ตอนที่แล้วตอนที่ 1312 ไพ่ในมือ หมากบนกระดาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1314 วิชาประตูล่องหน

ตอนที่ 1313 ถึงคราวข้าโจมตีบ้าง!


ในโลกกระดานหมากรุกที่ตงฟางใช้พลังเทพและเจตจำนงเทพสร้างขึ้นไม่มีใครสามารถใช้คัมภีร์อัญเชิญและอสูรศึกได้

สำหรับนักรบที่มีคัมภีร์อัญเชิญ

นี่คือการข่มเหงครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

“การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว”พลังปราณของตงฟางค่อยๆ แฝงอยู่ในโลกและสวรรค์เหลืออยู่แต่เพียงเสียงก้องอยู่ในหูของเย่ว์หยาง “ตอนนี้ การประลองเพิ่งจะเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง...”

เมื่ออยู่ในโลกกระดานหมากรุกของศัตรูไม่มีใครไม่สามารถส่งข้อมูลออกไปภายนอกได้

ได้แต่สู้ตามลำพัง

นอกจากนี้คัมภีร์อัญเชิญและอสูรอัญเชิญไม่สามารถเรียกออกมาได้

ภายใต้สภาพที่เลวร้ายเช่นนี้กดดันเย่ว์หยางอย่างหนักหนาสาหัสเขาจะพลิกสู้กับศึกนี้ได้อย่างไร?

“บัดซบ!” เด็กหนุ่มเผ่าอสูรผู้ดื้อด้านกำหมัดทั้งสองแน่นและเขาพบว่าเขากับผู้ชมดูจากเผ่าเก้าหัว เผ่ามังกรฟ้าและคนอื่นทั้งหมด  ถูกขับออกมาจากโลกกระดานหมากรุก ราวกับถูกกีดขวางด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นและโปร่งใส  แม้ตาจะมองเห็น และหูสามารถได้ยินแต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกพลังอำนาจออกจากกันเพื่อหาทางสนับสนุนในโลกกระดานหมากรุกอย่างใดอย่างหนึ่ง

ดูเหมือนจะห่างกันระยะใกล้เพียงร้อยเมตร  แต่ความจริงแล้วมันคือระยะห่างระหว่างสองโลก

ตราบเท่าที่เจ้าตำหนักตงฟางยังอยู่รอดได้กระดานหมากรุกจะคงอยู่อย่างนั้น

อย่านึกว่าจะมีใครล้ำเส้นเข้าไปได้

“ช่างเถอะ,เป็นคนสังเกตดูก็ไม่เลวเหมือนกัน” มังกรสองหัวกู่อั๋งถอนหายใจเบาๆ และขณะนั้นเองเขาไม่มีความทะเยอทะยานจะเข้าหอทงเทียนเพื่อขอส่วนแบ่งสมบัติแดนล่มสลายแห่งทวยเทพอีกแล้ว   เพราะเขาได้สติและตระหนักถึงความแข็งแกร่งของตัวเขา  เมื่อเทียบกับยอดฝีมือระดับเทพที่แท้จริงเขาเป็นแค่มดแมลงน้อยที่น่าสมเพช

“น่าเสียดายที่บุรุษรูปงามนี้ต้องมาตาย”  ว่านกูซูมองดูหน้าเย่ว์หยาง นางลอบเลียริมฝีมือแดงสดของนางและกลืนน้ำลาย

ตำแหน่งที่ด้านข้างของเย่ว์หยาง

มีแต่เพียงถูอี้จางหลาง และจางหู่ที่เหลือถูกทิ้งไว้ ศพเหล่านั้นสั่นเล็กน้อย

ถูกขับออกมาจากเจตจำนงของตงฟางลูกชายของถูซื่อถูกจัดให้เป็นผู้ดูทั้งสามคน ถ้าพวกเขาไม่เห็นสามคนนี้ตายด้วยตาตนเอง พวกเขาอุทาน “นี่คือพลังเทพสามารถใช้ทักษะแฝงเร้นพิเศษได้หรือ? พวกเขาเปลี่ยนเปลงในทางดีขึ้นได้อย่างไร?”

