ตอนที่ 990 คุณหลิน คุณต้องช่วยเราตัดสินใจ!
ปรากฎว่าในขณะที่ หวัง เสี่ยวหนี๋ กำลังเล่นเกมกับผู้ชายอีกคนอย่างรู้สึกเวียนหัว ..อยู่นั้น หญิงสาวที่มีสิวเต็มหน้า คนนั้นซึ่งเธอที่เป็นแฟนตัวยง และเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในแวดวงแฟนคลับของ หัว อี้อู่ ตอนนั้นเธอจำได้ว่า พี่สาวเซียง ได้เข้ามาไล่แฟนๆ หญิงคนอื่นๆ ออกไป
และเธอก็ไม่ได้เข้ามาพาทุกคนออกไปในทันที แต่กลับเลือกที่จะพาออกไปทีละคน และเมื่อออกไปข้างนอกแล้ว เธอก็จะส่งคืนโทรศัพท์ให้กับพวกเธอ และได้ช่วยพวกเธอเรียกรถ และรอส่งพวกเธอออกไป…
ก่อนพวกเธอจะจากไป หญิงสาวที่มีสิวเต็มหน้า ยังเข้ามากำชับพวกเธอด้วยว่า เรื่องในวันนี้ อย่าได้พูดออกไปโดยเด็ดขาด และเหตุผล ..มันก็ไม่มีอะไรไปมากกว่า.. มันจะส่งผลกระทบกับพี่ชายในแง่มุมที่ไม่ดี หรือพวกอะไรทำนองนั้น
เมื่อ หวัง เสี่ยวหนี๋ ได้สังเกตเห็นว่า หญิงสาวคนอื่นๆ ได้จากไปแล้ว..
“พวกเธอ.. ไปไหนกันหมดแล้ว?” หวัง เสี่ยวหนี๋ ได้พูดถามออกไปด้วยความสงสัย
หัว อี้อู่ ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “อาจจะไปเข้าห้องน้ำล่ะมั้ง? อย่าไปสนใจพวกเธอเลย”
หวัง เสี่ยวหนี๋ ได้พูดไปว่า : “พี่ชาย.. ฉันรู้สึกเวียนหัว ทั้งปวดหัวมาก คงเล่นต่อไปไม่ไหวแล้ว และก็ตอนนี้ ..ฉัน ต้องกลับบ้านแล้ว”
หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “กลับบ้านอะไรกัน? นี่มันยังไม่เช้าเลยนะ มาเล่นกันต่ออีกสักพักเถอะ ผมเองยังไม่ได้เริ่มเล่นเลย…”
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างหรืออย่างไร.. ผู้ชายคนอื่นๆ ก็ต่างได้พากันหัวเราะอย่างหยาบคายออกมา และเสียงหัวเราะนั้น.. เธอก็ได้ยินมันดังขึ้นมาเรื่อยๆ
ในความสับสน และงุนงง หวัง เสี่ยวหนี๋ ก็ได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของพวกเขา แต่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสนี้ มันกลับ …เต็มไปด้วยความดุร้าย ในนี้มันก็ได้รวมถึง พี่ชายอี้อู่ ที่เป็นคนโปรดของเธอด้วย ความดุร้ายแบบนี้ มันทําให้เธอรู้สึกว่า พี่ชายอี้อู่ …กลายเป็นคนแปลกหน้า สำหรับเธอไปแล้ว
เขา.. มันเหมือนกับเปลี่ยนไป.. กลายเป็นคนละคน
“.....”
ภายในรถ Rolls-Royce หวัง เสี่ยวหนี๋ ที่ได้พูดมาถึงตรงนี้ เธอก็ได้สะอึกสะอื้นออกมา และไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้นั้น.. มันก็คือฝันร้ายที่มันราวกับทำให้เธอต้อง ..ตกนรกทั้งเป็น และฝันร้ายที่ว่านี้ ..เธอก็ไม่อยากที่จะจดจํามัน
หวัง เสี่ยวหนี๋ ไม่พูด แต่ หลินฟาน และเว่ย เยว่เอ๋อร์ ต่างก็พอจะเดาได้ว่า ..มันเกิดอะไรขึ้น
ทาง.. เว่ย เยว่เอ๋อร์ เธอได้ตกใจจนมีใบหน้าซีด ร่างกายของเธอเองมันก็ได้สั่นไปหมด
“พวกมันกล้าดียังไง ไอ้พวกสัตว์ร้ายพวกนี้! แล้วก็ทั้งหมดพวกนั้น.. มันก็เป็นสัตว์เดรัจฉานที่ยังสู้หมูหมายังไม่ได้!” เว่ย เยว่เอ๋อร์ ได้พูดด้วยความโกรธ
หลินฟาน ไม่เคยเห็น เว่ย เยว่เอ๋อร์ โกรธขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้เขาก็โกรธมากจริงๆ นั่นก็เพราะเรื่องนี้ มันดูอุกอาจมาก ..เกินไป
หลินฟาน ยังคงมีท่าทีที่สงบ และเขาได้มองไปที่ หวัง จงโฮ่ว
“คุณหวัง คุณรู้เรื่องนี้ ..ตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลินฟาน ได้ถาม
หวัง จงโฮ่ว กล่าวว่า : “คือหลังจากที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อตอนนั้น นิวนิว ก็ได้กลับมาบ้าน เธอดูเหมือนคนไร้ซึ่งสติ ราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอมันได้หายไป ตอนแรกผมก็โกรธเธอมากที่ปิดบังผม และออกไปพบกับไอดอลของเธอ ผมเองตอนนั้นก็ระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และได้ดุด่าเธอออกไปด้วยคําพูดที่ไม่ค่อยจะน่าฟังมากนัก แต่เธอก็กลับเฉยเมย และดูไม่แยแส พอผมพบความผิดปกตินี้ ผมก็ได้รีบสงบสติอารมณ์ทันที และพูดคุยกับเธอ และสุดท้ายก็กลายเป็นว่า…”
ขอบตาหนาของ หวัง จงโฮ่ว ได้แดงไปเสียแล้ว และในโลกนี้ไม่มีใครรักลูกสาวมากไปกว่าคนที่เป็นพ่อ แต่แล้ว.. เรื่องแบบนี้มันก็ได้เกิดขึ้นกับลูกสาวของเขา เมื่อตอนนั้นเอง เขาก็ได้มีอาการหน้ามืดจนแทบที่จะล้มลงไปทั้งยืน
เว่ย เยว่เอ๋อร์ กล่าวว่า : “สิ่งที่เกิดขึ้น หัว อี้อู่ ต้องได้รับโทษประหาร! .. แต่แล้วทำไมก่อนหน้านี้ คุณถึงได้ไม่โทรแจ้งตำรวจก่อนล่ะ?”
หวัง จงโฮ่ว กล่าวว่า : “ฉันอยากที่จะแจ้งตํารวจตั้งแต่ตอนแรกแล้วจริงๆ แต่.. นิวนิว ก็ได้เขามาเปลี่ยนความคิดผม นั่นก็เพราะที่แท้ ..หลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้น หัว อี้อู่ เอง และแฟนคลับตัวยง ที่ชื่อ เฟยเซียง นั้น.. ก็ได้พูดแทรกแซงอุดมการณ์ทางความคิดให้กับ นิวนิว ทำให้ตัวเธออ่อนแอลง และหวาดกลัวต่อสิ่งที่คิดจะกระทำ..”
“ตัวฉันเองก็ได้ตรวจสอบไปแล้วว่า หัว อี้อู่ คนนี้ เป็นศิลปินในสังกัดของ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ และเชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ผู้ที่เป็นเจ้าของอยู่ในตอนนี้ก็คือ เว่ย เจี้ยนเซิง ทั้งเขาก็ยังเป็นลูกชายของชายที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงหนาน ..ในปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า หัว อี้อู่ มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งมาก และเราไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย.. แล้วก็นอกจากนี้เราไม่มีหลักฐาน เพราะพวกเขาได้ยึดเอาโทรศัพท์มือถือของ นิวนิว ไปในตอนนั้นด้วย…” หวัง จงโฮ่ว ได้พูดอย่างจนใจ และก็ได้ถอนหายใจยาวๆ ออกมา
“เยว่เอ๋อร์ คุณเป็นอะไรไป?”
หลินฟาน กลับได้สังเกตเห็นทันทีว่า เว่ย เยว่เอ๋อร์ เธอดูตกตะลึงไปเมื่อได้ยินคำพูดของ หวัง จงโฮ่ว และดูเหมือนว่าหลังจากที่ได้ฟังคําพูดของ หวัง จงโฮ่ว ไปแล้ว ใบหน้าของเธอก็ได้แสดงสีหน้าที่ดูออกจะซับซ้อนออกมา ..ให้เห็น
เว่ย เยว่เอ๋อร์ ได้กลับมามีสติอีกครั้ง และพูดว่า : “ไม่.. ไม่มีอะไร”
อันที่จริงแล้ว สาเหตุที่เธอตกตะลึงไปนั้น นั่นก็เพราะเธอได้รู้ว่า หัว อี้อู่ เป็นศิลปินในสังกัดของ เว่ย เจี้ยนเซิง!
