ตอนที่ 17: บนถนน
ตอนที่ 17: บนถนน
ช่วงเวลาปัจจุบันเพิ่งจะผ่านพ้นเดือนพฤษภาคมไปเพียงแค่ไม่นาน ซึ่งมันเป็นช่วงฤดูมรสุมภายในมหาสมุทรแอตแลนติก ดังนั้นการพยายามออกสำรวจทะเลในช่วงเวลานี้อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต มันจึงทำให้โครงการสำรวจแอตแลนติสถูกกำหนดให้เริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม
ด้วยเหตุนี้เองเซี่ยเฟยจึงสามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการเพิ่มระดับความสามารถของเขาได้และสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนในตอนนี้ก็ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับแกรนด์แคนยอนของรัฐแอริโซนา
แกรนด์แคนยอนเป็นพื้นที่ที่แทบจะไม่มีร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์และยานพาหนะธรรมดาก็ไม่สามารถที่จะเดินทางเข้าไปสู่แกรนด์แคนยอนได้
ขณะเดียวกันไบเทคออโตโมบิลก็เป็นศูนย์กลางทางการค้ารถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในนิวยอร์ก ซึ่งในพื้นที่กว้างใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ก็มีรถยนต์จอดอยู่เป็นจำนวนหลายพันคัน
รถยนต์ภายในร้านมีตั้งแต่ซุปเปอร์คาร์ราคาหลายล้านไปจนถึงรถยนต์โดยสารทั่วไปที่มีราคาเพียงแค่ 20,000 แอลไลคอยน์ ซึ่งมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายว่าสถานที่แห่งนี้มีรถให้เลือกซื้อไปใช้งานมากมายหลากหลายขนาดไหน
ทันทีที่เซี่ยเฟยเดินทางมาถึงร้านมันก็มีชายหนุ่มผู้สวมหมวกเบสบอลของทีมนิวยอร์กแยงกีส์เดินเข้ามาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม
ท้ายที่สุดเบสบอลก็เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดภายในอเมริกาและมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องเป็นแฟนเบสบอลอย่างแน่นอน
“สนใจรถแบบไหนครับคุณลูกค้า” ชายหนุ่มกล่าวทักทายด้วยความกระตือรือร้น
“ฉันต้องการรถออฟโรดขนาดใหญ่และสามารถเดินทางแบบวิบากได้ มันจะดีมากถ้าหากว่ามันเป็นรถที่สามารถดัดแปลงได้” เซี่ยเฟยกล่าว
การเดินทางในครั้งนี้เขาจำเป็นที่จะต้องเตรียมอาหารและวัตถุดิบผสมน้ำยาไปเป็นจำนวนมากและด้วยการที่เขาจะต้องเดินทางไปฝึกฝนเป็นเวลา 2-3 เดือน รถออฟโรดขนาดเล็กจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขา
“มันช่างเป็นเรื่องที่น่าบังเอิญจริง ๆ เลยครับ เพราะตอนนี้พวกเรากำลังมีรถฮัมเมอร์ H2 รุ่นดัดแปลงลดราคาอยู่ ตัวรถอยู่ทางโน้นคุณลูกค้าสนใจจะลองไปดูมันหน่อยไหมครับ”
“ไม่ล่ะ รถรุ่นนี้มีขนาดเล็กมากเกินไป ไม่ทราบว่าในร้านมีฟอร์ด F650 รึป่าว?”
