บทที่ 4 : เปิดใช้งานระบบความสำเร็จ
บทที่ 4 : เปิดใช้งานระบบความสำเร็จ
ลู่หยานมองไปที่ลั่วหลิวลี่และยิ้ม “ใช่แล้ว ฉันปลุกอาชีพได้สำเร็จแล้ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของลั่วหลิวลี่กว้างขึ้นเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม จากนั้นเธอก็ตำหนิลู่หยานว่า “หยานน้อย นายไม่ควรเอารางวัลมาให้ฉันนะ ฉันยังสบายดี กลับกัน สิ่งนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของนายในอีกสามวันนะ”
ลู่หยานพูดอย่างจริงจังว่า “พี่หลิวลี่ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ช่วยฉันในคราวนั้น สิ่งต่างๆ ก็คงจะไม่จบลงเช่นนี้ มันถูกต้องแล้วที่ฉันจะทำเช่นนี้”
“นอกจากนี้ พี่ก็น่าจะรู้สภาพร่างกายของพี่เองดี หากพี่ไม่ใช้ยารักษาตอนนี้ ร่างกายของพี่ก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก”
“นายนี่นะ” ลั่วหลิวลี่ยิ้มและส่ายหัว จากนั้นเธอก็ถามต่อไปว่า “ยังไงก็เถอะ หยานน้อย นายปลุกได้อาชีพอะไรล่ะ มันเป็นอาชีพสายต่อสู้ใช่ไหม?”
เมื่อเทียบกับอาชีพสายสนับสนุนแล้ว อาชีพสายต่อสู้นั้นก็ดีกว่าโดยธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้เอง ลั่วหลิวลี่จึงหวังว่าลู่หยานจะปลุกได้อาชีพสายต่อสู้
ลู่หยานตกตะลึง จากนั้นเขาก็มองไปที่ลั่วหลิวลี่และพูดว่า “มันเป็นอาชีพสายต่อสู้ แต่มันก็เป็นอาชีพเนโครแมนเซอร์”
ลู่หยานคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะไม่บอกลั่วหลิวลี่เกี่ยวกับอาชีพลับที่เขาได้รับมา
เหตุผลหนึ่ง เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และอีกเหตุผลหนึ่ง แบบนี้มันก็ปลอดภัยกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว การลอบสังหารที่มุ่งเป้าไปที่อัจฉริยะนั้นก็เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยครั้งในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าสถานการณ์ในแดนมังกรจะค่อนข้างดี แต่พวกเขาก็ไม่สามารถประมาทได้
แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับอาชีพลับราชาผู้วายชนม์มาแล้ว แต่เขาก็ได้รับมาเพียงศักยภาพอันยิ่งใหญ่เท่านั้น มันยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขาเอง
มันเป็นการดีที่สุดที่จะไม่เปิดเผยตัวตนออกมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของลั่วหลิวลี่แข็งขึ้นเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเธอก็มองไปที่ลู่หยานและปลอบใจเขาว่า “แม้ว่านายจะเป็นเพียงเนโครแมนเซอร์ แต่อย่างน้อยนายก็ได้ปลุกอาชีพสายต่อสู้ขึ้นมาแล้วและยังมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมาก หยานน้อย อย่าเพิ่งท้อแท้ไปล่ะ”
ลั่วหลิวลี่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเนโครแมนเซอร์นั้นอ่อนแอเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น พูดตามตรง ศักยภาพในการพัฒนาของพวกเขาก็ยังไม่สูงนัก ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีใครเป็นผู้นำทาง ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะมีจำกัดมาก
เธอแค่ปลอบลู่หยานเท่านั้น
ลู่หยานยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปพี่หลิวลี่ ฉันจะทำอันดับให้ได้ดีๆในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
“งั้นฉันก็จะตั้งตารอนะ” ลั่วหลิวลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอเห็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของลู่หยาน
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่มีทางเดาได้เลยว่าลู่หยานนั้นได้รับอาชีพลับมาแล้ว
ในขณะนี้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จากนั้นชายชุดดำสามคนก็เดินเข้ามา
คนที่เป็นผู้นำเป็นผู้หญิง เธอมีรูปร่างผอมแต่มีรอยแผลเป็นที่มุมใบหน้าของเธอ มันทำให้เธอดูค่อนข้างโหดเหี้ยม
ข้างหลังเธอมีชายสองคนเดินตามมาราวกับเป็นลูกสมุน
ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงไปหาลู่หยานและถามว่า " นายคือลู่หยานใช่ไหม?”
