ตอนที่ 1327 ฆ่าทันที? ข้าต้องการพูดเหมือนกัน
ประตูแดนสวรรค์
เย่ว์หยางจากไปแล้วและเขาไม่รู้ว่าจะเทเลพอร์ตไปยังโลกไหน
ประตูล่องหนยังคงตั้งอยู่ตรงกลาง... ประตูล่องหนแต่ละบานมีลวดลายอักขระรูนโบราณที่แตกต่างกันส่องแสงประกายสดใสที่แตกต่างกันและยังเป็นสัญลักษณ์ความหมายที่แตกต่างกันเมื่อเย่ว์หยางหายตัวไปมีเงาร่างปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ ข้างประตูล่องหนทั้งห้าและสังเกตอย่างระมัดระวังและไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งคาดเดาความหมายที่แท้จริงของอักขระรูนโบราณข้างต้น
น่าเสียดายที่ไม่ว่าร่างเงานี้จะมองหรือคาดเดาอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าความจริงที่แฝงไว้เบื้องหลังคืออะไร
บางทีอาจเป็นเพราะความอยากรู้
ในที่สุดเงาร่างนั้นเลือกสอดแนมต่อไป
ร่างค่อยๆ โปร่งใสกลืนเข้าไปกับอากาศและจากนั้นก็หายไปทันทีในประตูแดนสวรรค์บานหนึ่ง
ประตูของโลกแดนสวรรค์ที่ไม่มีใครเข้ามาก่อนจู่ๆ ก็มีคนเข้ามาอีกครั้ง เป็นบุรุษร่างอ้วน ตามข้อมูลที่มนุษย์เงามีอยู่เจ้าอ้วนผู้นี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่าจอมปีศาจอ้วน หรือเจ้าอ้วนชั่วร้ายเป็นสหายร่วมกลุ่มที่ดีที่สุดและหนึ่งในผู้ติดตามที่ดีที่สุดของเย่ว์ไตตัน
เจ้าเด็กผู้นี้จะว่าไปไม่ใช่มนุษย์ไม่ใช่อัจฉริยะ
แต่ความเร็วและขอบเขตในการฝึกฝนของเขา
ไม่เป็นรองอัจฉริยะใดๆ ในโลก
นอกจากเย่ว์ไตตันอัจฉริยะผิดธรรมดาที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ มีน้อยคนที่จะเทียบกับเจ้าอ้วนผู้นี้ได้ เขายังทำให้แดนสวรรค์เป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้เยาว์ผู้มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งอย่างมากมาย ในข้อมูลข่าวกรองแสดงให้เห็นว่าจุดสำคัญก็คือพลังจิตใจที่เข้มแข็งของเจ้าอ้วนผู้นี้มากยิ่งกว่าใคร
ไม่เคยได้ยินว่าเขาพังทลายในการต่อสู้
เขามีชื่อเสียงในเรื่องหน้าด้านหน้าทน
นอกจากนี้เขายังเก่งในการหลอกลวงศัตรูให้เข้าใจผิดในรูปลักษณ์ของเขามองดูเผินๆ เหมือนขยะที่อ่อนแอ แต่นั่นเป็นกลอุบายลวงที่เขาใช้เป็นประจำ
โดยส่วนตัวแล้วไม่มีใครคาดคิดว่าด้วยใบหน้าที่น่าสมเพชดูเหมือนคนขี้ขลาดนี้ในชั่วแว่บแรกที่มองเห็นเจ้าผู้นี้รักตัวกลัวตาย แต่เขาจะกลายเป็นนักรบที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมซึ่งไม่มีใครสามารถสั่นคลอนจิตใจหรือเอาชนะเขาได้ง่ายๆ
ตงฟางเคยประเมินด้วยตนเองว่าเจ้าเด็กผู้นี้จะต้องถูกกำจัดมิฉะนั้นจะเป็นหายนะในอนาคต
ถ้าต้องการฆ่าเขา ก็ต้องขึ้นบัญชีดำไว้
บุรุษชื่อไห่ต้าฟู่
เป็นที่คาดกันว่าพวกเขาสามารถติดอันดับหนึ่งในสิบนักสู้ของหอทงเทียนคนผู้นี้เป็นรองเพียงมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่มีชื่อเสียงมายาวนานและยังอยู่เหนือเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างเย่คงและโดดเด่นมากกว่าเสวี่ยทันหลางและอาจารย์ของเขาก็คือสุ่ยตงหลิว!
