บทที่ 3 : เอาแม่งหมดเลย!
บทที่ 3 : เอาแม่งหมดเลย!
ครูที่อยู่ข้างๆ เขามองดูลู่หยานด้วยความงุนงงและพูดว่า “อย่ามัวยืนแข็งสิ หากเธอปลุกอาชีพของเธอเสร็จแล้วก็ลงไปได้แล้ว มันไม่เลวแล้วที่เธอจะสามารถปลุกอาชีพเนโครแมนเซอร์ขึ้นมาได้”
ลู่หยานกลับมาได้สติและพยักหน้าก่อนที่จะเดินลงมาจากเวที
ในขณะนี้ ความสนใจของเขาก็อยู่ที่ภารกิจประจำวัน
[ ภารกิจวันนี้: วิดพื้น (0/300), กระโดดลุกนั่ง (0/100), ดึงข้อ (0/200) ]
[ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของวันนี้ คุณจะสามารถเลือกรับรางวัลดังต่อไปนี้ได้ ]
[ รางวัลที่ 1: รับคะแนนค่าคุณสมบัติฟรี 3 คะแนน ]
[ รางวัลที่ 2: รับคะแนนสกิล 3 คะแนน ]
[ รางวัลที่ 3: รับหนังสือสกิลอาชีพ ]
[ รางวัลที่ 4: เอาแม่งหมดเลย ( หมายเหตุ : เฉพาะเด็กน้อยไก่กาเท่านั้นที่จะเลือก นี่เป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยปรากฏขึ้น) ]
นี่คือภารกิจประจำวันของระบบ มันค่อนข้างคล้ายกับระบบของเกม
คะแนนค่าคุณสมบัติฟรีและคะแนนสกิลมีค่าสูงมาก อย่างแรกสามารถเพิ่มความสามารถของร่างกายได้ และอย่างหลังสามารถเพิ่มความสามารถของสกิลได้
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงหนังสือสกิลเลย มันสามารถทำให้คนเข้าใจสกิลได้ในทันที มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมโดยธรรมชาติ
และแน่นอน เมื่อเทียบกับรางวัลที่สี่แล้ว สามรางวัลแรกก็ไม่ได้น่าสนใจเลย
เขาต้องการมันทั้งหมดเลย!
ลู่หยานเปิดค่าคุณสมบัติร่างกายของเขา
[ ความแข็งแกร่ง: 8 ]
[ ร่างกาย: 6 ]
[ ความว่องไว: 12 ]
[ สติปัญญา: 20 ]
ค่าความแข็งแกร่งและร่างกายของลู่หยานค่อนข้างต่ำ มันทำให้เขาดูอ่อนแอมาก อย่างไรก็ตาม ความว่องไวและสติปัญญาของเขาก็ไม่เลวเลย มันเกินค่าเฉลี่ยสิบคะแนนไปไกลมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าสติปัญญาของลู่หยาน มันสูงเป็นสองเท่าของนักเรียนทั่วไป สิ่งนี้ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ของเขาทรงพลังมากและทำให้สกิลและชำนาญของเขาในด้านต่างๆ เองก็ดีขึ้นมากเช่นกัน
หลังจากได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติแล้ว ลู่หยานก็เตรียมที่จะเพิ่มคะแนนให้กับร่างกายของเขาก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของเขาอ่อนแอจนเกินไป
“ลู่หยานไม่เลวเลย นายปลุกได้อาชีพสายต่อสู้แล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเนโครแมนเซอร์ แต่มันก็ดีมากแล้วสำหรับนาย”
ชายร่างอ้วนเดินเข้ามาชนกับลู่หยานและยิ้มให้เขา
เมื่อลู่หยานเห็นอีกฝ่าย เขาก็ยิ้มและพูดว่า “หยางเว่ย นายปลุกได้อาชีพที่นายต้องการแล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นายคิดที่จะเรียกปีศาจสาวออกมาจริงๆ หรอ?”