จักรพรรดิอสูรในฐานะผู้ชมดูก็ให้ความสนใจเช่นกัน  “ดูเหมือนว่านี่เป็นลักษณะเฉพาะของโลกกระดานหมากรุก”

คำพูดของเขาเพิ่งพูดจบ

ในร่างของถูอี้จางหลางและจางหู่

มีพลังเทพต่างกันสามสายพรั่งพรูออกมาราวกับน้ำพุพุ่งออกมาจากพื้น

ในทันทีที่หลอมรวมกับร่างที่เหี่ยวเฉาและแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกภายใต้อิทธิพลของเจตจำนงของตงฟางและกฎสวรรค์โลกกระดานหมากรุกร่างของเขาดิ้นรุนแรงผิดรูปและค่อยๆ รวมกันก่อเกิดเป็นรูปแบบชีวิตใหม่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ถูอี้ จางหลางและจางหู่อีกต่อไป ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่บิดเบี้ยวและแปลกแยก แม้แต่จิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ก็ยังเปลี่ยนไปกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ถูกครอบงำโดยเจตจำนงของตงฟาง  ไม่ว่ายังไงก็ตามถูอี้ลุกขึ้นยืนต่อหน้าเย่ว์หยางอีกครั้ง

ในโลกกระดานหมากรุกไม่มีใครสามารถเรียกคัมภีร์อัญเชิญและอสูรศึกได้

ตงฟางเองก็ยังคงอยู่ในกฏนี้

แต่

แต่เขาเจ้าเล่ห์ใช้วิธีคืนชีพถูอี้สร้างกลุ่มนักรบแทนอสูรศึกซึ่งไม่สามารถเรียกออกมาในโลกกระดานหมากรุกได้

ตาของเย่ว์หยางทอประกายปัญญาวูบวาบหลังจากเขาพลิกฟื้นชะตาได้เขาสามารถใช้ตาทิพย์ระดับเทพมองทะลุอุปสรรคที่ตงฟางใช้เจตจำนงสร้าง  ในโลกกระดานหมากรุกลับนี้  ข้อมูลการฟื้นคืนชีพถูอี้กับพวกอยู่ในใจของเย่ว์หยางแล้ว

กระดานหมากรุกกู้ชีวิตทาสสงครามถูอี้แห่งเผ่ากลืนสวรรค์เดิม ถูกชุบชีวิตด้วยพลังเทพ อยู่รอดได้ในกฎแห่งกระดานหมากรุกพร้อมกับทักษะพิเศษ  หุ่นดินแทนความอ่อนแอ

คุณชายถูอี้ยืนอยู่ตรงกลาง ตอนนี้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่มีเมือกทั้งตัว  ผิวหนังเป็นเหมือนดินเน่าแม้ว่าเขาจะลุกขึ้นยืนได้ก็ตาม แต่มักจะมีของเหลวอ่อนหยุ่นหล่นแผละลงพื้น จากตามลำตัว แขนและขาของเขาเป็นหยดเมือกที่น่าขยะแขยง เขาไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้อีกต่อไป กลายไปเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์ เมื่อเห็นตอนนี้เกรงว่าแม้แต่บิดาของเขาถูซื่อและถูว่านก็ยังไม่ยอมรับว่านี่คือคุณชายถูอี้รูปงาม

ตาทิพย์ของเย่ว์หยางมองผ่านเข้าไปถึงแก่นของสัตว์ประหลาดถูอี้

แต่เย่ว์หยางเชื่อ

อย่างไรก็ตามเรื่องที่ถูอี้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเขายังมีพลังลับอีกมากมายที่ซ่อนอยู่โดยไม่ได้แสดงอะไรออกมา

ตงฟางจะไม่สร้างทาสสงครามอย่างไร้ประโยชน์ได้ง่ายๆ  เขาจะต้องถูกใช้งานอย่างหนักและต้องถูกผู้อื่นฆ่า รวมทั้งสหายมนุษย์แมลงของเขาก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงและเป็นตัวชี้ขาดได้

พิษสีเขียวบนร่างของจางหลางและส่วนหัวของเขาพองขึ้นเป็นทรงกลม

ร่างของเขาบวมขยายเกือบร้อยเท่า

ราวกับแมลงนางพญา

ข้างในมีไข่แปลกๆขนาดใหญ่และเล็กกลิ้งอยู่เหมือนกับจะแตกได้ทุกขณะ

ขณะนี้เองข้อมูลในจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางก็คือ: กระดานหมากรุกชุบชีวิตให้ทาสสงครามจางหลาง เผ่าแมลงปีกแข็งได้ถือกำเนิดใหม่ภายใต้กฎสวรรค์กระดานหมากรุก ความสามารถพิเศษ : วางไข่, ปรสิต

