ตอนที่ 1321 วงกตมิติเวลา
ฮุยไท่หลางปรากฏตัว
มันคลานมาอยู่ที่เท้าของเย่ว์หยางอย่างเฉื่อยชาราวกับว่านอนหลับมาสิบแปดคืนน้ำลายหยดเป็นทาง
บางทีมันอาจรู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆรอบตัวจับตามองดูมันมันอ้าปากหาวเบื่อหน่ายกางเล็บอุ้งเท้าทั้งสองข้างยืดตัวบิดขี้เกียจเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพอเห็นเจ้านายก็กระดิกหางดีใจ และใช้หางปัดทำความสะอาดรองเท้าให้เย่ว์หยางแสดงให้เห็นว่ามันขยันขันแข็งกระตือรือร้น
จักรพรรดิอสูรขมวดคิ้ว แต่เขาเห็นตงฟางขับไล่หมาป่าปีศาจล้างโลกตัวนี้ออกไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับโลกกระดานหมากรุก?
แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะมีความสามารถเพิกเฉยต่อม่านพลังป้องกันและเดินผ่านมิติเวลาได้
แต่ก็ควรจะอยู่ที่บันไดสวรรค์ชั้นห้า
เป็นไปไม่ได้กับการมาถึงแดนสวรรค์นี้เจ้าสุนัขตัวนี้ผ่านเข้ามาในโลกกระดานหมากรุกโดยไม่ได้รับอนุมัติจากตงฟางได้อย่างไร? ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือสุนัขตัวนี้เข้ามาโดยที่ตงฟางเจ้าของโลกกระดานหมากรุกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ราชันย์ไร้พ่ายเข้ามาก็ต้องทิ้งหมากแลกเปลี่ยนกับหมากลับที่ได้จัดเอาไว้ก่อน เย่ว์ไตตันไม่สามารถกำจัดโลกกระดานหมากรุกได้ เขาเองยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎต่างๆเป็นไปได้อย่างไรที่เขาเรียกหมาป่าปีศาจล้างโลกเข้ามาช่วยได้?
อย่างไรก็ตามนี่ก็คือข้อเท็จจริงหนึ่ง
ตงฟางจะไม่ทำผิด
กฎของโลกกระดานหมากรุกไม่ผิดพลาดอย่างนั้นมีจุดผิดปกติตรงไหน?
หรือว่าเป็นการลงมือโจมตีของมังกรปีศาจ? ได้ทำลายโลกกระดานหมากรุก? หรือว่าเย่ว์ไตตันมีความสามารถพิเศษสามารถผ่านกฎสวรรค์ได้
“บึ้มบึ้ม บึ้ม...” มังกรปีศาจโจมตีน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ถี่เหมือนเมื่อก่อนและบาดแผลบนร่างกายก็เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางเท่านั้นแต่ผู้ชมดูทุกคนเข้าใจคนที่อยู่ด้านหลังมังกรปีศาจจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งคอยโจมตีมังกรปีศาจอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำลายโลกกระดานหมากรุก
คนผู้ทำร้ายและสร้างบาดแผลให้กับมังกรปีศาจได้คือใครกันแน่?
เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้?
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ?
นอกจากสองคนนี้แล้วทั่วทั้งแดนสวรรค์บน เกรงว่าจะไม่มีใครที่มีความสามารถมากกว่า
ปัง! โลกกระดานหมากรุกเหมือนกับจะพังทลายด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ท้องฟ้าแตกแผ่นดินแยกมิติเวลาอันไกลโพ้นมีมือสีทองขนาดใหญ่ซึ่งทะลวงสิ่งกีดขวางทะลุผ่านเข้ามามันยาวราวๆ สองสามกิโลเมตร
มือทองขนาดใหญ่อยู่ระหว่างพื้นดินและพื้นฟ้าพยายามควานหาอยู่สองสามครา
ดูเหมือนจะมองหาเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถหาตำแหน่งที่ถูกต้องของเย่ว์หยางได้มันพยายามควานหาอยู่หลายสิบครั้งขุดเอาภูเขา แม่น้ำจนอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง
ทุกคนมองดูเย่ว์หยางด้วยความสงสัย ดูเหมือนพวกเขาไม่เข้าใจทำไมเขาถึงไม่ยอมรับหรือเข้าใกล้มือยักษ์ทองแม้ว่าจะมีตงฟางอยู่ก็ตาม แต่ไม่น่าประสบความสำเร็จ แต่การพยายามก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่หรือ เย่ว์หยางยืนอยู่เงียบๆราวกับว่าเขาไม่เห็นมือใหญ่ที่ควานหาเขาอยู่ข้างหน้า และราวกับว่าเขาไม่เห็นมือทองที่เต็มไปด้วยบาดแผลกำลังมองหาตัวเขาอย่างดึงดัน... ดูเหมือนว่าจะมีพลังเทพที่มากกว่ากำลังลากเขาออกไป
นิ้วทั้งห้าปักลึกลงไปในดินแต่ยังไม่สามารถต้านทานแรงฉุดข้างหลังได้
โลกกระดานหมากรุกถูกขุดเป็นรอยนิ้วห้าสายเหมือนมีการไถพรวนเป็นร่องลึกอย่างน้อยร้อยเมตรไม่ว่าเป็นภูเขาหรือแม่น้ำต่างก็พังทลาย และแตกเป็นเสี่ยง แขนสีทองถูกบังคับว่าจะต้องออกไปจากโลกกระดานหมากรุก
ใช้เวลาห้านาที
มือนั้นก็ถูกพลังที่เหนือกว่าฉุดลากออกมา
“ทำไมเจ้าไม่ถือโอกาสจากไป?นั่นคือโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว!” เด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านคำรามใส่เย่ว์หยางอย่างกราดเกรี้ยว
“......”จักรพรรดิอสูรยังคงเงียบและคิดถึงปมข้อต่อที่เขายังไม่เข้าใจ
เย่ว์หยางไม่สนใจคำถามของเด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านเขาแค่ยื่นมือลูบขนที่คล้ายเปลวไฟที่หน้าผากของฮุยไท่หลางเบาๆสำหรับสุนัขเฝ้าบ้านตัวนี้เขาไม่เคยทำดีใส่มันเป็นที่รู้กันดีว่าเย่ว์หยางมักต่อยและเตะฮุยไท่หลาง ที่ไหนจะมีวันดีๆ เช่นนี้ได้?
ฮุยไท่หลางพริ้มตาลงมีความสุขกับการสัมผัสครั้งนี้
มันกระดิกหางด้วยความพอใจ
หนึ่งคนและหนึ่งสุนัข
ดูเหมือนว่าจะมีสัมผัสทางวิญญาณทางบางอย่างโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่ภายนอก
ตงฟางเงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งจ้าวภูผากระแอมและถาม “เย่ว์ไตตันเจ้าพบเห็นมันได้อย่างไร?”
“ถ้าข้าเป็นเจ้าข้าจะไม่ยอมให้มังกรปีศาจรู้ว่าโลกกระดานหมากรุกอยู่ที่ไหน ต่อให้ถูกค้นพบก็จะไม่ยอมให้เขาโจมตีทำลาย นอกจากนี้ข้าเชื่อว่าในโลกนี้นอกจากโลกคัมภีร์อัญเชิญแล้วไม่มีโลกพิเศษไหนที่มังกรปีศาจทำลายไม่ได้ เจ้าไม่ยอมทำผิดพลาดแบบนี้ได้ ดังนั้นข้ามั่นใจว่าสิ่งที่ข้าเพิ่งเห็นเป็นภาพลวงตา กับดักและอื่นๆ” เย่ว์หยางยิ้ม รอยยิ้มของเขาทำให้หลายคนอึดอัด
“แต่ภาพมังกรปีศาจเป็นของจริงทุกอย่างเป็นของจริง รวมทั้งมือที่ยื่นเข้ามาให้เห็นก็เป็นของจริง!” ตงฟางยังคงไม่เข้าใจ
“ถูกแล้วข้าไม่ได้บอกว่ามังกรปีศาจเป็นตัวปลอม” เย่ว์หยางพยักหน้า
“แล้วทำไมเจ้าจึงยังสงสัย?” ตงฟางทึ่ง
“อะแฮ่ม! บางทีเจ้าคงลืมไป ฝ่าบาทหัวซิ่วรี่มีทักษะมิติลวงอยู่กับตัวก่อนนั้นข้าไม่ได้เรียนรู้มามากนัก แม้แต่วงกตมิติเวลาที่ตงฟางเจ้าสร้างขึ้นและบางคนอาจเป็นของจริงแต่ยังไม่อาจเทียบได้กับมิติลวงของฝ่าบาท” นี่คือเหตุผลสำหรับเย่ว์หยาง
“องค์หญิงเย่เมิ่ง(ฝ่าบาท) เพื่อเจ้าแล้วถึงกับยอมตื่นนิทราและยอมสละชีวิตได้ ทำให้ข้านึกไม่ถึงจริงๆดังนั้นข้าถึงบอกว่าเจ้าโชคดีมากเมื่อใดก็ตามที่ถึงช่วงเวลาสำคัญจะมีคนลุกขึ้นมาช่วยเจ้าทั้งที่เป็นการเสียสละโดยเปล่าประโยชน์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน...นี่คือเรื่องที่ข้าอิจฉาเจ้ามากที่สุด ข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำการสู้รบ แต่น่าเสียดายที่ข้ายังทำไม่สำเร็จ น่าเสียดาย!” ตงฟางถอนหายใจด้วยความรู้สึกเสียใจ
“อย่างน้อยมังกรปีศาจเจ้างี่เง่านั่นก็ถูกหลอกได้ เจ้าสมควรพอใจได้แล้ว” เย่ว์หยางแค่นเสียง
“ในเมื่อเจ้าไม่ได้ถูกหลอกอย่างนั้นข้าจะเผยไพ่ในมือข้า!” เสียงของตงฟางค่อยๆแผ่วเบาลงห่างไกลออกไปทุกที “บางทีเจ้าคงจะคาดเดาหมากลับชิ้นต่อไปของข้าได้แล้ว แม้ว่าเจ้าจะรอให้ข้าล้มเหลวพลาดท่าเพื่อให้เราต่อสู้ขั้นสุดท้ายก็ตาม ก็ได้ งั้นเรามาเริ่มสู้กันในศึกสุดท้าย!”
โลกกระดานหมากรุกเริ่มเปลี่ยนไปทันที
แสงเทพนับไม่ถ้วนฉายออกมา
ย้อมโลกให้มีสีสันงดงาม
ท้องฟ้าที่สดใสไม่รู้ว่ากลับมีหน้ากากโปร่งใสลอยให้เห็นตั้งแต่เมื่อใด
โลกถูกแบ่งออกเป็นทีละส่วนแยกกัน แต่ละส่วนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอิสระและโดยผ่านการเชื่อมต่อด้วยคำสั่งบางอย่างเชื่อได้ว่านอกเหนือจากผู้สร้างเดิมอย่างตงฟางแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะมีเข้าใจความลึกลับนี้ การเชื่อมต่อที่ซับซ้อนและพิเศษเหล่านี้แม้แต่เจ้าของแห่งโลกกระดานหมากรุกก็ไม่สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที
เนื่องจากกระบวนการของโลกกระดานหมากรุกมีการเพิ่มพลังเทพบางอย่างที่ไม่มีใครรู้จัก แต่กว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด
มันคือพลังเหนือธรรมชาติ
จากโลกกระดานหมากรุกเปลี่ยนแปลงเป็นโลกที่หลากหลายที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแต่ดูสงบ
