ตอนที่ 18: สัญชาตญาณนักฆ่า
ตอนที่ 18: สัญชาตญาณนักฆ่า
“ถ้าหากว่านายต้องการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงนายก็จะต้องผ่านพ้นความยากลำบากและความท้าทายไปเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวมันยังไม่เพียงพอ”
“ไม่ว่าจะเป็นนักรบคนไหนต่างก็ต้องเติบโตในสนามรบด้วยกันทั้งนั้น แม้ว่าการเผชิญหน้ากับสองคนนั้นด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนายจะมีความเสี่ยงถึงชีวิต แต่นายก็ต้องพบเจอกับอันตรายบ้างมันถึงจะช่วยให้นายสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว”
“ซักวันนึงนายจะต้องออกเดินทางไปยังจักรวาลตามลำพัง ถ้าหากวันนั้นนายต้องเผชิญหน้ากับอันตรายนายจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้นอกเสียจากว่านายจะต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเอง” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ปรับระบบนำทางเขาก็ได้พบกับถนนสายที่ไม่ค่อยมีคนใช้ โดยถนนเส้นนั้นมีต้นสนขนาดใหญ่ขนาบข้างทั้งสองฝั่งของถนน
เมื่อเซี่ยเฟยเลี้ยวรถไปทางถนนเส้นนี้รถเก๋งสีดำก็ขับตามเขามาอย่างที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้ โดยรถเก๋งคันนั้นยังคงเว้นระยะห่างเอาไว้ที่ประมาณ 50 เมตรเหมือนเดิม
ต่อมาเมื่อเซี่ยเฟยได้ขับรถไปประมาณ 10 กิโลเมตรเขาก็จอดรถริมข้างทางพร้อมกับเดินเข้าไปในป่าโดยเสแสร้งแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังเดินลงไปฉี่
หลังจากที่เข้ามาภายในป่า เซี่ยเฟยก็ถีบเท้าอย่างแรงทำให้ร่างของเขาพุ่งตรงไปด้านหน้าประมาณ 80 เมตรก่อนที่เขาจะไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ จากนั้นเขาก็ควบคุมลมหายใจเพื่อผสานร่างกายของตัวเองให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมในขณะที่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปทางท้องถนน
ไม่กี่วินาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมอย่างแท้จริงและถึงแม้ว่ามันจะมีกระรอกตัวหนึ่งปีนขึ้นไปอยู่บนหัวของเขา แต่กระรอกตัวนั้นก็ไม่ได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของชายหนุ่มคนนี้เลย
“ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวแล้ว คุณอยู่ในรถไปก่อนเดี๋ยวฉันจะลงไปดูเขาสักหน่อย” แมดแมนกล่าวหลังจากจอดรถพร้อมกับสะกิดเรียวขาของไวลด์โรส
“เร็ว ๆ เข้าล่ะ ฉันไม่อยากเสียเวลากับไอ้หนูนี่มากเกินไป” ไวลด์โรสกล่าวพร้อมกับพยักหน้าช้า ๆ
“มันเป็นแค่เด็กปั่นจักรยานส่งของ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้องเจ็ดจะถูกไอ้หนูนี่ฆ่าจริง ๆ” ไวลด์โรสกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อทั้งคู่ลงมาจากรถพร้อมกันแมดแมนก็มุ่งหน้าตรงเข้าไปในป่า ขณะที่ไวลด์โรสส่งเสียงฮัมเพลงยอดนิยมพร้อมกับเดินไปที่รถของเซี่ยเฟยด้วยท่าทางสบาย ๆ
ถึงแม้ว่าท่าทางของเธอจะดูเหมือนกับไม่สนใจอะไรแต่จริง ๆ แล้วเธอก็กำลังสังเกตสภาพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ อย่างตื่นตัว
ในป่าอันเขียวชอุ่มแห่งนี้ได้มีใบไม้ร่วงหล่นลงมากองอยู่ที่พื้นเป็นจำนวนมาก แมดแมนจึงตั้งใจที่จะเดินให้เกิดเสียงดังและหวังว่ามันจะทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกระสับกระส่าย ซึ่งมันจะทำให้เขาสามารถหาที่ซ่อนของเซี่ยเฟยได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันแมงมุมสีดำตัวใหญ่ก็กำลังคลานผ่านลำคอของเซี่ยเฟยและมุดลงไปในเสื้อของเขา แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงนิ่งเฉยราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ก้อนหินที่ไร้ชีวิต
“พวกเราไม่ได้มาทำร้ายคุณ พวกเราแค่อยากจะถามอะไรบางอย่างเท่านั้น” จู่ ๆ แมดแมนก็พูดขึ้นมาเสียงดัง
เขายืนอยู่ห่างจากจุดที่ซ่อนของเซี่ยเฟยไม่ถึง 30 เมตร ซึ่งถ้าหากว่ามันมีใครซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้เขาก็สมควรที่จะสัมผัสถึงตัวตนของใครคนนั้นได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่าแมดแมนไม่สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเซี่ยเฟยได้เลย
‘เขาคงกำลังจับตาดูฉันอยู่แถว ๆ นี้สินะ’ แมดแมนคิดกับตัวเองในใจ
ขวับ!
