(ฟรี) บทที่ 405 บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ผู้คลั่งรัก
“เจ้าบอกว่าละครเรื่องนี้… เขียนโดยหลี่หราน?”
ฉู่หลิงฉวนดูสับสน “เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า?”
ความรักแบบนี้ที่ทำเพื่อคนรักโดยไม่ลังเลหรือคำนึงถึงสายตาชาวโลก แวบแรกดูเหมือนงานของคนคลั่งรัก มันจะเป็นของหลี่หราน หัวไชเท้าจอมเสเพลได้ยังไง?
ด้วยนิสัยของผู้ชายคนนี้ มันอาจจะจริงที่เขาเพิกเฉยต่อโลกหล้า แต่เขาจะไม่ได้รักแค่ “ชุยอิงอิง” อย่างแน่นอน!
เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าของตัวจริงจงใจปล่อยข่าวลือแบบนี้เพื่อให้มันมีชื่อเสียง?
แต่ผู้ดูแลกลับพูดอย่างตรงไปตรงมา “เรื่องนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอนขอรับ เรื่องราวของห้องรักหอตะวันตกนี้มาจากปากของบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่”
เขาดูจริงจังและไม่เหมือนการเสแสร้ง
ฉู่หลิงฉวนหันหน้าไปมองหลี่หรานเพียงเพื่อเห็นรอยยิ้มในดวงตาของเขา แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
และอวี้ชิงหลันก็สงบมากเช่นกัน ราวกับว่านางไม่แปลกใจเลย
นี่ยิ่งทำให้นางสับสนมากขึ้นไปอีก
“เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา แล้วเจ้าไปรู้จักหลี่หรานได้ยังไง?” นางถามด้วยความสงสัย
ผู้ดูแลส่ายหัวและพูดว่า “ข้าน้อยเป็นเพียงคนธรรมดา และบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่เป็นดั่งร่างบนท้องฟ้า ข้าจะรู้จักเขาได้อย่างไร เป็นคนอื่นที่เล่าเกี่ยวกับห้องรักหอตะวันตกให้ข้าฟัง”
ฉู่หลิงฉวนยิ่งสงสัยมากขึ้นและถาม “บอกข้าให้ละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ”
ผู้ดูแลลังเล
แต่เนื่องจากเขาเริ่มบอกอีกฝ่ายแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ปรากฎว่าเขามีหลานสาวที่มีพรสวรรค์ในการฝึกตน
นางเข้าสู่สถาบันเทียนซูและกลายเป็นผู้ดูแลตัวเล็กๆบนเทือกเขาหยุนเฟิง
ตอนที่นางกลับบ้านมาช่วยญาติเมื่อไม่นานมานี้ นางพูดเรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผู้ดูแลบังเอิญได้ยินมัน
เรื่องนี้ทำให้เขาประทับใจมาก
และด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา เขาจึงค้นพบโอกาสทางธุรกิจ
เรื่องราวทั้งหมดถูกบันทึกไว้และดัดแปลงเป็นละครเวที แล้วแสดงในลานลูกแพร์แห่งนี้
และเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทันทีที่เรื่องราวของห้องรักหอตะวันตกขึ้นแสดงบนเวที มันก็ได้รับคำชมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากความน่าประทับใจของตัวเรื่อง
จากหนึ่งไปสิบ จากสิบไปร้อย และในไม่ช้ามันก็แพร่กระจายไปทั่วดินแดนตะวันออกของดินแดนอันกว้างใหญ่
แม้แต่ชื่อเสียงของลานลูกแพร์ก็พุ่งสูงขึ้นและผู้ดูแลก็ทำเงินได้มากมายเพราะเรื่องนี้
“......” หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หลี่หรานก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
‘นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น…’
‘ข้าควรคิดค่าลิขสิทธิ์ดีมั้ยนะ?’