“ข้ายังมองไม่ออกเลยจริงๆว่าเจ้าอ้วนนี่มีระดับนักสู้ที่สูงขนาดนี้” เงาร่างนั้นไม่อาจเข้าใจได้เขาสังเกตดูอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วนและรู้สึกเสมอว่าเจ้าเด็กอ้วนนี่ธรรมดาอย่างหาที่เปรียบมิได้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็รู้สึกเฉย เป็นไปไม่ได้ที่จะเหนือกว่าสหายของเขาโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเสวี่ยทันหลางที่ดูเหมือนเพชรเปล่งประกาย ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าเจ้าเด็กอ้วนนี้ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรดี!
แต่ตงฟางดูไม่ผิดแน่นอน
ในโลกนี้ ทุกคนอาจเข้าใจผิดได้แต่ตงฟางไม่ใช่อย่างนั้นแน่
ร่างเงานั้นเชื่อมั่นในเรื่องนี้ เขาสามารถสงสัยใครก็ได้ในโลก แต่เขาจะไม่มีทางสงสัยการตัดสินของตงฟาง
เนื่องจากตงฟางพูดถูก
อย่างนั้นความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือเขามองผิดหรือพลาดอะไรไปสักอย่าง
“ให้ตายเหอะตอนนี้เหลือเราคุณชายอยู่ตัวคนเดียว... ข้ารู้ว่าเจ้าแกล้งทำตัวเป็นผีสางมิฉะนั้นคงไม่เป็นแบบนี้ ออกมาเลย ให้ข้าได้เห็นหางน้อยและหัวของเจ้าอย่านึกว่าเราคุณชายกลัวเจ้า เจ้าพวกโง่ ไม่รู้หรือว่าข้าคือไห่ต้าฟู่อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งหอทงเทียน? ออกมารับความตายเสียดีๆ!” เจ้าอ้วนไห่รู้สึกอารมณ์ไม่ดี เขาเพิ่งเข้ามาพร้อมกับเย่คงและคนอื่น ใครจะรู้เพียงเสี้ยววินาทีก็ถูกส่งมาที่นี่เพียงคนเดียว
เย่คงและเสวี่ยทันหลางเดินคู่ไปกันตลอดทาง
ในทันใดนั้นเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ถ้าไม่ใช่เพราะศัตรูอยู่หลังฉาก ก็คงเป็นเพราะผีหลอกจริงๆ!
เมื่อเห็นเจ้าอ้วนไห่ทำสีหน้าซีดตกใจ ร่างเงานั้นมีความคิดสับสนใจใจถ้าไม่ใช่เพราะตงฟาง อย่างนั้นร่างเงาคงจะรู้สึกว่า คนที่วิจารณ์เจ้าอ้วนผู้นี้ไว้คงต้องตาบอด...เขามองเห็นเจ้าอ้วนนี้อยู่ในสายตาได้อย่างไร!
“ข้าไม่เข้าใจเลย ช่างเถอะ เป้าหมายหลักตอนนี้ไม่ใช่เขา” ร่างเงาสังเกตเป็นเวลานานในที่สุดก็ทนไม่ได้ระหว่างสิ่งที่ตาเห็นและความในใจ!
