ตอนที่แล้วตอนที่ 20: ระดับสตาร์เบส!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22: ออกเดินทาง

ตอนที่ 21: เลื่อนแผน


ตอนที่ 21: เลื่อนแผน

“416.91 ล้านสตาร์คอยน์!”

หากทำการแปลงเงินพวกนี้เป็นเงินแอลไลคอยน์มันก็จะมีมูลค่ามากกว่า 4.1 ล้านล้านแอลไลคอยน์!

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมันก็ไม่มีใครสามารถที่จะหาเงินได้เร็วเท่ากับเซี่ยเฟย เพราะในเวลาเพียงแค่ 4 เดือนชายหนุ่มคนนี้ได้เปลี่ยนจากเด็กปั่นจักรยานส่งของกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดของสหพันธ์ไปแล้ว

การหาเงินด้วยอัตราที่รวดเร็วขนาดนี้มันก็ไม่สมควรที่จะเรียกว่าการหาเงิน เพราะมันเป็นเหมือนกับการปล้นเงินมาจากคนอื่นมากกว่า!

“อืม..ใช้ได้ แบบนี้พวกเราก็มีเงินพอที่จะซื้อวัตถุดิบผสมน้ำยาระดับกลางได้เสียที” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมกรอกตาให้กับวิญญาณนักฆ่าคนนี้ด้วยความรวดเร็ว

ด้วยความสามารถในการใช้เงินของอันธมันก็ไม่สำคัญว่ายอดเงินในบัญชีของเขาจะมีเลขศูนย์อยู่ด้านหลังเป็นจำนวนกี่ตัว เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าเขาจะมีเงินมากแค่ไหนแต่มันก็ไม่พอที่จะเติมเต็มความต้องการของอันธได้อยู่ดี

บทกวีไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมมากนัก เมื่อผลกระทบจากรายการของเอ็นย่าจบลงไปแล้ว มันจึงทำให้ยอดขายบทกวีเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

ตอนนี้ยอดขายบทกวีอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านสตาร์คอยน์ต่อเดือนและการทำยอดขายให้ได้แบบถล่มทลายเหมือนก่อนหน้านี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้อีกอย่างแน่นอน

“นายจะรออะไรรีบไปตลาดวัตถุดิบผสมน้ำยาเร็ว ๆ เข้าแล้วรีบตรงไปยังร้านที่ขายต้นเพลิงมังกรไฟ 1,000 ปีด้วย ฉันว่าร้านนั้นมีแต่ของดี ๆ ที่ช่วยพัฒนาความสามารถของนายได้ ในตอนนี้นายมีระดับความสามารถอยู่ที่ระดับสตาร์เบสแล้วหากนายต้องการที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งต่อไปอย่างน้อยที่สุดนายก็จะต้องใช้วัตถุดิบในการปรุงน้ำยาระดับกลาง” อันธกล่าวพร้อมกับถูฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน

“มันไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนมากขนาดนั้นก็ได้มั้ง ถึงยังไงฉันก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการดูดซับน้ำยาเร่งเซลล์ไปอีกหกเดือน อย่างน้อยฝากเงินไว้ในธนาคารมันก็ยังพอมีดอกเบี้ยตอบแทนกลับมาบ้าง” เซี่ยเฟยกล่าวโต้กลับไป

“ลองไปดูตลาดสักหน่อยก็ไม่เสียหายน่า มันไม่ใช่วัตถุดิบทุกชนิดที่จะมีวางขายในตลาดตลอดเวลาหรอกนะ ถ้าหากว่านายพลาดโอกาสในการซื้อวัตถุดิบบางอย่างไป นายก็อาจจะต้องรอไปอีกนานกว่าจะหาซื้อวัตถุดิบพวกนั้นได้” อันธกล่าวโดยพยายามจะโน้มน้าวใจของเซี่ยเฟย

“นายนี่ไม่เพียงแต่จะหลงใหลในบทกวีแต่ยังเป็นพวกบ้าปรุงยาด้วย ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าอาจารย์ของนายกำลังคิดอะไรอยู่ถึงสั่งสอนให้นายเป็นนักฆ่าแบบนี้” คำตอบของอันธถึงกับทำให้เซี่ยเฟยทำอะไรไม่ถูก

