ตอนที่ 59: การต่อสู้ที่ยาวนานที่สุด!
ตอนที่ 59: การต่อสู้ที่ยาวนานที่สุด!
ยามท้องฟ้าสดใส
จนถึงตอนนี้การต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตงก็ดำเนินมาเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเต็มแล้ว!
ก่อนการประเมินในรอบที่ 2 บริษัทรับพนันที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่ได้ทำการประเมินผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 723 คนและในความเห็นของพวกเขานั้นความแข็งแกร่งของเซี่ยเฟยก็อยู่ในอันดับสุดท้าย
แน่นอนว่าผลของการประเมินย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามศักยภาพที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้แสดงออกมา โดยในครึ่งชั่วโมงแรกหลังการประลองได้เริ่มต้นขึ้นอันดับของเซี่ยเฟยได้เพิ่มขึ้นมาถึง 50 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 673 แต่ใน 24 ชั่วโมงต่อมาทางบริษัทก็ปรับอันดับของเซี่ยเฟยขึ้นมาถึง 400 อันดับเต็ม ๆ ทำให้อันดับการประเมินของเขาในตอนนี้ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 323
ขณะเดียวกันอัตราต่อรองของเฉินตงอยู่ที่ 1.01 ต่อ 1 ส่วนอัตราการต่อรองของเซี่ยเฟยคือ 1 ต่อ 1,000 นั่นก็คือหากใครเดิมพันในฝั่งของเฉินตงพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนกลับไป 1 สตาร์คอยน์ต่อเงินเดิมพัน 100 สตาร์คอยน์ แต่ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยได้รับชัยชนะเงินเดิมพันจำนวน 100 สตาร์คอยน์ก็จะเปลี่ยนเป็น 100,000 สตาร์คอยน์ในทันที
ความแข็งแกร่งที่ทั้งสองฝ่ายเคยแสดงออกมามีความแตกต่างกันมากจนเกินไป ทุกคนต่างก็คิดว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการลงมือจากฝ่ายเดียวและไม่มีทางที่เซี่ยเฟยจะเอาชนะเฉินตงได้เลย
แม้ว่าอัตราการต่อรองของทางฝั่งเฉินตงจะต่ำมากแต่โอกาสที่พวกเขาจะชนะการเดิมพันก็มีเกือบจะ 100% มันจึงทำให้การต่อสู้ของคู่นี้สามารถดึงดูดเงินจากนักพนันได้เป็นจำนวนมาก
เพียงแค่ 10 นาทีหลังจากบริษัทเปิดรับเดิมพันมันก็มีเงินเทเข้ามาทางฝั่งของเฉินตงมากกว่า 100,000 ล้านสตาร์คอยน์ ขณะที่ทางฝั่งของเซี่ยเฟยมีผู้มาลงเดิมพันเพียงแค่ 50 สตาร์คอยน์เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเงินเดิมพันจำนวน 50 สตาร์คอยน์นี้ยังเกิดขึ้นมาจากความสะเพร่าที่นักพนันคนหนึ่งกดเลือกฝั่งผิดและลงเดิมพันโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเงินเดิมพันของทั้งสองฝั่งไม่สมดุลย์ทางเจ้ามือก็ทำการปิดรับการเดิมพันในทันที ก่อให้เกิดสถิติใหม่ที่มีการเปิดรับเดิมพันที่สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
24 ชั่วโมงต่อมานักพนันรุ่นเก๋าหลายคนก็พบว่าหลังการต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตงทางบริษัทได้ทำการเปลี่ยนอัตราการต่อรองของเฉินตงเป็น 1:1 ขณะที่อัตราการต่อรองของเซี่ยเฟยลดลงมาเหลือเพียง 1:50
การต่อสู้อันยาวนานในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เจ้ามือเปิดรับการเดิมพันใหม่เท่านั้น แต่พวกเขายังเพิ่มหัวข้อการเดิมพันใหม่ว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะจบลงเมื่อไหร่อีกด้วย โดยตัวเลือกการเดิมพันสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 25 ชั่วโมงไปจนถึง 240 ชั่วโมง
ทันทีที่ข่าวการเปิดรับเดิมพันครั้งใหม่ประกาศออกไป เหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการเดิมพันก็เริ่มให้ความสนใจอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งมันก็ทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานเงินเดิมพันการต่อสู้ระหว่างคู่ของเซี่ยเฟยและเฉินตงก็ทำลายสถิติขึ้นเป็นคู่ที่มีเงินเดิมพันสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของบริษัท
ตั้งแต่สถิติการเปิดรับเดิมพันที่สั้นที่สุด, สถิติการเปิดรับเดิมพันอีกครั้งหลังจากปิดรับเดิมพัน, สถิติอัตราการต่อรองที่ห่างชั้นกันมากที่สุด การเดิมพันในครั้งนี้ยังได้เพิ่มสถิติครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเดิมพันเกี่ยวกับระยะเวลาในการประลองอีกด้วย
การเดิมพันคู่พิเศษในครั้งนี้ได้กระตุ้นความสนใจของเหล่านักพนันอย่างมากทำให้หลังจากทางบริษัทได้เปิดรับเดิมพันไปเพียงแค่ 3 ชั่วโมง พวกเขาก็ออกมาทำการประกาศข่าวอีกครั้งว่าจำนวนเงินในการเดิมพันของคู่ระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตงได้สร้างสถิติเงินเดิมพันมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของอุตสาหกรรมการเดิมพันทั้งหมดในภูมิภาคดาวและจำนวนเงินเดิมพันที่เข้ามาในระบบยังเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์!
ในเวลา 3 ชั่วโมง 10 นาทีบริษัทรับเดิมพันทั้งสิ้น 67 บริษัททั่วทั้งภูมิภาคดาวได้รับเงินเดิมพันเข้าไปทั้งสิ้นจำนวน 1.675 ล้านล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะมีเงินเดิมพันเข้ามาในระบบกว่า 88.1 พันล้านสตาร์คอยน์ต่อนาทีมากกว่าสถิติเดิมที่เคยบันทึกเอาไว้ที่ 57.2 พันล้านสตาร์คอยน์ต่อนาทีในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการประเมินระดับวิกฤติครั้งก่อน
—--
72 ชั่วโมงต่อมา
ณ ห้องถ่ายทอดสดที่มีความใหญ่โตและหรูหราที่สุดภายในสถานีโทรทัศน์เชลล์ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่
ปัจจุบันเอ็นย่าผู้ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวสาวที่ได้รับความนิยมกำลังสวมใส่ชุดราตรีสีแดงเตรียมทำการสัมภาษณ์แขกรับเชิญพิเศษทั้งสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ
“สวัสดีค่ะท่านผู้ชมทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายงานข่าวพิเศษของเชลล์ทีวีค่ะ ในครั้งนี้พวกเราจะมาพูดถึงการประเมินในระดับวิกฤตของทางสมาพันธ์จัสทิสหรือจะพูดให้ลงลึกไปกว่านั้นก็คือหนึ่งในการประลองที่เกิดขึ้นในการประเมินครั้งนี้ค่ะ”
“ฉันคิดว่าในตอนนี้ทุกคนคงจะพอได้รับข่าวมาบ้างแล้วว่าการต่อสู้นัดระหว่างเซี่ยเฟยกับเฉินตงได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 72 ชั่วโมงแล้วและเมื่อไม่กี่นาทีก่อนทางสมาพันธ์จัสทิสก็ออกมาประกาศว่าการแข่งขันในครั้งนี้ได้ทำลายสถิติการต่อสู้ที่ยาวนานที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในการประเมินของทางสมาพันธ์”
เอ็นย่ากล่าวเปิดรายการก่อนที่เธอจะหันไปทางหนึ่งในแขกรับเชิญผู้ซึ่งเป็นชายชราผมสีเงินที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“คุณหลิวคะในฐานะที่คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระวิทยา การที่เซี่ยเฟยและเฉินตงต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 72 ชั่วโมงโดยไม่มีผู้ชนะจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของพวกเขามากแค่ไหนคะ แล้วพวกเขาจะสามารถทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหนถ้าหากว่าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปโดยที่พวกเขาไม่ได้กินไม่ได้นอน”
เมื่อได้ยินคำถามชายชราก็ส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับอธิบายออกไปว่า
“ถึงพวกเขาจะเป็นผู้ใช้พลังพิเศษแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ ดังนั้นการต่อสู้ที่ต่อเนื่องมาอย่างยาวนานขนาดนี้ย่อมทำให้ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าสะสมมาอย่างแน่นอน แต่สาเหตุที่พวกเขาสามารถต่อสู้มาได้อย่างยาวนานขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าพวกเขาได้กินสมุนไพรคุณภาพสูงในระหว่างการต่อสู้ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง มันจึงทำให้พวกเขาสามารถรักษาสติสัมปชัญญะของพวกเขาเอาไว้ได้”
