกแสดงขึ้นมาบนหน้าจอเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และการชำเลืองสายตามองสินค้าเหล่านี้เพียงแค่แวบเดียวมันก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นมาได้
หลังจากเซี่ยเฟยจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบแก้เครียดเขาก็จดจ่อสมาธิและทำการค้นหาสินค้าต่อไป เพราะท้ายที่สุดราคาค่าธรรมเนียมในการใช้คอมพิวเตอร์ AI ก็อยู่ที่ 10,000 แอลไลคอยน์ต่อชั่วโมง ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงไม่ต้องการที่จะเสียเวลาในการชอปปิงแม้แต่นาทีเดียว
แต่ในทันใดนั้นเองอันธก็อุทานออกมาว่า
“แหวนทะลุลม! แหวนวงนี้ค่อนข้างดีซื้อมันมาใช้งานซะ”
“มันคืออะไร?” เซี่ยเฟยถาม
“มันเป็นแหวนที่มีประโยชน์กับนายมาก นายลองนึกถึงในตอนที่นายกำลังวิ่ง นายรู้สึกถึงแรงต้านในอากาศใช่ไหม” อันธกล่าวถาม
“รู้สึกสิ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“แหวนทะลุลมวงนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านของอากาศ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่มีพลังพิเศษทางด้านความเร็วจะหาแหวนลักษณะนี้มาสวมใส่กันทุกคน เท่าที่ฉันคำนวณสมุนไพรที่พวกเราได้ซื้อไปในครั้งนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วซึ่งมันก็น่าจะช่วยทำให้นายเพิ่มระดับจากสตาร์ไลท์ขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับสตาร์เบสได้ ขณะเดียวกันเมื่อไหร่ก็ตามที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของนายเกินกว่า 100 เมตรต่อวินาที ในเวลานั้นนายก็จะต้องทนทุกข์ทรมานจากแรงต้านอากาศถ้าหากว่านายไม่ได้มีแหวนทะลุลมอยู่ในมือ”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจว่าแหวนวงนี้มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นการลดแรงต้านของอากาศมันยังช่วยให้เขาสามารถใช้ความเร็วได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
บนฟอรั่มที่แหวนวงนี้ได้วางขายไว้ได้มีคำว่า 'ต่อรองราคาได้' แต่ชื่อของสินค้าที่เขียนไว้บนฟอรั่มกลับเป็น 'แหวนต้านลม’
“บนฟอรั่มมันเขียนว่าแหวนต้านลมนะไม่ใช่แหวนทะลุลม” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่หน้าจอ
“คนขายแหวนวงนี้เป็นพวกตาถั่วจริง ๆ แม้ว่ารูปร่างภายนอกของแหวนทั้งสองชนิดจะเหมือนกัน แต่แหวนทะลุลมมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ามาก มันจึงทำให้ในแง่ของราคาแหวนทะลุลมแต่ละวงมีมูลค่าไม่น้อยไปกว่า 80,000 สตาร์คอยน์ ในขณะที่แหวนต้านลมมีราคาสูงสุดเพียงแค่ 10,000 สตาร์คอยน์” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูถูกเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้น…” เซี่ยเฟยรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในทันทีและเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ค้นพบสมบัติท่ามกลางร้านค้าขายของเก่าแล้ว
***************
ไหนใครเคยมีประสบการณ์เผาผลาญเงินไปกับการชอปปิงออนไลน์บ้างสารภาพมาซะดี ๆ… เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน 555