NH-ตอนที่ 68 แผนการอันแยบยลของลุกซ์
มีเสียงหึ่งๆของพวกยุงในความมืดตอนกลางคืน นับตั้งแต่ที่ ลุกซ์ ไปช่วย โคเล็ตต์ และ คนอื่นๆ จำนวนของพวกยุงก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อันที่จริง ตอนนี้พวกมันมีจำนวนมากจนระบบนิเวศของสวนฟิกาโรได้พังทลายลง หลังจากที่ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มไปถึงสวนฟิกาโร สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการมองหารังมดที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อหลบซ่อนตัว
พวกมดจำ ลุกซ์ ได้ทันทีเพราะเขาเป็นฮาล์ฟเอลฟ์เพียงคนเดียวที่เข้ามาภายในสวน นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของพวกมันด้วย
หลังจากพูดคุยกับพวกมดสักพัก และ ทราบถึงสถานการณ์โดยทั่วไปของสวน ลุกซ์ ก็เรียกโครงกระดูกของเขาออกมาทันที
เดียโบลพร้อมกับนักสู้โครงกระดูก 7 ตัว ได้ยืนพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ยังมี อิชทาร์ และ นักธนูโครงกระดูกผู้ยิ่งใหญ่อีก 4 ตัว ที่กำลังรอฟังคำสั่งจากลุกซ์
ลุกซ์ ชื่นชมกลุ่มโครงกระดูกของเขาและยิ้มอย่างชั่วร้ายในขณะที่เขาออกคำสั่งให้พวกมันแยกย้ายกันออกไป โดยจุดหมายแรกของพวกเขาก็คือการมองหาที่ซ่อนของตั๊กแตนตาแดง ซึ่งตามที่พวกมดได้กล่าว ดูเหมือนว่ามันจะเกิดขึ้นมาใหม่หลังจากที่ถูกฆ่าไปไม่กี่วันก่อน
หลังจากพูดคุยกับพวกมดเป็นเวลานาน เขาก็เข้าใจว่าตอนนี้ แมลงตัวอื่นๆ ทั้งหมด กำลังรวมตัวกันอยู่ข้างหลังตั๊กแตนตาแดง เพื่อต่อต้านพวก ยุงแถบแดง (มอนสเตอร์ทั่วไป),ยุงเกราะดำ (มอนสเตอร์ระดับ 1) และ ยุงเกราะเหล็ก (มอนสเตอร์ระดับ 2)
พูดตามตรง ลุกซ์มีความรู้สึกว่าอาจจะมียุงที่เป็นมอนสเตอร์ระดับ 3 หรือ 4 เกิดขึ้น แต่นี่เป็นสิ่งที่ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มไม่ต้องการที่จะเห็น เพราะเขากลัวว่าหากพวกยุงไปถึงระดับ 4 แล้ว เจ้านายคนใหม่ของสวนฟิกาโร ก็จะไม่ใช่ตั๊กแตนตาแดงอีกต่อไป
ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ตำแหน่งที่กำหนด เสียงหึ่งๆ ก็ทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดย ชายหนุ่มผมแดงได้เฝ้าดูสถานการณ์โดยใช้ตาและหูของเดียโบล ขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ในรังมด
มันไม่มีทางเลยที่เขาจะออกไปติดตามเป้าหมายด้วยตัวเอง เมื่อคิดจากเรื่องที่ว่าพวกยุงมีจำนวนนับพันตัว พวกมันสามารถดูดเลือดของเขาจนแห้งจนเหลือแต่เปลือกนอกได้ ดังนั้น ที่เขาต้องทำก็คือการให้ โครงกระดูกของเขาเคลื่อนไหวและสังเกตุการณ์ต่อสู้จากระยะไกล
การต่อสู้แบบกลุ่มที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างแมลงหลายร้อยตัวที่อาศัยอยู่ภายในสวนฟิกาโรกับพวกยุงที่มีจำนวนมากกว่าพวกมัน 5 เท่า ได้เริ่มต้นขึ้น