“ถ้าให้ผมประเมิน ตอนนี้พวกเขาคงจะไม่สามารถใช้สมรรถถาพร่างกายได้เกิน 90% และถ้าหากว่าพวกเขายังคงทำแบบนี้กันต่อไปพวกเขาก็คงจะใช้ร่างกายจนถึงขีดจำกัดระดับที่ 1 ภายใน 8 ชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเขาก็จำเป็นจะต้องใช้สมุนไพรเป็นจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพให้กลับมาดังเดิม”
“ส่วนความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจในการต่อสู้ที่ยาวนานขนาดนี้ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายของพวกเขาเช่นเดียวกัน ถ้าหากพวกเขายังคงต่อสู้ไปอีก 72 ชั่วโมงร่างกายของพวกเขาจะถึงขีดจำกัดในระดับที่ 2 เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะไม่มียาหรือสมุนไพรชนิดใดที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของพวกเขาได้อีกต่อไป”
“ในเวลานั้นพลังงานในร่างกายของพวกเขาจะลดลงอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะหมดลงไปในที่สุด ดังนั้นผมจึงคิดว่าอย่างมากที่สุดการแข่งขันในครั้งนี้จะจบลงใน 96 ชั่วโมง” ชายชราผมเงินวิเคราะห์อย่างจริงจัง
ขณะเดียวกันชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านข้างชายชราคนนี้ก็พ่นลมหายใจออกมาราวกับเขารู้สึกไม่พอใจ จากนั้นเขาก็กล่าวแทรกขึ้นมาว่า
“สิ่งที่คุณพูดมันเป็นเพียงแค่ทฤษฎี ในฐานะที่ผมเป็นทหารผมมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากคุณโดยสิ้นเชิง”
“พวกคุณห้ามมองข้ามความมุ่งมั่นของนักรบอย่างเด็ดขาด มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งเฉินตงและเซี่ยเฟยต่างก็เป็นนักรบที่มีความโดดเด่นทั้งคู่และความดื้อรั้นของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถจะจินตนาการได้”
“ในความเห็นของผมการประลองในครั้งนี้คงจะไม่ได้จบลงเพียงเพราะว่าร่างกายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทนรับไม่ไหว แต่มันน่าจะเกิดจากรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการต่อสู้”
“รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ? มันเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบไหนหรอคะที่จะทำให้การประลองในครั้งนี้จบลงได้” เอ็นย่ากล่าวถาม
“ตั้งแต่เริ่มต้นเฉินตงก็มีความได้เปรียบทั้งในด้านประเภทของพลังและระดับชั้น ขณะที่เซี่ยเฟยเป็นฝ่ายที่ต้องคอยตั้งรับอย่างอดทน ในกรณีนี้มันหมายความว่าเซี่ยเฟยห้ามเคลื่อนไหวผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียวเพราะความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็อาจจะนำไปซึ่งอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต”
“ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใหญ่เกินไปมันจึงไม่มีทางที่เซี่ยเฟยจะเอาชนะเฉินตงได้เลย คำถามเดียวในตอนนี้ก็คือเซี่ยเฟยจะพลาดเมื่อไหร่และตราบใดก็ตามที่เขาเคลื่อนไหวผิดพลาด การประลองในครั้งนี้ก็จะจบลงในทันที” ชายวัยกลางคนกล่าวขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปอีกว่า
“ส่วนสิ่งที่เรียกว่าขีดจำกัดของร่างกายก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ได้กับแค่คนธรรมดา เพราะท้ายที่สุดนักรบทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถเอาปัจจัยทางด้านขีดจำกัดทางด้านร่างกายมาวัดการประลองในครั้งนี้ได้ เพราะต่อให้นักรบหมดแรงแต่ถ้าหากว่ากำลังใจของพวกเขายังคงเต็มเปี่ยม พวกเขาก็จะสามารถทะลวงขีดจำกัดและทำการต่อสู้ต่อไปได้!”
