962 - เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง
962 - เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง
สุนัขตัวใหญ่ตัวนี้แข็งแรงมากเทียบได้กับวัวขนาดมหึมา มิหนำซ้ำมันยังสวมกางเกงลายดอกที่ดูน่าขบขันเป็นอย่างมาก
เด็กหญิงตัวน้อยงดงามราวกับถูกแกะสลักขึ้นด้วยหยก ดวงตาของนางกลมโตเป็นประกาย บอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องตัวน้อยน่ารักและมีมารยาทอ่อนหวาน
“ให้ตายเถอะ มันคือสุนัขในตำนานที่เกือบฆ่าหวังเถิงในภาคเหนือ”
“มันเป็นสุนัขที่ชั่วร้ายและเรียกร้องให้ทุกคนเรียกมันว่าเจ้านาย”
หลายคนรู้จักจักรพรรดิดำมองด้วยความโกรธแค้น
“ให้ตายเถอะ สุนัขตัวนี้สมควรโดนฆ่า มันกล้าแม้กระทั่งข่มขู่ตระกูลจี้”
จักรพรรดิดำมาที่นี่เพื่อช่วยเย่ฟ่านโดยมีเด็กหญิงตัวน้อยอยู่บนหลัง
“โปรดยกโทษให้สหายของข้าด้วยราชันย์ศักดิ์สิทธิ์”
เย่ฟ่านกล่าวพร้อมกับประสานมือแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม
ใบหน้าของจี้เจี่ยอี้น่าเกลียดมาก แต่เขาไม่ได้ลงมือโจมตีทันที เพราะเห็นได้ชัดว่าสุนัขตัวนี้มีความเชี่ยวชาญในค่ายกลระดับจักรพรรดิ!
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นไม่นานมานี้และตระกูลจี้ก็ไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายจนไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงสงสัยว่าสุนัขตัวนี้ไปเอาระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นมาจากที่ใด
ระฆังศักดิ์สิทธิ์นี้ประดิษฐานอยู่ที่ภูเขาสีม่วงในภาคเหนืออย่างแน่นอน และอาวุธระดับจักรพรรดิไม่มีทางถูกสร้างเลียนแบบจนมีพลังระดับนี้ได้
“พี่ใหญ่ ข้าคิดถึงท่าน”
เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งมาหาเย่ฟ่านด้วยดวงตาแดงก่ำ นางยื่นมือเล็กๆ คู่นั้นสวมกอดเย่ฟ่าน พวกเขาไม่ได้เจอกันเกือบสามปี และนางยังคงไม่โตขึ้น ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆเลย
เย่ฟ่านยิ้มและบีบจมูกของนางก่อนจะอุ้มนางขึ้นจากพื้นด้วยความรักและเอ็นดู
“เสี่ยวเย่เจ้ารู้หรือไม่ว่าครั้งนี้ข้าต้องเสียสละอะไรบ้าง อย่างน้อยเจ้าก็ต้องชดเชยให้ข้าด้วยไขกระดูกมังกรหม้อหนึ่ง หรือไม่ก็ต้นกำเนิดหนึ่งล้านจิน” สุนัขสีดำตัวใหญ่แยกเขี้ยวหัวเราะ
ผังป๋อกลั้นหายใจมาหลายปี เขาเดินไปข้างหน้าและกล่าวว่า
“จักรพรรดิดำ เจ้ายังจำข้าได้ไหม”
“เจ้าเป็นใคร ข้าไม่รู้จักเจ้า!”
“ให้ตายเถอะไอ้สารเลวเฒ่า เพราะค่ายกลพังๆของเจ้าข้าถึงต้องอาศัยอยู่ในจงโจวตั้งหลายปี”
“ถึงเวลาที่เราควรตามหาตู้เฟยหรือยัง!”
หลี่เหอซุย อู๋จงเทียน และคนอื่นๆ ก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ
“ทำไมโลงศพนี้ถึงดูคุ้นๆ สำหรับข้า ดูเหมือนว่าข้าจะเคยทำมันหายมาก่อน”
สุนัขสีดำตัวใหญ่เปลี่ยนเรื่อง และดวงตากลมโตของมันก็จ้องไปที่โลงศพทองแดงของเย่ฟ่าน
…
เย่ฟ่านไม่ได้อยู่ที่ตระกูลจี้เป็นเวลานาน เขาอำลานักพรตมังกรแแดงและคนอื่นๆ ก่อนจะจากไปพร้อมกับผังป๋อ หลี่เหอซุยจักรพรรดิดำ
ห่างจากตระกูลจี้หลายพันลี้ในเทือกเขาดึกดำบรรพ์ พวกเขาวางโลงศพทองแดงลงและเตรียมเปิดเพื่อดูว่ามีสิ่งใดอยู่ภายในกันแน่
“เจ้าแน่ใจนะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ” เย่ฟ่านสงสัย
“ข้าแน่ใจ! มันยังคงอยู่ใกล้คฤหาสน์ตระกูลจี้ ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆเราก็สามารถหยิบยืมกระจกแห่งความว่างเปล่าออกมาปราบปรามมันได้”
“ข้ายังคงกังวลเล็กน้อย”
“เจ้าแน่ใจนะว่าไม่มีอันตรายจริงๆ”
เนื่องจากผังป๋อถูกเคลื่อนย้ายไปจงโจว เขาจึงเกิดความวิตกต่อการรับรองของจักรพรรดิดำเป็นอย่างมาก
“ข้าจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วง!” เจ้าหมาดำตัวใหญ่กล่าว
“ระวังด้วย” จี้จื่อเยว่ก็อยู่ที่นี่พร้อมกันทุกคน
“ห้ามทำร้ายทุกคนอย่างเด็ดขาด”
เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยนุ่มนวลและเตือนสติอย่างจริงจัง
“เปิดดูสิ ข้าก็อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น”
วานรศักดิ์สิทธิ์ติดตามมาที่นี่ด้วย ในตอนนั้นเขามองเห็นซากศพบิดาของเขาอยู่ในโลงศพทองแดง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยวางสิ่งที่อยู่ภายในได้
เทือกเขานี้เงียบสงบเป็นพิเศษ ทันทีที่โลงศพทองแดงถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ นกและสัตว์ป่าเกือบทั้งหมดก็แตกกระจายหนีหายและไม่มีใครกล้าปรากฏตัวขึ้น
ลวดลายของค่ายกลจักรพรรดิดำมีความซับซ้อนซึ่งสอดคล้องกับดวงดาวบนท้องฟ้า เย่ฟ่านสังเกตภูมิประเทศและเตรียมการบางอย่างเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
สองชั่วยามต่อมา คนอื่นๆถูกสั่งให้ล่าถอยออกไปไกล และเย่ฟ่านก็ผลักฟ้าโลงศพให้เปิดขึ้นอย่างช้าๆ
“เมื่อ…”
เมื่อเย่ฟ่านผลักฝาโลงลงเกือบทั้งหมด แรงกดดันอำนาจสะพรึงกลัวก็แทบจะทำให้ร่างกายของเขาแหลกสลาย
แม้ว่าเขาจะได้รับการปกป้องจากค่ายกลของจักรพรรดิดำ ทั้งยังมีสมบัติจากรังมังกรห่อหุ้มอยู่รอบตัวร่างกายของเขาก็ยังมีรอยแตกปรากฏขึ้นมากมาย
“บูม”
เขาผลักครั้งสุดท้าย จากนั้นร่างของเขาก็พุ่งออกจากโลงศพและปรากฏตัวอีกครั้งในระยะที่ห่างเกือบสิบลี้
เสียงอู้อี้ดังระเบิดออกมาอย่างรุนแรง จากนั้นสายฟ้าจำนวนมากก็กระจัดกระจายขึ้นสู่ความว่างเปล่า
“เร็วเข้า เปิดใช้งานค่ายกลจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!” วานรศักดิ์สิทธิ์เร่งเร้า
จักรพรรดิไม่รอช้าจากนั้นค่ายกลจักรพรรดิที่ถูกวางไว้ก็ถูกเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ประกายแสงแวววาวเริ่มกักขังโลงศพโบราณไว้ตรงกลางโดยไม่อนุญาตให้มันขยับไปไหน
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างกลับไร้ประโยชน์ ในขณะที่ทุกคนกำลังส่องดูว่าภายในโลงศพทองแดงมีอะไรกันแน่ ค่ายกลของจักรพรรดิดำก็พังทลายลงทันที
“บูม”
ทันใดนั้น เทือกเขาดึกดำบรรพ์นี้ก็แตกเป็นเสี่ยง พื้นที่ทุกตารางนิ้วกลายเป็นฝุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างจมอยู่ในพลังแห่งความโกลาหล
“แย่แล้ว!”
เย่ฟ่านตะโกนด้วยความกลัวก่อนจะดึงทุกคนลงไปในหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดที่มีขนาดใหญ่โตสิบวาด้วยความกลัว
ในขณะนั้นพื้นที่รัศมีหลายพันนี้ได้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้เป็นที่ราบ เศษฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในตระกูลจี้ก็ยังเกิดความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด
โลงศพทองแดงทำลายทุกสิ่งจนพังพินาศ จากนั้นมันก็ปิดตัวเองด้วยเสียงโครมคราม ก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและเคลื่อนตัวลงไปทางทิศใต้อย่างรวดเร็ว
“มันคือโลงศพทองแดงนั่น!”
ในวันนี้คนจำนวนมากในภาคใต้เห็นโลงศพทองแดงลอยอยู่บนท้องฟ้าและบินหายไปเอง บางคนพยายามหยุดมันแต่ร่างกายของพวกเขาก็กลายเป็นฝุ่นผงทันที
เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ไม่สามารถไล่ตามได้ และความผิดทั้งหมดก็ถูกโยนไปที่สุนัขสีดำตัวใหญ่ซึ่งรับปากผู้คนอย่างมั่นเหมาะว่าจะไม่มีความผิดพลาดอย่างแน่นอน
ในภาคใต้มหาอำนาจจำนวนมากตื่นตระหนกและตระกูลจี้ในฐานะตัวแทนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไล่ตามโลงศพทองแดงด้วยความโล�
แน่นอน เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ติดตามอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งโลงศพโบราณเคลื่อนตัวเข้าสู่ดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต
ทุกคนหยุดและไม่มีใครกล้าเข้าไป นี่คือดินแดนแห่งความตายแม้กระทั่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ก็ยังพังพินาศไปแล้ว
โลงศพทองแดงบินกลับไปยังดินแดนต้องห้ามโบราณด้วยตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ต่างก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าและมองเข้าไปข้างในอีกครั้ง
ในหมู่พวกเขา ดวงตาของวานรศักดิ์สิทธิ์เป็นสีทองใส เขาเกิดมาพร้อมกับดวงตาสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าลูกได้อย่างชัดเจน
เย่ฟ่านก็มีดวงตาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีระดับต่ำกว่าดวงตาสวรรค์เล็กน้อย ในตอนนี้เขาพยายามกวาดสายตาด้วยความระมัดระวัง
“แดง”
เสียงกระแทกดังก้องไปทั่วดินแดนต้องห้ามโบราณและทำลายความเงียบสงบหลายสิบล้านปี
โลงศพเล็กๆ จมอยู่ในโลงศพยักษ์ราวกับเสียงฟ้าคำรามที่สามารถสัมผัสได้แม้จะอยู่ไกลออกไปนับพันลี้