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม รู้สึกยินดีที่ได้ชมฉากดังกล่าว เพราะสำหรับเขาแล้ว มอนสเตอร์ทั้งหมดก็เป็นเพียงแต้มสกิลอิสระและแต้มสถานะฟรีที่รอให้เขาไปครอบครอง ในเวลานี้มีชิ้นส่วนร่างกายของมอนสเตอร์กองอยู่บนพื้น ซึ่ง ลุกซ์ สังเกตุเห็นว่าส่วนใหญ่ที่ตายไปนั้นล้วนเป็นมอนสเตอร์ทั่วไป
ในโลกของมอนสเตอร์ พวก มอนสเตอร์ทั่วไป ก็เป็นได้เพียงอาหารสำหรับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่ามัน โดยทั่วไปแล้วนี่คือกฏแห่งป่า
ในขณะที่พวกมันกำลังต่อสู้กัน ลุกซ์ ก็มองหาตั๊กแตนตาแดง ซึ่งตอนนี้เขายังไม่เห็นมันเลย
แต่ทันใดนั้น ดอกไม้ยักษ์หลายดอกก็ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เมื่อ มอนสเตอร์อัลฟ่าแห่งสวนฟิกาโร เข้ามาในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม สังเกตุเห็นว่า ตั๊กแตนตาแดง ไม่ได้เข้าต่อสู้ทันที แต่มันกลับเฝ้ามองในระยะไกล และ จับจ้องไปที่ยุงที่มีขนาดตัวยาวหลายสิบเมตร ซึ่งมันมีเกราะนอกเป็นสีเขียว
หลังจากใช้หนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียม เพื่อระบุมอนสเตอร์ตัวใหม่นี้ ชายหนุ่มผมแดงก็พบว่าสิ่งที่เขากลัวนั้นได้กลายเป็นความจริง
“ยุงพิษทรราช!” ลุกซ์พึมพัมออกมา “มอนสเตอร์ระดับ 3”
แม้ว่ามอนสเตอร์ระดับ 3 หลาย 10 ตัวนี้จะอ่อนแอกว่ามอนสเตอร์อัลฟ่า แต่จำนวนของพวกมันก็ยังเป็นปัญหา เช่นเดียวกับชื่อของมัน ยุงเหล่านี้มีพิษที่ทรงพลัง เมื่อถูกมันกัด มันมีโอกาสสูงมากที่เป้าหมายจะติดพิษ นอกเหนือจากนั้น ยังมีโอกาสปานกลางที่เหยื่อของมันจะกลายเป็นอัมพาตด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว
ด้วยความอันตรายของยุงระดับ 3 เหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้ ตั๊กแตนตาแดงไม่กล้าที่จะโจมตีโดยประมาท
เนื่องจากต่างฝ่ายต่างจับจ้องกันโดยไม่เคลื่อนไหวใด ๆ การต่อสู้ระดับล่างจึงได้ดำเนินต่อไป และ การต่อสู้นี้ก็รุนแรงมากจน ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มคิดว่าการต่อสู้ของพวกมันคงจะจบลงภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที
‘ฉันควรจะทำอย่างไรดี?’ ลุกซ์ ครุ่นคิด ‘ฉันควรจะเข้าไปช่วยฝ่ายแมลง? หรือพวกยุง?’
ชายหนุ่มผมแดงครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามนี้เล็กน้อยขณะที่เขามองไปยังสนามรบด้วยสีหน้าที่จริงจัง หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียว่าจะช่วยใคร ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มก็สั่งให้โครงกระดูกของเขา…ช่วยยุงปราบศัตรู!
แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ผิด แต่ ลุกซ์ ก็เดินตามแผนของเขาด้วยเหตุผลง่ายๆ เพียงข้อเดียว
“พวกยุงดื่มแต่เลือด และ พวกมันไม่กินคอร์มอนสเตอร์” ลุกซ์ พึมพัมออกมา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะช่วยพวกมันฆ่าแมลงตัวอื่นๆ”
หลังจากได้รับคำสั่งจาก ลุกซ์ เหล่าโครงกระดูกก็ออกปฏิบัติการ โดยพวกเขาได้โจมตีใส่พวกแมลงทันทีและเล็งไปที่ปีกและขาของพวกมัน จนทำให้พวกมันพิการ ก่อนที่จะปล่อยให้พวกยุงเข้าไปฆ่า
รูปลักษณ์ของ เดียโบล,อิชทาร์ และ โครงกระดูกตัวอื่น มีผลอย่างมากในการต่อสู้ เพราะพวกเขาถือเป็นมอนสเตอร์ระดับสูง ดังนั้นความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาจึงพอที่จะเอนเอียงความได้เปรียบให้กับพวกยุง
ตั๊กแตนตาแดง กรีดร้องออกมาด้วยความโกรธในขณะที่มันพยายามบินไปทาง เดียโบล และ ตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การโจมตีระยะไกลของ อิชทาร์ ที่เต็มไปด้วยความเสียหายธาตุน้ำแข็ง ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลงเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าโอกาสมาถึง ยุงพิษทรราช ก็เข้าร่วมและโจมตีมอนสเตอร์อัลฟ่าจากทุกด้าน นี่คือผลลัพธ์ที่ลุกซ์ต้องการ และ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งขณะที่เขาอยู่ในรังมด
“นี่แหล่ะ! ฆ่ากันให้ตายและเอาคอร์มอนสเตอร์มาให้ฉัน!” ลุกซ์ หัวเราะออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะได้รับชิ้นส่วนร่างกายของตั๊กแตนตาแดงในครั้งนี้โดยไม่ล้มเหลว เพราะในตอนนั้น เขาถูกบังคับให้ต้องประนีประนอมและขายชิ้นส่วนของมอนสเตอร์อัลฟ่าให้กับ เฟรดเดอริกและพรรคพวกของเขา
แต่ตอนนี้มันต่างกันออกไป เขาสามารถออกล่ามอนสเตอร์อัลฟ่าได้เพียงลำพัง โดยใช้พวกยุงเป็นตัวนำทางทำให้มันอ่อนแอลง ซึ่งวัสดุของมอนสเตอร์อัลฟ่าอย่างตั๊กแตนตาแดงนั้นมีค่ามาก เกราะนอกของมันสามารถนำไปใช้ทำเป็นเกราะได้ ในขณะที่กรงเล็บของมันสามารถนำไปใช้สร้างดาบพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ลุกซ์ ไม่ได้วางแผนที่จะสร้างอาวุธทันที เหตุผล? เนื่องจากหนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียม เตือนเขาว่า เขาสามารถสร้างอาวุธที่ดีกว่าได้โดยใช้กรงเล็บ 10 อันจากตั๊กแตนตาแดง
หากสร้างมันอย่างถูกต้อง มีโอกาสสูงที่อาวุธจะกลายเป็นอาวุธเทียมระดับตำนาน ซึ่งมีความคมมากพอที่จะตัดเหล็กได้ และ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ชายหนุ่มผมแดง จำเป็นจะต้องต่อสู้กับ มอนสเตอร์อัลฟ่าถึง 5 ครั้ง เพื่อที่จะรวบรวมกรงเล็บให้ครบ 5 ชุด
นี่เป็นสิ่งที่บรรดาผู้เริ่มต้นไม่รู้ ในความเป็นจริง มีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรกิวลิเว่น ทั้งหมดที่รู้เรื่องนี้ และ พวกเขาทั้งหมดก็เป็นช่างตีเหล็กระดับผู้เชี่ยวชาญ และ ระดับปรมาจารย์
แรนดอล์ฟเป็นช่างตีเหล็กระดับผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นเขาจึงรู้สูตรสร้างอาวุธเทียมระดับตำนานนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เขากลับปิดปากแน่นและจะซื้อชิ้นส่วนมอนสเตอร์เหล่านี้จากคนแคระในราคาที่สูงมากอย่างเงียบๆ