“ถูกต้อง! ผมเห็นด้วยกับคุณทุกอย่าง แต่ผมไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะได้รับความพ่ายแพ้” ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นแขกรับเชิญคนสุดท้ายกล่าว
เมื่อถูกขัดชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวถามออกไปว่า
“การป้องกันของพลังน้ำแข็งนั้นน่ากลัวมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยเฟยจะทำลายการป้องกันของเฉินตงเข้าไปได้ แล้วเขาจะได้รับชัยชนะได้ยังไง”
“จากการต่อสู้ในปัจจุบันผมสังเกตเห็นว่าเซี่ยเฟยได้ปรับปรุงการเคลื่อนไหวของเขาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จากตอนแรกที่เขาทำได้เพียงแต่หลบการโจมตีของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาสามารถโจมตีสวนกลับไปได้บ้างแล้ว หากการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปใครจะไปรู้ว่าเขาจะสามารถพัฒนาไปได้อีกไกลแค่ไหน” ชายหนุ่มกล่าวอธิบายช้า ๆ
อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนกลับส่งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็กล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจว่า
“พัฒนา? เซี่ยเฟยเป็นเพียงแค่ผู้ใช้ความเร็วระดับสตาร์เบสขั้นกลางถึงแม้ว่าเขาจะสามารถพัฒนาในระหว่างการประลองได้จริง ๆ แต่เขาจะสามารถพัฒนาไปได้ไกลสักแค่ไหนกัน”
“มันไม่ผิดที่คุณจะบอกว่าเซี่ยเฟยมีพลังอยู่แค่ระดับสตาร์เบสขั้นกลาง แต่คุณก็ต้องอย่าลืมนะว่าชายคนนี้สู้กับเฉินตงที่มีพลังในระดับสตาร์ฟิลด์ขั้นสูงมาต่อเนื่องถึง 72 ชั่วโมงแล้วและการประลองก็ยังไม่สามารถตัดสินผลลัพธ์ได้ด้วย” ชายหนุ่มผู้สวมแว่นกล่าวตอบกลับไปอย่างใจเย็น
“ที่เป็นแบบนั้นมันก็เป็นเพราะเขาไม่ได้ต่อสู้ตรง ๆ แต่เอาแต่หลบการโจมตี!” ชายวัยกลางคนตบโต๊ะพร้อมกับตะโกนกลับไปอย่างดุเดือด
“การหลบหลีกก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทักษะสำหรับการต่อสู้ด้วยเหมือนกันและบางคนก็ไม่มีความสามารถในการหลบหลีกการโจมตีได้ด้วยซ้ำ” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับใช้นิ้วดันแว่นของเขาขึ้น
“นี่คุณ!” ชายวัยกลางคนจ้องมองไปยังชายหนุ่มอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำ
—--
ณ สถานที่จัดการประเมินของสมาพันธ์จัสทิสในประเทศออสเตรเลียบนดาวโลก
ปัจจุบันร่างของเซี่ยเฟยกำลังเคลื่อนไหวอย่างผิดธรรมชาติเพื่อหลบเลี่ยงการจู่โจมจากแขนของเฉินตง โดยการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้ร่างของเขาก้มลงไปจนเกือบจะแตะพื้นแต่เขาก็ใช้มือซ้ายดันพื้นเบา ๆ เพื่อให้ลำตัวเด้งขึ้นมาและใช้มือขวาที่มีเชสซิ่งไลท์ติดอยู่ฟาดไปที่ขาของเฉินตง 3 ครั้ง!
เป้ง! เป้ง! เป้ง!
