NH-ตอนที่ 65 ได้โปรด...แต่งงาน...
“ผมไปแล้วนะครับ คุณย่า” ลุกซ์พูดขณะที่เขากอด เวร่า “ผมจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆเท่าที่จะทำ”
“อืม” เวร่า พึมพัมออกมาขณะที่ลูบหัวหลานชายบุญธรรมของเธอ “ย่าจะรอหลานอยู่ที่นี่เสมอ เดินทางปลอดภัยนะลุกซ์”
ชายหนุ่มผมแดงก้าวถอยหลังอย่างไม่เต็มใจในขณะที่เขามองไปที่ คุณย่าของเขาด้วยความรัก มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงจากใจของเขาเนื่องจากใบหน้านั้นเป็นใบหน้าที่เลี้ยงดูเขามานานหลายปี
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ลุกซ์ ไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิต แต่คราวนี้เขามีเป้าหมายในใจสองอย่าง อย่างแรกก็คือการกอบกู้โลกจากการถูกทำลาย
ส่วนอย่างที่สอง เป้าหมายของเขาก็คือการทำให้ย่าของเขาภูมิใจในตัวเขา เขาต้องการให้เธอรู้ว่าที่เธอเสียสละทั้งหมดและทำเพื่อเขามาตลอดหลายปีนั้นคุ้มค่าเหนือสิ่งอื่นใด และ เขาต้องการให้โลกยกย่อง เวร่า ในขณะที่เธอสมควรได้รับ
เพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาต้องกลับไปยังเอลิเซียม กลับสู่โลกที่กุมความลับเรื่องที่ โซไรอัส จะรอดพ้นจากหายนะแห่งการทำลายล้างที่ถูกกำหนดไว้ได้อย่างไร
“ดูแลตัวเองด้วยครับคุณย่า ผมรักคุณย่านะ” ลุกซ์ กล่าวพูดในขณะที่เขาวางมือบนหน้าอกของเขา “เปิดใช้งานประตูสวรรค์!”
จากนั้น ลุกซ์ ก็กลายเป็นอนุภาคแสงและหายไป
เวร่า ยิ้มขณะที่เธอวางมือบนหน้าอกของเธอ เธอมีความสุขมากที่หลานชายของเธอไปได้ดีในเอลิเซียม และ เธอรู้ว่าการพรากจากกันเช่นนี้ ไม่ได้คงอยู่ไปตลอด เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อยที่เธอเลี้ยงดูตั้งแต่เป็นทารก จะกลับมาอยู่เคียงข้างเธออีกครั้งหลังจากที่เขาเหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัย
_____
หมู่บ้านลีฟ…
หลังจากที่กลับไปยังหมู่บ้านลีฟ สิ่งแรกที่ ลุกซ์ ทำก็คือไปหา แรนดอล์ฟ อาจารย์ช่างตีเหล็กของเขา
เขาได้คืนบลัดมูนให้กับอาจารย์ของเขาเนื่องจากภารกิจได้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ลุกซ์ กำลังคิดว่าจะยืมมันอีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของหมู่บ้านให้สำเร็จ
แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการพึ่งพาอาวุธระดับตำนานในการช่วยเหลือ แต่ภารกิจที่เขาวางแผนที่จะทำให้สำเร็จนั้นเป็นไปไม่ได้หากไม่มีมัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ลุกซ์ เข้าสู่ย่านการค้าของหมู่บ้าน ใบหน้าที่คุ้นเคยหลายคนก็วิ่งมาหาเขาด้วยรอยยิ้ม
“พี่ใหญ่!” โคเล็ตต์ ตะโกนขณะที่เธอกระโดดเข้าหาเขาอย่างมีความสุขพร้อมกับอ้าแขนออกกว้าง
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องจับเด็กสาวตัวน้อยที่น่ารัก ที่ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากขึ้นหลังจากได้ใช้เวลาพัก 2-3 วันที่บ้าน
หลังจากการต่อสู้ในรังโคโบลด์ โคเล็ตต์ และ เพื่อนๆของเธอก็กลับไปที่โซไรอัสเพื่อไปหาครอบครัวของพวกเขา นี่เป็นเรื่องธรรมดาของพวกคนแคระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาเพิ่งเอาชีวิตรอดจากประสบการณ์เฉียดตายมาได้
หลังจากแกว่งคนแคระตัวน้อยไปโดยรอบ ลุกซ์ ก็วางเธอลงและลูฐหัวของเธอเบาๆ ในทางกลับกัน โคเล็ตต์ ได้กุมมือของ ลุกซ์ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง
“พี่ใหญ่ ฉันคิดเรื่องนี้มานานแล้ว พี่เสี่ยงชีวิตหลายครั้งเพื่อช่วยฉัน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก” โคเล็ตต์ กล่าวพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากจะตอบแทน ได้โปรด…แต่งงาน…”
ลุกซ์ กลืนน้ำลายขณะที่มองดู โคเล็ตต์ จ้องมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม รอคอยเล็กน้อยที่จะปล่อยให้คนแคระเด็กคนนี้พูดให้จบ
แมทตี้ ที่กำลังดูฉากนี้ ตื่นตระหนกในทันที จากนั้นเขาก็บอก ลุกซ์ ว่า “ฉันจะฆ่านายแน่ ถ้านายกล้าแต่งงานกับ โคเล็ตต์!” ซึ่งมันทำให้ชายหนุ่มผมแดงมีแรงกระตุ้นที่อยากจะเขกหัวเขา
“พี่ช่วย…แต่งงานกับ…พี่สาวของฉันได้ไหม?” โคเล็ตต์ กล่าวพูดเชิงขอร้อง “ด้วยวิธีนี้ พี่ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเรา!”