เขาโบกมือ
ปล่อยให้เจ้าอ้วนขี้ขลาดหนีไปจากประตูสวรรค์ได้สำเร็จ
ทันทีหลังจากนั้นเขาสังเกตเห็นเป้าหมายสำคัญตามข้อมูลข่าวกรองอย่างเช่น เย่คงเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวและพบว่าเด็กหนุ่มเหล่านี้ไม่ด้อยไปกว่าที่ตงฟางได้วิจารณ์ไว้ก่อนนั้น พวกเขาเป็นผู้เยาว์รุ่นหลังที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเฉพาะและสูงส่ง... นอกจากไห่ต้าฟู่แล้วไม่มีอะไรผิดปกติ การพบเห็นนี้ทำให้ร่างเงาไม่เข้าใจ และรู้สึกลำบากใจ
สุดท้ายไห่ต้าฟู่แกล้งโง่เล่นบทหมูกินเสืออย่างนั้นหรือ?
ยังมีไห่ต้าฟู่อีกคนหนึ่งหรือ?
อาจมีสองคนทำให้สับสนหรือเปล่า?
มองดูไห่ต้าฟู่แล้วร่างเงานั้นแทบนึกไม่ออกเลยว่าคนผู้นี้คือคุณชายไห่ที่ตงฟางประเมินไว้สูงล้ำ
“เวลานี้ไห่ต้าฟู่ก็ไม่เลวแต่เขาไม่ใช่เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของข้า” ร่างเงาคิดเป็นเวลานาน เขางงงวยอยู่นานจากนั้นจึงคลายความสงสัยตัดสินใจดำเนินการตามแผนที่วางไว้ตอนแรกอยู่ตรงนี้ตามคำสั่งของตงฟางรอให้เป้าหมายปรากฏตัว ไห่ต้าฟู่ไม่สำคัญว่าจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอค่อยฆ่าตอนมีเวลาเหลือในอนาคต แต่เป้าหมายนั้นต้องฆ่าให้ได้ก่อน
ต้องกำจัดให้ได้เสียก่อนฆ่าเย่ว์ไตตัน
มิฉะนั้นทางฝ่ายพวกเขาอาจได้รับความเสียหาย
ตั้งแต่วงกตมิติเวลาถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นนิรันดร์เป็นไปได้ว่าอาจถูกทำลายได้สำเร็จ ....เพราะมีอยู่ชื่อหนึ่งที่ทำให้ตงฟางรู้สึกอิจฉา นั่นคือเสวี่ยอู๋เสีย!
เงาร่างนี้ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
แต่ตงฟางพูดคำหนึ่งไม่ให้เขาสงสัยอีกต่อไปเพราะตงฟางบอกว่าสตรีประหลาดผู้นี้ได้รับตกทอดปัญญาจากเทพีปัญญา
แน่นอนว่าเขาไม่อาจให้เสวี่ยอู๋เสียที่กล่าวกันว่าเป็นมือผู้ช่วยคนสำคัญของเย่ว์ไตตันเข้ามาในวงกตมิติเวลา เขาต้องฆ่าให้เร็วที่สุดและด้วยพลังที่รุนแรงที่สุด
“ประตูแดนสวรรค์ เอา..มีสัญลักษณ์อักขระรูนที่ตัวร้ายทิ้งไว้ด้วย...”
