ตอนที่แล้วตอนที่ 36: รุ่นลิมิเต็ด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38: ปรุงน้ำยา

ตอนที่ 37: สงครามการประมูล


ตอนที่ 37: สงครามการประมูล

เซี่ยเฟยยังไม่ได้รีบร้อนที่จะทำการเคลื่อนไหวโดยในระหว่างนี้เข้าแอบสังเกตไปยังผู้เสนอราคาคนอื่น ๆ ที่เขาจะต้องทำการแข่งขันด้วย

ในบรรดาผู้ที่เสนอราคาประมูล ส่วนใหญ่จะทำการเสนอราคาอย่างสมเหตุสมผล แต่มีคนอยู่สองคนที่ทำการเสนอราคาอย่างเอาจริงเอาจัง โดยคนหนึ่งนั้นเป็นชายชราในขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี

สำหรับผู้ที่เสนอราคาอย่างสมเหตุสมผลพวกเขาก็ต้องการที่จะซื้อชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์ไปเก็บสะสมเอาไว้ในคอลเลคชั่นของพวกเขาเท่านั้นและถ้าหากว่าพวกเขาได้เก็บสะสมชุดรุ่นลิมิเต็ดชุดนี้ต่อไปอีกซัก 2-3 ปี พวกเขาก็อาจจะสามารถนำมันออกมาขายทำกำไรอีกครั้งหนึ่งได้

กลุ่มคนประเภทนี้มักที่จะมีราคาอยู่ในใจเอาไว้อยู่แล้วและตราบใดก็ตามที่ราคาการประมูลสูงไปกว่าจุดที่พวกเขาได้ตั้งใจเอาไว้ พวกเขาก็จะหยุดเสนอราคาเพื่อไม่ให้ตนเองต้องพบกับการขาดทุน

ขณะเดียวกันสำหรับผู้ที่เสนอราคาประมูลอย่างเอาจริงเอาจังก็เป็นกลุ่มคนที่แตกต่างจากคนกลุ่มแรกโดยสิ้นเชิง เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีเป้าหมายอยู่ที่การได้รับชุดวินด์ชาโดว์เท่านั้น พวกเขาจึงจะทำการเสนอราคามากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถจ่ายได้

สำหรับเซี่ยเฟยที่ต้องการประมูลชุดต่อสู้ชุดนี้แล้ว ชายสองคนที่กำลังเสนอราคาอย่างเอาจริงเอาจังคือคู่แข่งคนสำคัญที่สุดสำหรับเขา

สถานการณ์ของชายชราค่อนข้างที่จะเป็นไปอย่างสบาย ๆ โดยเขาทำการยื่นเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปครั้งละ 1 ล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าราคาของชุดต่อสู้ในขณะนี้ยังไม่ใกล้ขีดจำกัดของเขา

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของทางฝั่งชายหนุ่มค่อนข้างที่จะแตกต่างออกไปจากชายชราโดยสิ้นเชิง โดยในช่วงแรกเขาทำการเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปอย่างน้อยครั้งละ 3 ล้านสตาร์คอยน์ แต่ทันทีที่ราคาของชุดมากกว่า 100 ล้านสตาร์คอยน์เขาก็ลดความถี่ในการเสนอราคาลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลเกี่ยวกับชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์รุ่นลิมิเต็ดถือว่าเป็นข้อมูลวงในที่มีคนเข้าถึงได้น้อยมาก ดังนั้นมันจึงทำให้การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของชุดเป็นไปอย่างยากลำบากด้วยเช่นเดียวกัน แต่เมื่อราคาประมูลของชุดนี้สูงเกินกว่า 140 ล้านสตาร์คอยน์ผู้ที่เคยเสนอราคามากกว่าครึ่งก็เลือกที่จะหยุดการเสนอราคาของพวกเขาลงและเลือกที่จะถอยกลับมาดูการประมูลในครั้งนี้แทน