เมื่อได้ยินความต้องการจากลูกค้ามันก็ทำให้พนักงานหนุ่มรู้สึกตกใจอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปว่า
“แน่นอนครับพวกเรามีรถรุ่นนี้อยู่ เชิญตามผมมาได้เลย แต่รถรุ่นนี้เป็นรถแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้รับการดัดแปลงนะครับ”
ประเทศสหรัฐอเมริกามีพื้นที่อันกว้างใหญ่มันจึงทำให้พื้นที่บางแห่งมีประชากรอาศัยกันอยู่อย่างเบาบาง แต่เลือดคาวบอยก็ยังคงแฝงอยู่ใน DNA ของพวกเขาอยู่ดี ดังนั้นรถกระบะออฟโรดจึงเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมในอเมริกามาก
ตามสถิติรถที่ถูกขายออกไปในอเมริกา 100 คันจะเป็นรถกระบะถึง 50 คันเลยทีเดียวและด้วยสถิติเช่นนี้มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าชาวอเมริกันมีความชื่นชอบรถกระบะมากแค่ไหน
บริเวณไกลออกไปมีรถกระบะสีขาวสูงใหญ่ได้จอดอยู่ โดยมันเป็นรถรุ่นฮัมเมอร์ H2 ขนาดใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งด้วยขนาดของมันก็ทำให้ไม่มีที่จอดรถในประเทศไหน ทำช่องจอดรถเอาไว้เพียงพอต่อขนาดของรถคันนี้อย่างแน่นอน
แต่ถึงกระนั้นรถฟอร์ด F650 ก็มีขนาดใหญ่กว่ารถฮัมเมอร์ H2 จำนวน 2 คันรวมกัน ถ้าหากว่าใครต้องการที่จะขึ้นไปนั่งบนรถพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องปีนบันไดสแตนเลสด้านข้างของตัวรถขึ้นไปและแม้แต่นักกีฬาบาสเกตบอลที่มีขนาดความสูงกว่า 2 เมตรก็ยังตัวเตี้ยกว่ารถคันนี้อยู่ดี
รถเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นรถรุ่นพิเศษสำหรับประเทศอเมริกาอย่างแท้จริง เพราะประเทศอื่น ๆ คงจะไม่มีวันผลิตรถขนาดใหญ่แบบนี้ออกมาอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดความต้องการของรถขนาดใหญ่แบบนี้มันก็มีอยู่น้อยมาก ดังนั้นหากใครไม่ได้ศึกษาตลาดมาอย่างดีการนำรถรุ่นนี้ไปขายก็อาจจะทำให้พวกเขาล้มละลายได้เลย
เซี่ยเฟยลองเอากำปั้นทุบลงไปที่ตัวถังของรถเบา ๆ และมันก็มีเสียงแน่น ๆ สะท้อนกลับมาซึ่งมันได้แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้มีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน
“รถคันนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลคัมมินส์ขนาด 6.7 ลิตร 300 แรงม้า มันสามารถปีนขึ้นบนพื้นที่ที่มีความชันถึง 45 องศาได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังสามารถเดินทางไปยังพื้นที่วิบากได้อย่างยอดเยี่ยมและถึงแม้ว่ามันจะได้บรรทุกของเอาไว้ถึง 4 ตันแต่มันก็ยังสามารถเดินทางบนทะเลทรายโกบีได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะครับ” พนักงานหนุ่มกล่าวอธิบาย
“ฉันเอาคันนี้แหล่ะ แต่มันต้องเพิ่มถังน้ำมันสำรองอีก 2 ถัง, เพิ่มแผ่นเหล็กกันรอยที่ตัวถัง, เปลี่ยนยางเป็นแบบออฟโรด, ที่เติมลมแบบอัตโนมัติ, ติดตั้งระบบกันสะเทือนเป็นแบบถุงลม, ช่วยติดไฟสปอร์ตไลท์ส่องถนนเอาไว้บนหลังคา 4 ดวงแล้วก็ถอดเบาะหลังของรถออก ใส่ตู้เซฟสำหรับการเดินทางเข้าไปแทน”
พนักงานหนุ่มรีบจดตามคำขอของเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็วและไม่สามารถที่จะระงับความตื่นเต้นภายในใจของเขาได้ เพราะท้ายที่สุดราคาของรถเปล่า ๆ คันนี้ก็อยู่ที่ 950,000 แอลไลคอยน์ ถ้าหากว่ามันได้รวมการแต่งรถที่เซี่ยเฟยได้บอกมาเขาก็จะได้ค่านายหน้าจากการขายรถไม่น้อยไปกว่า 10,000 แอลไลคอยน์เลยทีเดียว ซึ่งเงินจำนวนนี้มันเกินกว่าเงินเดือนของเขาไปแล้ว
“ถ้าคุณลูกค้าเพิ่มไฟที่หน้ารถกับเปลี่ยนระบบเสียงเป็นซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ ผมเชื่อว่าคุณลูกค้าจะสามารถดึงดูดสาว ๆ บนท้องถนนได้อย่างแน่นอนเลยครับ” พนักงานหนุ่มพยายามกล่าวแนะนำเพิ่มเติม
“เฮ้พี่ชาย! ฉันซื้อรถคันนี้เอาไปใช้ประโยชน์ไม่ใช่ซื้อไปล่อสาว แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ฉันไม่ต้องการอะไรที่มันเด่นสะดุดตาแม้แต่นิดเดียว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
—--
2 วันต่อมาเซี่ยเฟยกับรถกระบะคันใหม่ที่บรรทุกสัมภาระเต็มทั้งคันก็วิ่งอยู่บนทางหลวงที่มุ่งหน้าเข้าสู่รัฐแอริโซนา
ขณะเดียวกันด้านหลังของรถกระบะก็มีรถเก๋งสีดำตามมาอย่างใกล้ชิด บนรถมีชายชาวเอเชียที่สวมแว่นนั่งอยู่ส่วนข้าง ๆ เขาก็เป็นหญิงสาวชาวยุโรปที่แต่งตัวค่อนข้างที่จะเปิดเผย
“แมดแมนทำไมไวเปอร์ถึงให้พวกเราสองคนมาด้วยกัน ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าพวกเราเหม็นขี้หน้ากันแค่ไหน นี่ถ้าหากว่าฉันควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วฆ่านายล่ะจะทำยังไง” หญิงสาวกล่าวถามพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
ขณะเดียวกันชายหนุ่มที่ขับรถอยู่ก็ไม่ได้แม้แต่จะเหลือบสายตาไปมองหญิงสาวเซ็กซี่คนนี้แม้แต่นิดเดียวก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกมาว่า
“อู่หลงมีพลังพิเศษสายความแข็งแกร่งระดับสตาร์ไลท์ขั้นกลางและเขาก็ค่อนข้างที่จะมีประสบการณ์ในการต่อสู้พอสมควร แต่เขาไม่ใช่คนที่ต่อสู้อย่างฉลาดมากนักและมักที่จะเคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่ามอยู่เสมอ ลักษณะของเขาคนนี้มันก็แพ้ทางสไตล์การต่อสู้คุณและมันก็ทำให้คุณสามารถที่จะจัดการกับเขาได้อย่างง่ายดาย”
“ส่วนทางด้านของเซี่ยเฟยก็มีพลังพิเศษด้านความเร็วอยู่ในระดับสตาร์ไลท์ขั้นพื้นฐาน ในแง่ของความเร็วเขาก็ไม่สามารถที่จะติดตามการเคลื่อนไหวของฉันได้ ดังนั้นพวกเราทั้งสองคนจึงเหมาะสมสำหรับการปฎิบัติการในครั้งนี้มากที่สุด” แมดแมนกล่าวขึ้นมาอย่างมีเหตุผลแล้วมันก็คงจะไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าทำไมคนที่เงียบขรึมอย่างเขาถึงได้มีฉายาว่าแมดแมน
“แค่สองคน? แล้วตาแก่อันเดร์คนนั้นล่ะ การป้องกันจากตระกูลของพวกเขาเป็นเหมือนกับป้อมปืนและพวกเราก็คงจะไม่สามารถจัดการกับเขาได้ง่าย ๆ” ไวลด์โรสกล่าวถาม
แมดแมนเผยรอยยิ้มออกมา ท้ายที่สุดเมื่อได้พิจารณาจากลักษณะท่าทางของเขาแล้วชายคนนี้ก็ดูไม่ต่างไปจากพนักงานออฟฟิศโดยทั่วไป
“นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกหรอว่าไวเปอร์ยังไม่ต้องการให้อันเดร์ตาย เพราะถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะจัดการอันเดร์จริง ๆ เขาก็คงจะส่งนินจาหรือแบล็คแคทมาไม่ใช่เรา” แมดแมนกล่าว
“ทำไมล่ะ? ไรนอร์ต้องการที่จะจัดการกับพวกเขาทั้งสามคนไม่ใช่หรอ ถ้าหากว่าอันเดร์ยังไม่ตาย ไวเปอร์ก็คงจะโดนหาเรื่องอีกแน่ ๆ” ไวลด์โรสกล่าวถามขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ
มันเคยมีคำกล่าวโบราณเอาไว้ว่าขนาดหน้าอกของผู้หญิงมักที่จะแปลผกผันกับรอยหยักในสมอง ซึ่งไวลด์โรสก็คงจะเป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่ถูกกล่าวเอาไว้ในสมัยโบราณพวกนั้น
เมื่อได้ยินคำถามจากไวลด์โรสแมดแมนก็เหลือบมองไปยังหน้าอกของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่เขาจะส่ายหัวไปมาพร้อมกับถอนหายใจ
‘เฮ้อ...ผู้หญิงเนี่ยนะ’
“ฉันขอบอกไว้เลยว่าการที่นายทำตัวแบบนี้เป็นสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด จำเอาไว้ว่าสักวันนึงฉันนี่แหละจะเป็นคนฆ่านายด้วยมือของฉันเอง” ไวลด์โรสกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเฉยเมยก่อนที่เธอจะนำบุหรี่ของเธอขึ้นมาสูบ
“คุณรู้ไหมว่าทำไมไวเปอร์ถึงส่งพวกเรามาทำภารกิจด้วยกันทั้ง ๆ ที่พวกเราเกลียดขี้หน้ากัน?”
"ทำไม?"
“เพราะคุณฆ่าฉันไม่ได้”
หลังแมดแมนพูดจบทั้งตัวรถก็ตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่หนึ่งก่อนที่ไวลด์โรสจะยกขาขึ้นมาพาดคอนโซลหน้ารถ พร้อมกับปรับเอนเบาะนอนลงไปอย่างสบาย ๆ
“อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้อะไรเลย ไวเปอร์ก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน ความคิดของเขาหมกมุ่นอยู่แต่กับเมืองโบราณใต้น้ำลึกลับนั่น เขาจึงยังไม่ต้องการให้พวกเราฆ่าอันเดร์ เอาล่ะฉันง่วงแล้ว ถึงเวลาที่ต้องลงมือก็ปลุกฉันด้วย”
เมื่อไวลด์โรสหลับตาเธอก็ส่งเสียงพึมพำออกมาว่า
“ถ้าหากว่าฉันตั้งใจที่จะฆ่าใครซักคนจริง ๆ มันก็ไม่มีใครหลบหนีไปจากเงื้อมมือของฉันได้ แม้แต่คุณมันก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!”
ทันทีที่ไวลด์โรสพูดจบแมดแมนก็หันไปมองหญิงสาวคนข้าง ๆ พร้อมกับขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอันจริงจังว่า
“ทำไมไม่ใส่กางเกงใน!!”
—--
เมื่อเซี่ยเฟยได้เหลือบสายตามองไปยังกระจกหลังเขาก็ได้เห็นว่ารถเก๋งสีดำยังคงตามหลังเขามาอย่างใกล้ชิด โดยรถคันนี้ได้เว้นระยะห่างเอาไว้ 50 เมตรตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้มันเป็นจุดสังเกตมากจนเกินไป
“อันธพวกเรากำลังถูกตาม” เซี่ยเฟยกล่าว
“โอ้… นายรู้ไหมว่าวิธีที่ฝึกฝนที่ดีที่สุดคืออะไร?” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
***************
ทำไมไม่ใส่กางเกงใน! 55555