จากประตูล่องหน มีสตรีออกมาหลายคน
บางคนมีดาบ บางคนมีปืน
มีผีผาหยก
บางคนมีจิ้งจอกน้อยเป็นสัตว์เลี้ยงบางคนจูงเด็กหญิงแพนด้า แต่ในกลุ่มแมงมุมมีมังกรไร้เขาทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มไม่มีเงาร่างเสวี่ยอู๋เสียที่เขารอคอย
ตามข้อมูลข่าวกรองเสวี่ยอู๋เสียชอบอ่านหนังสือ ในมือนางมักจะถือคัมภีร์แห่งสัจจะเล่มหนึ่ง
แต่ไม่มีในกลุ่มสตรีที่เพิ่งปรากฏนี้
อย่าว่าแต่เสวี่ยอู๋เสียเลย
มีสตรีอีกคนหนึ่งที่ดูคล้ายกับนางมากและเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเสวี่ยอู๋เสียก็ยังไม่ปรากฏ
“แปลกนางน่าจะเป็นคนแรกที่ออกมาช่วย ทำไมนางถึงหายไปไม่เห็น? มีใครในโลกนี้ที่มองทะลุแผนการของตงฟางก่อนเข้าสู่เกมเป็นไปไม่ได้” ร่างเงารู้สึกว่าคำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือเสวี่ยอู๋เสียไม่สามารถต้านทานพลังโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ได้เพื่อช่วยให้เย่ว์หยางถึงระดับเทพได้และทำให้นางตายก่อนเวลาอันควร
หากปราศจากความทุ่มเทของนางเย่ว์ไตตันก็ไม่อาจมีชีวิตจนถึงปัจจุบัน
ใช่แล้ว
ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
อย่างไรก็ตามสตรีเหล่านี้ที่อยู่ข้างหน้าเขา ดูเหมือนไม่มีท่าทางเศร้าในสีหน้าเลย...บางทีพวกนางอาจเป็นคู่แข่งความรักและเสวี่ยอู๋เสียคู่แข่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตายก็สมเหตุสมผลแล้วที่ทำให้พวกนางมีความสุข ร่างเงาพยายามปลอบใจตัวเอง ด้วยอาการอย่างนี้ สตรีมักเต็มไปด้วยอาการหึงหวง แม้ว่ามองโดยผิวเผินพวกนางจะยิ้ม แต่มีความปรารถนาจะกำจัดกันมีอย่างลับๆ
หลังจากนั้นชั่วครู่สตรีอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมา
แต่ก็ยังไม่มีเสวี่ยอู๋เสีย
แม้จะกล่าวว่าคู่แข่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเสวี่ยอู๋เสียก็คือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้ถือดาบเทพก็ออกไปนานแล้ว
เสวี่ยอู๋เสีย
ยังคงหาย!
สาวน้อยผู้นี้ทำให้ตงฟางอิจฉาอย่างลึกซึ้งนางตายแล้วหรือ ตายจริงๆ หรือ?
หลังจากรอมานานสามชั่วโมงเขารู้สึกว่าร่างกายแทบจะแข็งเป็นหิน ในที่สุดก็ล้มเลิกความคิดจะโจมตีเป้าหมาย เป็นไปได้มากที่สุดว่าเสวี่ยอู๋เสียตายแล้ว และแม้ว่านางจะไม่ตาย แต่นางคงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนนางกำลังพักฟื้นและไม่สามารถเข้าร่วมในสงครามได้ มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ทำอะไรเลยจนถึงตอนนี้ ต้องทราบว่าเด็กสาวชุดแรกออกไปได้สามชั่วโมงแล้ว แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ออกไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน...
“ช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน ข้าคิดว่าจะสามารถซุ่มสังหารเป้าหมายที่คุ้มค่าที่สุด” ร่างเงาส่ายศีรษะอย่างไม่รู้สึกเสียใจ
เขาหยิบบางอย่างจากแขนของตน
คล้ายอัญมณี
ประตูแดนสวรรค์กระพริบทันที
ประตูแดนสวรรค์หมุนอย่างบ้าคลั่งไม่รู้จัก
“เจ้าพวกมดแมลงทุกตัวพวกมันคิดว่าออกไปจากประตูแดนสวรรค์ได้สำเร็จ จงกลับมาหาข้า พวกเจ้าคงคิดไม่ถึง ตราบเท่าทีมีวงโคจรของข้าพวกเจ้าจะต้องกลับมา ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ในที่ไหน พื้นที่ใดก็ตามพวกเจ้าจะถูกดึงกลับเข้าในโลกนี้ให้ข้าเลือกและครอบครอง เงาร่างหัวเราะลั่น จงสั่นเข้าไป จงดิ้นรนอย่างอ่อนแอเข้าไปอย่าว่าแต่วงกตมิติเวลานับพันๆ โลกมันเป็นโลกส่วนหนึ่งของประตูสวรรค์และเจ้าจะไม่สามารถเข้ามาได้ ตอนนี้จงกลับไปยังจุดเริ่มต้นของวงกตมิติเวลาและโลกที่เหลืออยู่ นี่ก็คือความตั้งใจของข้า!”
“แม้ว่าข้าไม่ต้องการจะยกย่องศัตรูแต่เจ้าก็ยังสามารถใช้ทักษะแฝงเร้นของเจ้าเปลี่ยนของวิเศษได้ เจ้าได้หลีกเลี่ยงกฎของโลกกระดานหมากรุกรวมกับเจตจำนงของตนเองและประตูสวรรค์เพื่อย้อนมิติเวลาของวงกตนี้ต้องบอกว่าเจ้าอัจฉริยะจริงๆ”
ทันใดนั้น
ด้านหลังของร่างเงา
เสียงไพเราะอ่อนโยนดังขึ้น
เงาร่างนั้นพอได้ยินร่างก็มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อน มีศัตรูอยู่คนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเขาและเขาไม่ได้สังเกตมาก่อน
“เจ้าเองหรือ? เสวี่ยอู๋เสีย!” เงาร่างหันกลับไปและพบว่ามีบางคนยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วเป็นเสวี่ยอู๋เสียที่เขารอคอยมานาน แต่เขามักคิดว่านางเสียสละตนเองไปแล้ว
“เจ้าต้องการซุ่มโจมตีข้า...ถ้าทำได้ข้าอยากจะให้คำแนะนำเจ้าก่อนหากพวกเจ้ารวบรวมข้อมูลไว้ได้ละเอียดกว่านี้เจ้าอาจจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยคนที่มีคัมภีร์แห่งสัจจะจะปล่อยให้ศัตรูลอบโจมตี ข้าไม่ได้โอ้อวดในเรื่องการอ่านใจได้ของข้าแค่เพียงเจตจำนงราชันย์พร้อมกับทักษะแฝงเร้นสนามพลังคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และการตกทอดภูมิปัญญาเทพปัญญาแล้วข้าคงไม่ปล่อยให้ใครรังแกโดยไม่ตอบสนอง บางทีตงฟางอาจจะลืมพูด หรือไม่พูดเรื่องนี้โดยมีวัตถุประสงค์อื่นแต่ตรงนี้ข้าอยากจะบอกเจ้าว่า ถ้าข้าต้องการทำ ข้าสามารถพูดคุยกับคู่หมั้นข้าหรือที่พวกเจ้าเรียกว่าเย่ว์ไตตันได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นการโทรจิตถึงกันได้! เจ้าคิดว่าวงกตมิติเวลาจะใช้ปิดกั้นเจตจำนงราชันย์ของเราทั้งสองได้หรือ? อย่าว่าแต่ชะตากรรมของข้ากับเขาผูกพันร่วมกันความเปลี่ยนแปลงใดๆของเขาข้าสามารถรู้สึกได้.... น่าสมเพชเจ้าเป็นเพียงเบี้ยที่ตงฟางโยนลงมาขวางเราไว้เท่านั้น”เสวี่ยอู๋เสียยิ้มให้ร่างเงาตรงหน้า ร่างนั้นเหมือนกับไม่ใช่นักสู้ระดับเทพแต่เป็นโจรน้อยที่น่าสงสารถูกคนอื่นใช้มาเท่านั้น
“ตงฟางจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนข้าเชื่อใจเขา และเจ้าเล่นลิ้นไปก็ไร้ประโยชน์!” ดวงตาของร่างเงานั้นทอประกายตื่นเต้น แต่กลับสงบได้อย่างรวดเร็ว
“เห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการสู้ใช่ไหม?” เสวี่ยอู๋เสียถอนหายใจ
“มือของข้ารวดเร็วมากสามารถฆ่าเจ้าได้โดยเจ้าไม่รู้สึกเจ็บปวด!” เงาร่างนั้นมั่นใจในการต่อสู้
“นี่คือสิ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้าอยู่พอดี” เสวี่ยอู๋เสียส่ายหน้าช้าๆ มือขาวเหมือนหยกเนื้อดีได้ผสานกฎศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมเข้ากับคัมภีร์สัจจะและพลิกหน้าอย่างสง่างาม
*** *** ***