สมองซีกซ้ายของมนุษย์มีหน้าที่ในการวิเคราะห์หาเหตุผล ในขณะที่สมองซีกขวามีหน้าที่ต่อการแสดงอารมณ์ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าสมองซีกขวาของอันธพัฒนาไปไกลกว่าสมองซีกซ้ายมาก เขาจึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นศิลปินมากกว่าที่จะต้องทำงานในฐานะของมือสังหาร

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพูดออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจแต่มันกลับทำให้อันธรู้สึกโศกเศร้าอย่างร้ายแรง

ปัจจุบันดวงตาของอันธได้เปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เขาเริ่มส่งเสียงสะอื้นออกมา แต่โชคยังดีที่มันยังไม่มีน้ำตาไหลลงมาในขณะที่เขากล่าวออกไปว่า

“ฉันทำให้อาจารย์ผิดหวังจริง ๆ ฉันไม่สามารถทำตามความคาดหวังของเขาได้”

‘นักฆ่าคนนี้เป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในจักรวาลจริง ๆ ใช่ไหม? นี่ถ้าหากว่าฉันไม่ได้เห็นเขากับตาจริง ๆ ฉันก็คงจะไม่เชื่อว่าเขาคือเงาอันธการในตำนาน’ เซี่ยเฟยคิดพร้อมกับทำตัวไม่ถูกเมื่อได้เห็นท่าทางของอันธ

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้นายไม่ได้เป็นนักฆ่าแล้วและนายก็พยายามที่จะพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หากว่าในอนาคตอาจารย์ของนายได้เห็นว่านายประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ เขาย่อมจะต้องให้อภัยนายแน่นอน” เซี่ยเฟยพยายามกล่าวปลอบโยน

“ใช่แล้ว! ฉันจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง หลังจากนี้ฉันจะตั้งใจเรียนบทกวี, พุทธศาสนา, ลัทธิเต๋าและขงจื๊อ..”

“ฮะ?!”

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’

‘อันธแค่หมกมุ่นอยู่กับการเรียนพุทธศาสนาไม่ใช่อย่างนั้นหรอ? แล้วลัทธิเต๋ากับขงจื้อมาจากไหน?’

—--

อีเมลสีชมพูยังคงกระพริบอยู่ที่มุมซ้ายมืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกหงุดหงิดมากและทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องเปิดจดหมายของแอวริลขึ้นมาอ่าน

คุณจะแทงตัวเองทำไม? หรือว่าคุณเป็นพวกมาโซคิสม์ในตำนาน?

นี่ผ่านมา 2-3 วันแล้วนะทำไมคุณถึงไม่ตอบ? รีบตอบกลับมาเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นฉันจะให้พี่ชายของฉันไปจับตัวคุณมา

คุณช่วยตอบข้อความของฉันหน่อยจะได้ไหม ฉันไม่ถามคำถามแบบนั้นแล้วก็ได้

นี่คุณกล้าเมินฉันจริง ๆ ใช่ไหม ฉันบอกเรื่องคุณให้กับพี่ชายของฉันแล้วเขาบอกฉันว่าเขาจะไปจับคุณภายใน 2 วัน คุณเตรียมเป็นอาหารสิงโตได้เลย

ฉันอุตส่าห์เจอคนที่พูดคุยกับฉันได้ ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้…

แอวริลส่งอีเมลมาให้เขาเป็นจำนวนมากและมันก็ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก

“ทำไมฉันถึงไม่สามารถลบหรือบล็อกอีเมลจากคุณได้? พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันจริง ๆ สักหน่อย พวกเราแค่เคยคุยกันผ่านอีเมลไม่กี่ครั้งเท่านั้นแล้วทำไมคุณถึงทำเหมือนกับว่าพวกเราสนิทกัน?”

หลังจากเซี่ยเฟยส่งอีเมลกลับไปแล้วกล่องอีเมลที่มุมซ้ายบนก็หยุดกระพริบในที่สุด จากนั้นเซี่ยเฟยก็มุ่งหน้าไปยังร้านที่เขาเคยซื้อต้นเพลิงมังกรไฟ 1,000 ปี

ทันทีที่พวกเขาเข้ามาพวกเขาก็ได้พบกับชายอ้วนที่มีหน้าตาอันยิ้มแย้ม โดยชายคนนี้มีหนวดเรียว 2 ข้างงอกขึ้นมาจากหน้าผากและดวงตาของเขาก็มีลักษณะคล้ายสระอิ

“ยินดีต้อนรับคุณเซี่ยเฟยอีกครั้ง ผมชื่อซูมั่วหลงเป็นผู้จัดการร้านแห่งนี้” ชายอ้วนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีครับ! ทำไมครั้งที่แล้วที่ผมมาผมถึงไม่เห็นคุณ” เซี่ยเฟยถาม

ในตอนที่เซี่ยเฟยทำการซื้อต้นมังกรไฟ 1,000 ปีเขาไม่เพียงแต่จะไม่ได้พบกับผู้จัดการร้านเท่านั้นแต่เขายังไม่ได้พบกับพนักงานเสมือนอีกด้วย ซึ่งการชำระเงินก็เป็นการชำระผ่านระบบอัตโนมัติ ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงไม่ชอบวิธีการเลือกปฏิบัติกับลูกค้าของร้านค้าแห่งนี้เท่าไหร่

“แค่ก ๆ.. ในตอนที่คุณมาที่ร้านครั้งที่แล้วผมเพิ่งออกไปทำธุระด้านนอกพอดี ดังนั้นผมจึงรีบมาที่นี่เพื่อกล่าวขอโทษคุณ” ซูมั่วหลงกล่าวกับเซี่ยเฟยด้วยความเคารพ

“อ๋อหรอ.. ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรจ้างพนักงานเสมือนซัก 2-3 คนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสิ” เซี่ยเฟยกล่าว

“คุณอาจจะยังไม่รู้แต่ร้านมาสเตอร์พีชของพวกเราไม่ต้องการที่จะใช้พนักงานเสมือน เพราะถึงแม้ว่าพวก AI จะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดพวกมันก็ยังคงเป็นเพียงแค่เครื่องจักรเท่านั้น การให้บริการลูกค้าโดยพนักงานเสมือนจึงไม่ต่างไปจากการไม่ให้เกียรติลูกค้าเลย ร้านของพวกเราจึงไม่เคยคิดที่จะใช้พนักงานเสมือนแม้แต่นิดเดียว”

“นี่คือบัตรสมาชิกระดับ 1 ดาวของร้านมาสเตอร์พีช ขอให้คุณช่วยยอมรับมันไปแทนคำขอโทษจากผมด้วย โดยปกติคุณจะได้รับบัตรสมาชิกระดับ 1 ดาวก็ต่อเมื่อคุณมียอดซื้อสินค้าภายในร้านครบ 100 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น แต่ผมขอมอบมันให้กับคุณเพื่อชดเชยความประมาทเลินเล่อในครั้งที่แล้วของพวกเรา”

“จากนี้ไปคุณจะได้รับส่วนลดจากการซื้อสินค้าภายในร้านมาสเตอร์พีชทั้งหมด 2% นอกจากนี้พวกเราจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าให้กับคุณเองและคุณยังสามารถใช้การ์ดใบนี้เพื่อเข้าร่วมงานประมูลของร้านมาสเตอร์พีชได้อีกด้วย”

หลังจากที่ผู้จัดการร้านพูดจนจบเซี่ยเฟยก็เดินดูสินค้ารอบ ๆ ร้านอีกครั้งและเขาก็ได้พบว่าสินค้าภายในร้านยังคงเป็นเหมือนเดิมแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ยังไม่มีสินค้าชิ้นไหนเตะตาอันธเลย

“ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีสินค้าใหม่ภายในร้านนะ” เซี่ยเฟยถาม

“ร้านนี้ขายเฉพาะวัตถุดิบผสมน้ำยาระดับสูงเท่านั้น มันจึงทำให้สินค้าแต่ละชิ้นมีปริมาณที่จำกัดและมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนสินค้าค่อนข้างนาน ผมขอแนะนำคุณว่าอีกไม่นานมันจะมีการจัดงานประมูลของร้าน ภายในงานประมูลจะมีวัตถุดิบปรุงน้ำยาคุณภาพสูงเป็นจำนวนมาก คุณสามารถไปเข้าร่วมกับงานประมูลในครั้งนี้ได้”

หลังจากที่ได้พูดคุยกับซูมั่วหลงเซี่ยเฟยก็ได้พบว่ามาสเตอร์พีชเป็นบริษัทที่ค่อนข้างจะแปลกประหลาดเลยทีเดียว เพราะพวกเขาจะขายแต่ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเท่านั้นซึ่งมันต่างจากร้านค้าอื่น ๆ ที่จะมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงต่ำปะปนกันไป

งานประมูลของพวกเขามีชื่อเสียงทั่วทั้งภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่และมันก็มักที่จะมีของหายากนำมาวางขายในงานประมูลอยู่เสมอ

หลังจากที่เซี่ยเฟยออกมาจากระบบอินเตอร์เน็ตเขาก็ยืดเหยียดร่างกายคลายความเมื่อยล้าอีกสักพัก ก่อนที่เขาจะทำการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

แต่ในทันใดนั้นเองมันก็ได้มีเฮลิคอปเตอร์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและด้วยใบพัดของเครื่องที่กำลังหมุนอย่างรวดเร็วมันจึงทำให้เสียงของเฮลิคอปเตอร์ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขา

ปัจจุบันเฮลิคอปเตอร์ได้จอดห่างออกไปจากเต็นท์ของเซี่ยเฟยเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรและแรงลมที่เกิดขึ้นมาจากใบพัดก็เกือบที่จะทำให้เต็นท์ของเซี่ยเฟยพังทลายลงมา

“ใครน่ะ?!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้วก่อนที่เขาจะได้เห็นอู่หลงกระโดดลงมา

“พี่หลงทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้หรือว่าคุณคิดถึงผม” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“ทำไมฉันจะต้องคิดถึงนายด้วย นายไม่ใช่ผู้หญิงนะ!” อู่หลงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็หาที่นั่งคุยกันบนก้อนหินใหญ่ริมแม่น้ำและเซี่ยเฟยก็ได้หยิบกล่องบุหรี่ของเขาออกมาพร้อมกับยื่นหงตะชานไปให้กับอู่หลง 1 มวน

“นายเก็บมันเอาไว้เถอะ ฉันไม่ชินกับมันเท่าไหร่ ในตอนนี้ฉันมีข่าวดีกับข่าวร้ายมาบอก นายอยากจะฟังเรื่องไหนก่อนล่ะ” อู่หลงกล่าวถามขึ้นมาอย่างลึกลับ

“เอาข่าวดีก่อน”

“ข่าวดีก็คือฤดูพายุของปีนี้มาเร็วกว่าปกติและมันก็หมดไปเร็วกว่าปกติด้วยเช่นกัน พยากรณ์อากาศได้ระบุว่ามหาสมุทรแอตแลนติกจะเข้าสู่ความสงบตลอดทั้งเดือนกันยายน ดังนั้นแผนการสำรวจแอตแลนติสจึงขยับขึ้นมาเร็วขึ้นกว่าเดิม” อู่หลงกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ถ้าอย่างนั้นมันก็ดีนะสิ ว่าแต่ข่าวร้ายคืออะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ข่าวร้ายก็คือพวกเรากำลังตกเป็นเป้าหมาย”

***************

การผจญภัยสู่แอตแลนติสกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว.. ว่าแต่มันเป็นไปได้ยังไงที่พี่เฟยกับอันธไปตลาดแล้วจะไม่ชอปปิงกลับมาหรือจะรอไปถลุงเงินในงานประมูลรอบเดียว?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด