ตอนที่ 13: หุ้นส่วน
ตอนที่ 13: หุ้นส่วน
11.45 ล้านสตาร์คอยน์!!!
หากเซี่ยเฟยได้ทำการแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดนี้ด้วยอัตรา 1:10,000 มันก็จะทำให้เขามีเงินทั้งสิ้น 1.145 แสนล้านแอลไลคอยน์
ด้วยเงินจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้เซี่ยเฟยก็อาจจะถูกจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อมหาเศรษฐี 100 อันดับแรกของสหพันธ์โลก
ยิ่งไปกว่านั้นสตาร์คอยน์ยังเป็นสกุลเงินสากลที่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วทั้งจักรวาล มันจึงมีความแตกต่างจากแอลไลคอยน์ที่สามารถนำมาใช้ภายในโลกได้เท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากรัฐบาลกลางแล้วมันก็ไม่มีใครที่ได้ครอบครองสตาร์คอยน์เป็นจำนวนมากมายขนาดนี้
“นายท่านเนื่องมาจากว่ายอดเงินในบัญชีของคุณมีอยู่เกินกว่า 10 ล้านสตาร์คอยน์ทางธนาคารของพวกเราจึงเลื่อนระดับให้คุณท่านกลายเป็นลูกค้าวีไอพีระดับ 1 ดาวโดยอัตโนมัติ ตอนนี้พวกเราได้เตรียมห้องวีไอพีสำหรับรับรองคุณท่านเอาไว้โดยเฉพาะ เชิญคุณท่านมาทางนี้ได้เลยขอรับ” ดอว์สันกล่าวด้วยความเคารพ
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนใครที่มีเงินก็มักที่จะได้รับความเคารพซึ่งมันเป็นกฎที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้ว่ามันจะเป็นในระดับจักรวาลก็ตาม
หลังจากนั้นชายผู้มีอายุประมาณ 40 ปีก็ได้เดินเข้าไปหาอันเดร์ด้วยความเคารพซึ่งหลังจากที่เขาได้โค้งคำนับชายชราแล้วเขาก็ได้กล่าวออกมาว่า
“ผมเพิ่งได้รับแจ้งเตือนจากระบบว่ามีลูกค้าวีไอพีเดินทางมาเยี่ยมสำนักงานสาขาของพวกเรา ผมซูเฟิงมีตำแหน่งเป็นประธานธนาคารแห่งนี้ ผมขอเป็นตัวแทนของธนาคารระหว่างดวงดาวเอ็นดาโร่ในการต้อนรับการมาเยือนของคุณเซี่ยเฟยครับ”
อันเดร์ได้รับการฝึกอบรมมาให้วางตัวอย่างสุขุมอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับชายหนุ่มอย่างเซี่ยเฟยแล้วอันเดร์ย่อมดูเป็นคนที่มีเงินมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ซูเฟิงเข้าใจผิดคิดว่าอันเดร์เป็นเซี่ยเฟย
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เซี่ยเฟยกับอันเดร์ก็เผยรอยยิ้มให้แก่กัน ในขณะที่ดอว์สันรีบดึงแขนเสื้อของซูเฟิงอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระซิบที่หูของประธานธนาคารของเขาว่า
“ประธานซูคุณเข้าใจผิดแล้ว คุณเซี่ยเฟยคือเด็กหนุ่มคนนั้นต่างหาก”
หลังจากที่ดอว์สันได้ระบุตัวตนของเซี่ยเฟยมันก็ทำให้ซูเฟิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดชายหนุ่มตรงหน้าของเขาก็ดูเป็นคนธรรมดา ๆ และสวมเสื้อผ้าที่มีราคาถูกมาก เขาจึงไม่เคยคิดเลยว่าลูกค้าวีไอพีจะมีอายุน้อยและแต่งตัวมอซอมากขนาดนี้
ภาพตรงหน้าคงจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันจึงมีสุภาษิตโบราณ ‘ผ้าขี้ริ้วห่อทอง’
“ขอโทษครับคุณเซี่ยเฟยมันเป็นความผิดพลาดของผมเอง เชิญตามผมมาที่ห้องวีไอพีจะดีกว่า พวกเราได้เตรียมแชมเปญและสตรอว์เบอร์รีระดับพรีเมี่ยมเอาไว้ให้กับคุณแล้ว”
ปฏิกิริยาของซูเฟิงทำให้เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ AI และกล่าวถามออกมาว่า
“ภายในห้องวีไอพีมีคอมพิวเตอร์ AI คุณภาพสูงที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตระหว่างดวงดาวได้หรือเปล่า”
ทันทีที่เซี่ยเฟยพูดจบดอว์สันก็หน้าซีดลงไปจากเดิมและเขาก็รู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้เขาได้แสดงท่าทางดูถูกเซี่ยเฟยเอาไว้
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ซูเฟิงรู้สึกตกใจเพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เซี่ยเฟยจึงได้ตั้งคำถามแบบนั้นขึ้นมา แต่เมื่อเขาได้เห็นสีหน้าของดอว์สันเขาก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ในทันที ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีใครพูดอธิบายอะไรออกมาแต่ดอว์สันก็คงจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกขุ่นเคือง
‘นี่คุณกล้าที่จะหาเรื่องลูกค้าวีไอพีจริง ๆ หรอ คุณเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ’ ซูเฟิงจ้องมองไปยังดอว์สันพร้อมกับคิดขึ้นมาภายในใจ
เหตุการณ์นี้ทำให้ขาของดอว์สันสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง โชคดีที่เขายังไม่ได้ขาอ่อนล้มลงไป แต่ถึงกระนั้นทั่วทั้งร่างของเขาก็มีเหงื่อไหลออกมาตลอดเวลา
'ตายแน่! ฉันตายแน่!!'
—--
ณ ห้องวีไอพีที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ลงชื่อเข้าเว็บไซต์กวีนิพนธ์เขาก็ได้พบว่าบทกวีทั้ง 37 บทที่เขาได้อัปโหลดไปในก่อนหน้านี้ได้ถูกแสดงเอาไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยบทกวีทุกบทมียอดการเข้าชมเฉลี่ยอยู่มากกว่า 100 ล้านครั้งและมันก็มียอดการซื้อบทกวีเป็นจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านครั้ง
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ บทกวีมันถึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแบบนี้?’
‘ช่างมันเถอะ ตราบใดที่ฉันได้เงินฉันจะเสียเวลาไปคิดหาเหตุผลทำไม’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ
“ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่จู่ ๆ สตาร์คอยน์ของผมมันก็เพิ่มขึ้นมาจากเดิมอย่างกระทันหัน ดูเหมือนว่าพวกเราคงจะต้องทำการเจรจากันใหม่สินะ” เซี่ยเฟยเทแชมเปญลงไป 2 แก้วก่อนที่จะทำการยื่นแก้วแชมเปญแก้วหนึ่งให้กับอันเดร์
เมื่ออันเดร์รับแก้วแชมเปญมาแล้วเขาก็ได้กล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอันจริงจังว่า
“พวกเรายินดีที่จะแลกเปลี่ยนในอัตรา 1:12,000 เพื่อทำการขอซื้อสตาร์คอยน์จำนวน 1 ล้านเหรียญ ถ้าหากว่าคุณตกลงมันก็ไม่ใช่เพียงแต่ตระกูลรอธส์ไชลด์ของพวกเราที่จะรู้สึกขอบคุณเท่านั้น แต่สหพันธ์โลกก็จะถือว่าได้ติดหนี้คุณในครั้งนี้ด้วย”
การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้มีมูลค่าถึง 12,000 ล้านแอลไลคอยน์ ซึ่งการที่พวกเขาสามารถทำการแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ในครั้งเดียวมันก็ดูเหมือนกับว่าตระกูลรอธส์ไชลด์มีความมั่งคั่งสมกับเป็นตระกูลนายธนาคารอันดับ 1 ของสหพันธ์โลกจริง ๆ
“เอาแบบนี้เป็นยังไงผมขอใช้เงินจำนวน 1 ล้านสตาร์คอยน์ในการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานใหม่ สำหรับเรื่องจำนวนหุ้นตระกูลของคุณก็สามารถตัดสินใจตามความเหมาะสมได้เลย ส่วนเรื่องการบริหารจัดการผมจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเช่นเดียวกัน ผมต้องการแค่เงินปันผลตอบแทนกลับมาในแต่ละปีเท่านั้นโดยไม่คิดที่จะทำอะไรมากกว่านี้เลย” เซี่ยเฟยกล่าวเสนอด้วยรอยยิ้ม
ตระกูลรอธส์ไชลด์สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมาได้เป็นเวลาหลายร้อยปี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตระกูลของพวกเขาประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานขนาดนี้มันก็ประกอบไปด้วยปัจจัยหลักทั้งสิ้นสองประการ
ปัจจัยประการแรกคือสมาชิกภายในตระกูลถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินตั้งแต่กำเนิด ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมก็ยังไม่สามารถที่จะค้นหาคำอธิบายเรื่องพรสวรรค์ของสมาชิกภายในตระกูลรอธส์ไชลด์ได้ โดยเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงที่ได้รับการพิสูจน์มาอย่างยาวนานแม้ว่ามันจะมีสมาชิกในตระกูลถือกำเนิดขึ้นมาหลายสิบรุ่นแล้วก็ตาม
ปัจจัยประการที่สองนั่นก็คือตระกูลรอธส์ไชลด์ใช้การแต่งงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และด้วยการที่ตระกูลของพวกเขามีอยู่มานานหลายร้อยปี มันจึงทำให้เครือข่ายอิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ขยายออกไปทั่วทั้งโลก
ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ทางด้านการเงินหรืออิทธิพลอันกว้างขวางต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน ดังนั้นการพยายามเป็นพันธมิตรกับตระกูลรอธส์ไชลด์มันจึงมีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโรงไฟฟ้าพลังงานใหม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาจนสำเร็จผลกำไรที่ตอบแทนกลับมาย่อมเป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดมันก็จำเป็นที่จะต้องใช้เพียงแค่น้ำทะเลเพื่อทำการผลิตไฟฟ้าแล้วมันจะมีต้นทุนในการผลิตอะไรที่มันจะถูกกว่าน้ำทะเลที่มีอยู่ทั่วทั้งโลกแห่งนี้อีก?
นอกเหนือจากเงินทุนจำนวนมากในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้วต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าพลังงานใหม่มันก็แทบที่จะเป็นศูนย์ ซึ่งมันก็หมายความว่าโรงงานแห่งนี้จะได้รับผลกำไรมหาศาล
โลกทั้งใบมีประชากรอยู่ประมาณ 7,000 ล้านคน ถ้าหากว่าประชากรแต่ละคนต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 1 แอลไลคอยน์ต่อเดือนมันก็จะเป็นเงินทั้งสิ้น 7,000 ล้านแอลไลคอยน์ นอกจากนี้พวกเขายังสามารถกำจัดมลพิษที่เกิดจากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อีกด้วย เมื่อมันได้ประกอบกับราคาค่าไฟฟ้าที่จะถูกปรับลดลงมันย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนย่อมต้องการอย่างแน่นอน
การลงทุนในครั้งนี้เป็นเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว ถ้าหากว่าเขาพลาดการมีส่วนร่วมในธุรกิจดังกล่าวมันก็คงจะทำให้เขารู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต
“ฉันจะรีบแจ้งผู้อาวุโสในตระกูลของฉันทันที คุณรอฟังข่าวดีจากฉันได้เลย” อันเดร์กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็ตบไหล่เซี่ยเฟยเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันจริงใจว่า
“คุณน่าจะยังไม่คุ้นเคยกับนิวยอร์ก ทำไมคุณไม่มาทานอาหารเย็นที่บ้านของฉันล่ะ”
การเชิญคนอื่นมาทานอาหารที่บ้านของชาวตะวันตกค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องใหญ่และการที่อันเดร์กล่าวถามเซี่ยเฟยขึ้นมาเช่นนี้ มันก็หมายความว่าชายชราได้คิดว่าเซี่ยเฟยได้กลายเป็นมิตรที่ดีของเขาแล้ว
“น่าเสียดายจริง ๆ ที่เย็นนี้ผมยังไม่สามารถตอบรับคำเชิญของคุณได้ แต่ผมจะไปหาคุณในวันอื่นแน่นอน” เซี่ยเฟยปฏิเสธคำเชิญของอันเดร์อย่างแนบเนียน เพราะท้ายที่สุดทั้งส่วนผสมของการปรุงน้ำยาและแหวนทะลุลมที่เขาสั่งซื้อเอาไว้ก็ได้ถูกจัดส่งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันจึงยังมีเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องรีบทำ
—---
อันเดร์ได้จัดการเรื่องโรงแรมและจองรถลีมูซีนเตรียมพร้อมเอาไว้ให้กับเซี่ยเฟยด้วยความกระตือรือร้น ด้วยการอำนวยความสะดวกจากชายชรามันก็ทำให้เซี่ยเฟยได้รับความสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ณ ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทชั้นบนสุดของโรงแรมเดอะพลาซ่า
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังขังตัวเองอยู่ภายในห้องน้ำ ตรงหน้าของเขาคือส่วนผสมของน้ำยาเป็นจำนวนมากและอุปกรณ์การปรุงยาที่มีรูปร่างอันแปลกประหลาด
ห้องแห่งนี้สมควรที่จะถูกเรียกว่าห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทจริง ๆ เพราะทั่วทั้งห้องมีพื้นที่อยู่ประมาณ 60 ตารางเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมันก็มีพื้นที่กว้างมากพอที่จะวางวัตถุดิบสำหรับการปรุงน้ำยาทั้งหมดที่เซี่ยเฟยได้ซื้อมา
“การปรุงยาเป็นงานที่มีความละเอียดอ่อนมากและการสกัดวัตถุดิบให้มีความบริสุทธิ์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับการปรุงยาเช่นเดียวกัน หากว่านายทำผิดพลาดมันก็อาจจะโชคดีถ้าหากว่าวัตถุดิบชิ้นนั้นจะสูญเสียคุณสมบัติของมันไป แต่ถ้าหากว่านายโชคร้ายมันก็อาจจะก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นมาได้เลย” อันธซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเฟยกล่าวอธิบายเมื่อเขาได้เห็นเซี่ยเฟยค่อนข้างที่จะกระวนกระวายในขณะที่เขาทำการสกัดวัตถุดิบให้บริสุทธิ์
“ของพวกนี้เป็นส่วนผสมสำหรับการปรุงน้ำยาไม่ใช่หรือไง! ทำไมพวกมันถึงระเบิดได้!!” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเทคนิคเฉพาะสำหรับสำนักของฉัน โดยพวกเราจะใช้ลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไปของส่วนผสมแต่ละชนิดในการหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกันอย่างแม่นยำจนทำให้ผลลัพธ์จากการปรุงน้ำยามีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำยาโดยทั่วไป”
“วัตถุดิบแต่ละชนิดต่างก็สามารถที่จะมีความขัดแย้งหรือส่งเสริมพลังซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น สมุนไพรดาวฟ้าและลูกพลัมจันทร์เย็นที่ถ้าหากนายใช้พวกมันทีละชนิด พวกมันก็จะสามารถเพิ่มปฏิกิริยาให้กับเซลล์ของนายได้ แต่ถ้าหากนายนำพวกมันมาผสมเข้าด้วยกันมันก็จะกลายเป็นยาพิษที่ร้ายแรงที่ไม่มีแม้กระทั่งยาแก้พิษอยู่ด้วยซ้ำ”
“อย่างไรก็ตามถ้าหากว่านายได้ผสมสมุนไพรดาวฟ้าบริสุทธิ์ในอัตราส่วน 41% กับลูกพลัมจันทร์เย็นในอัตราส่วน 59% ก่อนที่จะเพิ่มเมล็ดพลัมดองบริสุทธิ์เข้าไป นายก็จะได้รับน้ำยาที่ไม่มีพิษและมีผลลัพธ์ที่มากกว่าสมุนไพรดาวฟ้าโดยทั่วไปมาก”
“เอาวัตถุดิบที่ขัดแย้งกันมาผสมเข้าด้วยกัน มันจะเป็นเรื่องที่บ้าบิ่นจนเกินไปแล้ว! นี่ถ้าหากว่ามันเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ฉันก็อาจจะบังเอิญสร้างยาพิษขึ้นมาได้เลยนะ!!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันถึงได้บอกให้นายระวังยังไงล่ะ” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ
“การปรุงยาแบบนี้มันอันตรายมากจนเกินไป มันไม่มีวิธีการปรุงยาที่ปลอดภัยกว่านี้หรอ” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“วิธีที่ปลอดภัย? ศิษย์ในสำนักของฉันไม่เคยมีคำนี้อยู่ในหัว เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรพวกเขาก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ ตอนนี้นายกำลังจะต้องไปพบกับสังคมในจักรวาลและนายก็ยังไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นมีความโหดร้ายแบบไหนรอนายอยู่”
“ฉันขอบอกไว้เลยว่านักรบทุกคนต่างก็ต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วมันก็มีนักรบเป็นจำนวนมากที่เต็มใจจะเสี่ยงชีวิตแม้ว่าจะสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมาได้เพียงแค่ 1%”
“หากนายต้องการที่จะยืนหยัดในสังคมของนักสู้อย่างมั่นคงนายก็จะต้องมีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ เพราะมันมีเพียงแต่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพในขณะที่พวกอ่อนแอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดออกมาด้วยซ้ำ”
“จงจำคำสอนของฉันเอาไว้ว่าในจักรวาลแห่งนี้มันมีเพียงแต่คนที่คอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเท่านั้นถึงจะสามารถมีชีวิตรอดจนแก่ตายได้”
เมื่อเซี่ยเฟยได้ทำตามคำแนะนำของอันธมันก็ทำให้ในห้องน้ำมีขวดสารสกัดที่มีสีสันแตกต่างกันจำนวน 17 ขวด โดยแบ่งออกเป็นสารสกัดขวดสีแดง, ขวดสีเขียวและขวดสีม่วงที่วางเรียงรายกันเป็นแถวอย่างสวยงาม
“ของพวกนี้เป็นส่วนผสมของน้ำยากระตุ้นเซลล์ที่ประกอบไปด้วยสารสกัด 17 ชนิด หลังจากที่นายได้ผสมพวกมันเข้าด้วยกันมันจะช่วยกระตุ้นเซลล์ของนายให้มีความกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นร่างกายของนายก็จะได้รับความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นที่เหนือธรรมดา จำไว้ว่าตราบใดก็ตามที่นายยังคงทำตามคำแนะนำของฉันอย่างใกล้ชิดฉันก็รับประกันได้ว่านายจะปลอดภัย”
อุปกรณ์สำหรับการปรุงยามีหน้าที่อยู่ทั้งสิ้น 3 ประการ โดยหน้าที่แรกคือการสกัดวัตถุดิบให้บริสุทธิ์ หน้าที่ที่สองคือการผสมวัตถุดิบทั้งหมดเข้าด้วยกันและหน้าที่สุดท้ายคือการเร่งปฏิกิริยาเพื่อให้การปรุงน้ำยาออกมาให้เสร็จสมบูรณ์
ตอนนี้เซี่ยเฟยได้ทำการสกัดวัตถุดิบทั้งหมดให้บริสุทธิ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระบวนการต่อไปก็เหลือเพียงแค่การผสมและการเร่งปฏิกิริยา
บนขวดยาของเครื่องปรุงยามีหน้าจอที่สามารถระบุปริมาณของสารสกัดที่ต้องการใส่เข้าไปอยู่ ดังนั้นทันทีที่เซี่ยเฟยได้เทสารสกัดเข้าไปขวดน้ำยาของเครื่องปรุงยาก็จะทำการปรับปริมาณของสารสกัดตามปริมาณที่กำหนดเอาไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งมันก็เป็นเครื่องมือที่มีความแม่นยำมากและมันก็ช่วยลดความผิดพลาดในการใส่ส่วนผสมได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามกระบวนการเทสารสกัดก็ยังคงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความแม่นยำด้วยเช่นเดียวกัน เพราะมันมีลำดับการเทสารสกัดก่อนหลังพร้อมกับมันยังต้องผสมสารสกัดเข้าไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย
เมื่อเซี่ยเฟยได้ทำการเทสารสกัดทั้ง 7 ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเครื่องปรุงยาก็ส่งเสียงออกมาคล้ายกับเสียงผึ้งบิน ซึ่งเซี่ยเฟยก็คิดว่าเครื่องปรุงยาคงกำลังปั่นผสมสารสกัดทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยอัตราความเร็วที่สูงมาก
หลังจากเซี่ยเฟยได้เทสารสกัด 7 ตัวแรกลงไปอย่างถูกต้อง เขาก็เหลือบสายตามองไปยังนาฬิกาจากนั้นเขาก็หยิบสารสกัดขวดที่ 8 ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
เมื่อสัญญาณไฟบนเครื่องได้เปลี่ยนเป็นสีเขียว เซี่ยเฟยก็เทสารสกัดที่ 8 เข้าไปภายในเครื่องอย่างเร่งรีบ
ฟี่!
แต่ในทันใดนั้นเองเครื่องปรุงยาก็ส่งเสียงคล้ายกับยางรถยนต์ที่ถูกเจาะ ก่อนที่มันจะมีไอควันสีเหลืองถูกพ่นออกมาจากเครื่องปรุงยา
***************
จะกินได้ไหมน้าาา?