เมื่อหยางเว่ยได้ยินสิ่งนี้ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดอย่างชอบธรรมว่า “เหอะ! มันจะเป็นไปได้ยังไง? นายเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นหรอ? ฉันต้องการจะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาต่างหาก”
ลู่หยานมองเขาอย่างสงสัย “ตามความเข้าใจของฉันที่มีต่อนาย นี่มันก็ดูไม่เหมือนนายเลย หยางเว่ยที่ฉันรู้จักมักจะพูดถึงแต่เรื่องสัปดน”
หยดเหงื่อปรากฏขึ้นบนหน้าผากของหยางเว่ย จากนั้นเขาก็กระซิบข้างหูของลู่หยานว่า “ลดเสียงลงหน่อย เดี๋ยวทุกคนก็คิดว่าฉันเป็นคนชั่วกันหมดหรอก”
“นอกจากนี้ ฉันก็ยังไม่ได้โกหก ฉันต้องการจะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจริงๆ”
“นายก็รู้ว่าฉันพยายามร่ำเรียนเกี่ยวกับอาชีพผู้อัญเชิญอย่างขยันขันแข็งมาจนถึงทุกวันนี้”
ลู่หยานพยักหน้า “นั่นก็จริง แต่หน้าหนังสือที่เกี่ยวกับปีศาจสาวในหนังสืออัญเชิญก็คงจะถูกนายฉีกทิ้งไปหมดแล้วด้วยสินะ”
“ลู่หยาน! อย่ามาบ่อนทำลายฉันนะ!” หยางเว่ยจ้องมองไปที่ลู่หยาน
น่าเสียดาย แม้ว่าใบหน้าอ้วนๆ ของเขาจะเปิดกว้าง แต่เขาก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเลย มันกลับค่อนข้างน่ารักแทน
“เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันจะไม่แกล้งนายแล้ว ฉันจะไปรับรางวัลก่อนนะ”
ลู่หยานยิ้มและส่ายหัวก่อนที่จะมุ่งหน้าไปรับรางวัลจากการปลุกพลัง
หยางเว่ยมาจากหลักสูตรธรรมดา แต่เขาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลู่หยานและถือได้ว่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาในโรงเรียน
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของลู่หยาน หยางเว่ยก็พึมพำว่า “ฉันพูดจริงนะ ฉันต้องการจะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด”
“แต่ใครบอกกันล่ะว่าปีศาจสาวจะแข็งแกร่งที่สุดไม่ได้?”
หยางเว่ยหัวเราะเบาๆ และแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับบ้าน เขาสงสัยว่าเขาจะสามารถเรียกปีศาจสาวได้สำเร็จหรือไม่
...
ลู่หยานมาถึงสถานที่รับรางวัลและได้รู้ว่ารางวัลสำหรับการปลุกอาชีพสายต่อสู้ในปีนี้คือยาบำรุงแก่นและเงิน 100,000 หยวน
ยาบำรุงแก่นคือรูปแบบย่อยของยาเสริมแก่น มันสามารถช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติใดๆ ก็ตามหนึ่งจุดได้
ลู่หยานไม่ได้ต้องการรางวัลทั้งสอง เขาเลือกที่จะแลกเปลี่ยนทั้งสองอย่างกับยารักษาระดับสูงแทน
เดิมที ลู่หยานก็วางแผนที่จะใช้รางวัลเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นยารักษาสำหรับพี่หลิวลี่อยู่แล้ว
ยารักษาคุณภาพสูงหนึ่งหลอดนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้พี่หลิวลี่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่อย่างน้อย มันก็ยังพอจะรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้
หลังจากที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยและได้รับอันดับที่ดี เขาก็จะสามารถได้รับทรัพยากรจำนวนมากเป็นรางวัลได้ และในเวลานั้น เขาก็จะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของพี่หลิวลี่ได้อย่างสมบูรณ์
หลังจากได้รับอาชีพลับและระบบเสริมพลังอาชีพมาแล้ว ลู่หยานก็มั่นใจในตัวเองมาก ในครั้งนี้ เขาจะต้องติดอันดับในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างแน่นอน!
ยารักษาคุณภาพสูงหนึ่งหลอดสามารถแลกเปลี่ยนเป็นยาเพิ่มแก่นได้หนึ่งขวดและเงินอีก 50,000 หยวน หลังจากแลกกับยารักษามาแล้ว ลู่หยานก็ยังเหลือเงินอีก 50,000 หยวน
หลังจากออกมาจากโรงเรียน ลู่หยานก็รีบตรงไปที่โรงพยาบาลของรัฐในเมือง
…
ในห้อง 208 บนชั้นสองของแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
บนเตียงที่สาม ลั่วหลิวลี่ซึ่งถูกพันร่างด้วยผ้าพันแผลก็กำลังทำหน้าบึ้งใส่ผู้อำนวยการฮวงเบื้องหน้าเธอ
“38,000? ทำไมค่ารักษาพยาบาลถึงแพงขึ้นอีกแล้ว”
ผู้อำนวยการฮวงมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของลั่วหลิวลี่และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันรู้ว่าเธอไม่มีเงินพอที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้ในครั้งเดียว… อย่างไรก็ตาม หากเธอมารักษาอาการบาดเจ็บเป็นระยะๆ แบบนี้ อาการของเธอก็จะมีแต่แย่ลง และค่ารักษาพยาบาลก็จะเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา”
ลั่วหลิวลี่กัดริมฝีปากของเธอเมื่อได้ยินสิ่งนี้
เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพของเธอแล้ว เธอก็จะสามารถเริ่มรับภารกิจเพื่อรักษาชีวิตของเธอและแม้แต่ช่วยลู่หยานเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาได้ เธอไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่ภารกิจแรกของเธอ
ถ้ารางวัลในตอนนั้นเธอไม่ได้แลกมากับยาบำรุงโลหิต เธอก็อาจจะสามารถหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บสาหัสได้
อย่างไรก็ตาม ลั่วหลิวลี่ก็ไม่เคยนึกเสียใจเลย
เธอและลู่หยานต่างก็พึ่งพากันและกันเพื่อความอยู่รอด ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลู่หยานก็มักจะแอบมอบความช่วยเหลือให้กับเธอและช่วยเธอฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ
ในหัวใจของลั่วหลิวลี่นั้น ลู่หยานก็คือครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอ
นอกจากนี้ ร่างกายของลู่หยานก็ยังอ่อนแอมากในเวลานั้น ถ้าเขาไม่ได้ยาบำรุงโลหิตเพื่อเสริมแก่นแท้โลหิตของเขา เขาก็คงจะไม่สามารถทนต่อการปลุกอาชีพได้
ด้วยเหตุนี้เอง การแลกเปลี่ยนรางวัลเป็นยาบำรุงโลหิตจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอแล้ว
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่เพื่อนร่วมทีมของเธอได้ทราบรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ถึงกับบอกว่าเธอหมกมุ่นอยู่กับน้องชายคนนี้มากเกินไป แต่กระนั้น ลั่วหลิวลี่ก็ตอบกลับไปเพียงประโยคเดียว
“ฉันไม่ได้กำลังทำร้ายใคร ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ มันเกี่ยวอะไรกับพวกนายด้วย”
ลั่วหลิวลี่หยุดคิดและมีสีหน้ากังวล เธอไม่ต้องการจะเห็นลู่หยานแบกรับภาระค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อำนวยการฮวงก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอ ถ้าเธอยอมกลายเป็นของเล่นของพวกนายน้อยผู้ร่ำรวย พวกนั้นก็จะต้องยอมช่วยเธอจ่ายค่ารักษาแน่ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังจะให้เงินก้อนโตแก่เธอ นี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”
“เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย มันก็เป็นการดีที่สุดที่จะไม่มัวพะว้าพะวงอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรี ฉันได้เห็นคนตายมาเยอะแล้ว ถ้าเธอตาย เธอก็จะสูญเสียทุกอย่าง”
เสียงของผู้อำนวยการฮวงนั้นเย็นชามาก เขาคุ้นเคยกับความเป็นและความตายและยังรู้สถานการณ์ของลั่วหลิวลี่ด้วย ด้วยเหตุนี้เอง นี่จึงเป็นทางออกเดียวที่เขาคิดได้
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใย ผู้อำนวยการฮวง อย่างไรก็ตาม คุณก็ควรจะกลับไปทำหน้าที่ของคุณดีกว่านะ”
ในขณะนี้ ลู่หยานก็ผลักประตูและเดินเข้ามา
ผู้อำนวยการฮวงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเยาะเย้ย “ถ้างั้นก็จ่ายค่ารักษามาก่อนสิ นี่ก็วันที่สามแล้ว”
ลู่หยานหยิบบัตรธนาคารของเขาและหลอดยารักษาคุณภาพสูงออกมาก่อนจะพูดกับผู้อำนวยการฮวงว่า “ฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังมีเงินเหลืออยู่อีก 12,000 ฉันจะใช้มันเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมล่วงหน้าในอนาคต”
“ผู้อำนวยการฮวงโปรดฉีดยารักษานี้ให้กับพี่หลิวลี่ด้วย”
ผู้อำนวยการฮวงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ลู่หยานแล้วรับบัตรธนาคารกับยารักษามาก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของผู้อำนวยการฮวง ลู่หยานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทักษะทางการแพทย์ของผู้อำนวยการฮวงนั้นจัดว่าอยู่ในระดับดี แต่ปากของเขาก็ตรงกันข้าม
บนเตียงในโรงพยาบาล ลั่วหลิวลี่ตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นลู่หยานมอบบัตรธนาคารและยารักษาให้กับผู้อำนวยการฮวง จากนั้นใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความสุข
“หยานน้อย นายปลุกอาชีพสำเร็จแล้วใช่ไหม?”