ตอนที่ 1318 หมาก-ลับ
หากจ้าวภูผาไม่ร่วงลงกับพื้นความรู้สึกของทุกคนคงไม่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ก่อนนี้ผู้ชมดูเชื่อว่าเย่ว์ไตตันแพ้ ความอ่อนแอแบบนี้เกิดมาจากก้นบึ้งหัวใจ, คนที่จะเอาชนะเย่ว์ไตตันนี้ยังไม่เกิดอีกหรือ? ตงฟาง ถูซื่อ จางเว่ย กระทั่งจ้าวภูผาผนึกพลังกันทั้งเวลาทั้งสถานที่เหมาะสมแต่กลับไม่มีทางโค่นล้มเจ้าเด็กนี่ได้
ถ้าไม่เห็นด้วยตาตนเองไม่มีใครเชื่อว่านี่เป็นความจริง
จ้าวภูผาที่มีทักษะแฝงเร้นที่แข็งแกร่งยังร่วงกับพื้น
ต่อไป
จะเป็นใครกัน?
หน้าของจางเว่ยบิดเบี้ยวน่าเกลียดเขาคิดว่าคนโชคร้ายคนต่อไปคือเขาถึงเก้าในสิบ
ไม่ว่าจะเป็นเจตจำนงราชันย์ของนักสู้ระดับเทพหรือความหยิ่งในเกียรติของนักสู้ระดับสูงอย่ายอมให้ศัตรูต้องกลั่นแกล้งตนเองต่อหน้าผู้ชมมากมาย
แน่นอนว่าประโยคนี้ไม่สามารถพูดออกมาได้ในที่สุดเพราะตอนนี้จางเว่ยหดหู่จริงๆ
เขาถามตนเองว่ากำลังจะสู้ตัวต่อตัว เขาไม่มีพลังเทพทักษะพิเศษเหมือนกับจ้าวภูผาที่รู้กันว่ามีร่างกายแข็งแกร่ง
“ตงฟาง!” จางเว่ยจ้องมองเย่ว์หยางไม่กล้าหันหน้าไปทางอื่นง่ายๆเขาคือองครักษ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ตอนนี้เพราะเขากังวลว่าเด็กหนุ่มที่น่าทึ่งข้างหน้าของเขาจะลอบโจมตีทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาตะโกนเรียกตงฟางอย่างเร่งรีบประหม่า ในส่วนลึกในใจของเขาเขาไม่ต้องการยืนเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางโดยตรงแต่เขาหวังว่าพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขายังสามารถยืนหยัดและช่วยเหลือตัวเขาได้ นอกจากตงฟางแล้วจางเว่ยไม่คิดว่าใครจะหยุดเย่ว์ไตตันได้ เจ้าเด็กผู้นี้มีระดับนักสู้ที่ไม่ธรรมดา
“เรื่องเล็กน้อย,แทนที่!” มีแต่เพียงตงฟางเท่านั้นที่ยังคงมั่นใจในกระดานหมากรุกของตนเอง
พอเสียงเขาจบลง
ถูอี้ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นทาสสงครามยิงแสงสีทองไปที่ร่างจ้าวภูผาที่ได้รับบาดเจ็บ
ทันใดนั้นอาการบาดเจ็บของทั้งสองถูกสับเปลี่ยนกันร่างของตัวประหลาดถูอี้ระเบิดออก ร่างจ้าวภูผาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับฟื้นฟูสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
หลังจากจ้าวภูผายืนขึ้นได้อีกครั้งทุกคนพบว่าไม่ว่าจะเป็นพลัง เลือดเนื้อของจ้าวภูผาฟื้นฟูเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ยังเหนือกว่าก่อนการต่อสู้เสียอีก
เมื่อได้เห็นฉากภาพแปลกประหลาดเช่นนี้ผู้คนที่ชมดูการต่อสู้สูดหายใจด้วยความหนาวเหน็บ
บรรพบุรุษช่วยด้วยมีกฎสวรรค์ความสามารถอย่างนี้ มีใครบ้างที่จะเอาชนะตงฟางผู้สร้างและเป็นเจ้าของโลกกระดานหมากรุก?
ไม่มีทาง
ต่อให้เย่ว์ไตตันทรงพลังมากกว่าร้อยเท่าพันเท่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะตงฟาง!
นอกจากนี้ต่อให้เป็นเจ้าตำหนักสูงสุด ถ้าเขาอยู่ในโลกกระดานหมากรุกเกรงว่าคงไม่กล้าพูดอะไรง่ายๆ
เพราะนี่ไม่ใช่พลังที่สามารถเอาชนะได้นี่คือกฎสวรรค์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งเป็นพลังเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกควบคุมอยู่ในมือของตงฟาง
“ไร้ยางอายเกินไป!” บุรุษหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านไม่เข้าใจจนบัดนี้เหตุใดตงฟางจึงสิ้นเปลืองพลังเทพเพื่อฟื้นคืนชีพถูอี้ จางหู่จางหลางทำให้กลายเป็นหุ่นทาสสงคราม ที่แท้ก็ทำเพื่อการนี้ ในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้ตงฟางได้ทำการเคลื่อนไหวลับนี้และวางกำลังซุ่มรอให้เย่ว์หยางโดดเข้ามา
“ตงฟางสมกับเป็นปราชญ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จริงๆน่าชื่นชม น่าชื่นชม!” จักรพรรดิอสูรส่ายหน้าถอนหายใจเทียบกับนักสู้ระดับเทพของแดนสวรรค์บนคนอื่นๆตงฟางไม่ใช่คนที่มีพลังเทพแข็งแกร่งที่สุด แต่เขาเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดแน่นอน
“ชัยชนะอยู่ในกำมือแล้วหมายความอย่างนี้หรือ?” มังกรสองหัวกู่อั๋งหน้าซีดเหมือนกระดาษ เขาพึมพำเบาๆ
เขาไม่รู้
เพียงเห็นครั้งแรกเขาพบว่าเขานั้นเป็นเหมือนมดแมลงเล็กๆตัวเล็กมาก
เทียบความร้ายกาจของเย่ว์ไตตันหรือตงฟางแล้วเป็นเรื่องยากอยู่บ้างที่จะรักษาความภูมิใจในตนเองอยู่บ้าง เพื่อฟื้นฟูความรู้สึกที่เหนือกว่าในบางแง่มุมและมิให้คนทั้งหลายต้องพังทลายอย่างสิ้นเชิง.... คนผิดปกติธรรมดาอย่างนี้เกิดขึ้นมาในโลกได้อย่างไร? คนเดียวก็ยังไม่เป็นไร แต่คนผิดธรรมดาสองคน ถ้าเป็นอย่างนี้คนอื่นยังจะรอดอยู่ได้อย่างไร?
มังกรสองหัวกู่อั๋งไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกหดหู่
แต่เป็นผู้ชมดูเกือบทั้งหมด
ยกเว้นแต่จักรพรรดิอสูรที่ยังคงดูดี
คนที่เหลือแทบใกล้จะพังทลายภายใต้การโจมตีของตงฟาง ความหงุดหงิดในเรื่องระดับสติปัญญาและความล้มเหลวในเรื่องการใช้พลัง
“เย่ว์ไตตันข้าคิดว่าเจ้าคงจะมีลูกเล่นอะไรที่มากกว่านี้ใช่ไหม?” ครั้งนี้มือสังหารเทพถูซื่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเสียงของเขาเหมือนเสียงดังลอยลม คำพูดของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับหนามที่มองไม่เห็นแทรกเข้ามาในหูชอนไชเข้าไปในสมองพร้อมกันทะลวงลึกลงไปในจิตวิญญาณโดยตรง แตกต่างจากจางเว่ยที่ตื่นเต้น เขาไม่ลดระดับความระวังจนกว่าเย่ว์หยางจะพลาดท่าจริงๆ
“น่าขัน! แทนที่อะไรกันก็แค่ทักษะเล่นกลหลอกเด็ก ใครเขาจะกลัว?” เย่ว์หยางยักไหล่และบอกว่าเขาเพิ่งจะฆ่าหุ่นทาสสงครามอย่างถูอี้ไปโดยตรง
ทุกคนที่ได้ยินแล้วอุทานดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงหรือ?
เป็นไปได้ไหมว่าในสถานการณ์ต่อสู้ที่แปลกประหลาดซึ่งดูเหมือนทุกคนจะไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดมีวิธีง่ายๆ ในการทำลายบุกฝ่าศัตรู?
ปฏิกิริยาสนองตอบที่ดีของเย่ว์หยางทำให้คนผู้ชมดูสงสัยใคร่รู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรพรรดิอสูร ให้ความสนใจเป็นพิเศษเหมือนอย่างเคยเขามองดูด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง!” สิ่งที่ทำให้น่าประหลาดใจที่สุดก็คือตงฟางกลับเห็นด้วยกับเย่ว์หยาง
“หือ?”เด็กหนุ่มอสูรคิดว่าตงฟางกินยาผิดขนาน
“ตราบใดที่ทาสถูกทำลาย เจ้าก็สามารถกำจัดกฎสวรรค์นี้ได้ แต่เย่ว์ไตตัน ข้าอยากจะบอกเจ้าว่าเจ้าไม่ใช่คนแรกที่เห็นข้อบกพร่องนี้ หลังจากที่ข้าได้ตระหนักถึงกฎข้อนี้ ข้าไม่ได้เก็บซ่อนไว้เป็นเวลาหลายพันปีในทางกลับกันข้าได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พ่อหนุ่มผู้ชาญฉลาดเจ้าคงไม่คิดว่าข้าเอาของกึ่งสำเร็จรูปมาสู้กับเจ้าใช่ไหม?” ตงฟางยิ้ม เขายังไม่ทันได้โต้ตอบ
เขาสามารถใช้ทาสสงครามเหล่านี้ย่อมรู้จุดอ่อนเหล่านี้
ดังนั้นตงฟางจึงลงมือเคลื่อนไหวที่ทำให้คนอื่นตกใจมากขึ้น
ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคนตงฟางจับถูอี้ จางหลางและจางหู่ฆ่าก่อนที่เย่ว์หยางจะลงมือ หากจะมีบุคคลอื่นในโลกที่สามารถสังหารหุ่นทาสสงครามได้อย่างแท้จริงและสมบูรณ์ คนผู้นั้นเห็นจะเป็นตงฟางผู้สร้างและเจ้าของโลกกระดานหมากรุกเขาฉกฉวยโอกาสทำลายหุ่นทาสสงครามและหุ่นอื่นด้วยพลังเทพมหาศาลก่อนที่เย่ว์หยางจะลงมือเคลื่อนไหวทำให้ทุกคนงงงายหลังจากคิดไตร่ตรองเป็นร้อยครั้ง
ทำไมกัน?
ตงฟางไม่ปกป้องหุ่นทาสสงครามไม่ซ่อนพวกมันเอาไว้ แต่กลับทำลายทาสหุ่นสงครามด้วยตนเอง
ตราบใดที่ยังมีทาสสงครามคอยส่งกฎและการแทนที่ อย่างนั้นทุกคนในฝ่ายตงฟางจะไร้เทียมทานอยู่เสมอ ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ตงฟางกลับทำลายพวกมันด้วยน้ำมือตนเองแทนที่จะใช้งานพวกมันได้อย่างไร?
พวกเขาไม่เข้าใจ
ทุกคนในที่นั้นคิดไม่ออก
รวมทั้งจักรพรรดิอสูรที่ดวงตาเป็นประกายก็ขมวดคิ้วแน่น
สิ่งทำให้เขางงงวยที่สุดไม่ใช่การที่ตงฟางทำลายหุ่นทาสสงครามอย่างถูอี้ด้วยน้ำมือตนเองในเมื่อมีทั้งจุดแข็งจุดอ่อนทำไมตงฟางถึงสร้างหุ่นสงครามอย่างถูอี้? ตามสถานการณ์แต่เริ่มต้นตงฟางไม่ต้องการพลังรบของถูอี้ จางหลางและจางหู่เลยแม้แต่น้อยพวกมันไม่จำเป็นต้องเข้าสู่โลกกระดานหมากรุก แต่เขาไม่ลังเลที่จะไล่พวกมันออกจากสนามแข่งเช่นเดียวกับผู้ชมในกระดานหมากรุก อย่างไรก็ตามตงฟางไม่ได้ทำเช่นนั้นแต่เขาทำให้ถูอี้ จางหลาง จางหู่กลายร่างเป็นตัวหมากรุกส่งเข้าร่วมในการรบเป็นขั้นตอนจนถึงปัจจุบัน
จักรพรรดิอสูรรู้
พฤติกรรมชวนงงของตงฟางต้องมีเจตนาแฝงบางอย่าง
เจ้าตำหนักใหญ่แห่งแดนสวรรค์บนเป็นที่รู้กันดีว่าคือปัญญาแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและไม่ทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์
อย่างไรก็ตามด้วยสายตาของจักรพรรดิอสูรและภูมิปัญญาของจักรพรรดิอสูรและพลังของจักรพรรดิอสูรไม่สามารถมองเห็นความลึกลับได้ทุกคนรู้ความสำคัญของการเคลื่อนไหวของตงฟางเพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีใครสามารถคาดเดาความจริงได้
ตงฟางมีความตั้งใจและวัตถุประสงค์ใดถึงได้ฆ่าทาสสงครามก่อนเย่ว์ไตตันจะลงมือ
พวกเขาแต่ละคนคิดไม่ออกจึงหันไปมองดูเย่ว์หยาง
หวังว่าจะเห็นอะไรบางอย่างบนใบหน้าของเขา
หน้าของเย่ว์หยางไม่มีความรู้สึก
ไม่มีกระทั่งความประหลาดใจความขุ่นมัวหรือความโกรธ สิ่งที่ผู้คนเห็นก็คือความสงบนิ่งเย็นราวกับน้ำเหมือนกับว่าเขาเข้าใจทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากเมื่อหลายปีก่อนและสีหน้าของเขายังเงียบสงบ จางเว่ยมองดูและแค่นเสียงเย็นชา มองผิวเผินเขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่คือไก่ตายที่เตรียมไว้ใช้เป็นอาหาร แต่ลึกลงไปในความจริงแล้วเขารู้สึกกลัวเป็นที่สุด!
ภายใต้ความอยากรู้และสงสัยคาดหวังของทุกคนตงฟางพูดขึ้นอีกครั้ง
“สหายที่รักไม่ว่าพวกท่านจะเป็นสหายหรือศัตรู ขอบคุณมากสำหรับการมีส่วนร่วมของพวกท่านตอนนี้สิ่งที่ข้าอยากจะบอกแก่พวกท่านก็คือสิ่งที่พวกท่านรอคอยมาจนบัดนี้”
“ข้าจะเปิดเผยความลึกลับให้ทุกคน!”
“ความจริงก็คือศึกครั้งนี้เมื่อข้ากำจัดทาสสงครามออกไป การต่อสู้แท้จริงจะเริ่มขึ้น”
“บางทีเจ้าอาจเคยได้ยินคำว่า‘หมากลับ’ มาแล้วในเกมหมากรุกได้ซ่อนตัวหมากสำคัญไว้ก่อนรอจนกว่าถึงเวลาจำเป็นหรือคับขันที่สุดหมากลับเหล่านี้จะปรากฏออกมาและมีบทบาทสำคัญในเกมเพื่อจัดการพลิกเกมได้ในบัดดล” เสียงของตงฟางมีความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับพรานเฒ่าที่เห็นเหยื่อในกับดักและอดถอนหายใจไม่ได้ ‘จิ้งจอกตัวนี้ขนช่างสวยเสียจริง’ เขาอาจเห็นความสงสัยของทุกคนและอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างอารมณ์ดี “ก็อย่างที่พวกเจ้าเห็นข้ากำจัดทาสสงครามด้วยมือตนเองก็ไม่ได้เป็นการฆ่าพวกเขาอย่างแท้จริง ตราบใดที่ข้ายังเป็นเจ้าของโลกกระดานหมากรุกยังคงมีพลังเทพอยู่ พวกมันสามารถเกิดใหม่ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหตุผลที่ข้าไม่ปล่อยให้เย่ว์ไตตันโจมตีพวกมัน ไม่ใช่ว่าข้ากลัวว่าเขาจะฆ่าพวกทาสสงครามเหล่านี้ แต่เพราะข้ารู้สึกว่าเสียเวลาไปเปล่าๆ ดังนั้นข้าจึงกวาดพวกมันออกไปทำให้กลายเป็นหมากที่ถูกทิ้ง”
“ด้วยการผ่านหมากที่ถูกทิ้ง เจ้าก็ต้องได้อะไรบางอย่างจากมัน” จักรพรรดิอสูรมั่นใจว่าตงฟางไม่ใช่คนที่ยอมเสียโดยไม่ได้รับอะไร
“ถูกแล้ว!” ตงฟางกล่าวพร้อมกับยิ้ม “แต่ความตั้งใจทิ้งหมากไม่ใช่การได้รับแต่เป็นการแลกเปลี่ยน เมื่อหมากลับจำเป็นต้องออกมาจากความมืดก็ต้องมีจังหวะเวลาและกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม ข้าเปลี่ยนหุ่นทาสสงครามทั้งสามให้กลายเป็นหมากที่ถูกทิ้งและเปลี่ยนหมากลับสามตัวที่ซุ่มรออยู่ก่อนออกมาก่อนกำหนดนั่นคือเหตุผลทั้งหมดของการเคลื่อนไหวของข้า”
สร้างหมากออกมาสองสามตัว
กำจัดหมากที่ไร้ประโยชน์
เปลี่ยนเอาหมากลับที่วางไว้ก่อนนั้นออกมา
นี่นี่คือแผนการที่แท้จริงซึ่งตงฟางได้จัดการไว้ก่อน... ภายใต้กฎของโลกกระดานหมากรุกทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้นจะไม่สามารถเรียกหรือใช้วิธีเรียกสหายร่วมกลุ่มได้แม้จะเป็นการเรียกอสูรอัญเชิญในคัมภีร์อัญเชิญก็ตาม อย่างไรก็ตามตงฟางผู้เป็นเจ้าของโลกกระดานหมากรุก ฉลาด ฉวยโอกาสจากกฎนี้ใช้หมากต่อทิ้งเพื่อดึงหมากลับออกมาซึ่งเป็นหมากที่สำคัญไม่สามารถเพิ่มเข้าไปในโลกกระดานหมากรุกได้
ราคาที่เขาใช้ไปก็คือหุ่นทาสสงครามที่ไร้สติสามตัว
ทุกคนรู้ดีว่าทันทีที่การแลกเปลี่ยนจะประสบความสำเร็จ ตงฟางจะต้องซุ่มกำลังลับไว้ในโลกกระดานหมากรุกไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญก็สามารถตัดสินเอาชัยชนะได้อย่างแน่นอนด้วยหมากลับพวกนี้
หมากลับเหล่านี้คือใคร?
ใครกันแน่?
****** ***