ตอนที่ 94 การกลับมาและชิงถังผู้น่าหวาดกลัว
ตอนที่ 94 การกลับมาและชิงถังผู้น่าหวาดกลัว
[ขอแสดงความยินดี ราชันทุกท่าน ที่ประสบควาเสร็จในการเอาชีวิตรอดจากสงครามหมื่นโลกเป็นเวลา 3 วัน]
[การวาปกำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า ราชันทุกท่านโปรดเตรียมตัว]
....
เสียงอันคุ้นเคยดังก้องอยู่ในหัวของราชันทุกคน
หลังจาก 3 วันแห่งการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ในที่สุดการต่อสู้ในสนามรบก็จบลง
ราชันและกองกำลังของพวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงและเริ่มการวาป
การต่อสู้ทั้งหมดในสนามรบหยุดลงทันที
"ในที่สุด ฉันก็ได้กลับไปซักที!"
หลิน ยู ยืนขึ้นอย่างช้าๆ เขาค่อยๆรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่คุ้นเคยจากร่างกายของ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถึงแม้ว่าเวลา 3 วันนั้นจะสั้น แต่มันก็ได้มีหลายสิ่งหลายอย่างเดินขึ้น มันเกิดกระเปลี่ยนต่างๆขึ้นอย่างมากมาย
มันเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
ไม่เพียงแต่เขานั้นรอดชีวิตมาได้ แต่เขายังได้ทรัพยากรมาอีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเขาที่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างมากในช่วงเริ่มต้นนั้น แน่นอนว่านี้มันเป็นของมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว
เขาไม่รู้ว่าเมืองหวงซาพัฒนาไปมากขนาดไหน ในช่วง 3 วันนี้
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา มันค่อยๆสว่างขึ้น ตามมาด้วยเสียง "หวืดดด-" พร้อมกับกองกำลังของเขาที่ค่อยๆหายไป
สนามรบทั้งหมดเต็มไปด้วยความว่างเปล่าอีกครั้ง
.....
ณ เมืองหวงซา
บนถนนสายหลักที่เชื่อมประตูเมืองทั้ง 2 ด้าน
ในเวลานี้ดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้า
นักท่องเที่ยวและพ่อค้าที่สัญจรไปมาต่างพากันแวะเวียนไปมาระหว่างแผงร้านค้าที่เพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่
"เร่เข้ามา ที่นี้มีซาเปาเนื้ออบสดใหม่..."
"เข้ามาเลย เค้กมันสำปะหลัง อาหารเมนูพิเศษของพวกเราชาวเมืองหวงซา อย่าพลาด..."
"ขนจิ้กจองขาวระดับ 2 สิ่งนี้เพิ่งได้มาจากการล่าในช่วงเช้า เพียง 10 ครีสตัลพลังเวทย์ 10 ชิ้น ถ้าสนใจต่อรองกันได้"
เสียงประกาศขายของดังไปทั่วถนน ตามตรอกซอกซอยโดยรอบ
เมื่อเทียบกับตอนก่อนที่ หลิน ยู จะจากไป เมือง หวงซา ดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก
บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนและยานพาหนะที่ผ่านไปมาระหว่างร้านค้า
นอกจากนี้ยังมีผู้ฝนตนจำนวนมากที่เดินทางมาจากเมืองอื่นเพื่อล่ามอนสเตอร์ภายในทะเลทรายโกบี
กำแพงของ เมืองหวงซา ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว มันสามารถปิดกั้นลมและทรายจาก ทะเลทรายโกบีได้ สถาพแวดล้อมเหมาะที่จะอยู่อาศัยมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป้นเพราะกระจัดการของ เซียว ฉางกุ้ย ในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกับการกระจายข่าวของ เหว่ย กัง ที่ทำให้เมืองหวงซาเริ่มมีชือเสียงขึ้นมาทีละน้อย
ในตอนนี้
เซียว ฉางกุ้ย และ เหว่ย กัง ยืนอยู่ที่ด้านนอกดินแดนของ หลิน ยู พร้อมทั้งชาวเมืองจำนวนมากมีเฝ้ารออย่างมีความหวัง
วันนี้จะเป็นวันที่นายท่านของพวกเขากลับมาจากสนามรบหมื่นโลก
พวกเขาอาศัยอยู่ในทวีปดึกดำบรรพ์มานานหลายปีแล้ว พวกเขาตระหนักได้ดีถึงความน่ากลัวของสนามรบหมื่นโลก
หาก หลิน ยู ถูกสังหารในสนามรบนั้น มันคงจะเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับพวกเขา มันอาจจะทำให้เมืองหวงซา ล้มสลายได้เลยทีเดียว
ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล
ตอนนี้เพิ่งเที่ยงวัน มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อรอฟังข่าว
"ผู้การเหว่ย คุณบอกได้ไหม...ว่านายท่านจะกลับมาอย่างปลอดภัย"
เซียว ฉางกุ้ยที่ยืนอยู่ข้างๆถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
เหว่ย กัง ที่อยู่ข้างๆเขาขมวดคิ้วและพูดขึ้นอย่างหนักแน่น "นายท่านจะกลับอย่างปลอดภัย พวกเราแค่ต้องรออยู่ที่นี้"
จริงๆแล้ว เหว่ย กัง ไม่แน่ใจเลยซักนิด
เขาอาศัยอยู๋ใน เมืองซวนเย่ เมื่อหลายปีก่อน เคยมีราชันทรงพลังถูกวาปไปยังสนามรบหมื่นโลกและไม่กลับมาอีกเลย
แม้แต่ราชันที่ทรงพลังขนาดนั้น ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ 100% ว่าพวกเขาจะกลับมาได้ นับประสบอะไรกับ หลิน ยู ที่ไปยังสนามรบหมื่นโลกเป็นครั้งแรก
เซียว ฉางกุ้ย รับรู้เรื่องนี้ได้โดยธรรมาชาติ เขาถอนหายใจออกมา "ฉันหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น!"
หลังจากที่พวกเขาพูดจบ ทั้ง 2 ก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
พวกเขาค่อยๆเงียบลง
นักเดินทางและเหล่าพ่อค้าที่เดินผ่านไปมา เฝ้ามองจากระยะไกลพวกเขาชี้มาที่ชาวเมืองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หวืดดด-
ในขณะนั้นเอง ดินแดนของ หลิน ยู ก็เกิดลำแสงส่องสว่างขึ้นสู่ท้องฟ้า
เหล่าชาวเมืองที่รออยู่ก็ตกใจทันที
"นายท่านน เป็นนายท่านน เขากลับมาแล้ว!!"
"เป็นนายท่านจริงๆด้วย!"
ด้วยเสียงอุทานของ เซียว ฉางกุ้ย เดินมายังขอบป่าเถาวัลย์นอกดินแดนของหลิน ยู ทันทีมองเข้าไปยังด้านใน
นักเดินทางในเมืองต่างหยุดมองไปยังทิศทางของลำแสง
"เกิดอะไรขึ้น?"
"ดูเหมือนเจ้าเมืองหวงซาจะกลับมาจากสนามรบหมื่นโลกแล้ว"
"ไม่ผิดแน่ ฉันเคยเห็นมันครั้งหนึ่งที่เมืองซวนเย่"
"เจ้าเมืองหวงซาแข็งแกร่งจรองๆที่สามารถกลับมาจากสถานที่ๆอันตรายแบบนั้นได้"
"แท้จริงแล้ว มันมีราชันเพียงไม่กี่คนในระแวงนี้ที่สามารถกลับจากสนามรบหมื่นโลกได้ ดูเหมือนว่าเมืองหวงซาจะผงาดขึ้นก้คราวนี้"
"แล้วรออะไรละ รีบซื้อที่ดินที่นี้เร็ว!!"
ผู้ที่เดินทางผ่านไปมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
เซียวฉาง กุ้ย และชาวเมืองต่างพากันตื่นเต้น
หลังจากที่แสงจางลง ในที่สุด หลิน ยู กองกำลังของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในดินแดน ทำให้ดินแดนเริ่มสั่นสะเทือน
ทันใดนั้น โล่ป้องกันจากระบบที่ปกป้องดินแดนและเมืองหวงซาก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หายไปจากท้องฟ้า
กลับมาแล้ว...
หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และมองไปรอบๆ
นี้ผ่านไปเพียงแค่ 3 วัน แต่เขากลับรู้สึกเหมือนนานเป็นชาติ
แน่นอน มันเป็นดินแดนที่คุ้นเคย
"นี้มัน!!"