และในอีกด้านหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า หัว อี้อู่ ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเว่ย ในเจียงหนาน
หาก เว่ย เยว่เอ๋อร์ ต้องการจับ หัว อี้อู่ ไม่ปล่อย.. นั่นมันก็เท่ากับเป็นการฆ่าญาติโดยชอบธรรม(1)
หากมันเป็นเช่นนี้ไป ..เว่ย เยว่เอ๋อร์ เธอสมควรที่จะเลือก ..อย่างไรดี?
แต่เมื่อเธอได้คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็แทบที่จะไม่ลังเลใจใดๆ หัว อี้อู่ ไม่ว่ายังไงคนๆ นี้ก็จะต้องจ่ายราคามา และต้องถูกนําตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม! และยิ่งไปกว่านั้น คนแบบนี้จะมาอยู่ในครอบครัวของเธอไม่ได้! และไม่ว่ายังไงเธอก็จะต้องทําทุกวิถีทาง ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เชื่อมากว่า เว่ย เจี้ยนเซิง จะไม่ยื่นมือเข้ามาปกป้องคนเลว! และเว่ย เจี้ยนเซิง สมควรที่จะลุกยืนขึ้น ยื่นส่งคดี และตัดที่นั่ง และความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายทันที!
หวัง จงโฮ่ว ได้ถอนหายใจ : “เราไม่กล้าโทรแจ้งตำรวจ ไม่งั้น.. นิวนิว ก็จะได้รับอันตราย ทั้งนี้คนชั่วก็ยังไม่ได้รับการลงโทษอย่างที่ควรจะเป็น.. อีกอย่าง หัว อี้อู่ ก็ยังเป็นดาราอยู่ ตัวเขาเองนั้นก็สามารถทำเงินได้อย่างมากมาย และในมุมมองบนเวทีที่แสดงให้ทุกคนได้เห็นอยู่นั้น มันก็ไม่มีใครว่าเขาเพียงแค่สร้างบุคลิกที่ใจดี และเสริมสร้างพลังบวกให้ทุกคนได้เห็น และยิ่งภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูมีเสน่ห์ของเขา แต่เบื้องหลังนั้น.. เขามันกลับเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย!”
เพราะสิ้นหวังในการแจ้งตํารวจ หวัง เสี่ยวหนี๋ จึงได้หลั่งน้ำตาแทบจะทุกวัน และในที่สุด ..วันหนึ่ง เธอก็ไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ และด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เธอจึงได้หนีออกจากบ้าน เธอได้เดินออกมาอย่างไร้จุดหมายจนมาถึงสะพานหยุนเจียง..
เมื่อได้มองลงไปที่แม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก..
บวกกับ หวัง เสี่ยวหนี๋ ที่ได้รู้สึกสิ้น เธอจึงได้มีความต้องการที่จะกระโดดลงจากสะพานหยุนเจียง เพื่อจบชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานนี้..
เรื่องต่อมาหลังจากนั้น หลินฟาน ก็ได้รู้กันหมดแล้ว หวัง เสี่ยวหนี๋ ได้รับการช่วยเหลือจาก หนิง เสี่ยวเยว่ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้บอกเล่ากับ หวัง เสี่ยวหนี๋ ว่าในโลกนี้ยังมีคนที่จะช่วยเหลือเธอได้อย่างแน่นอน และนั่นก็คือ หลินฟาน
หนิง เสี่ยวเยว่ จึงได้ขอให้ หวัง เสี่ยวหนี๋ ไปหา หลินฟาน..
และหลังจาก หวัง เสี่ยวหนี๋ กลับบ้าน เธอก็ได้บอกเรื่องนี้กับ หวัง จงโฮ่ว..
ในเวลานั้น หวัง จงโฮ่ว แทบจะเป็นจะตาย เขาวิตกกังวลมาก เพราะลูกสาวของเขาได้หายตัวไป และเขาเกือบที่จะโทรแจ้งตํารวจ เพื่อให้ออกตามหาตัวลูกสาวของเขาแล้ว
ในขณะที่เขากำลังร้อนรนเหมือนดั่งมดบนกระทะร้อน(2) อยู่นั้น หวังเสี่ยวหนี๋ ก็ได้กลับมาบ้าน และหวัง เสี่ยวหนี๋ ก็ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองคิดจะกระโดดแม่น้ำ รวมถึงคําแนะนําของ หนิง เสี่ยวเยว่
หลินฟาน คนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง!
นี่เธอกำลังหมายถึงคือ คุณหลิน มหาเศรษฐีผู้ลึกลับคนนั้น ที่มันชวนให้ทุกคนมองขึ้นไป!
และคุณหลิน ที่ว่ากันว่าเขามีอำนาจถึงขนาดปกคลุมท้องฟ้าได้ด้วยมือเดียว!
และในเมืองหยุนเฉิง หลินฟาน ก็เป็นคนใหญ่คนโตที่ชาวเมืองต่างก็พากันรู้จักเขาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว…
ในตอนนั้น หนิง เสี่ยวเยว่ บอกว่า หลินฟาน สามารถพึ่งพาได้.. อย่างไรเสีย พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอยู่อีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้อยากที่จะลองมาพบกับ หลินฟาน
“คุณหลิน คุณต้องช่วยเราตัดสินใจ!” หวัง จงโฮ่ว ได้ตาแดงก่ำ และเขาก็ได้พูดออกไปพร้อมกับก้มศีรษะลงให้กับ หลินฟาน
หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณหวัง คุณวางใจได้ เรื่องนี้ผมได้รับรู้แล้ว และผมจะทำเป็นไม่สนใจมันได้ยังไง เอาเถอะ.. เยว่เอ๋อร์ คุณช่วยพา พ่อ และลูกสาวหวัง กลับไปที่เมืองหยุนเฉิง ..ก่อน คุณหวัง คุณรอข่าวจากผม.. เมื่อถึงเวลาที่จําเป็น ผมจะตามหาคุณ”
หวัง จงโฮ่ว ไม่รู้ว่า หลินฟาน มีแผนอะไร แต่เมื่อได้ยิน หลินฟาน พูดเช่นนี้ เขาก็ได้รู้สึกสบายใจ และรู้สึกโล่งใจได้แล้ว และนี่จะเห็นได้ว่า คุณหลิน.. ไม่ใช่ว่ากำลังพยายามเล่นตลกกับพวกเขา
คุณหลิน คิดทำอะไรบางอย่าง คนทั่วไปก็ไม่มีใครสามารถรู้ความคิดของเขาได้อย่างชัดเจน.. ดูจากหลากหลายสิ่งที่ผ่านมา.. แต่เนื่องจากตอนนี้ คุณหลิน ก็ได้รับปากแล้ว และได้เข้าช่วยเหลือพวกเขา สิ่งต่อไปที่พวกเขาทำได้ก็คือ.. เชื่อใจ หลินฟาน
ดังนั้น หวัง จงโฮ่ว และลูกสาว อย่างพวกเขาจึงได้จากไปพร้อมกับ เว่ย เยว่เอ๋อร์..
ภายในรถ Rolls-Royce ตอนนี้เหลือเพียง ..หลินฟาน เท่านั้น
หลินฟาน ได้นั่งอยู่บนรถเพียงแค่คนเดียว เมื่อเขาได้คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรออกไปหา หลัว หลี่ : “ฮัลโหล.. นี่ผมเอง”
“ว่าไงคุณคนเลว คุณยอมที่จะโทรหาฉันบ้างแล้วงั้นเหรอ?” หลัว หลี่ ได้พูดบ่นอยู่ที่ปลายสาย ,เมื่อวาน หลินฟาน ได้ออกจากโรงแรมเล็กๆ แห่งนั้น แล้วมันก็เหมือนกับว่า ..เขา ได้หายตัวไป ทั้งมันก็ไม่มีแม้แต่ข้อความใดๆ ที่จะส่งมาหาเธอเลย เธอเองก็อายเกินกว่าที่จะริเริ่มโทรไปหา หลินฟาน และมันก็เกือบที่จะทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาแล้ว ..ในตอนนี้
เมื่อได้ยินอะไรเช่นนี้ หลินฟาน ก็ได้หัวเราะขึ้นมาทันที และพูดว่า : “โอ้.. ผมขอโทษ สองวันมานี้ผมยุ่งนิดหน่อยนะ เอางี้ ผมจะไปหาคุณทันทีเมื่อผมกลับไปที่หยุนเฉิง”
“ฮึ.. เดียวก็เหมือนเดิม” หลัว หลี่ ได้พูดทั้งได้หัวเราะออกมาเบาๆ
หลินฟาน กล่าวว่า : “คืออย่างนี้ หลัว หลี่ ตอนนี้ผมมีคดีหนึ่งที่นี่ และคุณต้องสนใจมันมากแน่ๆ ผมอยากจะขอให้คุณช่วยทําการสืบสวนมันอย่างลับๆ…”
(1)[ฆ่าญาติโดยชอบธรรม (大义灭亲)] - เพื่อจัดการกับญาติพี่น้องที่กระทำผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องความเป็นธรรมของสังคม เราจะไม่แสดงความลำเอียง เพื่อที่พวกเขาจะได้รับการลงโทษที่สมควรจะได้รับ
(2)[มดบนกระทะร้อน (热锅上的蚂蚁)] - อธิบายถึงลักษณะของความหงุดหงิด วิตกกังวล และกระสับกระส่าย