เซี่ยเฟยรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการจู่โจมทั้งสามครั้งของเขาในครั้งนี้อ่อนแอกว่าวันก่อนมาก เพราะอย่างน้อยการโจมตีโต้กลับของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนจะสร้างรอยสลักเอาไว้บนเกราะน้ำแข็งของเฉินตงอย่างชัดเจน แต่ในตอนนี้เขาสามารถทิ้งไว้ได้เพียงรอยขีดข่วนจาง ๆ เท่านั้น ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพละกำลังของเขาลดลงไปจากเดิมมากแค่ไหน
หลังการปะทะทั้งสองฝ่ายต่างก็แยกย้ายไปยืนอยู่ที่มุมเวทีด้วยความเข้าใจและหยุดโจมตีเหมือนกับนัดกันมา ก่อนที่เซี่ยเฟยจะหยิบผลเนตรนาคาออกมากิน 2 ผลขณะที่เฉินตงยัดผลไม้จำนวนมากเข้าไปในปากของเขาโดยตรง
ถึงแม้ว่าผลไม้เหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูพลังงานทางกายภาพให้กับพวกเขาได้ แต่มันก็ไม่สามารถที่จะบรรเทาความหิวในท้องของพวกเขาได้เลย
อันที่จริงความหิวในสนามรบก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย เพราะโดยปกติมนุษย์มักจะรู้สึกง่วงนอนเมื่อพวกเขารู้สึกอิ่มและความหิวจะทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตัวเพื่อที่จะต้องออกไปล่าหาอาหาร
ด้วยสัญชาตญาณนี้ยิ่งมนุษย์รู้สึกถึงอันตรายมากแค่ไหนพวกเขาก็จะยิ่งรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นเท่านั้น มันจึงทำให้ถึงแม้ว่าร่างกายของเซี่ยเฟยจะรู้สึกอ่อนแอและใต้ดวงตาของเขาจะเต็มไปด้วยรอยคล้ำแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้ได้โดยไม่สั่นคลอน
เมื่อต้องต่อสู้โดยใช้ชีวิตเป็นเดิมพันอย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคเล่ห์กายาของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทำให้ร่างกายของเขาสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกนาที
“การแข่งขันครั้งนี้ทำให้ฉันมีความสุขจริง ๆ! ฉันไม่เคยต่อสู้กับใคร 7 วัน 7 คืนติดต่อกันมาก่อนเลย มันช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ!” เฉินตงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มหลังจากที่เขากินผลไม้ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายเข้าไปเป็นจำนวนมาก จากนั้นเขาก็กล่าวออกไปด้วยสีหน้าอันจริงจังว่า
“ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่านายจะหลบการโจมตีของฉันไปได้อีกนานแค่ไหน พวกเรามาสู้กันอีก 7 วัน 7 คืนกันเถอะ!”
ใน 7 วันที่ผ่านมานี้เฉินตงได้ใช้พลังงานจากการสร้างน้ำแข็งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทำให้ร่างกายของเขาได้รับภาระหนักกว่าเซี่ยเฟยมากแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย
“ได้สิ! ตกลง!” เซี่ยเฟยดื่มน้ำเข้าไป 1 ขวดก่อนที่จะตอบกลับไปเสียงดัง
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มทำการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งรอบใหม่โดยไม่พูดอะไรสักคำ โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดชังต่อกันและกันเลย ในความเป็นจริงพวกเขารู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายหนึ่งด้วยซ้ำแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะใช้วิชาการต่อสู้ที่แตกต่างกันก็ตาม
นี่คือความดื้อรั้น!
ความไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย!
ชายหัวล้านด้านข้างสนามประลองยังคงรอคอยผู้ชนะที่ต้องมาประลองกับเขาอย่างเบื่อหน่ายและเขาก็ไม่รู้ว่าการประลองจะจบลงเมื่อไหร่ แต่ถ้าหากว่าโชคร้ายเขาก็อาจจะต้องรอไปอีก 7 วัน 7 คืนเหมือนกับที่เฉินตงและเซี่ยเฟยได้ตกลงกันเอาไว้
ปัจจุบันชายหัวล้านนอนอยู่ในถุงนอนและเมื่อไหร่ที่เขาได้ยินทั้งสองพูดคุยกัน เขาก็จะลืมตาชะโงกหัวขึ้นมาดูหนึ่งครั้ง แต่เมื่อเขาเห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังคงต่อสู้กันต่อไปเขาก็จะถอนหายใจพร้อมกับกลับไปนอนอย่างช่วยไม่ได้
“นี่พวกเอ็งสองคนยังจะสู้กันอีกนานไหม! ฉันรอจนเบื่อแล้วนะ!!”
ในเวลานี้การต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตงบนสนามประลองหมายเลข 21 ได้ดำเนินมาแล้วทั้งสิ้น 170 ชั่วโมง!
***************
โอ้แม่เจ้า 170 ชั่วโมง!! คิดกลม ๆ ก็ 7 วันกว่า ๆ!!!!!