แต่นั่นเป็นเพียงความคิด เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ
แม้ว่าเรื่องนี้จะออกมาจากปากของเขา แต่ก็ไม่ใช่ผลงานของเขา เขาเป็นแค่คนบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่มีในโลกนี้
ในอนาคตอันใกล้นี้ คาดว่าจะกลายเป็นการแสดงประจำของทุกโรงละคร
มันทำให้หลี่หรานรู้สึกพอใจที่ได้เห็นผลงานคลาสสิกจาก “บ้านเกิด” ของเขา ซึ่งได้รับการส่งเสริมและชื่นชมที่นี่เช่นกัน
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ภารกิจ แต่ก็ยังทำให้รู้สึกภูมิใจ
ผู้ดูแลพูดเสียงเบา “ด้วยเหตุนี้ข้าจึงถามหลานสาวเป็นพิเศษ ว่ากันว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ไปที่ เทือกเขาหยุนเฟิงและเล่าเรื่องนี้ในที่สาธารณะ…”
ฉู่หลิงฉวนสงสัย “แต่สถาบันเทียนซูบ่มเพาะเต๋าไร้อารมณ์ เรื่องแบบนี้แพร่งพรายออกมาได้ยังไง?”
ผู้ดูแลเกาหัวและพูดว่า “ข้าก็คิดว่ามันแปลกมากเช่นกัน แต่หลานสาวของข้าบอกว่าไม่เป็นไร และผู้นำนิกายก็ไม่ว่าอะไร”
“เจ้าไม่ว่าอะไร?” ฉู่หลิงฉวนหันไปมองอวี้ชิงหลัน
แก้มของอวี้ชิงหลันเป็นสีแดงเล็กน้อยภายใต้ผ้าคลุมหน้า และนางก็หันไปทางอื่นอย่างผิดธรรมชาติ
“……”
ฉู่หลิงฉวนมองไปที่หลี่หรานอีกครั้งและพูดผ่านกระแสจิต “สิ่งที่ผู้ดูแลพูดเป็นความจริง?”
หลี่หรานยักไหล่ “อย่างน้อยเก้าส่วน”
ฉู่หลิงฉวนเงียบหลังจากได้ยินสิ่งนี้
มีสตรีมากมายรายล้อมหลี่หราน เขาจะสร้างเรื่องราวที่จริงใจและน่าประทับใจเช่นนี้ได้ยังไง?
เป็นไปได้ไหมว่า… เขามีชุยอิงอิงอยู่ในใจด้วย?
เรื่องนี้ทำให้นางสับสนเล็กน้อย
ในเวลานี้ ผู้ดูแลเตือนเป็นพิเศษว่า “ข้าไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ ห้ามแพร่งพรายออกไปสู่โลกภายนอกนะขอรับ ถ้ามันบังเอิญไปถึงหูของบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ ข้ากลัวว่า…”
ผู้ดูแลตัวสั่นและร่องรอยของความกลัวฉายชัดในดวงตาของเขา
“แล้วเจ้ากล้าบอกเราได้ยังไง? ข้านึกว่าเจ้าไม่กลัวเสียอีก” หลี่หรานพูดอย่างขบขัน “เจ้าไม่รู้หรือว่าเราคือใคร?”
“ข้าไม่รู้ว่าแขกผู้มีเกียรติเป็นใคร…”
ซุนตู้โถวบอกว่าแขกผู้มีเกียรติกำลังมาแต่ไม่ได้ระบุตัวตน
“ช่างเถอะ ข้าไม่สนใจหรอก” หลี่หรานยืนขึ้นและตบไหล่เขา “แสดงให้ดี อย่าทำให้ชื่อของห้องรักหอตะวันตกเสื่อมเสีย”
หลังจากพูดจบเขาก็หันหน้าไปและพูดว่า “ท่าอาจารย์ทั้งสอง ไปกันเลยไหม?”
“อืม” ทั้งสองคนยืนขึ้นและเดินตามหลี่หรานออกไป
“รอก่อนแขกผู้มีเกียรติ ท่านยังไม่ได้นำของขวัญไป…” ผู้ดูแลกลับมามีสติแต่กลับพบว่าพวกเขาหายไปแล้ว ราวกับหายไปในอากาศ
“แปลกจริงๆ” ผู้ดูแลเกาหัวและรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ราวกับว่าเขามองข้ามสิ่งสำคัญไป
“แต่ในที่สุดพวกเขาก็จากไปแล้ว” เขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
หลังได้รับแจ้งจากซุนตู้โถว ความกังวลใจของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะกลัวว่าจะทำให้แขกผู้มีเกียรติขุ่นเคืองใจ เขายังไม่ผ่อนคลายจนถึงตอนนี้
หลังจากนั่งบนเก้าอี้เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “พวกเขาไปแล้วเหรอ?”
ผู้ดูแลหันศีรษะทันทีและเห็นซุนตู้โถวที่สวมชุดลำลองยืนอยู่ข้างหลัง
“สวัสดีครับท่านซุน พวกเขาจากไปแล้ว” ผู้ดูแลลุกขึ้นตอบด้วยความเคารพ
นี่คือรองผู้บังคับบัญชาของเมืองเจียงเจ๋อ มันไม่ใช่สิ่งที่นักธุรกิจรายย่อยอย่างเขาจะทำให้ขุ่นเคืองได้
ซุนตู้โถวถามว่า “มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?”
“ไม่เลยครับ” ผู้ดูแลตอบ “แขกผู้มีเกียรติพอใจมาก และพวกเขาถามคำถามข้ามากมายเกี่ยวกับเรื่องราวของห้องรักหอตะวันตก”
ซุนตู้โถวพยักหน้า “เป็นเรื่องดีที่พวกเขาพอใจ”
เมื่อเห็นท่าทีโล่งใจของอีกฝ่าย ผู้ดูแลก็ถามด้วยความสงสัย “ท่านซุน แขกผู้มีเกียรติเหล่านั้นมีที่มาอย่างไรถึงทำให้ท่านกังวลได้ขนาดนี้?”
ซุนตู้โถวส่ายหัว “พื้นหลังของพวกเขาน่ากลัวเกินไป ไม่ต้องพูดถึงข้า แม้แต่เจ้าเมืองก็ยังกลัว…”
“อา?” ผู้ดูแลถึงกับตะลึง
เจ้าเมืองซือผู้มีอำนาจสูงสุดในเมืองและเป็นผู้ฝึกตนยังหวาดกลัวคนเหล่านั้น?
สิ่งนี้อยู่เหนือจินตนาการของเขา
เมื่อเห็นท่าทางสับสนของเขา ซุนตู้โถวก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ไม่เป็นไรที่จะบอกเจ้า แต่เจ้าไม่สามารถแพร่งพรายออกไปได้”
ผู้ดูแลรีบพูดว่า “ไม่ต้องห่วงท่านซุน”
ซุนตู้โถวมองไปรอบๆและลดเสียงลง “ชายหนุ่มคนนั้นคือปีศาจสวรรค์ในตำนาน บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่หราน!
“สำหรับสตรีอีกสองคน… ข้าไม่กล้าเอ่ยนามของพวกนาง ข้าบอกได้เพียงว่าพวกนางทรงพลังพอๆกับจักรพรรดิเซิง!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา อากาศก็เงียบลงทันที
“ท่านว่าไงนะ!” ผู้ดูแลตัวแข็งอยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อนราวกับประติมากรรม
หลังจากได้ยินชื่อ “หลี่หราน” หูของเขาก็อื้ออึงและไม่ได้ยินอะไรเลย
ชายหนุ่มที่อุ้มเด็กสาวไว้คือปีศาจหลี่หรานจริงๆ?
เขายังคงคุยโวเกี่ยวกับเรื่องราวของห้องรักหอตะวันตก… แต่คนๆนั้นคือผู้เขียนต้นฉบับ!
แถมยังคุยกันแบบต่อหน้า...
พลั่ก!
ผู้ดูแลทรุดลงกับพื้น ร่างกายของเขาสั่นไปทั้งตัว เม็ดเหงื่อไหลลงมาที่หน้าผาก
ราวกับพึ่งเดินผ่านประตูนรก
“ข้ายังมีชีวิตอยู่ หมายความว่าข้าไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม?”
/////