ทันใดนั้นมันก็มีกวางตัวหนึ่งได้กระโดดออกมาจากป่าซึ่งมันก็ทำให้มือของแมดแมนกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยและมันก็เผยให้เห็นใบมีดที่พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
หลังจากที่กวางได้วิ่งต่อไปอีกหลายสิบก้าวแมดแมนก็ได้เห็นว่าเป้าหมายของเขาเป็นเพียงแค่กวางตัวหนึ่งเท่านั้น
“เมื่อกี้นายเห็นใช่ไหม? ความเร็วของเขาอยู่ที่ประมาณ 60 เมตรต่อวินาที ดังนั้นในแง่ของความเร็วเขายังไม่สามารถเทียบชั้นกับนายได้ แต่หากวัดในแง่ของประสบการณ์เขามีอยู่เหนือกว่านายมาก…”
แต่ก่อนที่อันธจะได้พูดจนจบ จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ทำการเคลื่อนไหว
'ตอนนี้แหละ!!'
แมดแมนมีนิสัยติดตัวที่เขามักจะใช้นิ้วปรับแว่นตาตรงบริเวณเหนือจมูกอยู่เป็นประจำ ซึ่งในเวลาที่แมดแมนไม่ทันได้ระวังตัวเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่ออกไปราวกับสายฟ้าฟาด!!
พริบตาต่อมามือขวาของเซี่ยเฟยก็ได้กลายเป็นเส้นแสงสีทองที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว 85 เมตรต่อวินาที
ระยะห่างระหว่างพวกเขามีอยู่น้อยกว่า 30 เมตรเท่านั้น ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ในปัจจุบันเซี่ยเฟยจึงสามารถที่จะพุ่งเข้าหาเป้าหมายได้ในเวลาเพียงแค่ 0.35 วินาที!
ขณะเดียวกันแมดแมนก็สมควรที่จะถูกเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว เพราะทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงศัตรูมือขวาของเขาก็รีบดึงมีดสั้นออกมาทันที
ขวับ!
มีดสั้นของแมดแมนตัดผ่านเส้นผมเหนือศีรษะของเซี่ยเฟยไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โกลเดนสทิงเกอร์ในมือของเซี่ยเฟยได้พุ่งเฉือนคอของแมดแมนไปอย่างแม่นยำเช่นกัน!
พริบตาต่อมาเลือดสด ๆ ก็พุ่งทะลักออกมาจากคอของแมดแมนราวกับน้ำพุและมันก็ยังปล่อยไอน้ำสีขาวออกมาอีกด้วย
หลังจากนั้นร่างของแมดแมนก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างกระทันหันพร้อมกับความคิดที่ปรากฏขึ้นมาในช่วงเวลาสุดท้ายว่า
‘ทำไมเขาถึงเร็วขนาดนี้!’
ด้วยระดับความสามารถในปัจจุบันเขาก็ไม่สมควรที่จะตายอย่างน่าสมเพชเช่นนี้เลย ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของเขาคือเขาสืบเรื่องความสามารถของเซี่ยเฟยมาไม่พอ
แมดแมนไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยสามารถผสมผสานร่างกายเข้ากับสภาพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ ได้และเขาก็ไม่รู้ว่าระดับความสามารถของเซี่ยเฟยอยู่ในระดับสตาร์ไลท์ขั้นสูงแล้ว ดังนั้นความเร็วในการเคลื่อนที่ของเซี่ยเฟยจึงเหนือกว่าเขามาก
“เอ๊ะ.. ฉันควรจะบอกว่าเขาประมาทหรือว่านายมีสัญชาตญาณของนักฆ่าดี” อันธอุทานออกมาขณะที่เขาได้เห็นร่างของเซี่ยเฟยพุ่งออกไปสังหารแมดแมน
เมื่อเซี่ยเฟยทำการสังหารแมดแมนเรียบร้อยแล้วเขาก็พลิกตัวกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปหาไวลด์โรสซึ่งยืนอยู่ข้างถนน
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างประมาทเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเป้าหมายของเขาจะเป็นผู้หญิงก็ตาม
ท้ายที่สุดศัตรูก็คือศัตรูไม่มีความแตกต่างระหว่างหญิงชายและศัตรูทั้งหมดก็จะต้องถูกกำจัด!!
ในช่วงเวลาปกติความคิดเช่นนี้ไม่เคยโผล่ขึ้นมาในหัวของเซี่ยเฟยเลย อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เริ่มทำการต่อสู้มันก็จะมีความคิดอันบ้าคลั่งแวบเข้ามาในหัวของเขาโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้เขายังไม่เคยรู้สึกลังเลในขณะที่ทำการสังหารศัตรูอีกด้วย
นี่คือสัญชาตญาณของนักรบโดยกำเนิด!
มันมีเฉพาะผู้ที่มีความกระหายในการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถแสดงพลังออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด แล้วมันก็ไม่มีนักรบคนไหนที่รู้สึกเกรงกลัวเลือดเนื้อหรือการสังหารหมู่ แต่ในทางตรงกันข้ามพวกนักรบจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อพวกเขาได้ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพของศัตรู!!
ความเร็วของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่เกินกว่าปฏิกิริยาของมนุษย์ทั่วไปอย่างแท้จริงและถึงแม้ว่าไวลด์โรสจะไม่รู้ว่าแมดแมนล้มลงไปได้ยังไง แต่สัญชาตญาณของเธอก็กำลังกรีดร้องขึ้นมาว่ามันกำลังมีใครบางคนได้พุ่งตัวเข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็ว!
‘อันตราย!’
‘ไม่ดีแล้ว!’
"นั่นใคร?" ทันใดนั้นไวลด์โรสก็ส่งเสียงออกมาด้วยความยั่วยวนก่อนที่มันจะมีพลังที่มองไม่เห็นแผ่ออกไปในทุกทาง
เมื่อได้ยินเสียงนี้เซี่ยเฟยก็หยุดอยู่ห่างจากไวลด์โรสเพียงแค่ไม่ถึง 20 เมตร โดยในปัจจุบันแววตาของเขามีเพียงแต่ความว่างเปล่าราวกับว่าเขากำลังถูกสะกดจิต!
‘เสียงพิฆาต! ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้ใช้พลังสายพิเศษ!’
ผู้มีพลังสายความแข็งแกร่งและสายความเร็วมักที่จะพบเห็นได้บ่อยที่สุดในหมู่ผู้ที่มีพลังพิเศษด้วยกัน แต่นอกเหนือจากพลังพิเศษทั้งสองสายนี้แล้วมันก็ยังมีผู้ที่ใช้พลังสายพิเศษอยู่ด้วย
ในเหล่าบรรดานักรบที่สามารถปลดล็อกพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้มันก็มีนักรบอยู่เป็นจำนวนน้อยกว่า 5% ที่จะได้รับความสามารถพิเศษที่หายากและไวลด์โรสก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถพิเศษเหล่านั้น
ความสามารถพิเศษของไวลด์โรสคือเธอสามารถทำการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงออกมาซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อสมองของเป้าหมายโดยตรงและมันก็จะทำให้เป้าหมายไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ชั่วคราว
ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยยังไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เขาก็คงจะต้องตกอยู่ในอันตรายจนถึงแก่ชีวิต!
ย๊าก!!
ในขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็กำลังพยายามเบ่งพลังออกไปสุดแรงจนทำให้มีเส้นเลือดปูดโปนปรากฏขึ้นทั่วทั้งใบหน้า ซึ่งการพยายามฝืนควบคุมร่างกายของตัวเองนี้มันก็ทำให้ทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มกำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
เซลล์ทุกเซลล์ภายในร่างกายของเขากำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อต่อต้านการควบคุมจากไวลด์โรสแล้วมันก็ทำให้หญิงสาวผู้นี้กำลังรู้สึกตื่นตระหนกอย่างแท้จริง
เธอไม่เคยเห็นภาพที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อนเลยเพราะมันไม่เคยมีใครหนีจากการควบคุมของเธอได้ แต่หลังจากที่เธอได้เห็นภาพที่เซี่ยเฟยกำลังพยายามต่อต้านการควบคุมของเธออย่างหนักมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก
‘ฉันจะต้องหยุดเขาเอาไว้ให้ได้’
ไวลด์โรสรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อทำการควบคุมเซี่ยเฟยเอาไว้และเธอก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าถ้าหากเธอไม่สามารถควบคุมเด็กหนุ่มคนนี้เอาไว้ได้เธอก็จะต้องพบกับความตายอย่างแน่นอน
สถานการณ์นี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในความตึงเครียดอย่างแท้จริงและถึงแม้ว่ามันจะมีเลือดสีแดงสดหยดย้อยลงมาจากรูจมูกของไวลด์โรสแต่เธอก็ไม่สนใจที่จะเช็ดเลือดเหล่านี้เลยแม้แต่นิดเดียว
ย๊าก!!
ชึก!
เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนขึ้นมาสุดแรงก่อนที่เขาจะตัดสินใจแทงโกลเดนสทิงเกอร์ลงไปที่ต้นขาของตนเอง!!
เมื่อความรู้สึกปวดร้าวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งต้นขาเซี่ยเฟยก็สามารถกลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง!
‘เขาทำร้ายตัวเองเพื่อทำลายการควบคุมจากฝ่ายตรงข้าม นี่มันเป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่นจนเกินไปแล้ว!’
ฉึบ!
พริบตาต่อมามือขวาของเซี่ยเฟยก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นเส้นแสงสีทองอีกครั้ง ก่อนที่คอสีขาวสะอาดของไวลด์โรสจะได้ปรากฏรอยกรีดสีแดงอันสวยงามขึ้นมา
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่มีเสียงใด ๆ ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของไวลด์โรสจะได้ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น
สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ดวงตาของเซี่ยเฟยได้กลายเป็นสีแดงก่ำและเขาก็เดินไปหยิบชุดเครื่องมือปฐมพยาบาลจากรถกระบะก่อนที่จะเริ่มทำความสะอาดบาดแผลที่ต้นขาของตัวเอง
ความสงบนิ่งของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัว เพราะความสงบนิ่งนี้มันก็เหมือนกับว่าเขามีประสบการณ์ในการสังหารมาอย่างโชกโชนและเป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับความตายมาเป็นเวลาเนิ่นนาน
ในระหว่างนั้นอันธก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเฟยอย่างเงียบงันในขณะที่ภายในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม
เมื่อเซี่ยเฟยจัดการรักษาบาดแผลตัวเองเรียบร้อยแล้วเขาก็โยนศพทั้งสองเข้าไปในป่าพร้อมกับผลักรถเก๋งสีดำลงไปในลำธารข้างถนน
“พวกเราไปกันเถอะ มันยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งวันก่อนที่พวกเราจะไปถึงแกรนด์แคนยอน”
***************
ช็อตโชว์ของพี่เฟยแมร่งเท่ไม่ไหว!!