ทันใดนั้น หลิน ยู ส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ มองถูกสภาพแวดล้อมโดนรอบ
เขาพบว่าเถาวัลย์มีสีเขียวหนาขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก แม้แต่ป่าเถาวัลย์ด้านนอกอาณาเขตก็ขยายออกจาก 200 เมตร เป็นเกือบ 500 เมตร
ยิ่งไปกว่านั้นคือร่างกายของมันโตจนเกือบจะสูงเท่าต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว มันใช้เถาวัลย์ยักษ์บนลำตัวเพื่อป้องกันต้นไม้แห่งชีวิตและปราสาทไม้ของราชัน ราวกับเป็นเกราะป้องกันอีกชั้น
บนต้นไม้แห่งชีวิต มีเถาวัลย์ขนาดเล็กเลื้อยลงมาเป็นแนวดิ่งกวัดแกว่งระบำอยู่ในอากาศราวกับต้อนรับการกลับมาของ หลิน ยู
เป็นไปได้ไหมว่าตอนที่เขาไม่อยู่นั้น
ชิงถังได้เลื่อนระดับ?
หลิน ยู ไม่มีเวลาสมัวไปสนใจอย่างอื่น เขารีบไปยังต้นไม้แห่งชีวิต เพื่อตรวจสอบข้อมูลของ ชิง ถัง
[ชื่อ : แบนชีแห่งความบ้าคลั่ง - ชิง ถัง (ราชวงศ์)]
[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]
[ระดับ : ระดับ 7 (12/2500)]
[ความแข็งแกร่ง : 900]
[ร่างกาย : 900]
[ความว่องไว : 75]
[วิญญาณ : 820]
[สกิล : กลืนกิน , หมอกพิษโลหิต , ป่ามรณะ , กระหายเลือด (หลังจากดูดเลือดแล้ว ค่าสถานะต่างๆจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยิ่งดูดเลือดยิ่งเสริมประสิทธิภาพมากขึ้น)]
[หมายเหตุ : หนึ่งในสาม ร่างของแบนชี เหี่ยวเฉา เสน่ห์ และความบ้าคลั่ง เป็นพืชที่น่าสะพรึงกลัวตัวมันนั้นเกิดมาเพื่อสงครามโดยเฉพาะ สามารถใช้เลือดในการกระตุ้นค่าสถานนะขึ้นมาได้ ยิ่งต่อสู้ยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น]
เป็นอย่างที่ หลิน ยู คิดไว้
ชิง ถัง เลื่อนระดับ แล้ว
อีกทั้งมันจะได้กายร่างเป็น 1 ใน 3 ร่างของแบนชี แบนชีแห่งความบ้าคลั่ง
หลังจากที่อ่านสกิลที่เพิ่มเข้ามา หลิน ยู ตกใจอย่างมาก
ยิ่งดูดเลือดมากเท่าไร ค่าสถานะเขาก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น
นี้เป็นพืชที่เกิดมาเพื่อสงครามชัดๆ พลังของมันไม่มีขีดจำกัด
ถ้าเขามีชิง ถังอยู่ในสนามรบหมื่นโลกนะ เขาคงสามารถสังหารเหล่าราชันได้อย่างง่ายดาย ยิ่งสังหารมากเท่าไร เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายมันจะเพิ่มพลังไปจนเทียบได้กับทหารระดับ 8
มันเป็นไปได้
สุดท้ายแล้ว ในสงครามหมื่นโลกนั้น สิ่งที่มีเยอะที่สุดก็คือเลือด
ยิ่งไปกว่านั้น ชิง ถังที่ก้าวไปสู่ระดับ 7 ในที่สุดก็ได้รับความสามารถให้การเคลื่อนไหวซักที
แม้ว่ามันจะเพิ่มมาไม่เท่าไร แต่มันก็เป็นก้าวเล็กๆอันยิ่งใหญ่
น่าเสียดาย
เขาต้องรออีก 3 เดือนกว่าสนามรบหมื่นโลกครั้งต่อไปจะเริ่มต้นขึ้น ความคิดของเขาจึงไม่มีโอกาศได้พิสูจน์มัน
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู มองออกไปยังด้านนอกดินแดน เซียว ฉางกุ้ย และคนอื่นกำลังรอเขาอยู่