ในอีกด้านหนึ่งร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและไม่มีการฟื้นคืนสภาพเดิมเช่นกันลักษณะของร่างได้กลายพันธุ์ ข้อมูลเกี่ยวกับจางหู่แทบจะดูคล้ายกับเม่นทะเล ถูกชุบชีวิตด้วยทักษะแฝงเร้นพลังเทพกระดานหมากรุก ภายใต้ความสามารถพิเศษหนามเข็มทะลวงเลือด

เผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ใช่อสูรศึกแต่เป็นทาสสงครามที่ถูกทักษะแฝงเร้นกระดานหมากรุกชุบชีวิตยังร้ายกาจกว่าอสูรศึกเสียอีก

เย่ว์หยางขมวดคิ้ว

นี่ไม่ใช่จัดการได้ง่ายแน่นอน

คนเจ้าเล่ห์อย่างตงฟางไม่เสียพลังเทพสร้างของไร้ประโยชน์เมื่อถูกสร้างขึ้นมา ก็ย่อมมีแผนการอย่างแน่นอน

สิ่งที่ยากยิ่งกว่าก็คือวิธีคลี่คลายกลยุทธ์ที่ตงฟางวางเป็นชั้นในโลกกระดานหมากรุกภายใต้การรุมล้อมของนักสู้ระดับเทพอย่างถูว่านจางเว่ย ถูซื่อและจ้าวภูผา

ฮุยไท่หลางไม่ได้อยู่ใกล้ๆ

เขาเพียงคนเดียวจะรับมือกลอุบายร้ายกาจเหล่านี้จากทุกทิศทางได้อย่างไร?

“ฮ่าฮ่าฮ่านี่น่ะหรือเย่ว์ไตตันนักสู้อันดับหนึ่งของหอทงเทียน?ทำไมหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้น? จงใช้โชคและพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของเจ้าพลิกสถานการณ์ได้เลย!  ฮ่าฮ่าฮ่าเจ้าไม่มีนางพญาผู้พิชิตคอยปกป้อง หากไม่ได้รับการปกป้องของหอทงเทียนเด็กอย่างเจ้าไม่ต่างอะไรกับทารก!” จางเว่ยหัวเราะเยาะ

“เมื่อเทียบกับจักรพรรดิอวี้แล้วเจ้ายังอ่อนแอกว่า! อย่างน้อยจักรพรรดิอวี้จ้านฟงก็ยังไม่เคยเจอกับอุบายอย่างนั้น!”  จ้าวภูผาเยาะเย้ยอย่างไม่เกรงกลัว

เหมือนกับฟ้าผ่า

มีแสงเทพสายหนึ่งจากโลกกระดานหมากรุก

จากเดิมที่มองไม่เห็นแสงรุ่งอรุณยามเช้ากลับสู่ความเงียบในช่วงเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที

น่าเสียดายที่การลอบสังหารอย่างรวดเร็วและลับไม่ประสบความสำเร็จ  เย่ว์หยางเหมือนมีตาหลังและหลบได้อย่างคาดไม่ถึงเขาขยับก้าวเท้าซ้ายเบาๆไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยไม่ขยับเท้าขวา และยังยืนระมัดระวังอยู่ในท่าเดิม ด้วยความกลัวสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นเขาจะก้าวกลับตำแหน่งเดิมทันที

เย่ว์หยางไม่ได้ทำอะไร

แค่ก้าวไปข้างหน้า

แต่

วินาทีต่อมา

ทั่วทั้งโลกกระดานหมากรุกเปลี่ยนไป....  ท้องฟ้าไม่เป็นตอนกลางวันอีกต่อไป  และพื้นดินไม่มีพื้นดินให้เห็นอีก  เย่ว์หยางก้าวไปที่หนองน้ำดำมรณะอย่างไม่คาดคิด

เขาทะยานขึ้นไปในอากาศและพบว่าพื้นดินทั้งหมดกลายเป็นหนองน้ำกว้างไกลไม่สิ้นสุดฟองอากาศแฝงด้วยความตายผุดขึ้นมาจากโคลนปุดๆ ราวกับโจ๊กเดือด

เย่ว์หยางตื่นเต้นและบินด้วยความเร็วสูงหนีออกจากหนองน้ำที่น่ากลัวนี้

ตุ้บ!

