ตอนที่ 58: ต่อสู้ต่อเนื่อง
ตอนที่ 58: ต่อสู้ต่อเนื่อง
เฉินตงชูแขนขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่ก้อนน้ำแข็งจะเริ่มรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาทีน้ำแข็งบนแขนของชายหนุ่มก็ยืดยาวออกไปถึง 6 เมตรและรูปร่างของพวกมันก็คล้ายกับสว่านคู่ขนาดใหญ่
สว่านน้ำแข็งทรงกรวยที่พึ่งปรากฎขึ้นมาเต็มไปด้วยหนามแหลมและเริ่มหมุนด้วยความรวดเร็ว หากใครพลาดโดนสิ่งนี้โจมตีเข้าไปไม่ว่าชุดต่อสู้ที่พวกเขาสวมใส่จะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่มันก็มีโอกาสที่จะถูกบดละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ดี!
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเขตแดนน้ำแข็งของตัวเองหรือการควบคุมน้ำแข็งให้เคลื่อนที่เหมือนกับเครื่องกลต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคที่สามารถควบคุมได้อย่างยากลำบาก ซึ่งการที่เฉินตงสามารถควบคุมน้ำแข็งได้จนถึงระดับนี้มันก็หมายความว่าความสามารถในการควบคุมน้ำแข็งของเขาได้มาถึงระดับที่ 2 แล้ว
“มาเริ่มยกที่ 2 กันเถอะ!” เฉินตงแผดเสียงร้องคำรามดังลั่นก่อนที่จะพุ่งเข้าหาเซี่ยเฟยอีกครั้ง
ขณะเดียวกันเมื่อเซี่ยเฟยได้ยินเสียงหวีดร้องของอากาศ เขาก็กัดฟันก่อนที่จะออกแรงพุ่งหลบไปทางด้านซ้าย
ตู้ม!
ทันทีที่สว่านคู่ของเฉินตงกระทบเข้ากับพื้นมันก็ทำให้ผิวน้ำแข็งถูกบดและแตกกระจายออกไปคล้ายกับสะเก็ดระเบิดจำนวนนับไม่ถ้วน
ก่อนที่ร่างของเซี่ยเฟยจะหยุดนิ่งแขนทั้งสองข้างของเฉินตงก็กวาดไปด้านข้างอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เท้ากระแทกพื้นเพื่อให้ตัวของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ
ตึบ!
เสียงอันหนักแน่นดังขึ้นหลังจากแท่งเหล็กบนรองเท้าของเซี่ยเฟยหล่นลงมายึดติดกับพื้น แต่เนื่องมาจากการจู่โจมของเฉินตงในครั้งนี้มันจึงทำให้ผู้เข้าแข่งขันจากดาวโลกสามารถที่จะหลบหลีกการโจมตีได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถที่จะจู่โจมตอบโต้กลับไปได้เลย
การเคลื่อนไหวของเฉินตงรวดเร็วมากจนเกินไปและสว่านที่อีกฝ่ายเพิ่งเรียกออกมานั้นไม่เพียงแต่สามารถสร้างพลังทำลายอันน่าอัศจรรย์ได้เท่านั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มความเร็วในการจู่โจมให้กับเขาอีกด้วย
ความยาวของสว่านทั้งสองอันไม่น้อยไปกว่า 6 เมตรและพวกมันยังสามารถหมุนไปมาได้ราวกับว่าพวกมันเป็นสว่านจริง ๆ
ด้วยการที่เซี่ยเฟยต้องหลบการโจมตีของเฉินตงจากระยะไกล มันจึงทำให้เขาไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้เพื่อจู่โจมเข้าใส่เฉินตงได้
โดยปกติอาวุธขนาดใหญ่จะมีน้ำหนักมากและทำให้ความถี่ในการโจมตีลดน้อยลง แต่ด้วยเหตุผลบางประการเฉินตงกลับสามารถควบคุมพวกมันได้ราวกับพวกมันเป็นเพียงแค่ดาบน้ำแข็งเล่มเล็ก ๆ
‘หรือว่าเขาจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาเพิ่มขึ้น?’ ขณะที่เซี่ยเฟยกำลังหลบหลีกการโจมตี เขาก็เอาแต่ครุ่นคิดถึงคำถามเหล่านี้ซ้ำ ๆ
‘เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมเขาถึงสามารถสร้างอาวุธขนาดใหญ่และเคลื่อนไหวมันด้วยความเร็วขนาดนี้ได้’
ทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็สังเกตเห็นว่าแขนของเฉินตงมีรูปร่างที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่สังเกตดี ๆ จะไม่พบกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมานี้ได้เลย
ร่างกายของเซี่ยเฟยยังคงหลบอย่างรวดเร็วแต่ดวงตาของเขาได้จับจ้องมองไปยังผลึกน้ำแข็งบนมือของคู่ต่อสู้ ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปไม่นานเซี่ยเฟยก็พบว่าผลึกน้ำแข็งคู่ที่อยู่บนมือของเฉินตงจะเปลี่ยนแปลงไปโดยอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของนักรบผู้นี้
จากสิ่งที่สังเกตได้เซี่ยเฟยก็สามารถบอกได้เลยว่าเฉินตงไม่ได้ทำการขยับสว่านน้ำแข็งภายในมือของเขาเลย แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของน้ำแข็งในทุก ๆ 1 เซนติเมตรต่างหาก
การเคลื่อนไหวแบบนี้จำเป็นจะต้องพึ่งพาการควบคุมสว่านน้ำแข็งให้พอดีกับแขนตลอดเวลาและมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แรงเหวี่ยงเพื่อให้สว่านทำการจู่โจมเข้าใส่ศัตรู
ความสามารถในการควบคุมที่น่าทึ่งอะไรขนาดนี้!
