บทที่ 2 : อาชีพลับ ราชาผู้วายชนม์
บทที่ 2 : อาชีพลับ ราชาผู้วายชนม์
“ลู่หยานได้ปลุกอาชีพเนโครแมนเซอร์ เขาดวงดีจริงๆ เขามาจากหลักสูตรร่วม แต่เขาก็ยังได้รับอาชีพสายต่อสู้”
“ถึงอย่างนั้น เนโครแมนเซอร์ก็ยังคงเป็นอาชีพสายต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุด พวกเขาสามารถเรียกทหารโครงกระดูกออกมาได้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และกำลังรบของพวกมัน็อ่อนแอมาก”
“ถูกต้อง เนโครแมนเซอร์นั้นหาพบได้น้อยมาก และโดยพื้นฐานแล้ว มันก็ไม่มีเนโครแมนเซอร์ระดับแนวหน้าเลย พวกเขามีสกิลและเทคนิคน้อยมาก พูดง่ายๆ พวกเขาก็ไม่มีศักยภาพเลย”
“อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เลวเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากหลักสูตรร่วม มันไม่เลวสำหรับเขาแล้วที่จะปลุกอาชีพสายต่อสู้ขึ้นมาได้”
ลู่หยานไม่ได้สนใจเกี่ยวกับบทสนทนารอบข้างเขา ในเวลานี้ เสียงในใจของเขาก็กำลังทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
ระบบ?
ตั้งแต่เขาได้มาถึงโลกนี้ครั้งแรก ลู่หยานก็ยังคงหวังเอาไว้ในใจว่าเขาจะมีสูตรโกงเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปสามปี ลู่หยานก็ต้องเผชิญหน้าแต่เพียงสิ้นหวัง เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าระบบจะมาปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้
หกปีแห่งการดูแลร่างกาย?
มุมปากของลู่หยานกระตุก ไม่แปลกใจเลยที่ร่างกายของเขาจะอ่อนแอมากซะจนแม้แต่ยาบำรุงที่ลั่วหลิวลี่ได้ให้เขามาก็ยังไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้มากนัก
ก่อนหน้านี้ ลู่หยานก็คิดมาตลอดว่าร่างกายของเขาคงจะอ่อนแอเกินไป แต่มาตอนนี้ มันก็ดูเหมือนว่าระบบเสริมพลังอาชีพนี้จะกำลังดูดซับสารอาหารของเขาไป
อย่างไรก็ดี ในตอนนี้ ความสนใจของลู่หยานก็ไปหยุดอยู่ที่รางวัล
[ การปลุกอาชีพครั้งที่สอง: ใช้ศักยภาพของคุณอย่างเต็มที่และปลุกอาชีพขึ้นครั้งที่สอง มีโอกาสที่จะปลุกได้อาชีพลับ ]
เมื่ออ่านคำอธิบายของการปลุกอาชีพครั้งที่สองแล้ว หัวใจของลู่หยานก็เต้นแรงขึ้น
มีโอกาสที่เขาจะปลุกได้อาชีพลับอย่างงั้นหรอ?
เป็นที่ทราบกันดีว่าอาชีพลับนั้นได้หายากมาก และโดยพื้นฐานแล้ว มันจะปรากฎขึ้นก็ต่อเมื่อมีคนได้เปลี่ยนอาชีพเป็นครั้งที่สองหรือสาม ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสนั้นก็ยังต่ำมากจนน่าใจหาย
มันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปลุกได้อาชีพลับ
โดยไม่ลังเลใดๆ ลู่หยานเลือกที่จะปลุกอาชีพครั้งที่สองโดยทันที
แสงสีดำปรากฏออกมาจากร่างของลู่หยาน จากนั้นมันก็ห่อหุ้มร่างของเขาและรวมเข้ากับแสงสีเขียวจางๆ
…
“เฒ่าหวัง สถานการณ์ในห้องเรียนของคุณเป็นไงบ้าง? ห้องเรียนของฉันปลุกได้อาชีพสายต่อสู้ยี่สิบคนแล้ว” หลี่เสี่ยวหยูครูประจำชั้นของห้องเจ็ดมองไปที่ครูประจำชั้นของลู่หยาน หวังมู่เต๋อและถาม
หวังมู่เต๋อชำเลืองมองหลี่เสี่ยวหยูและพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันมีเพียงสิบห้าคนเท่านั้นที่ปลุกได้อาชีพสายต่อสู้”
หวังมู่เต๋อรู้ว่าหลี่เสี่ยวหยูมาที่นี่เพื่อโอ้อวด ท้ายที่สุดแล้ว มันก็มีห้องเรียนเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นที่จะมีนักเรียนสามารถปลุกอาชีพสายต่อสู้ได้มากกว่ายี่สิบคน
มันค่อนข้างดีแล้วถ้ามีสักสิบห้าถึงสิบหกคน ส่วนมากกว่ายี่สิบนั้นหาได้ยากมาก
หลี่เสี่ยวหยูยิ้มเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้และพูดต่อว่า “หื้ม แค่สิบห้าเองหรอ? ตอนนี้มันก็เหลือเพียงนักเรียนจากหลักสูตรร่วมแล้วสินะ ฉันคิดว่านั่นคือทั้งหมดแล้วล่ะ จุ๊ จุ๊ จุ๊ ฉันเกรงว่าอาจารย์หวังคงจะต้องสละตำแหน่งท็อปคลาสจากปีที่แล้วไปซะแล้วสิ”
หวังมู่เต๋อเลิกคิ้วขึ้น “มันก็ยังไม่แน่ ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะเป็นตัวกำหนดระดับท็อปคลาส”
“นอกจากนี้ ห้องเราก็ไม่ได้มีแค่สิบห้าคนเท่านั้น แต่เรามีสิบหกคน!”
ขณะที่เขาพูด หวังมู่เต๋อก็ชี้ไปที่ลู่หยานบนแท่นปลุกอาชีพ
หลี่เสี่ยวหยูหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “นั่นมันนักเรียนจากหลักสูตรร่วมนี่? นับว่าดีแล้วที่นักเรียนจะสามารถปลุกอาชีพนักสู้ขึ้นมาได้ แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงเนโครแมนเซอร์เท่านั้น”
“อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้พลังของเนโครแมนเซอร์? เรียกทหารโครงกระดูกสองสามตัว? นี่แหละคือความจริง มันไม่ใช่เกม พวกสัตว์ปีศาจไม่ได้โง่ และพวกมันก็จะไม่โจมตีเพียงทหารโครงกระดูกเหล่านั้นเท่านั้น”
“ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยร่างกายของเนโครแมนเซอร์ เขาก็น่าจะต้องบอกลาการสอบเข้ามหาวิทยาลัยซะแล้วล่ะ นอกจากนี้ ลูกศิษย์ของคุณคนนี้ก็ยังดูอ่อนแอมาก คะแนนกายภายของเขาน่าจะน้อยกว่าสิบ และเขาก็น่าจะทำอะไรไม่ได้มากนัก”
หวังมู่เต๋อตะคอกและพูดว่า “ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยยังไม่ทันออก และทุกอย่างก็ยังไม่แน่ อาจารย์หลี่ คุณควรโฟกัสที่ห้องเรียนของคุณเองจะดีกว่านะ”
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ ฉันแค่อยากมาคุยกับคุณเฉยๆ เอาเถอะ เนื่องจากอาจารย์หวังไม่ต้อนรับฉัน งั้นฉันก็จะมาคุยกับอาจารย์หวังหลังจากผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกก็แล้วกัน”
หลังจากที่หลี่เสี่ยวหยูพูดจบ เขาก็ส่ายหัวและเดินจากไป สีหน้าของเขาดูมีความสุขมาก
หวังมู่เต๋อมองไปที่ลู่หยานบนแท่นปลุกอาชีพและขมวดคิ้ว
แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นนักเรียนจากหลักสูตรร่วมสามารถปลุกอาชีพสายต่อสู้ได้ แต่สถานการณ์ในห้องเรียนของพวกเขาก็ยังไม่ค่อยดีนัก
มันมีนักเรียนเพียงสิบหกคนเท่านั้นที่มีอาชีพสายต่อสู้ และห้องเรียนของพวกเขาก็คงจะไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นห้องเรียนท็อปคลาสในปีนี้
ในขณะนี้ เสียงกรีกร้องก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล
บู้มมมม!
แสงพร่างพราวลอยขึ้นจากแท่นปลุกอาชีพ จากนั้นมันก็ค่อยๆ หลอมรวมเข้ากับร่างของหญิงสาว
“มันคืออาชีพนักรบขั้นสูง เบอร์เซิร์กเกอร์! ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะมีคนในโรงเรียนที่สามารถปลุกอาชีพสายต่อสู้ขั้นสูงขึ้นมาได้ด้วย!”
“โดยทั่วไปแล้ว เราจะปลุกอาชีพสายต่อสู้ขั้นสูงได้ก็เมื่อตอนที่เราเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองหรือสาม และหากเราสามารถได้อาชีพขั้นสูงมาได้ อนาคตของเราก็จะไร้ขีดจำกัด”
“ฉันได้ยินมาว่านอกเหนือจากรางวัลจากกระทรวงแล้ว ทางโรงเรียนเองก็ยังจะแจกรางวัลเพิ่มเติมให้กับนักเรียนที่มีอาชีพสายต่อสู้ขั้นสูงด้วย ถ้าเกิดว่าฉันสามารถปลุกอาชีพขั้นสูงขึ้นมาได้บ้างล่ะก็...”
“นายกำลังคิดอะไรอยู่? แม้ว่าอาชีพสายต่อสู้ขั้นสูงจะไม่ได้หายากเท่ากับอาชีพลับ แต่มันก็ยังหาได้ยากมาก โรงเรียนของเราจะผลิตคนแบบนั้นออกมาได้เพียงหนึ่งคนในสิบปีเท่านั้น”
ในขณะที่ทุกคนกำลังหันไปมองที่ผู้หญิงคนนี้ มันก็ไม่มีใครสังเกตเห็นแสงบนร่างกายของลู่หยานที่กะพริบสองครั้งเลย
“การปลุกอาชีพครั้งที่สองเสร็จสิ้น ขอแสดงความยินดีกับการปลุกอาชีพลับ ราชาผู้วายชน”
“คุณสามารถควบคุมพลังอันเดดได้ตามใจต้องการ”
เสียงระบบแวบเข้ามาในหูของลู่หยานและแสงก็หดกลับเข้าไปในร่างกายของเขา
ลู่หยานรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง
[ ชื่อ: ลู่หยาน ]
[ เลเวล: 0 ]
[ อาชีพ: ราชาผู้วายชนม์ ]
ลู่หยานตรวจสอบข้อมูลของเขา เมื่อเขาเห็นแถบสกิล เขาก็พบว่ามันมีสกิลเพิ่มเข้ามาสามสกิล
[ สกิลติดตัว: ขู่ขวัญอันเดด: ในฐานะราชาผู้วายชนม์, อันเดดทั้งหมดจะเกรงกลัวพลังของคุณ และเมื่อเผชิญหน้ากับคุณ การโจมตีและการป้องกันของพวกมันจะลดลง 50 %]
[ สกิลติดตัว: กลืนวิญญาณปรโลก: ในฐานะราชาผู้วายชนม์ คุณสามารถกลืนกินพลังวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วและสามารถรับเอา 1% ของความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมาได้ ]
[ สกิลติดตัว: กองทัพอันเดด: ในฐานะราชาผู้วายชนม์ คุณสามารถสั่งการกองทัพอันเดดขนาดใหญ่ได้ ไม่จำกัดจำนวนอันเดดที่คุณสามารถควบคุมได้ ]
สกิลติดตัว!
ผู้ที่มีอาชีพสายต่อสู้จะได้รับสกิลมาจากประสบการณ์หรือทำความเข้าใจมันด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ที่มีสกิลในทันทีหลังจากที่ปลุกอาชีพขึ้นมานั้นจึงย่อมเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน
และสำหรับลู่หยานแล้ว เขาก็ได้รับสกิลมามากถึงสามสกิล!
ยิ่งไปกว่านั้น สกิลติดตัวทั้งสามนี้ก็ยังแปลกมาก
อาจกล่าวได้ว่าสกิลขู่ขวัญอันเดดนั้นทำให้ลู่หยานได้เปรียบอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตอันเดด
ในตอนนี้ แม้ว่ามันจะมีเนโครแมนเซอร์ไม่มากนักและจะมีอาชีพสายต่อสู้ประเภทอันเดดน้อยมาก แต่มันก็ยังมีสัตว์ปีศาจประเภทอันเดดอยู่มากมาย
สกิลติดตัวของลู่หยานยังคงมีประโยชน์อย่างมากในโลกแห่งความเป็นจริง
โดยเฉพาะสกิลกลืนวิญญาณปรโลก มันขี้โกงมาก มันเหมือนกับการฝึกตน และแม้ว่าเขาจะได้รับความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมาเพียง 1% แต่มันก็ยังน่าประทับใจมาก
สำหรับสกิลติดตัวที่สาม มันก็ได้ลบขีดจำกัดสูงสุดของจำนวนอันเดดที่เขาสามารถควบคุมได้ออกไป
เป็นที่ทราบกันดีว่าเนโครแมนเซอร์ธรรมดาๆ นั้นสามารถควบคุมอันเดดได้มากสุดเพียงสองตัวเท่านั้นในตอนเริ่ม
เนโครแมนเซอร์ที่มีเลเวลสูงสุดคือเนโครแมนเซอร์เลเวล 65 และเขาก็ยังสามารถควบคุมอันเดธได้แค่เกือบหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเพิ่มคุณภาพและความแข็งแกร่งในการต่อสู้ให้กับพวกอันเดดได้ แต่มันก็ดีกว่าอยู่ดีที่จะสามารถควบคุมอันเดดได้มากขึ้น
และในตอนนี้ ลู่หยานก็สามารถควบคุมอันเดดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
แน่นอน แม้ว่ามันจะยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของการควบคุม และเขาก็ยังต้องการความแข็งแกร่งที่มากพอจะควบคุมอันเดดให้มากกว่านี้แต่กระนั้น ด้วยสกิลติดตัวนี้ ลู่หยานก็จะสามารถสร้างกองทัพอันเดดขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์!
ในขณะนี้ เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง
[ ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์สำหรับการปลุกอาชีพลับ ราชาผู้วายชนม์ ในการปลุกอาชีพครั้งที่สอง ระบบจะช่วยเสริมพลังอาชีพของโฮสต์ต่อไป ]
[ ระบบภารกิจประจำวันได้เปิดใช้งานแล้ว คุณสามารถรับรางวัลรายวันได้หลังจากทำภารกิจสำเร็จ ]