“ห๊ะ?” แมทตี้ ที่เตรียมจะชักดาบและฟันใส่ ลุกซ์ เป็นชิ้นๆ เขาก็ได้หยุดลงกลางคัน จากนั้นก็มองไปที่ โคเล็ตต์ พร้อมกับวางมือลงบนหน้าอกด้วยความโล่งใจ ก่อนที่จะมองกลับไปที่ลุกซ์ที่มีสีหน้าตกตะลึงบนใบหน้า
“แต่งงานกับพี่สาวของเธอ?” ลุกซ์กระพริบตาหนึ่งถึงสองครั้งด้วยความสับสน
“ใช่!” โคเล็ตต์ พยักหน้า “พี่สาวของฉันสวยมาก! เธอมีแฟนคลับหลายคน แต่ถ้าพี่ได้ฉันช่วย โอกาสที่พี่จะแต่งงานกับเธอก็จะสูงขึ้นมาก! ไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ใช่ดอว์ฟ แต่ฉันจะช่วยพี่เอง!”
ลุกซ์ อยากจะเอามือซ้ายเกาหัว เพราะมือขวาของเขาถูกคนแคระตัวน้อยที่ตื่นเต้นจับจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“...ไว้ฉันจะคิดดูก็แล้วกัน” ลุกซ์ ตอบกลับอย่างหมดหนทาง เขารู้สึกว่าถ้าเขาปฏิเสธ โคเล็ตต์ ในทันที เด็กสาวตัวน้อยจะโกรธเคืองและกวนเขาจนกว่าเขาจะตอบตกลง
“เยี่ยมไปเลย” โคเล็ตต์ ยิ้มอย่างมีความสุข สำหรับตอนนี้เธอพอใจกับคำตอบของลุกซ์ เพราะหลังจากที่เธอกลับไปบ้าน เธอได้บอกพ่อแม่ และ พี่สาวของเธอเกี่ยวกับ วิธีการ ที่ลุกซ์ช่วยพวกเขาออกมาจากรังของโคโบลด์
พ่อแม่และพี่สาวของโคเล็ตต์ค่อนข้างประหลาดใจ เพราะพวกเขาเข้าใจว่าการต่อสู้กับพวกโคโบลด์ในรังนั้นยากเพียงใด ด้วยเหตุนี้ พ่อของเด็กสาวจึงได้เตรียมของขวัญหลายอย่างเพื่อตอบแทนลุกซ์ที่ช่วยชีวิตลูกสาวของเขา
“พี่ใหญ่ นี่สำหรับพี่ มันคือของขวัญที่มาจากครอบครัวของฉัน มันเป็นของขวัญที่พี่ช่วยชีวิตพวกเรา” โคเล็ตต์ มอบแหวนเงินจากกระเป๋าเวทย์มนตร์ของเธอให้กับลุกซ์ “พี่ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”
ลุกซ์ ทำได้เพียงรับแหวนเงินมาจากมือของ โคเล็ตต์ ตอนนี้เขาไม่มีความคิดที่จะปฏิเสธความปราถนาดีใดๆ ที่จะช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นในเอลิเซียม
เมื่อฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ดูสิ่งที่อยู่ภายในแหวน เขาก็พบคอร์มอนสเตอร์ระดับ 2 จำนวน 20 อัน และ คันธนูสีน้ำเงินที่มีการออกแบบที่สลับซับซ้อน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลุกซ์ จึงหยิบคันธนูออกมาจากแหวนเพื่อมองดูใกล้ๆ
“เป็นธนูที่ดี” ลุกซ์พูดขณะถือมันไว้ในมือ ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถในการประเมินสิ่งของต่างๆ เพราะเขายังไม่ได้เรียนรู้สกิล แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเขามี หนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียม
ไอเทมใดๆ ที่สามารถพบได้ในเอลิเซียม จะถูกบันทึกไว้ในหนังสือที่ลุกซ์ได้มาจากกาชาทั้งหมด
หลังจากถือหนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียมไว้ในมือ ข้อมูลของธนู ก็ปรากฏขึ้น และ ลุกซ์ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการผิวปากหลังจากที่ได้เห็นเนื้อหาของมัน
_____
<ฮาร์ทสไตร์เกอร์ : ธนูแห่งป่า>
ประเภทอาวุธ : ธนูยาว
ระดับ : พิเศษ
ความต้องการ : ความคล่องแคล่ว 80
- ความเสียหาย : 125-160
- เพิ่มพลังโจมตีระยะไกลขึ้น 20%
สกิลติดตัว : ยิงเข้าหัวใจ
<ยิงเข้าหัวใจ>
- สร้างความเสียหายสองเท่าหากการโจมตีของคุณโดนตรงบริเวณหัวใจของเป้าหมาย
- ความสามารถของสกิลนี้สามารถใช้ได้ทั้งการโจมตีปกติและการโจมตีด้วยสกิล
_____
“ขอบคุณนะ โคเล็ตต์” ลุกซ์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการอยู่พอดีเลย”
“ฉันดีใจที่พี่ชอบ!” โคเล็ตต์ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เธอค่อนข้างดีใจที่ ลุกซ์ ชอบของขวัญที่พ่อของเธอเตรียมไว้ให้เขา แม้ว่าเธอจะไม่เคยเห็นลุกซ์ใช้ธนูมาก่อน แต่เนื่องจากเผ่าพันธุ์ของพี่ใหญ่ เธอเชื่อว่าเขาน่าจะได้รับพรที่สามารถทำให้ใช้ธนูได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่สิ่งที่เด็กสาวคนแคระไม่รู้เลยก็คือ เหตุผลที่ ลุกซ์ มีความสุข เพราะเขากำลังมองหาอาวุธที่ดีเพื่อที่จะมอบให้กับ ฮันเตอร์โครงกระดูกของเขา อิชทาร์ ดังนั้นเมื่อได้รับ ฮาร์ทสไตรเกอร์มา การโจมตีในระยะไกลของเธอก็จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น
แมทตี้,เฮเลน,อาเซล และ แอนดี้ เองก็มอบของขวัญต่างๆ ที่มาจากครอบครัวให้กับ ลุกซ์ ด้วย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มอบอาวุธใด ๆ ให้ลุกซ์ แต่พวกเขาทั้งหมดก็มอบคอร์มอนสเตอร์ระดับ 2 ให้เขา 10 อัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มมีความสุขมาก
“พวกเธอทั้งหมดเป็นทูตสวรรค์หรือเปล่าเนี่ย?” ลุกซ์ กล่าวถามขณะที่เขารับคอร์มอนสเตอร์ทั้งหมดมาด้วยความขอบคุณ “เท่าที่ฉันลองเช็คดู วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของฉันสักหน่อย”
“หะ? หัวของนายถูกพวกโคโบลด์ตีจนได้รับกระทบกระเทือนหรือยังไง” แมทตี้ได้ตะคอกออกมา “นี่เป็นเพียงของขวัญที่ครอบครัวของเรามอบให้เพื่อแสดงความขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา และ ฉันบอกเลยว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะฉันจะไม่มีวันตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นอีก!”
โคเล็ตต์,เฮเลน,อาเซล และ แอนดี้ ต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ประสบการณ์ที่พวกเขาเผชิญหน้ากับพวกโคโบลด์ในรัง ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เนื่องจากประสบการณ์นี้ ทำให้พวกเขาปราถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนที่ผ่านมา
ลุกซ์ เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา เพราะเขาเองก็คิดเช่นเดียวกัน ตราบใดที่เขาสามารถแข็งแกร่งกว่าศัตรูของเขาได้ เขาก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจัดไปอยู่ในตำแหน่งที่อันตราย
“พี่ใหญ่ วันนี้พี่มีแผนที่จะทำอะไรไหม?” โคเล็ตต์ กล่าวถาม “พวกเราวางแผนที่จะตามหา คาร์บันเคิล ในที่ราบแห่งความปราถนา พี่อยากจะมากับพวกเราไหม?”
“คาร์บันเคิล?” ลุกซ์ ขมวดคิ้วแน่นหลังจากที่เขาเก็บธนูเข้าไปในแหวนเก็บของ
คาร์บันเคิล คือมอนสเตอร์อัลฟ่าแห่งทุ่งแห่งความปราถนา มันคือเจ้าแห่งกระตายเขาและเป็นมอนสเตอร์สายสนับสนุนที่ช่วยรักษาและบัฟให้กับพันธมิตรในการต่อสู้ แน่นอนว่าหากมันถูกต้อนให้จนมุม ด้วยความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ตัวนี้มันสามารถโจมตีศัตรูด้วยการโจมตีทางกายภาพและเวทย์มนตร์ได้
นอกจากนี้มันยังรวดเร็วมากอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับศัตรูหรือกลุ่มปาร์ตี้ที่ยังไม่ได้ก้าวขึ้นสู่แรงค์มือใหม่ที่จะไล่ตามมัน
เหตุผลที่ โคเล็ตต์ เสนอการโจมตี คาร์บันเคิล เป็นเพราะการแสดงพลังของ ลุกซ์ ในรังของโคโบลด์ หลังจากเห็นความแข็งแกร่งของเดียโบลและโครงกระดูกอื่นๆ ภายใต้คำสั่งของฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม เธอก็มั่นใจว่าพวกเขาสามารถเอาชนะ มอนสเตอร์อัลฟ่าของหมู่บ้านลีฟที่อ่อนแอที่สุดได้
ข้อเสนอของ โคเล็ตต์ ดึงดูดใจเป็นอย่างมาก และ ลุกซ์ รู้ว่าพวกเขาสามารถท้าทายคาร์บันเคิลได้ อย่างไรก็ตาม แผนที่เขาคิดไว้จะต้องมาก่อน ตอนนี้ไรเดอร์ของนอร์เรียได้ทำข้อตกลงไม่รุกรานกับพวกโคโบลด์ที่เคยเป็นกลุ่มโจรในอดีต ดังนั้นพวกเขาจึงมีอิสระมากขึ้นในการจัดการกับงานบางอย่างที่พวกเขาได้พักไว้
หนึ่งในภารกิจเหล่านี้ก็คือการจัดการกับการแพร่ระบาดของพวกยุงที่ยังคงเกิดขึ้นในสวนฟิกาโร ลุกซ์ ต้องการจัดการกับภัยคุกคามนี้ ก่อนที่ ไรเดอร์จากนอร์เรียจะถูกส่งไปจัดการพวกมัน
ตราบเท่าที่เขาสามารถยืมบลัดมูนจากอาจารย์แรนดอล์ฟของเขาต่อได้ ลุกซ์ ก็มั่นใจว่าปาร์ตี้โครงกระดูกของเขาจะสามารถกำจัดพวกยุงที่บังคับให้กิลด์นักผจญภัยขัดขวางไม่ให้ทุกคนเข้าไปในสวนฟิกาโร
“มีบางอย่างที่ฉันต้องไปทำก่อน และ ฉันจะกลับมาภายในสามวัน” ลุกซ์ ตอบกลับหลังจากจัดการความคิดของเขาเสร็จ “ถ้ารอถึงตอนนั้นได้ ฉันก็ยินดีที่จะไปท้าทาย คาร์บันเคิล ร่วมกับพวกเธอทุกคน”
“ตกลง!” โคเล็ตต์ ตกลงตามข้อเสนอของลุกซ์อย่างง่ายดาย “สรุปพี่จะไปท้าทายคาร์บันเคิล กับพวกเราในอีก 3 วันต่อมา ใช่ไหม?”
ลุกซ์ พยักหน้า
“ฉันให้สัญญา ฉันจะกลับมาให้ทันภายใน 3 วัน และจะไปท้าทายคาร์บันเคิลร่วมกับพวกเธอทุกคน นอกจากนี้ ฉันจะไม่แย่งพวกเธอเกี่ยวกับมอนสเตอร์ดรอป ซึ่งพวกเธอทุกคนสามารถจัดการมันได้”
“พี่ใหญ่ พี่ดีที่สุดเลย!” โคเล็ตต์ ยิ้มขณะที่เธอยกนิ้วโป้งให้ลุกซ์
หลังจากคุยกันอีก 2-3 เรื่อง ในที่สุดกลุ่มก็แยกย้ายกันไปจัดการธุระของตัวเอง
ส่วนลุกซ์ ได้เดินทางไปยังโรงงานของอาจารย์ของเขาในขณะที่เวลายังเหลืออยู่ เขาหวังว่าก่อนที่ ไรเดอร์จากนอร์เรียจะมาถึง เขาจะสามารถทำตามแผนที่เขาตั้งใจเอาไว้ได้สำเร็จ