“160 ล้าน!” ชายชราเสนอราคาออกไปด้วยใบหน้าอันแดงก่ำและถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะอยู่ห่างออกไปแต่เขาก็สังเกตเห็นว่าแขนบาง ๆ ของชายชราเริ่มที่จะมีอาการสั่นแล้ว ซึ่งมันเป็นสัญญาณว่าชายชราคนนี้ใกล้จะเสนอราคาถึงขีดจำกัดของเขาเต็มที

“180 ล้าน!” เซี่ยเฟยเลือกที่จะเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปในทันทีถึง 20 ล้านสตาร์คอยน์ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นจิตวิทยาสำหรับการเสนอราคาวิธีหนึ่ง

สาเหตุที่เซี่ยเฟยเพิ่มราคาขึ้นไปสูงมากขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะโจมตีความคิดอันสับสนของชายชราคนนั้น เพราะท้ายที่สุดในช่วงเวลาที่คนเรากำลังประสบพบเจอกับปัญหา สมองก็จะทำการพิจารณาว่าสถานการณ์ตรงหน้าเป็นสถานการณ์ที่สมควรสู้หรือสมควรถอย

หากเซี่ยเฟยค่อย ๆ เสนอราคาเพิ่มขึ้นไปทีละน้อยชายชราก็คงจะไม่ได้รู้สึกกดดันมากนัก แต่ถ้าหากว่าเขาได้เสนอราคาให้มีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงมันก็จะเป็นการปลูกฝังความคิดให้ชายชรามีความรู้สึกว่าเขาสมควรที่จะถอยกลับไปตั้งหลักได้แล้ว

เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้ชายชรากัดริมฝีปากตัวเองพร้อมกับวางแขนเอาไว้บนหน้าอกเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะตัดสินใจไม่เสนอราคาเพิ่มขึ้นต่อจากเดิม

“180 ล้าน! ตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นมาถึง 180 ล้านสตาร์คอยน์แล้ว มีใครต้องการจะเสนอราคามากกว่านี้อีกไหม?” สาวผมบลอนด์กล่าวถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเพราะราคา 180 ล้านเป็นราคาสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ที่เธอเคยเป็นพิธีกรในงานประมูลมา

“185 ล้าน!” ชายหนุ่มคนเดิมส่งเสียงตะโกนพร้อมกับยกแขนของเขาขึ้น

เมื่อเซี่ยเฟยหันหน้าไปมองชายคนนั้นเขาก็พบกับใบหน้าอันไร้อารมณ์ราวกับว่าราคาในปัจจุบันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา

“การจัดการกับคนคนนี้คงจะไม่ง่ายเหมือนตาแก่คนนั้นสินะ” เซี่ยเฟยคิดกับตัวเอง

สภาพจิตใจของชายหนุ่มคนนี้มีความสงบสูงกว่าชายชรามากและความมุ่งมั่นที่เขาต้องการจะซื้อชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยเฟยเลย ดังนั้นวิธีการเดียวที่จะเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ได้ก็คงจะเหลือแต่การทำสงครามเสนอราคา

“186 ล้าน” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกน

“190 ล้าน!”

“191 ล้าน!”

“195 ล้าน” เซียวไห่ลี่ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับกัดฟัน

“196 ล้าน” เซี่ยเฟยเสนอราคาตามติดไปในทันทีโดยไม่เสียเวลาในการคิดพิจารณาเลยแม้แต่วินาทีเดียว

การพยายามต่อสู้กับคนที่มีสภาพจิตใจเข้มแข็งคือการค่อย ๆ ทำลายความมั่นใจของเขาลงไปทีละน้อยและเมื่อไหร่ก็ตามที่ความมั่นใจของเขาคนนั้นได้ลดน้อยลงมันก็จะเริ่มเกิดอาการลังเลขึ้นมาภายในใจ

การขึ้นราคาทีละน้อยก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำหรับการเสนอราคาด้วยเช่นเดียวกัน โดยการใช้กลยุทธ์วิธีนี้คือการเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปในทันทีหลังจากที่อีกฝ่ายได้ทำการเสนอราคาออกมา ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะเป็นการบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเขามีความมั่นใจและมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งเลยแม้แต่น้อย