ท้องฟ้าที่กว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกับฝาที่ครอบไว้เย่ว์หยางชนด้านบนและรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าชนผนังเหล็กกำแพงทองแดงด้วยกำลังทั้งหมดของเขา  สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ท้องฟ้านั้นราวกะว่าถูกเย่ว์หยางกระแทกเจาะเป็นรูมีแรงดึงดูดที่น่ากลัวยิ่งกว่าหลุมดำดูดกลืนทุกอย่างรอบตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง  เย่ว์หยางตกใจรีบกระโจนออกมาอยู่ห่างระหว่างพื้นโลกและพื้นดินเล็กน้อย  เขาพบว่าทันทีที่เขายื่นมือออกไปก็สามารถแตะพื้นโคลนที่อยู่ห่างออกไปหมื่นเมตรได้

“ทำลาย!”  เย่ว์หยางโกรธต้องการเอาชนะเขาด้วยการเล่นกลเล็กน้อยนี่หรือ?เมื่อเขาฝึกฝนพลังปัจจัยสามประการคือทำลาย สร้าง และนิรันดร์ในโลกคัมภีร์ความเข้าใจของเขาไม่เป็นจริงหรือ?

ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอะไรแค่ใช้พลังเจตจำนง

พลังทำลายรอบโลกกระดานหมากรุกกลายเป็นสภาพปั่นป่วนทันที

ทุกอย่างกลายเป็นผุยผงและตกอยู่ในความว่างเปล่า  หลังจากที่โลกนี้พังทลายไปแล้ว  เย่ว์หยางพบว่าโลกกระดานหมากรุกฟื้นตัวขึ้นและเขากลับสู่สภาพเริ่มต้นในการเดินใหม่ อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่ผ่านมายังอยู่เหมือนเดิม  ความปวดหัวจากแรงกระแทกและแม้แต่รอยทั้งบนโลกกระดานหมากรุกยังปรากฏบนพื้นอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าเย่ว์หยางไม่เข้าใจเจตจำนงราชันย์และอยู่ในขอบเขตเทพแท้ เชื่อได้ว่าคงถูกผนึกไว้ในอาณาจักรลวงตาเมื่อครู่นี้และคงไม่มีทางได้เห็นท้องฟ้าอีก

แม้จะเป็นภาพลวงตาแต่ก็มีอยู่จริง

สร้างขึ้นโดยพลังของตงฟาง

และพังพินาศไปเพราะพลังทำลายของเย่ว์หยาง....มันหายวับไป แต่ความเป็นความตายที่เข้ามาหายังคงอยู่จริงๆ

“น่าสนใจอยู่บ้าง, แต่ตงฟางคิดจะเอาชีวิตข้าด้วยของเล่นเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้หรือ?” เย่ว์หยางเชื่อว่าตงฟางจะต้องมีการลงมือมากกว่านี้เช่นกันหากเผยให้เห็นความแข็งแกร่งในมือของตนเองโดยไม่ตั้งใจ บางทีอาจยากจะบรรลุผลที่ดีที่สุดมีภาษิตกล่าวไว้ว่าจะตกปลาใหญ่ต้องมีความอดทน เย่ว์หยางแสร้งทำเป็นอ่อนแอมานานและยังคงทำตัวอ่อนด้อยเพียงเพื่อหลอกล่อตงฟาง  ถ้าเขาไม่ฉวยโอกาสจับปลาใหญ่ตัวนี้หากตงฟางหนีไปได้ คงไม่ง่ายนักที่จะจับเขาในอนาคต

เย่ว์หยางอยากชักดาบชะตาสังหารฆ่าฟันผู้คนในทันทีแต่เขากัดฟันอดทนไว้ก่อน

ตงฟางยังไม่ออกมา

ก็เล่นกับพวกเขาไปก่อน

เมื่อตงฟางมั่นใจในการลงมือมากที่สุด  ในช่วงที่เย่ว์หยางใกล้ตายตอนนั้นเขาค่อยลงมืออย่างคาดไม่ถึง

บางทีอาจใช้ไม่ได้ในที่อื่น  ตงฟางเจ้าเล่ห์มากเกินไป  แต่ในโลกกระดานหมากรุกนี้ตงฟางสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง เขาต้องมั่นใจเพียงพอว่าจะชนะศึกนี้แน่  ดังนั้นเย่ว์หยางแค่รอให้ตงฟางลงมือเอง!