“บางทีเจ้าอาจเห็นชัดเจนบางทีเจ้าอาจสับสน เย่ว์ไตตัน! ก็อย่างที่เจ้าเห็น นี่คือของขวัญอย่างดีที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า ถ้าเจ้าสามารถทำลายมันได้ ข้าจะยอมรับและไม่มีอะไรจะพูด มาเถอะเย่ว์ไตตัน หนุ่มน้อยผู้โชคดีมาเล่นเกมของข้าเถอะ! ถ้าเจ้าสามารถหาข้าพบได้ภายในสิบวันข้าจะปล่อยเจ้าออกจากโลกกระดานหมากรุกของข้า แต่ถ้าเจ้าหาข้าไม่พบหลังจากผ่านไปสิบวันก็เสียใจด้วย โลกกระดานหมากรุกของข้าเชื่อมต่อกับบันไดสวรรค์หอทงเทียนและระเบียงเวลาของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ มันจะระเบิดและพังทลายลง แน่นอนว่าจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ทันทีมันจะทำลายทุกอย่างที่เชื่อมต่อ บางทีเจ้าที่เพิ่งได้เลื่อนเป็นระดับเทพอาจจะอยู่รอดต่อไปได้ แต่สิ่งที่เจ้าเคยครอบครองจะไม่มีอยู่อีกต่อไป!” เสียงของตงฟางเบาลงๆ ราวกับว่าถูกแยกออกจากกันในโลกหลายๆ ใบในมิติเวลา
“เจ้าทำแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร?” เย่ว์หยางส่ายศีรษะมึนงง
“เมื่อข้าไม่ได้มันมาครองข้าก็ต้องทำลายมัน” ตงฟางตอบ
“แม้ว่าต้องเดิมพันด้วยชีวิตน่ะหรือ?”เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
“นี่คือนิสัยของข้าตงฟางข้าคือเทพที่มีอิสระ มีประกายเทพ” เสียงของตงฟางแทบไม่มีใครได้ยิน และในที่สุดก็จางหายไป
ตงฟางจากไปแล้ว
เขาไม่รู้ว่าไปไหน
อย่างไรก็ตามสำหรับเย่ว์หยางนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้
บางทีอาจเป็นราชันย์ไร้ใจบางทีอาจเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ บางทีอาจเป็นทั้งสองคนลงมือพร้อมกัน ตงฟางใช้วิธีการลับบางอย่างเพื่อสร้างโลกกระดานหมากรุกเชื่อมกับบันไดสวรรค์หอทงเทียนและระเบียงเวลาของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพรวมทั้งที่อื่นๆจากนั้นก็นับเวลาถอยหลังสิบวัน...
ทำไมต้องสิบวันเย่ว์หยางยังคงไม่เข้าใจ
อาจเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ใช้เวลาที่จำกัดเปิดแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเข้าไปในระเบียงเวลาหรือให้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อใช้เวลาที่สั้นที่สุดเอาชนะมังกรปีศาจซึ่งยังไม่ฟื้นฟูพลังสูงสุดหรืออาจเป็นเหตุผลอื่น
อย่างไรก็ตามตงฟางบอกว่าให้เวลาสิบวันต้องมีเหตุผล เขาไม่สงสัยความจริงเรื่องนี้
ในเวลาเพียงสิบวันจะให้เขาผ่านวงกตมิติเวลาที่วิวัฒนาการมาจากโลกกระดานหมากรุกของตงฟางและพยายามหยุดยั้งเขาด้วยพฤติกรรมที่น่าระอาบ้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างไร? มีจางเว่ย ถูซื่อจ้าวภูผาและราชันย์ไร้พ่ายตามด้วยอีกสองคนที่ยังไม่ปรากฏตัวอย่างราชันย์ไร้ใจและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ นักสู้ระดับเทพเหล่านี้คอยขวางทางเขาอยู่ เขาจะบุกฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างไร?
ศึกครั้งนี้นับว่าน่าปวดหัวจริงๆ!
ในที่นั้นไม่มีการรอให้เย่ว์หยางตัดสินใจไม่รู้ว่าจางเว่ยแยกออกไปอยู่ในมิติเวลาอื่นตั้งแต่เมื่อใด เสียงหัวเราะค่อยๆดังห่างออกไป “เย่ว์ไตตันจงสนุกกับสิบวันสุดท้ายนี้ให้ดี! เจ้าต้องการให้ข้าบอกใบ้ให้หรือเปล่า? เด็กน้อยผู้น่าสงสาร, ถ้าเจ้ารู้ว่าวงกตมิติเวลามีมากกว่าพันโลก แม้จะได้คำแนะนำก็ต้องใช้เวลาหนึ่งปีในการสำรวจเจ้าจะกลัวจนฉี่ราดหรือเปล่า? แม้แต่ข้าจางเว่ยยังเลิกคิดใช้ประตูสวรรค์ของข้า ข้าหวังว่าเจ้าคงจะมาอยู่ต่อหน้าข้าได้ทำให้ข้ามีความสุขหรอกนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
เย่ว์หยางมองดูรอบๆและพบว่าถูว่าน ถูซื่อ จ้าวภูผา ราชันย์ไร้พ่าย ฯลฯ ถูกแยกไปอยู่ในโลกต่างๆและค่อยหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
แต่สำหรับผู้ชมดั้งเดิมรวมทั้งจักรพรรดิอสูร
ยังอยู่ฝ่ายเขา
เมื่อเด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านเห็นเย่ว์หยางเขาเดินเข้ามาหา “ข้าผู้นี้คันไม้คันมืออยากจะช่วยเจ้าด้วย!”
แต่สิ่งที่แปลกก็คือไม่ว่าเขาจะเดินอย่างไรก็ไม่สามารถเดินไปอยู่ข้างเย่ว์หยางได้แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างเย่ว์หยางนิ้วครึ่งก็ตามแต่เขาไม่สามารถสัมผัสร่างกายเย่ว์หยางได้ดูเหมือนว่าจะมีมิติว่างเปล่าขวางเขาอยู่ บุรุษดื้อด้านโมโหพยายามเตะต่อย แต่ไม่ว่าจะพยายามหนักอย่างไรเขาก็ไม่สามารถยืนในพื้นที่เดียวกับเย่ว์หยางได้
จักรพรรดิอสูรโบกมือเบาๆเตือนให้เขาสงบสติอารมณ์ “ไม่มีประโยชน์ เรายังเป็นผู้ชมดูหมากรุก ทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนแปลงตราบเท่าที่ตงฟางยังมีชีวิตอยู่ เราไม่สามารถทำอะไรได้”
ขณะนั้นเองฮุยไท่หลางยืนขึ้นและขู่คำรามมันอยู่ที่ปลายเท้าของเย่ว์หยาง ทันใดนั้นมันพยายามกระโจนกลับไปหาเจ้านายของมัน
แต่ไม่ว่ามันจะวิ่งหรือพยายามเพียงใดมันไม่สามารถกลับไปหาเย่ว์หยางได้
นี่ก็ยังคงคล้ายกับกรณีเดียวกับผีพรายที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ร่างของเย่ว์หยางสั่นเล็กน้อย เขาพบว่าจู่ๆ ตัวเขาเองกลับไปที่หุบเขาแม่น้ำขาวบันไดสวรรค์ชั้นห้า เขายืนอยู่บนแท่นบูชายัญ เหมือนกับว่าไม่เคยจากไป การต่อสู้ก่อนหน้านั้นดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการชักนำความรู้สึกแบบนี้ทำให้รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของโลกกระดานหมากรุก ถูกจำกัดโดยกฎสวรรค์บางอย่าง แม้ว่าจะกลับมายังบันไดสวรรค์ชั้นที่ห้าแต่ก็ยังอยู่ในโลกกระดานหมากรุกไม่เปลี่ยนแปลง
แม้แต่แท่นบูชายัญนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของวงกตมิติเวลา
ใครกันที่มีความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้สามารถเปลี่ยนมิติเวลาทั้งหมดบนพื้นฟ้าและพื้นโลกให้เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนเขาวงกตได้โดยไม่รู้ตัว?
แม่เจ้า,ตัวบอสในเกมที่เราคุณชายพบเจอทำไมถึงได้ผิดธรรมดานัก?ไม่มีการคัดสำเนาเลียนแบบบ้างหรือ?
เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้กับท้องฟ้า
****** ***