เฉินตงสามารถควบคุมน้ำแข็งได้เหมือนกับเขากำลังควบคุมลมหายใจ ซึ่งมันเป็นการควบคุมที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง!!
หลังเวลาได้ผ่านพ้นไป 30 นาทีเซี่ยเฟยก็เอาแต่หลบการโจมตีโดยไม่สามารถจู่โจมโต้ตอบกลับไปได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ขณะเดียวกันการหลบหลีกก็จำเป็นจะต้องใช้แรงกายและสมาธิในระดับที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังจำเป็นจะต้องเลือกเส้นทางในการหลบหนีโดยไม่ให้มีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
ปัจจุบันอุณหภูมิภายในสนามประลองติดลบหลายสิบองศาแล้วแต่ทั่วทั้งร่างของเซี่ยเฟยก็ยังคงมีเหงื่อไหลออกมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าการหลบหลีกจำเป็นจะต้องพึ่งพาแรงกายมากแค่ไหน
เมื่อเซี่ยเฟยได้หลบหลีกการโจมตีไปอีกสักพักเขาก็ถอยไปยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของสนาม จากนั้นเขาก็หยิบผลน้ำค้างขาวออกมาจากแหวนมิติก่อนที่จะกลืนผลไม้เหล่านั้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ผลน้ำค้างขาวมีสรรพคุณในการฟื้นฟูสภาพร่างกายขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในการต่อสู้นี้ชายหนุ่มจำเป็นจะต้องรักษาสภาพร่างกายเอาไว้ตลอดเวลาและความผิดพลาดเพียงแค่เล็กน้อยก็อาจจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
ในเวลาเดียวกันเฉินตงก็กำลังจับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างเย็นชา เพราะเวลาได้ผ่านพ้นมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามจู่โจมคู่ต่อสู้มากแค่ไหนเขากลับไม่สามารถทำร้ายเซี่ยเฟยได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มันจึงทำให้เขาเริ่มที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
การต่อสู้ในอีก 26 สนามที่เหลือได้ตัดสินผลแพ้ชนะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การต่อสู้ในสนามประลองที่ 21 กลับยังไม่มีฝ่ายไหนได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่ฝ่ายเดียว
ชายหัวล้านคนหนึ่งที่ชนะการต่อสู้ในการประลองรอบที่ 1 ได้เดินไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคู่ต่อสู้คนต่อไปของเขาที่ล็อบบี้และหน้าจอของระบบข้อมูลก็แสดงขึ้นมาว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปที่เขาจะต้องเจอคือผู้ชนะระหว่างคู่ของเฉินตงและเซี่ยเฟย
“โชคร้ายจริง ๆ นี่ฉันต้องมาเจอกับไอ้บ้าเฉินอย่างนั้นหรอ!?” ชายหัวล้านส่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งลูบศีรษะตัวเอง
ชายคนนี้ไม่ได้ให้ความสนใจกับเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งหลังจากที่เขายืดเส้นยืดสายและหักนิ้วมือตัวเองแล้วเขาก็ก้าวเท้าตรงไปยังสนามหมายเลข 21 ทันที
“หึ! ถึงแม้ว่าคนอื่นจะกลัวแก แต่ฉันไม่กลัว!” ชายหัวล้านนั่งลงใกล้ ๆ กับสนามพร้อมกับใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งการต่อสู้จับจ้องมองไปยังเฉินตง
ขณะเดียวกันเฉินตงก็กำลังก้าวถอยหลังไป 2 ก้าวก่อนที่ร่างของเขาจะเริ่มสั่นและยิงน้ำแข็งออกไปใส่เซี่ยเฟยราวกับกระสุนปืนใหญ่
เซี่ยเฟยรีบหลบไปด้านข้างแต่เมื่อร่างของเขาขยับแขนของเฉินตงก็ชูสูงขึ้น!