หากเขาทำการเสนอราคาหลังจากมีการนับเวลาถอยหลังหรือถ้าหากว่าเขาเสนอราคาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างมากจนเกินไป อีกฝ่ายก็คงจะคิดว่าเขากำลังพยายามประกาศสงคราม ซึ่งความคับข้องใจหรือความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นมาในระหว่างนั้นก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายเสนอราคาบ้า ๆ ออกไปและเรื่องนั้นย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อใครอย่างแน่นอน

ผู้เสนอราคาที่ดีจะไม่พยายามทำให้คู่แข่งของพวกเขารู้สึกเดือดดาล เพราะท้ายที่สุดอารมณ์โกรธของมนุษย์ก็มักที่จะทำให้คนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เหตุผลและการพยายามเสนอราคาสู้กับคนแบบนั้นก็จะทำให้เขาต้องจ่ายเงินออกไปในจำนวนที่สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น

“200 ล้าน!” เซียวไห่ลี่ส่งเสียงตะโกน โดยราคานี้เป็นขีดจำกัดสูงสุดของเขาแล้วและถ้าหากว่าคู่แข่งเสนอราคาออกมามากกว่านี้เขาก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องยอมแพ้

“202 ล้าน!” เซี่ยเฟยเริ่มเพิ่มเงินทีละ 2 ล้านเพื่อเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อชายหนุ่มอย่างช้า ๆ

การเสนอราคาในครั้งนี้ทำให้เซียวไห่ลี่กำหมัดทั้งสองแน่นจนข้อนิ้วได้เปลี่ยนเป็นสีขาว ในขณะที่ดวงตาของเขากำลังจับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความหงุดหงิด

“เซียวไห่ลี่ฉันโอนเงินออมทั้งหมดของฉันเข้าไปในบัญชีของนายอีก 85 ล้านแล้ว รีบทำการเสนอราคาสู้กับเขาเร็ว ๆ เข้า!” โบซิงวาร้องตะโกนบอกสหายของตนเอง

“ใช่แล้ว พวกเราเป็นจัสทิสระดับเงินมันจึงทำให้พวกเราสามารถเบิกเงินเกินบัญชีได้อีก 10 ล้าน ถ้าหากพวกเรารวมเงินกันพวกเราก็จะสามารถเบิกเงินออกมาได้ 30 ล้าน เดี๋ยวฉันจะโอนเงินเก็บอีก 2 ล้านในบัญชีของฉันให้กับนายด้วย” เควรอซกล่าวเสริมขึ้นมา

จัสทิสระดับทองแดงสามารถกู้เงินเบิกเกินบัญชีได้ 1 ล้านสตาร์คอยน์ ในขณะที่จัสทิสระดับเงิน สามารถกู้เงินเบิกเกินบัญชีได้ 10 ล้านสตาร์คอยน์และแน่นอนว่าขีดจำกัดสำหรับการเบิกเงินเกินบัญชีของจัสทิสระดับสูงกว่านี้ก็ย่อมได้จำนวนเงินที่สูงขึ้นไปอีก

“โอ้โห! ช่วยเงินแค่ 2 ล้านมันก็เหมือนไม่ได้ช่วยนั่นแหละ จำเอาไว้ว่ามันเป็นเพราะนิสัยเที่ยวผู้หญิงของนาย ไม่อย่างนั้นนายก็คงจะมีเงินเก็บติดบัญชีอยู่มากกว่านี้” โบซิงวากล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันโกรธเคือง

“ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา…” เควรอซกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย

เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้เซียวไห่ลี่จ้องมองไปยังสหายทั้งสองด้วยแววตาอันสุดซึ้งและมันก็ทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบที่จะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

“เอาล่ะ! พวกเรามาเริ่มยกที่ 2 กันเถอะ” เซียวไห่ลี่ตบขาของตนเองเพื่อดึงสติกลับมา

“ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 202 ล้านสตาร์คอยน์ ถ้าหากว่าไม่มีใครเสนอราคามากกว่านี้ชุดต่อสู้วินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์รุ่นลิมิเต็ดก็จะตกไปอยู่ในมือของชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้น!” สาวผมบลอนด์ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างเร้าใจ

“250 ล้าน!” เซียวไห่ลี่ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับยกมือขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ฝูงชนได้จับจ้องมองไปยังเขาด้วยสีหน้าอันตกตะลึง

“เพิ่มราคาขึ้นไปครั้งเดียว 48 ล้านเลยหรอ? ชายคนนั้นคงจะบ้าไปแล้วสินะ”

“แม้แต่แจกันใส่น้ำเจ็ดดวงดาวก็มีราคาอยู่ที่ 210 ล้านเท่านั้น ชุดต่อสู้ชุดนี้มันจะมีค่ามากกว่านั้นอีกอย่างนั้นหรอ”

“255 ล้าน!” อย่างไรก็ตามทันทีที่เสียงเสนอราคาของเซียวไห่ลี่ได้สิ้นสุดลงเซี่ยเฟยก็ยื่นเสนอราคาออกไปในทันทีโดยไม่เสียเวลาในการตัดสินใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว

“อันธชุดต่อสู้ชุดนั้นควรจะมีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่” เซี่ยเฟยแอบคุยกับอันธภายในใจ

“สบายใจได้ ถึงแม้ว่านายจะใช้เงินทั้งหมดในบัญชีซื้อชุดต่อสู้ชุดนั้นมาแต่นายก็จะไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน คนพวกนั้นคงจะไม่รู้ว่าชุดต่อสู้ชุดนี้ทรงพลังแค่ไหน มันถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีของพวกเรา” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างหนักแน่น

เมื่อได้ยินคำยืนยันเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับ เพราะท้ายที่สุดเขาก็เชื่อมั่นในการตัดสินใจของอันธมาก มันจึงยิ่งทำให้เขาสามารถที่จะเสนอราคาออกไปได้อย่างไม่ลังเล

“280 ล้าน!” เซียวไห่ลี่เสนอราคาขึ้นไปอีกครั้งและเขาก็เชื่อว่าเซี่ยเฟยคงจะไม่สามารถเสนอราคามากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตามความเป็นจริงคือเขาคิดผิดไปอย่างมหันต์ เพราะความกระตือรือร้นที่เซี่ยเฟยต้องการชุดต่อสู้ชุดนี้ไม่ได้น้อยไปกว่าเขาเลย

“300 ล้าน!” เซี่ยเฟยตะโกนเสนอราคาโดยในตอนนี้เขาได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการป้องกันไปเริ่มทำการโจมตี

เหตุการณ์นี้ทำให้เซียวไห่ลี่เกือบที่จะเป็นลมเพราะท้ายที่สุดเงินจำนวน 280 ล้านสตาร์คอยน์มันก็เกือบจะเป็นเงินสดทั้งหมดที่เขามีอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากว่าเขายังคงเสนอราคาต่อไปมันก็หมายความว่าทั้งตัวของเขาและสหายทั้งสองจำเป็นที่จะต้องใช้เงินกู้เบิกเกินบัญชี

“เซียวไห่ลี่อย่าพึ่งท้อ! เพียงแค่นายกล้าที่จะเสนอราคาออกไปพวกเราย่อมพร้อมที่จะลำบากไปกับนาย” โบซิงวากล่าวขึ้นมาอย่างร่าเริง

“310 ล้าน!” เซียวไห่ลี่ตะโกนสุดเสียงโดยพยายามที่จะทำให้เซี่ยเฟยกลัวน้ำเสียงอันชัดเจนของเขา

แต่อนิจจาการกระทำของเขากลับทำให้มุมปากของเซี่ยเฟยยกขึ้นสูงจากเดิม เพราะการที่ชายหนุ่มทำแบบนี้มันก็หมายความว่าเซียวไห่ลี่กำลังขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะพยายามเอาชนะด้วยการเสนอราคาแทนที่จะส่งเสียงตะโกนเพื่อให้อีกฝ่ายยอมจำนน

“320 ล้าน!” เซี่ยเฟยยื่นเสนอราคาออกไปในทันทีโดยไม่ปล่อยให้เซียวไห่ลี่มีเวลาพักหายใจเลยแม้แต่ครู่เดียว

เหตุการณ์นี้ทำให้เซียวไห่ลี่รู้สึกว่าเลือดลมภายในกายของเขากำลังพลุ่งพล่านและมันก็ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาเริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นพร่ามัว

เงินทั้งหมดที่เขาสามารถรวบรวมได้มีอยู่ทั้งสิ้นเพียงแค่ 318.51 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น ซึ่งเงินจำนวนนี้มันก็รวมถึงเงินกู้ของพวกเขาทั้งสามคนแล้ว ด้วยเหตุนี้เองราคาในปัจจุบันที่เซี่ยเฟยได้เสนอออกไปจึงเป็นราคาที่เซียวไห่ลี่ไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้อย่างแท้จริง

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงค้อนไม้ในมือของสาวผมบลอนด์ดังขึ้นอย่างคมชัดพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังไปทั่วทั้งห้องประมูล

หากมันไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเงินจำนวน 320 ล้านสตาร์คอยน์ก็สมควรจะเป็นราคาสูงสุดสำหรับการประมูลในวันนี้แล้วและมันก็ถือได้ว่าเป็นการประมูลอันตื่นเต้นเร้าใจที่ผู้เข้าร่วมงานประมูลสามารถรับชมได้อย่างฟรี ๆ

“320 ล้าน…” เซี่ยเฟยเริ่มหน้าเสียเมื่อเขาได้เดินออกมาจากงานประมูล

“อะไรกัน? นี่นายกำลังรู้สึกปวดใจอยู่อย่างนั้นหรอ? รอนายได้รับชุดต่อสู้นั้นมาก่อนเถอะแล้วนายจะเข้าใจเองว่าทำไมมันถึงมีค่ามากขนาดนั้น” อันธกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับ

—--

ณ เมืองนิวยอร์ก

ทันทีที่เซียวไห่ลี่ถอดหมวกเสมือนจริงออกมาเขาก็เอาหมัดทุบลงไปบนโต๊ะอย่างรุนแรง

ปัง!

การกระทำของเขาทำให้หมวกเสมือนจริงแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง

“ฉันจะไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก!” เซียวไห่ลี่ส่งเสียงคำรามพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“เควรอซ! นายมีเพื่อนอยู่ที่แผนกเทคนิคใช่ไหม? นายช่วยไปสืบหาตัวตนของชายคนนั้นมาให้ที ฉันอยากจะรู้ว่ามันเป็นใคร!” เซียวไห่ลี่ตะโกนออกคำสั่ง

เมื่อได้ยินคำขอเควรอซก็แสดงท่าทางเหมือนต้องการจะพูดอะไรออกมาบางอย่างแต่เขาก็ต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป

หลังจากนั้นไม่นานเซียวไห่ลี่ก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับบานประตูที่ถูกปิดกระแทกอย่างรุนแรง

ปัง!

“ทำไงดีฉันเลิกกับเจนนี่ที่อยู่แผนกเทคนิคไปตั้งนานแล้ว” เควรอซหันไปพูดกับโบซิงวาด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ

“ฉันพอจะเดาได้อยู่แล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรนายก็เป็นแบบนี้ตลอด” โบซิงวาตบไหล่ของเควรอซด้วยความเห็นใจ

“เซียวไห่ลี่ไม่ใช่คนไม่ดีแต่ในบางครั้งเขาก็อาจจะเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย” โบซิงวากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

—--

ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยผู้ซึ่งอยู่ภายในเมืองปักกิ่งก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขาได้ทำให้หัวหน้าคณะกรรมการของการประเมินรู้สึกขุ่นเคืองตั้งแต่การประเมินยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นแบบนี้

ท้ายที่สุดภายในการประเมินระดับวิกฤตก็มีอันตรายรออยู่ตลอดเวลาและเขาก็คงจะทำได้เพียงแต่โทษโชคชะตาที่โชคร้ายของตัวเองเท่านั้นที่ต้องไปแข่งขันการประมูลกับเซียวไห่ลี่

***************

โอ้อ๋อย! พี่เฟยหนอพี่เฟย..ดูเหมือนความชิบหายกำลังจะมาเยือนอีกแล้วซินะ!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด