ตอนที่ 1334 ข้าคือผู้ไร้เทียมทาน
ความดำรงคงอยู่ของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้
ฉายาคำพ้องทั้งหมดที่ใช้กับเขาดูเหมือนจะเป็นคำที่ไร้ประโยชน์สิ้นเชิงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบาย เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกไม่มีใครเหนือกว่าเขาทั้งในแดนสวรรค์บนและหอทงเทียน ในโลกทั้งสิ้นมีเขาเพียงคนเดียวที่คู่ควรกับคำเรียกว่าไร้เทียมทาน ในเรื่องนี้แม้แต่มังกรปีศาจที่ต่อสู้กับเขามาสองสามวันก็ยังเห็นด้วยอย่างมากจักรพรรดิไร้เทียมทานผู้นี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สามารถท้าทายได้อย่างแน่นอน! หากมีทางอื่นให้เลือกมังกรปีศาจจะไม่ต่อสู้กับเขาแน่นอน!
พอสู้เท่านั้น
เขาจึงได้รู้และเข้าใจว่าคู่ต่อสู้ผู้นี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ตอนนี้จื้อจุนคนปัจจุบันเป็นผู้เยาว์รุ่นหลังนอกจากนั้นนางยังเป็นสตรีที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่านางอ่อนแออยู่เสมอนางกล้าใช้คำพูดท้าทายผู้อาวุโสซึ่งไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาหลายพันปีแล้วมังกรปีศาจรู้สึกตกใจ
อย่างน้อยที่สุดความกล้าหาญของนางก็ยังโดดเด่นจากผู้กล้าหาญทั้งหลาย
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า แม่สาวน้อย อย่าว่าแต่เจ้าฝึกฝนมาเพียงพันปีเท่านั้น ต่อให้เฟ่ยเหวินหลีที่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาหมื่นปีแม้ว่านางจะเป็นนางพญาผู้พิชิตผู้กวาดล้างไปทั้งโลก แต่เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะยอมอ่อนข้อให้กับนาง! แม้แต่นิดเดียว! แม่สาวน้อยเจ้ากลับไปฝึกต่ออีกสักหลายหมื่นปีจากนั้นค่อยมาท้าทายข้า!” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อส่งเสียงเย็นชาร่างเทพของเขาเทียบได้กับดวงอาทิตย์
เขายกมือขวาและกดลงพลังเทพที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเทียบทะลุทะลวงไปทั้งโลกบันไดสวรรค์ชั้นที่สิบที่พังทลายจากนั้นด้วยเจตจำนงราชันย์ที่ไม่มีใครต้านได้แผ่ออกไปจนถึงที่สุดโลก
ในชั่วพริบตาตอนนี้
แผ่นฟ้าและพื้นดิน
มีแต่เพียงเจตจำนงของเขานอกจากนั้นไม่มีสิ่งอื่นที่จะอยู่ร่วมได้
“หือ?” มังกรปีศาจรู้สึกว่ามีแสงสาดเจิดจ้าอยู่ข้างหน้าเขาและเมื่อมองดูอีกครั้งเขาพบว่าตัวเขาถูกโยนออกมาจากบันไดสวรรค์ชั้นสิบด้วยพลังกฎสวรรค์ของจักรพรรดิไร้เทียมทานทั้งยังกระเด็นออกนอกหอทงเทียนกลับไปยังแดนสวรรค์ ทันใดนั้นเขาระเบิดความโกรธออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิดมังกรปีศาจยื่นมือสีทองออกมาฉีกมิติโดยที่ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอยู่ในแดนสวรรค์แล้ว เขาคำรามใส่ท้องฟ้า “จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ เจ้าบัดซบ เจ้ายั่วโมโหข้าเกินไปก่อนหน้านี้เจ้ายังแสดงความแข็งแกร่งได้ เจ้าอย่าได้ดูถูกข้ามังกรปีศาจ ถ้าเจ้าต้องการทำอย่างนี้กับข้าข้าจะทุ่มพลังสู้โดยไม่สนใจเลยว่าหอทงเทียนจะพังทลาย มันไม่ใช่กงการอะไรของข้า เป็นเพราะตัวบัดซบอย่างเจ้าเจ้าบังอาจเก็บซ่อนพลังเอาไว้...”
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาถูกโยนไปไกลจากหอทงเทียนและเขามีพลังเทพ เขาต้องการกลับไปประลองทันที แต่ว่าอาจเป็นไปไม่ได้
มิติในแดนสวรรค์ซับซ้อนและมีทางเดินมากมาย
ถ้าไม่มีการนำทางเป็นไปไม่ได้ที่จะหาตำแหน่งหอทงเทียนภายในช่วงเวลาสั้นๆ
“มันน่ารำคาญจริงๆ ต้องใช้ความพยายามมากในที่สุดก็กำจัดเจ้าวัวบ้านี้ได้! ถูกผนึกมาแสนปีเจ้าผู้นี้ยังสงบเจียมตัวขึ้นมาบ้าง มาต่อขั้นตอนต่อไปเถอะ เสียเวลามามากแล้ว” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออึดอัดใจ ที่สำคัญหมัดของมังกรปีศาจ ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไร
ก่อนที่มังกรปีศาจจะกลับมาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อตัดสินใจกระทำการบางอย่าง
ตามแผนการของเขา
ตอนนี้ได้เวลาดำเนินการขั้นตอนที่สอง
ขณะที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเตรียมจะเทเลพอร์ตจากบันไดสวรรค์ชั้นสิบเขาหยุดนิ่งและหันหน้ากลับมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นเจ้าไม่ได้ถูกขับออกไปภายใต้กฎไร้เทียมทานของหรือ?
ร่างของจื้อจุนเหมือนกับดวงอาทิตย์อุทัย ค่อยๆปรากฏตัวทีละนิดๆ
ใบหน้าของนางยังคงสงบเหมือนเมื่อก่อน “ผู้อาวุโส,กฎไร้เทียมทานของท่านแข็งแกร่งมาก อธิบายได้ว่าทั้งโลกและสวรรค์ไม่มีใครเทียบเมื่อลงมือโจมตีแม้แต่มังกรโง่ตัวโตยังถูกท่านขับไล่ออกไปได้แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าท่านจะทำทุกอย่างได้ตามต้องการ ข้าคือจื้อจุนแห่งหอทงเทียน และข้าเป็นมาตลอดไม่เพียงแต่อดีตและปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังรวมถึงอนาคตด้วย!”
แสงเทพที่ควบรวมกันเหมือนแก้วผลึกไม่รั่วไหลออกจากผิวบางๆของจื้อจุนแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเพราะพลังเทพนี้ทำให้เกิดพลังกฎสวรรค์ที่สามารถรักษาตัวตนที่เป็นนิรันดรได้ภายใต้กฎไร้เทียมทานของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ
“กฎสวรรค์ที่เจ้ารู้แจ้งคือกฎราชันย์ ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ!” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแสดงสีหน้าตกใจเป็นครั้งแรก “เป็นไปได้อย่างไรเจ้าฝึกฝนมาเพียงพันปีเท่านั้น...นอกจากนี้ในโลกเบื้องล่างและสวรรค์เบื้องบนให้กำเนิดกฎราชันย์ได้อย่างไร?นี่ไม่ใช่สิ่งที่สตรีจะเข้าใจได้! เฟ่ยเหวินหลียังไม่กล้าฝึกแนวนี้เจ้าทำได้ยังไง?”
“สตรีไม่สามารถเป็นราชันย์ได้หรือ?” จื้อจุนไม่เคยรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา
“......” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่รู้จะพูดอย่างไรดูเขาไม่รู้จริงว่าสาวน้อยที่อยู่ต่อหน้าเขาฝึกฝนมาอย่างไรเขาไม่รู้ว่าอาจารย์แบบไหนสอนนางในสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องต่ำมีแต่วิถีราชันย์ที่เขาฝึกเท่านั้น
เขาหลับจำศีลอยู่ในเจดีย์ดำและไม่รู้ว่าสตรีที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่มีอาจารย์
นางรู้แจ้งด้วยตนเอง
ฝึกฝนด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์เบื้องบนหรือโลกเบื้องล่างนางฝึกฝนด้วยตนเองรู้แจ้งด้วยตนเอง อาศัยสัญชาตญาณหาแนวทางฝึกฝน
บางทีความสันโดษเดียวดายเป็นอาจารย์ของนาง ในท่ามกลางความเดียวดายไม่สิ้นสุดหลายปีนางรอวันที่น้องชายนางถือกำเนิดมีแต่เพียงความเดียวดายที่ทำให้นางกลายเป็นราชันย์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
“ผู้อาวุโส! เรามาสู้กันเถอะ ข้าต้องการเห็นจริงๆว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อผู้ที่ไม่มีผู้ใดสู้ได้มาหลายหมื่นปีจะมีพลังยิ่งใหญ่ที่แท้จริงซ่อนอยู่ขนาดไหน”จื้อจุนไม่ได้เรียกคัมภีร์อัญเชิญแต่ปล่อยพลังในกายที่บีบอัดไว้ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ร่างเทพสูงมากกว่าหกกิโลเมตรลอยอยู่ด้านหลังนาง
ลักษณะของนางไม่ต่างจากจื้อจุน
แต่บนศีรษะสวมมงกุฏทรงคุณค่าและมีอัญมณีวิญญาณประดับอยู่ในมงกุฏฉายประกายแสงเรืองรองถึงหมื่นลูก
หน้าผากเปล่งประกายแสงเหมือนหยกใสแสดงถึงประกายเทพเพียงหนึ่งเดียวเกราะเทพราชันย์ที่คลุมไปทั้งตัว และวงจักรรัศมีฉายแสงเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ด้านหลังของนางเมื่อมองดูก็รู้ว่าเป็นประกายเทพของเทพสายบู๊
“สูงหกพันเมตรและยังเป็นการปลดปล่อยพลังครั้งแรก...” จักรพรรดิไร้เทียนทานจิ๋วซื่อตกใจเมื่อพบว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนทัศนคติของเขาอย่างเร่งด่วนหลังจากฝึกฝนมาเพียงพันปี นางมีความสูงถึงหกพันเมตรได้อย่างไม่น่าเชื่อ สาวน้อยนางนี้ฝึกฝนมาอย่างไรกันแน่? มิน่าเล่านางถึงท้าทายเขาด้วยคำพูดที่ชัดเจนสาวน้อยที่เรียกตัวเองว่าจื้อจุนชาวมนุษย์นี้ เขาจะประมาทนางไม่ได้!
“ดาบ” จื้อจุนรู้ถึงความห่างระหว่างหกพันเมตรกับหมื่นเมตรดีนางไม่กล้าถือดีได้แต่เตรียมพร้อม
จากนั้นพลังเทพถูกปลดปล่อยจากร่างนางเป็นครั้งที่สอง
ไม่มีการเพิ่มขนาดของร่างเทพหกพันเมตรที่ลอยอยู่หน้าร่างเทพจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อขนาดหมื่นเมตรก็เหมือนนักรบหญิงเมื่ออยู่ต่อหน้ายักษ์ก็ยังสามารถมองดูอย่างเท่าเทียมกันได้
อย่างไรก็ตามหลังจากพลังเทพระเบิดขยายออกก็ผสานเข้ากับอาวุธเทพร่างมนุษย์ซึ่งเดิมทีบินวนอยู่รอบไหล่นางได้ผสานพลังกลายเป็นนางฟ้าสิบแปดปีกขนาดสามพันเมตรทันที จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมองดูด้วยความตกตะลึงทำไมนางไม่เพิ่มพลังเทพที่นางฝึกฝนขึ้นมา แต่กลับถ่ายเทลงในอาวุธเทพร่างมนุษย์แทนอย่างนี้จะมิเป็นการสิ้นเปลืองพลังเกินไปหรือ? อาจารย์นางไม่ได้สั่งสอนหรือว่าพลังเทพใช้เสริมพลังให้กับตนเองนั่นคือความสำเร็จที่แท้จริง?เห็นได้ชัดว่ามีความผิดพลาดในเส้นทางการฝึกฝนของสาวน้อยคนนี้! ในทางกลับกันถ้าการฝึกฝนของนางผิดพลาดแล้วนางมีความสำเร็จระดับสูงแบบนี้ได้อย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทันทีที่จื้อจุนเหยียดมือออก นางฟ้าปีกโลหิตร่างเปลี่ยนเป็นสายรุ้งงดงามไม่มีที่สิ้นสุด
กลายเป็นดาบ
ในระนาบแนวนอนด้านหน้าจื้อจุนคือดาบแห่งชีวิตขนาดสามกิโลเมตร
เมื่อร่างเทพที่อยู่ด้านหลังจื้อจุนถือดาบและผ่อนคลายปราณทั่วทั้งบันไดสวรรค์ชั้นที่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งราชันย์ล้วนต่างหมอบคำนับ แม้แต่ร่างเทพของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเท้ายังจมลงไปในพื้นจนถึงเข่า
ในเวลานี้สายตาของร่างเทพจื้อจุนมองไปที่ร่างเทพที่จมลึกในพื้นนอกจากนี้ในมือของนางยังมีดาบเทพแห่งชีวิต
“น่าสนใจ ทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจมาก”จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อยิ้มขณะมองขึ้นไปบนฟ้า สาวน้อยข้างหน้าเขาได้รับการยอมรับว่าคู่ควรกับการเป็นคู่ต่อสู้เหมือนกับมังกรปีศาจก่อนหน้านี้
“บุก!”