พริบตาต่อมานักรบน้ำแข็งก็เรียกสว่านน้ำแข็งของเขาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับฟาดมันเข้าใส่เซี่ยเฟย
เซี่ยเฟยไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเฉินตงจะจู่โจมในลักษณะนี้เขาจึงเริ่มบิดร่างกายอย่างรุนแรงพร้อมกับถีบน้ำแข็งใต้เท้าอย่างสุดกำลังเพื่อให้ร่างกายของเขาลอยขึ้นไปด้านบน
ฟึบ!
สว่านน้ำแข็งของเฉินตงกวาดผ่านรองเท้าของเซี่ยเฟยไปเพียงแค่เล็กน้อยซึ่งระยะห่างของการหลบหลีกในครั้งนี้ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร
เฉินตงพยายามจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยนับครั้งไม่ถ้วนแต่อีกฝ่ายก็ใช้การเคลื่อนไหวอันน่าเหลือเชื่อหลบหลีกการโจมตีได้เสมอ ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือการจู่โจมทุก ๆ ครั้งห่างจากร่างของเซี่ยเฟยเพียงแค่เล็กน้อย
ยิ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปเฉินตงก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็เร่งการจู่โจมคล้ายกับพายุลูกเห็บที่โหมกระหน่ำเข้าใส่คู่แข่งอย่างไม่หยุดหย่อน
ในทางกลับกันเซี่ยเฟยไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกับเฉินตงเลยแม้แต่น้อย แต่หัวใจของเขากลับกำลังเบ่งบานมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่เขาได้ต่อสู้มานานกว่า 1 ชั่วโมงและทำการหลบหลีกมาเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เขาก็สามารถใช้เทคนิคเล่ห์กายาได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นและเขาก็ต้องยอมรับว่าการใช้เทคนิคนี้ผ่านการต่อสู้จริงให้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่าการที่เขาฝึกฝนด้วยตัวคนเดียว
เซี่ยเฟยกลืนผลน้ำค้างขาวเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้งขณะที่ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
อีกด้านหนึ่งเฉินตงก็หยุดการโจมตีเข้าใส่เซี่ยเฟยแล้วเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็หยิบผลไม้ที่ไม่รู้จักออกมาจากแหวนมิติก่อนที่จะโยนมันเข้าไปภายในปาก
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าเฉินตงได้ใช้พลังงานไปสูงมากเช่นเดียวกันและนักรบคนนี้ก็จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูพลังงานให้กับตัวเอง
ในเวลาต่อมาเซี่ยเฟยก็รู้สึกเหมือนกับหัวใจของเขาถูกฉีดยากระตุ้นและดวงตาสีดำของเขาก็กำลังเปล่งประกายขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
‘แบบนี้แหละ! การต่อสู้จำเป็นที่จะต้องใช้ความอดทนและฉันจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จนกว่าฉันจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้จริง ๆ!!’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปเพื่อท้าทายให้เฉินตงจู่โจมเข้ามา
“เอาล่ะ! พวกเรามาเริ่มยกต่อไปกันดีกว่า!!”
ปฏิกิริยาของคู่ต่อสู้ทำให้เฉินตงมองไปที่เซี่ยเฟยด้วยสายตาอันแน่วแน่ จากนั้นเขาก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาแล้วตอบกลับไปว่า
“ฮ่า ๆ ๆ อย่าพึ่งรีบยอมแพ้ไปซะก่อนล่ะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะสามารถหลบการโจมตีของฉันไปได้ตลอด”
ต่อมาทั้งสองฝ่ายก็เริ่มทำการต่อสู้กันอีกครั้งโดยเซี่ยเฟยเป็นเหมือนกับแมลงสาบที่พยายามเอาชีวิตรอดท่ามกลางพายุหิมะ ในขณะที่เฉินตงก็เป็นเหมือนกับนักสะกดรอยที่พากเพียรและเขาก็กำลังเดินตามรอยเท้าของเซี่ยเฟยอย่างใกล้ชิด
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ล้วนแล้วแต่ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ราวกับจะไม่มีวันประกาศคำยอมแพ้ออกไปอย่างเด็ดขาด
แม้ว่าการต่อสู้ของคู่นี้จะไม่มีการนองเลือดแต่ภาพการต่อสู้ของพวกเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก
ทุกครั้งที่เซี่ยเฟยสามารถหลบหลีกการโจมตีของเฉินตงได้สำเร็จ มันก็มักที่จะมีเสียงอุทานออกมาจากผู้ชมที่ดูอยู่หน้าทีวี
บ้ามาก!
นี่สิที่เรียกว่าการต่อสู้!
—--
ตั้งแต่กลางวันจนกลางคืน ท้ายที่สุดการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ผ่านพ้นมาแล้วถึง 12 ชั่วโมง!!
เซี่ยเฟยเริ่มเชี่ยวชาญเทคนิคเล่ห์กายามากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้ในตอนนี้เขาสามารถโจมตีสวนกลับไปได้ในทุก ๆ การหลบ 2-3 ครั้งและถึงแม้ว่าการโต้กลับของเขาจะยังไม่สามารถทำลายการป้องกันของเฉินตงได้ แต่มันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อเวลาผ่านไปใบหน้าของเฉินตงก็เคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในตอนแรกเขาไม่เคยเลยคิดว่าเซี่ยเฟยจะสามารถหลบการโจมตีของเขาได้นานขนาดนี้ แต่ในปัจจุบันมันกลับกลายเป็นว่าเซี่ยเฟยได้พัฒนาระหว่างการต่อสู้มากขึ้นเรื่อย ๆ
จากในตอนแรกที่เซี่ยเฟยทำได้เพียงแค่หลบหนีเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขากลับสามารถหลบหลีกการโจมตีได้ด้วยท่าทางสบาย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถโจมตีสวนกลับมาได้เป็นครั้งคราวอีกด้วย
ความเร็วในการพัฒนาของเซี่ยเฟยเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ!
ยิ่งไปกว่านั้นสายตาของเซี่ยเฟยยังทำให้เขารู้สึกถึงความมุ่งมั่นและความไม่ยอมแพ้ โดยคู่ต่อสู้คนนี้จะต่อสู้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว
ความมุ่งมั่นของเซี่ยเฟยถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวและเขาก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณานักรบคนนี้เป็นคู่ต่อสู้อย่างจริงจัง!
ความรู้สึกอันน่าตื่นเต้นที่หายไปนานของเฉินตงได้กลับมาอีกครั้งและเขาก็มีปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าเขาจะต้องเอาชนะคู่ต่อสู้คนนี้ให้ได้!!
ฟึบ!
เฉินตงกางแขนของเขาออกและทำท่าทางราวกับว่าเขากำลังจะทำการจู่โจมอีกครั้ง
“ฉันขอยอมรับว่านายเป็นคู่ต่อสู้ที่น่านับถือจริง ๆ บอกชื่อของนายมา!”
เซี่ยเฟยงอขาลงเล็กน้อยเพื่อพร้อมจะหลบหลีกและจู่โจมโต้กลับ จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาจาง ๆ ก่อนที่จะกล่าวตอบกลับไปว่า
“เซี่ยเฟย”
“เซี่ยเฟย… เป็นชื่อที่ดีจริง ๆ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องเอาชนะนายให้ได้ พวกเรามาเริ่มยกต่อไปกันเถอะ!”
—--
ณ สถานนีโทรทัศน์ระหว่างจักรวาลภายในภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่
ปัจจุบันพนักงานผู้สวมหูฟังผู้ควบคุมการออกอากาศกำลังเชื่อมต่อระบบไปยังห้องทำงานของโปรดิวเซอร์
“หัวหน้าครับตอนแรกพวกเราซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการประเมินของสมาพันธ์จัสทิสมาแค่ 12 ชั่วโมงแต่ตอนนี้การแข่งขันยังไม่จบเลยครับ ผมควรจะตัดภาพไปที่รายการบันเทิงตามตารางหรือถ่ายทอดสดการแข่งขันนี้ต่อไปดีครับ” เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการออกอากาศกล่าวถาม
“นายคิดว่าอีกนานไหมกว่าการแข่งขันจะจบ?” โปรดิวเซอร์ผู้ซึ่งมีหนวดเคราดกกล่าวถามกลับไปหลังจากที่เขารู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
“การแข่งขันเริ่มมาตั้งแต่ 8 โมงแล้วครับแต่ตอนนี้มันยังไม่จบเลย ถ้าให้ผมเดาวันนี้พวกเขาก็อาจจะยังสู้กันไม่จบ” พนักงานเริ่มคาดเดา
“อะไรนะ! พวกเขาสู้กันมาตั้ง 12 ชั่วโมงแล้ว? ว่าแต่เรทติ้งเป็นยังไงบ้าง” หลังโปรดิวเซอร์กล่าวจบเขาก็กดเรียกดูข้อมูลสถิติผู้ชมขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์
ข้อมูลเรทติ้งบนโต๊ะได้แสดงขึ้นมาว่าเรทติ้งของการแข่งขันครั้งนี้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09:00 น. และในปัจจุบันเรทติ้งของการแข่งขันก็มีอัตราส่วนถึง 15% ของเรทติ้งการรับชมทั่วทั้งภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่!!
