CD บทที่ 332 ความสุขที่คาดไม่ถึง
เมื่อความจริงของคดีนี้ถูกเปิดเผย คดีธุรกรรมอำพรางก็สร้างผลกระทบกระเทือนไปทั่วสถานีตำรวจในทันที ทุกคนยุ่งจนหัวหมุน ผู้บังคับบัญชาของตำรวจกำลังหารืออย่างแข็งขันและสรุปขั้นตอนเพื่อปิดคดี และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับผลพวงของคดีอย่างเหมาะสม
แม้ว่าคดีจะคลี่คลายและความจริงถูกเปิดเผย แต่สมาชิกของแผนกสืบสวนของสถานีหรงหยางต่างรู้สึกซับซ้อนหลังจากที่พวกเขาทำงานหนักมาทั้งวันทั้งคืน
นอกเหนือจากการถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความโล่งใจแล้ว ในหมู่พวกเขาก็ไม่มีความสุขมากขนาดนั้น สิ่งเดียวที่พวกเขารู้สึกคือความเหนื่อยล้าและไม่สบายใจจากเรื่องราวเบื้องหลังของคดี จิตใจของเด็กชายบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง และเริ่มวางแผนฆ่าเหยื่อทั้งหกรายอย่างโหดร้าย
เบื้องหลังการฆาตกรรมทั้งโหดเหี้ยมและโหดร้าย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กระตุ้นความคิด ทำให้ผู้คนตระหนักได้ในทันที
จ้าวหยู่แทบจะไม่มีแรงเหลือเลย ในที่สุดเขาก็ทำรายงานเสร็จในเวลาเที่ยงคืน ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรนอกจากกลับไปนอน นอกจากการนอนหลับแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำ และมันก็สำคัญมากสำหรับเขาเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะทำสิ่งนี้ จ้าวหยู่รู้สึกวิตกกังวลและกระสับกระส่ายอย่างมาก มีเม็ดเหงื่อปรากฏบนหน้าผากของเขา
หลังเลิกงาน จ้าวหยู่ไม่ได้ออกไปไหน แต่เขาเดินตามเหมี่ยวอิงอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงห้องน้ำหญิง เมื่อคดีคลี่คลายแล้ว เหมี่ยวอิงก็เหนื่อยล้าทั้งกายและใจเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังติดตามเธอ
จ้าวหยู่รออยู่ที่ทางเข้าห้องน้ำ เมื่อเสียงของน้ำไหลดังขึ้น เหมี่ยวอิงก็เดินออกมาในเวลาต่อมา
“เหมียวอิง… คือว่า!” จ้าวหยู่เดินเข้าไปหาเหมี่ยวอิงอย่างมีพิรุธ ทำให้เธอตกใจ และทำให้เธอตั้งการ์ดป้องกันตัว
“จ้าวหยู่ คุณมาทำอะไรที่นี่?” เมื่อเหมี่ยวอิงจำได้ว่าเป็นจ้าวหยู่ เธอก็เข้าไปล้างมือและถามในเวลาเดียวกันว่า “คุณมาที่นี่เพื่อขอเครดิตงั้นเหรอ? ก็ได้ ฉันยอมรับว่าคุณมีส่วนอย่างมากในคดีนี้ เครดิตหลักจะตกเป็นของคุณ และคนร้ายก็ถูกจับโดยคุณเช่นกัน คุณไม่จำเป็นต้องกห่วงเรื่องโบนัส…”
เหมี่ยวอิงพูดต่อด้วยความคิดเห็นแบบสบาย ๆ ของเธอ ทันใดนั้นเธอก็เห็นจ้าวหยู่นำกล่องสีแดงมาตรงหน้าเธอ
“คุณ…” เหมี่ยวอิงรู้สึกประหลาดใจในขณะนั้น
"รับไปสิ" จ้าวหยู่ลอบมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง หลังจากที่เขายืนยันว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ เขาก็เปิดกล่องอย่างกระวนกระวายและพูดตะกุกตะกักว่า “เฮ้ ฉัน… ฉันซื้อมันให้… คุณ…”
จ้าวหยู่พูดติดอ่างเป็นครั้งแรก ไม่บ่อยนักที่เขาจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจอย่างนี้
“นี่มัน…” เหมี่ยวอิงประหลาดใจเมื่อเห็นต่างหูแวววาวคู่หนึ่งอยู่ในกล่อง แม้ว่าใบหน้าเหมี่ยวอิงจะเต็มไปด้วยความลังเลใจ แต่น้ำเสียงของเธอเผยความยินดีออกมา และใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย
“ในตอนนั้น ฉันได้พังต่างหูของคุณ!” จ้าวหยู่ก็อายเช่นกัน เขาก้มหัวลงและพูดว่า “นี่คือการชดเชย! ฉัน… ฉันเลือกอันที่แพงที่สุดในห้างมา มันคู่ละเก้าพันหยวน ถ้าไม่เชื่อก็ดูใบเสร็จอยู่ภายในกล่องได้! ฉันตั้งใจซื้อมันมาให้คุณ… อืม… คุณชอบพวกมันไหม?”