ลู่หยานขมวดคิ้ว “ใช่ มีอะไรหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “ฉันชื่อหวังเฟิง ฉันเป็นผู้จัดการผู้มีพรสวรรค์ของซินก้า และฉันก็มาในครั้งนี้เพื่อเชิญคุณให้มาเข้าร่วมกับซินก้า”
ซินก้า!
ดวงตาของลู่หยานหดแคบลงในทันที
ซินก้าเป็นหนึ่งในสามแก๊งค์ใหญ่ในเมืองหลินอัน ลักษณะเฉพาะของพวกเขาคือสมาชิกที่สวมชุดสูทและมีท่าทีดูเหมือนกับชนชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็โหดเหี้ยมและหัวรุนแรง ชื่อเสียงของพวกเขาแย่ที่สุดในบรรดาแก๊งทั้งสาม
ลู่หยานพูดโดยไม่ลังเลว่า “ฉันจะไม่เข้าร่วมกับซินก้า”
โดยทั่วไปแล้ว เฉพาะนักเรียนที่ไม่มีความมั่นใจในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือยากจนมากเท่านั้นถึงจะยอมเข้าร่วมกับกลุ่มในท้องถิ่นอย่างซินก้าแทนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้
แน่นอนว่าทรัพยากรของมหาวิทยาลัยนั้นมีมากกว่าทรัพยากรของกลุ่มท้องถิ่นเหล่านี้มาก แค่ความจริงที่ว่าพวกเขามีอาจารย์ระดับชั้นนำก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะเอาชนะกลุ่มท้องถิ่นเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ลู่หยานก็มีอาชีพลับราชาผู้วายชนม์ ดังนั้นเขาก็จะต้องได้รับผลงานที่ดีอย่างแน่นอนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
และแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังขาดแคลนเงิน แต่ตราบใดที่เขาได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆ ได้หลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย รางวัลก็จะเพียงพอสำหรับลู่หยานในการรักษาอาการบาดเจ็บของลั่วหลิวลี่ได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็จะยังมีทรัพย์สมบัติให้เหลือเก็บอีกด้วย
หวังเฟิงหรี่ตาลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้และพูดว่า “อาชีพที่นายปลุกขึ้นมาได้คือเนโครแมนเซอร์ใช่ไหม? มันเป็นอาชีพสายต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นนายก็สามารถลืมเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปได้เลย ซินก้าของเรามีเนโครแมนเซอร์เลเวล 25 อยู่ เราสามารถช่วยให้นายยืนหยัดบนเส้นทางของเนโครแมนเซอร์ได้”
“นอกจากนี้ เราก็ยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้อีกด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้ากลุ่มซินก้า ลั่วหลิวลี่ซึ่งนอนอยู่บนเตียงก็รีบพูดว่า “ลู่หยาน อย่าไปตอบตกลงนะ การเข้ามหาวิทยาลัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!”
ลั่วหลิวลี่ต้องเข้าร่วมกับองค์กรก็เพราะเธอไม่ได้สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ในช่วงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงไม่ต้องการให้ลู่หยานต้องมาประสบกับชะตากรรมเดียวกัน
ลู่หยานเองก็ส่ายหัวเช่นกัน “ฉันจะไม่เข้าร่วมซินก้า คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
หวังเฟิงมองไปที่ลู่หยานและลั่วหลิวลี่เมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเธอก็แสดงท่าทีเย้ยหยันและพูดว่า “แกก็เป็นเพียงเนโครแมนเซอร์ แต่แกกลับคิดที่จะเข้ามหาวิทยาลัยจริงๆ หรอ? ช่างน่าหัวเราะ พวกแกสองคนมันก็เป็นแค่เด็กกำพร้าและไม่ได้มีทรัพย์สมบัติพอที่จะเลี้ยงชีพด้วยซ้ำ พวกแกโชคดีมากแล้วที่ได้ปลุกอาชีพสายต่อสู้ขึ้น และทางออกเดียวของแกก็คือการเข้าร่วมกับพวกเรา!”