ต้องอธิบายว่าทั่วทั้งภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่นี้มีสถานีโทรทัศน์อยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนและการที่รายการไหนมีเรทติ้งเกิน 15% มันก็อาจจะทำให้รายการนั้นมีเรทติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ของสถานีโทรทัศน์แห่งนั้นได้เลย
อันที่จริงเรทติ้งของสถานีโทรทัศน์ประจำภูมิภาคดาวทั้งหกแห่งที่ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันในวันนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เพิ่มขึ้นมาจากเดิม โดยเฉพาะเรทติ้งจากการถ่ายทอดคู่ของเฉินตงและเซี่ยเฟยซึ่งมีอัตราการรับชมมากกว่า 50% ของการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด
ที่สำคัญคือในตอนนี้การแข่งขันนัดอื่น ๆ ทั้งหมดได้ยุติลงไปแล้ว มันจึงทำให้ผู้ชมมากกว่า 70% ของภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่กำลังรับชมการต่อสู้ในนัดเดียวกันและมันก็เป็นการต่อสู้ระหว่างเฉินตงและเซี่ยเฟยนั่นเอง
“ไอ้โง่! พวกเราได้เรทติ้งตั้ง 15% ช่างหัวรายการบันเทิงพวกนั้นไปสิ รีบระดมช่องสัญญาณ 100 ช่องเพื่อถ่ายทอดการแข่งขันแมตช์นี้เดี๋ยวนี้.. ไม่สิ 200 ช่องไปเลย! ทำยังไงก็ให้เรทติ้งเพิ่มขึ้นมาเป็น 17% แล้วติดต่อไปที่ลูกค้าทันทีบอกพวกเขาว่าการต่อสู้แมตช์นี้เป็นการต่อสู้ที่ร้อนแรงที่สุดและพวกเราขอขึ้นราคาค่าโฆษณา 100% ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตัดโฆษณาของพวกเขาออก!” โปรดิวเซอร์กล่าว จากนั้นเขาก็สั่งการต่อไปว่า
“รีบเตรียมทีมจัดรายการพิเศษที่เกี่ยวกับการแข่งขันแมตช์นี้ขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นไปได้ให้ส่งทีมไปสัมภาษณ์ความรู้สึกของผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายด้วย”
หลังจากวางสายโปรดิวเซอร์ก็ลูบหนวดเคราของตัวเองอย่างมีความสุขก่อนที่เขาจะอุทานออกมาว่า
“เรทติ้ง 15%! ฉันไม่เคยเห็นเรทติ้งบ้า ๆ แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต!!”
—--
ห่างออกไปหลายปีแสง
ปัจจุบันห้องของแอวริลรกรุงรังไปด้วยตุ๊กตาจำนวนนับไม่ถ้วนและแน่นอนว่าตุ๊กตาเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งที่ฉีกขาดหายไป
บนเตียงมีเด็กสาวตัวน้อยถือตุ๊กตาลิงอยู่ในมือ ขณะที่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยผ่านหน้าจอและทุกครั้งที่ชายหนุ่มรอดพ้นจากความตาย ตุ๊กตาลิงในมือของแอวริลก็จะประสบพบกับภัยพิบัติ
ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีตุ๊กตาลิงตัวใหม่ก็ถูกฉีกกระชากแบ่งแยกออกเป็น 6 ส่วน
จากนั้นแอวริลก็เอื้อมมือเล็ก ๆ ของเธอไปที่หัวเตียง แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่าเธอจะคลำหาตุ๊กตาอยู่นานแต่ตุ๊กตาทั้งหมดภายในห้องของเธอก็ถูกทำลายไปจนหมดแล้ว
“เอาตุ๊กตาทั้งหมดที่อยู่ในห้องนั่งเล่นมาให้หนูเดี๋ยวนี้!” แอวริลขมวดคิ้วพร้อมกับตะโกนไปที่ประตู
ปัจจุบันการต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตงดำเนินมาแล้วเป็นเวลา 12 ชั่วโมง 21 นาที
***************
โอ้แม่เจ้า! พวกพี่แกจะสู้กันข้ามวันข้ามคืนเลยเราะ!!