ในความเป็นจริง บลัดมูน ถูกสร้างขึ้นจากกรงเล็บ 5 ชุดจากตั๊กแตนตาแดง ฟันของราชาหมาป่า และ คอร์มอนสเตอร์ของ ขุนนางแวมไพร์ระดับสูง 3 ตัว ที่มีสถานะไม่ต่ำกว่า วิสเคานต์
การสร้างอาวุธนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมันมีโอกาสล้มเหลวสูง แต่โชคดีที่แรนดอล์ฟสามารถทำได้สำเร็จและสร้างอาวุธระดับตำนาน บลัดมูน ขึ้นมา
ในฐานะศิษย์ของแรนดอล์ฟ เขาได้เรียนรู้สูตรจากอาจารย์ของเขา ซึ่งอีกฝ่ายต้องการให้เขาสร้างบลัดมูนด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะรวบรวมชิ้นส่วนที่เขาต้องการในขณะที่เขายังคงอยู่ในหมู่บ้านลีฟ
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นเขาถึงจะสามารถสร้างอาวุธที่สามารถทำให้เดียโบลเป็นเครื่องจักรสังหารได้
หลังจากที่พวกยุงได้เปรียบในการต่อสู้ ลุกซ์ ก็สั่งให้ โครงกระดูกของเขาค่อย ๆ ถอยออกไปด้านข้างของสนามรบ และ ตั้งใจที่จะเฝ้าดูการต่อสู้ เพื่อที่จะได้ไม่เสียกำลังพลไปมากกว่านี้ ในบรรดานักสู้โครงกระดูก มี 3 ตัวที่เสียชีวิตจากการต่อสู้โดยตรง
ส่วนนักธนูโครงกระดูกผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เสียชีวิตเพราะพวกเขาได้โจมตีจากระยะที่ปลอดภัยและได้รับการปกป้องจากอิชทาร์
นอกจากนี้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ยังได้สั่งให้ เดียโบล ไม่ใช้ท่าที่ฉูดฉาดใดๆ ของเขา เพื่อที่จะซ่อนความสามารถของบลัดมูนจากมอนสเตอร์ระดับสูง เขาวางแผนที่จะส่งมอบความตายโดยปราศจากความปรานีขณะที่พวกมันคาดไม่ถึง จนไม่สามารถแม้แต่จะมีเวลาหลบเลี่ยงได้
เช่นเดียวกับ ตั๊กแตน ที่สะกดรอยตามจักจั่นโดยไม่รู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง ลุกซ์ กำลังใช้กำลังพลของเขาเพื่อโจมตีพวกแมลง และ ถอยห่างออกจากการต่อสู้ โดยให้ พวกยุงระดับ 3 ต่อกรกับมอนสเตอร์อัลฟ่าที่ปกครองสวนฟิกาโร เช่นเดียวกับ ตั๊กแตนที่ไล่ตามจักจั่น
ชายหนุ่มผมแดงรู้ว่า มอนสเตอร์อัลฟ่า ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายที่จะเอาชนะ ถ้าเขาปล่อยให้มันหนีไป มันก็คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะอ้างสิทธิ์ในชิ้นส่วนมอนสเตอร์เหล่านั้น
“เดียโบล พยายามจับตาดูและให้ความสนใจตั๊กแตนตนแดงเป็นพิเศษ” ลุกซ์ สั่งการ “เมื่อมันเข้าสู่สถานะบ้าดีเดือดแล้ว ให้ถอยออกมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ หยุดการต่อสู้กับพวกแมลงทั้งหมด พร้อมกับไปให้ไกลจากสนามรบมากที่สุด”
ฮาล์ฟเอลฟ์รู้ว่าเมื่อ ตั๊กแตนตาแดงเข้าสู่สถานะบ้าดีเดือด ค่าสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนไม่มีใครหยุดมันได้ และ เขาวางแผนที่จะรออย่างอดทนจนกว่า เอฟเฟกต์ของบ้าดีเดือดจะหมดลง ก่อนที่จะลงมือสังหารมัน
ในระหว่างนี้ ลุกซ์ ได้เรียก นักสู้โครงกระดูกที่เสียชีวิตไปขึ้นมาอีกครั้ง และ สั่งให้พวกเขารวมกลุ่มกับทุกคนในสนามรบ แม้ว่าการเดินทางจากสถานที่ของลุกซ์ไปยังตำแหน่งของพวกเดียโบลจะห่างไกลออกไปหลายนาที แต่เขาก็คิดว่าเมื่อถึงเวลาที่เพียงพอ กองกำลังของเขาจะสามารถจัดตั้งกลุ่มใหม่ และ ใช้ประโยชน์จากตอนที่ มอนสเตอร์อัลฟ่ากำลังอ่อนแอลง เพื่อจบชีวิตของมันได้ในที่สุด