จื้อจุนโบกมือไปข้างหน้า
ร่างเทพจื้อจุนที่อยู่ข้างหลังนางฟันดาบใส่ร่างเทพจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อขนาดหมื่นเมตรทันที
พื้นฟ้าพื้นดินถูกฉีกออกจากกันดาบเทพแห่งชีวิตผ่านไปตรงที่ใดมิติจะขาดวิ่นถาวรแทบลบไม่ออก... ภายใต้พลังดาบจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อใช้พลังสุริยันต์จันทราสู้กับมังกรปีศาจอย่างดุเดือดมาแล้ว เขายกมือข้างหนึ่งค้ำฟ้าสร้างโล่พลังงานขณะต้านรับดาบแห่งเทพแห่งชีวิตเขาใช้หมัดต้านรับพลังดาบเทพชีวิตที่รุนแรงข้างหน้า
หนึ่งหมัดต้านหนึ่งดาบ
นี่คือคำตอบที่ไม่มีใดเทียบของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ
แม้ว่าผู้เยาว์ที่โดดเด่นที่สุดซึ่งท้าทายเขาจะเป็นสตรีผู้งดงามและกล้าหาญอย่างไม่มีใครเทียบได้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ก็ตาม
มังกรปีศาจยังไม่สามารถมีเปรียบเขาได้ตอนนี้ผู้เยาว์รุ่นหลังนี้ก็ไม่สามารถทำได้ อย่าว่าแต่นางเลย ต่อให้นักสู้ผู้บ้าคลั่งวิทยายุทธ์แห่งแดนสวรรค์บนมาเองก็ยังจะได้รับคำตอบที่เหมือนกัน
เพราะเขาคือจิ๋วซื่อ!
จื้อจุนและร่างเทพด้านหลังนางถูกพลังสะท้อนถอยไปสองร้อยกิโลเมตร
เหนือพื้นโลกมีร่องลึกนี่คือคำตอบของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อที่มีต่อผู้ท้าทายในโลกทุกคนข้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!
“เป็นดาบที่รวดเร็วมาก!”จักรพรรดิไร้เทียนทานจิ๋วซื่อใช้หมัดต่อยกระเด็นออกไป แต่สีหน้าของเขาไม่มีร่องรอยว่าพอใจ ตรงกันข้าม เขามีสีหน้าจริงจัง รัศมีเทพ เนตรสุริยันต์จันทราฉายแววคลั่งไคล้บ้าการต่อสู้เขาเพียงแต่ใช้ฝ่ามือซ้ายเป็นโล่เทพและพบว่ามีบาดแผลปรากฏสามนิ้ว
นั่นคือพลังดาบเทพชีวิตของจื้อจุนสามารถทิ้งรอยไว้บนโล่เทพได้
ถ้าไม่ใช่เพื่อป้องกันดาบจนเขาต้องใช้หมัดพิโรธของตนเองเชื่อได้ว่าบาดแผลที่ได้รับคงไม่ใช่แค่สามนิ้ว จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อลูบซี่โครงและสะเอว ที่มีรอยเท้าเล็กๆประทับไว้
รอยเท้านี้ไม่ใช่เพราะมังกรปีศาจแต่เป็นการตอบโต้ของจื้อจุนก่อนอที่จะรั้งดาบกลับไปป้องตน
“เป็นสาวน้อยที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆดีจริง!” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อในตอนนี้เข้าใจความจริงเกี่ยวสาวน้อยที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ได้น่ารำคาญไปกว่ามังกรปีศาจเมื่อก่อนหน้านี้ อย่างน้อยความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของนางไม่ได้เป็นรองเจ้ามังกรปีศาจหัวดื้อผู้นั้น จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อลอบถอนหายใจ “ข้าชักอยากจะสู้กับเจ้าแล้ว เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่หาได้ยากคนหนึ่ง น่าสนใจมากกว่าเจ้ามังกรปีศาจ”
“....” จื้อจุนรอคอยเงียบๆ นางรู้ว่าจักรพรรดิจิ๋วซื่อไม่ได้พูดหมายความเช่นนั้น
“น่าเสียดายที่ข้าสัญญากับคนอื่นไว้ ตอนนี้ข้ามีงานอื่นยุ่งอยู่” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกางมือและกดรวบหากันพลังเทพของเขากวาดไปทั่วทั้งโลก เหลือไว้แต่เสียงของเขา “ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่เจดีย์ดำและเย่ว์หยางหรือเย่ว์ไตตันผู้นั้นด้วย”
*** *** ***