“ฉันจะไม่บังคับแก เพราะหลังจากที่แกสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน แกก็จะต้องกลับมาคุยกับฉันอีกครั้งแน่ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานั้น ประโยชน์ของการเข้าร่วมซินก้าก็จะไม่ได้มากมายเท่ากับในตอนนี้แล้ว”
เมื่อพูดจบ หวังเฟิงก็จากไปพร้อมกับคนของเธอโดยไม่ลังเลใดๆ
ลู่หยานขมวดคิ้ว การตกเป็นเป้าหมายของซินก้านั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่กระนั้นลู่หยานก็ไม่ได้สนใจ
หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตราบเท่าที่เขาอยู่ในอันดับต้นๆ ซินก้าก็จะไม่กล้าแตะต้องเขา
หลังจากคุยกับลั่วหลิวลี่ได้สักพัก ลู่หยานก็ออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้าน
เขายังคงนึกถึงการทำภารกิจของวันนี้ให้สำเร็จ ท้ายที่สุดแล้ว ตัวเลือกในการรับรางวัลทั้งหมดก็ไม่ได้มีให้ทุกครั้ง
หวังเฟิงซึ่งออกจากโรงพยาบาลมาแล้วนั่งอยู่บนรถและมองดูลู่หยานจากไป ดวงตาของเธอเผยให้เห็นความเย็นชา
“บอกหูเว่ยให้มาที่โรงพยาบาลในสามวันและทำให้แน่ใจว่าอาการของหลัวหลิวลี่จะแย่ลง”
“ไอ้สารเลว ไม่มีใครจะหนีรอดไปจากฉันได้”
“ในเมื่อแกไม่ยอมตกลงอย่างเชื่อฟัง งั้นฉันก็จะบังคับให้แกต้องตกลงเอง”
“แกควรจะดีใจด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเนโครแมนเซอร์ของเราได้รับบาดเจ็บสาหัสจนใกล้จะตาย ฉันก็คงจะไม่หันมาสนใจเนโครแมนเซอร์ไก่กาอย่างแกแน่”
หวังเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและสั่งให้คนขับรถของเธอขับรถออกไป
ลู่หยานไม่รู้ว่าหวังเฟิงได้เตรียมการที่จะโจมตีลั่วหลิวลี่แล้ว เขารีบกลับยังบ้านในเขตเมืองเก่า เขาแทบรอไม่ไหวที่จะวิดพื้นเตรียมทำภารกิจของวันนี้ให้เสร็จ
บ้านของลู่หยานและลั่วหลิวลี่เป็นบ้านเช่าและค่อนข้างเก่า อย่างไรก็ตาม ภายในนั้นก็ยังมีอุปกรณ์ฝึกฝนมากมาย
ลู่หยานใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อวิดพื้นมาตรฐาน 300 ครั้ง ในขณะที่เขากำลังจะเริ่มกระโดดลุกนั่ง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
[ ติ้ง… ตรวจพบว่าโฮสต์กำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอีกสามวัน เปิดใช้งานระบบความสำเร็จแล้ว คุณสามารถได้รับรางวัลได้โดยเพิ่มคะแนนความสำเร็จของคุณให้ถึงระดับที่ต้องการ ]
[ ระบบความสำเร็จได้เปิดใช้งานแล้ว ภารกิจความสำเร็จแรก 'มีชื่อเสียงในโรงเรียน' ได้เปิดใช้งานแล้ว ]
[ มีชื่อเสียงในโรงเรียน: ติดสิบอันดับแรกในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสามวันและกลายเป็นคนดังในมหาวิทยาลัย ]
[ รางวัลภารกิจ: คะแนนค่าคุณลักษณะฟรี 10 คะแนนและ 100 คะแนนความสำเร็จ ]