“มะไม่ต้องก็ได้” ใบหน้าของเหมี่ยวอิงแดงเล็กน้อย เธอยังเขินอายและก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “เรื่องนั้นฉันลืมไปแล้ว คุณไม่ต้องให้ฉันก็ได้!”
ไม่มีใครรู้ว่าทำไม แต่ดูเหมือนว่าความกระวนกระวายนั้นติดต่อได้ ก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนเป็นเหมือนศัตรูคู่อาฆาต แต่ตอนนี้พวกเขาดูประหม่าและเขินอาย ราวกับคู่รักหนุ่มสาวไม่มีผิด
ในความเป็นจริง แม้ว่าจ้าวหยู่ในอดีตจะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ และเคยตกหลุมรักเหยาเจียในชาติที่แล้ว แต่เขาก็ไม่เคยให้ของขวัญใด ๆ แก่คนรักมาก่อน ตอนนี้เขารู้สึกเขินอายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหมี่ยวอิง หญิงสาวที่งดงามมากที่สุด
“แค่… รับไปเถอะ!” จ้าวหยู่พูดติดอ่าง “ถ้าคุณได้ลองใส่มัน คุณต้องสวยแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า… ใช่… สวยแน่นอน…”
นั่นเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน เหมี่ยวอิงตัดผมทรงเห็ด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นต่างหู เขาจะบอกได้อย่างไรว่าต่างหูจะเหมาะกับเธอหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม เหมี่ยวอิงรู้สึกดีที่เขาได้พูดชมเธอ เธอรับต่างหูอย่างอาย ๆ หลังจากนั้น เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยและไร้เดียงสา เธอยืนมองมันราวกับว่าเธอเป็นสาวใช้ที่ถือกล่องเครื่องประดับล้ำค่าจากเจ้านายของเธอ
“อืม… งั้นฉันไปก่อนนะ!” จ้าวหยู่มีความสุขมากเมื่อเหมี่ยวอิงยอมรับต่างหู
‘เธอยอมรับมันอย่างนี้ แสดงว่าเธอสนใจฉันใช่ไหม?’ เขาสงสัย
จ้าวหยู่หันกลับไป เขาก็เห็นว่าเหมี่ยวอิงจ้องมองต่างหูอย่างเงียบ ๆ แต่พอเขากำลังก้าวออกไป เหมี่ยวอิงก็เรียกเขาทันทีว่า
“จ้าวหยู่ จะรีบไปไหน มานี่ก่อนสิ”
"ฮะ? อะไรนะ?" ใบหน้าของจ้าวหยู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ในเมื่อคุณให้ต่างหูฉันมา คุณก็ควรใส่มันให้ฉันสิ” เหมี่ยวอิงมองค้อน และส่งต่างหูให้จ้าวหยู่อย่างเนียมอาย
"เอ๋? ได้สิ ๆ” จ้าวหยู่รู้สึกสุขล้น เขารีบโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหยิบต่างหูด้วยมืออันสั่นเทา
“ทำไมมือคุณถึงสั่นขนาดนี้? คุณเป็นอะไรเปล่า? ใส่ให้ดี ๆ ด้วยล่ะ!”
แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะบ่นจู้จี้ แต่เธอก็เอามือจับเส้นผมที่สวยและเงางามทัดหูด้วยมือขวา
เมื่อมองไปที่คอที่ขาวราวกับหิมะและติ่งหูกลมมนที่กลมมน หัวใจของจ้าวหยู่ก็เต้นเร็วอย่างช่วยไม่ได้ โชคดีที่เขาสามารถยับยั้งตัวเองได้และใส่ต่างหูให้กับเหมี่ยวอิงทันที
เห็นได้ชัดว่าคุณไม่สามารถใส่ต่างหูเพียงอันเดียวแล้วปล่อยอีกข้างให้ว่างได้ จ้าวหยู่จึงรีบไปที่หูอีกข้างของเธอเพื่อสวมอันที่สองให้เธอ เมื่อเห็นว่าเหมี่ยวอิงไม่ได้ว่าอะไร จ้าวหยู่จึงยื่นมือออกมาและยกผมของเหมี่ยวอิงไปด้านหลังอย่างเบามือ เส้นผมของเหมี่ยวอิงมีกลิ่นที่น่าดึงดูดซึ่งทำให้เขาเคลิบเคลิ้ม เขาอยากจะผลักเธอลงบนเตียงและร่วมรักกับเธออย่างเร่าร้อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ต่างหูอีกอันจะสวมเสร็จ หลันโบ หนึ่งในนักสืบก็วิ่งเข้าห้องน้ำจากข้างนอก
หลันโบที่ปวดท้องในขณะนั้น ขณะที่เขากำลังเดินไปห้องน้ำ เขาเห็นจ้าวหยู่กำลังช่วยเหมี่ยวอิงใส่ต่างหู เขาประหลาดใจและหยุดยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตกตะลึง!
จ้าวหยู่กลืนน้ำลาย ส่วนเหมี่ยวอิงก้มหัวของเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำ อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารีบตะโกนไปที่หลันโบว่า
“เฮ้ แกดูอะไรอยู่? แกไม่เคยเห็นต่างหูมาก่อนเหรอ!? ออกไปเลย ไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นสอง!”
“อ่า ได้ครับ…” หลันโบก็ฉลาดเช่นกัน เขาแกล้งทำเป็นตาบอดทันทีและพึมพำว่า “โอ้ ฉันรู้สึกวิงเวียน ทำไมฉันถึงเห็นภาพหลอน… ภาพหลอน… ฉันไม่เห็นอะไรเลย…”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เหมี่ยวอิงยิ้มให้จ้าวหยู่ ในขณะที่เขาหัวเราะ
เนื่องจากการขัดจังหวะของหลันโบ บรรยากาศที่น่าอึดอัดได้ถูกทำลายลง เมื่อเห็นว่าต่างหูสวมเสร็จแล้ว เหมี่ยวอิงก็รีบเบี่ยงตัวออก และบอกลาจ้าวหยู่ จากนั้นก็จากไปราวกับสายลม
“ฮี่ฮี่ฮี่…” จ้าวหยูยืนอยู่ตรงนั้น และหัวเราะเบา ๆ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข เขาไม่คาดคิดเลยว่าเหมี่ยวอิงจะมีท่าทีเหนียมอายอย่างนี้
‘ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน ฉันก็จะเอาชนะใจสาวงามได้แล้ว’ เขาคิดกับตัวเอง
เมื่อไม่มีธุระอะไรในสถานีตำรวจแล้ว จ้าวหยู่ก็พาต้าเหิงกลับบ้านอย่างมีความสุข พอเขามาถึงหน้าประตู เขาก็ส่งข้อความวีแชทถึงเหมี่ยวอิงเพื่อถามว่าเธอถึงบ้านแล้วหรือยัง เขาขอให้เธอพักผ่อนแต่เนิ่น ๆ
*เอี๊ยด*
โดยไม่คาดคิด เมื่อประตูเปิดออก และจ้าวหยู่กำลังจะก้าวเข้าไปข้างใน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาถึงกับล้มลงกับพื้น!
“โฮ่งโฮ่ง…”
ต้าเหิงก็ตกใจเช่นกันและเห่าลั่นบ้านทันที
พวกเขาเพิ่งเห็นหญิงชรายืนตรงอยู่หน้าประตู เธอดูเหมือนผีด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
"โธ่แม่! แม่เกือบทำให้ผมหัวใจวายตาย!“จ้าวหยู่ลุกขึ้นจากพื้นแล้วตบหน้าอกและบ่นว่า”แม่มาทำอะไรที่นี่? ทำไมแม่ยังไม่นอน? ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว..."
“เจ้าลูกไม่รักดี! แม่อุตส่าห์รอลูกกลับมาเพื่อที่แม่จะได้เตรียมอาหารร้อน ๆ ให้ลูก!” แม่ของเขาบ่นต่อว่า “แค่ส่งข้อความบอกแม่ล่วงหน้าก่อนกลับมาไม่ได้หรือไง!? ดูสิอาหารที่แม่เตรียมไว้เย็นหมดแล้ว!”
“แฮ่กแฮ่ก…”
ต้าเหิงเห็นว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดี มันจึงไม่สร้างความวุ่นวายให้กับเธอ มันรีบเดินแหยะ ๆ ไปที่ระเบียงและหมอบลง
จ้าวหยู่เพิ่งกินข้าวกล่องเป็นอาหารเย็น ดังนั้นตอนนี้เขาจึงหิวเล็กน้อย แม่ของเขารีบอุ่นอาหารที่เตรียมไว้ให้เขา แม้แต่จ้าวหยู่คนเดิมในโลกนี้ก็ไม่ได้กินอาหารของแม่มาเป็นเวลานาน มันจึงทำให้อาหารจานนี้เต็มไปด้วยรสชาติของความคิดถึง
*ติ้ง*
จู่ ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมา เมื่อจ้าวหยู่เปิดมันเป็นคำตอบจากเหมี่ยวอิง
“ฉันถึงบ้านแล้ว คุณก็เหนื่อยเหมือนกัน นอนเร็ว ๆ ล่ะ ราตรีสวัสดิ์”
แม้ว่าข้อความจะเรียบง่าย แต่มันทำให้จ้าวหยู่รู้สึกอบอุ่น ความสุขของจ้าวหยู่ถึงจุดสูงสุดเมื่อเขาได้กินอาหารฝีมือแม่ของเขาและอ่านคำตอบที่อบอุ่นจากคนที่เขาชอบ
เมื่อนึกถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับฉิวซินหยาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวงแหนความสุขที่เขาเคยประสบพบเจอ ความสุขในโลกมักพบได้ในช่วงเวลาสบาย ๆ เหล่านี้ แต่มักจะถูกละเลยไป
อย่างไรก็ตาม มีอีกหนึ่งสิ่งที่น่ายินดีรอจ้าวหยู่อยู่
เมื่อเขาเกือบจะทานอาหารเสร็จ จู่ ๆ แม่ของเขาก็หยิบสมุดบันทึกของจ้าวหยู่ขึ้นมาดู ดูเหมือนเธอจะสนใจอะไรบางอย่างในสมุด
“แม่ครับ แม่หยุดยุ่งกับของของผมได้ไหม? ในนั้นไม่มีอะไรหรอก แล้วถ้าผมจำไม่ผิด แม่อ่านตัวหนังสือไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ?” จ้าวหยู่ถาม
“ใช่ แม่อ่านไม่ออก แต่...” แม่ของเขาชี้ไปที่คำทำนายในสมุดบันทึกแล้วพูดว่า “แม่รู้พวกคำศัพท์บางคำของศาสตร์ฮวงจุ้ยนะ ในสมุดของลูกมันดูคล้ายกับ ‘ศาสตร์แห่งสวรรค์บากัว[1]’ ที่หายไปเมื่อหลายปีก่อนเลย”
‘หา!?’
จ้าวหยู่ตกใจและเกือบจะคายอาหารที่เขากินเข้าไป…
[1] บากัว หรือ ปากัว เป็นเครื่องมือหลักในศาสตร์ฮวงจุ้ยที่เอาไว้ใช้ค้นหาพลังงานในทิศต่าง ๆ ลักษณะของบากัวนั้นจะเป็นรูปลักษณ์ของ 8 เหลี่ยม ซึ่งแต่ละเหลี่ยมนั้นจะระบุถึงธาตุต่าง ๆ ในศาสตร์ฮวงจุ้ย