แน่นอนว่าก่อนช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนั้นเย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาจะต้องแสดงพลังบ้างเล็กน้อย มิฉะนั้นตงฟางอาจสงสัย

“ตาข้าบ้าง!” ใบหน้าของเย่ว์หยางผ่องใสราวกับดวงจันทร์เขายกนิ้วขึ้นชี้พยายามไปข้างหน้าใช้พลังเพิ่มเล็กน้อย “ต่อไปนี้ข้าจะให้เจ้าพวกรุกรานจากแดนสวรรค์ได้เข้าใจว่าความโกรธของนักรบหอทงเทียนคืออะไร!”

พลังไฟเทพที่โชติช่วง

ปรากฏบนหมัดของเย่ว์หยาง

รังสีแห่งการทำลายล้างที่น่ากลัวปะทุออกมาจากร่างของเย่ว์หยางผมของเขาชี้ชันด้วยความโกรธ ชุดเสื้อผ้าโบกสะบัดทั้งที่ไม่มีลมประกายไฟแตกปะทุรอบตัวอย่างดุเดือดคลื่นกระแทกพลังเทพแผ่ออกไปเป็นวงแต่นุ่มนวลเหมือนกับว่าไม่มีพลังใดๆ  ตรงข้ามกับเจตจำนงทำลายล้างของเจ้าของอย่างสิ้นเชิง

หากไม่มีการเคลื่อนไหวและการบินความเร็วสูงแฝงอยู่ในการกระทำนั้นๆก็เหมือนไม่มีอะไร

เขาทำเหมือนเดิม

ก้าวออกไปหนึ่งก้าว

ครั้งนี้เท้าขวาก้าวออกไปอย่างหนักประทับรอยลงกับพื้นเป็นรอยลึก

อย่างไรก็ตามมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นในทันที และเย่ว์หยางก้าวข้ามช่องว่างที่ขัดขวางในระหว่างและเหยียบใส่หน้าของจางเว่ย

เผชิญหน้ากันตัวต่อตัวระยะห่างระหว่างทั้งสองไม่ถึงหนึ่งเมตรใกล้แค่เอื้อมเย่ว์หยางมองจางเว่ยอย่างเย็นชาราวกับแมลงที่ตัวโตบ้างเล็กน้อย

“เจ้าบัดซบ!” จางเว่ยผู้หยิ่งยโสโกรธต่อท่าทีเหยียดหยามของเย่ว์หยางเขาใช้หมัดยักษ์อัดแน่นด้วยพลังสายฟ้าต่อยใส่เย่ว์หยางพร้อมกับย่างเท้าในอากาศอัดกระแทกอย่างรุนแรง  โลกกระดานหมากรุกเปลี่ยนไป และกลับด้านทันทีแรงโน้มถ่วงพลิกกลับร่วมกับการโจมตีของจางเว่ยทำให้เย่ว์หยางจำแนกทิศทางได้ผิดเพี้ยนอย่างสิ้นเชิง

“บัดซบ!”  เย่ว์หยางไม่เงยหน้าไม่ใช้ตามอง

แค่ยื่นมือออกไปตามปกติ

ทั้งที่อยู่ในสภาพกลับหัวเขาทำท่าเหมือนตบแมลงวันในท้องฟ้าฝ่ามือของเขาฟาดใส่หน้าของจางเว่ยโดยไม่สนใจฟ้าดินหรือสิ่งรอบข้างทั้งหมด

จางเว่ยร้องโหยหวน  ฟันหลายซี่หลุดกระเด็นเลือดกระเซ็นในอากาศภายใต้พลังตบของเย่ว์หยางเขาม้วนกลิ้งในอากาศอย่างช่วยไม่ได้พุ่งไปกระทบกับภูเขาที่อยู่ห่างออกไปหมื่นเมตรอย่างช่วยตัวเองไม่ได้ทั้งยังทะลุออกไปกระแทกกับภูเขาลูกที่สองซึ่งอยู่ห่างออกไป

เมื่อเขาทรงตัวได้แต่ยังไม่ทันฟื้นฟูพลังเทพ อาการบาดเจ็บยังไม่ทันหาย ไม่ทันใช้พลังเทพฟื้นฟูสภาพ

เย่ว์หยางปรากฏตัวที่ด้านหลังเขา

เหยียดเท้า

เหยียบหลังจางเว่ยเทพประตูมังกรแห่งวิหารกลางศักดิ์สิทธิ์อย่างแรงโดยที่เขาต้านทานไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด