ตอนที่ 1309 เทพรุ่นสองคุณชายถูอี้
มีดนับพันเล่มสาดซัดลงมาข้างล่าง
แต่ร่างแท้จริงของจางอู่ไม่อยู่ในท้องฟ้าแล้วแต่กลับมาอยู่ที่ด้านหลังเย่ว์หยางในพริบตา
ดวงตาสีแดงทั้งคู่เหมือนลูกศรเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงดักทางหนีไว้ สายเกินกว่าที่สายตาทุกคนจะมองทันคมมีดยักษ์ฟันฉับลงอย่างรวดเร็วลงที่คอของเย่ว์หยางอย่างเงียบงันรอแค่ตวัดกลับศีรษะและตัวของเย่ว์หยางจะแยกขาดจากกัน
“ตาย” ดวงตาสีแดงอำมหิตของจางหู่ฉายแววฆ่าฟันไม่สิ้นสุด
“ควั่บ...”
ประกายดาบสองเล่มฟันใส่พื้นโลกและสวรรค์
แม้แต่มิติยังถูกตัดขาดเป็นชิ้นโดยตรงเป็นไปไม่ได้ที่นักรบจะหลบหนีทักษะดาบนี้ได้พ้น
ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์พิเศษที่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้เองหรือมีความสามารถในการเพิ่มจำนวน หรือทักษะที่เฉยเมยต่อความรู้สึกเจ็บปวดทางกายภายนอกอย่างสิ้นเชิง ก็ยังไม่มีทางรอดต่อการบีบรัดเช่นนี้ได้ เพราะการบีบรัดเช่นนี้มีความสามารถฝังวิญญาณที่ไม่เหมือนใครไม่เพียงแต่ทำร้ายถึงร่างกาย แต่ยังทำร้ายถึงวิญญาณโดยตรง
สังหารในท่าเดียว
นี่คือกระบวนท่าไม้ตายสังหารของนักรบแดนสวรรค์อย่างจางหู่
ชื่อเสียงที่ร้ายกาจของจางหู่ได้มาเพราะพลังฝังวิญญาณที่สามารถทำร้ายถึงวิญญาณจนยากจะเยียวยารักษาได้
แม้ว่าเขายังไม่ล้มลงกับพื้นแต่จางหู่ชิงลงมือก่อนจางหลาง ถูอี้เทพรุ่นที่สองยังคงมองดูด้วยรอยยิ้มเขามั่นใจว่าเย่ว์ไตตันผู้นี้ต้องตายอย่างแน่นอน
ไม่มีใครรอดจากการสังหารของจางหู่!
ต่อให้มีร่างมนุษย์ที่แข็งแกร่งก็ตาม
ไม่ต้องแยกชิ้นส่วนสังขาร
วิญญาณในช่วงแรกถูกความสามารถฝังวิญญาณที่มาพร้อมกับมีดแสงโจมตีทำร้ายจนบาดเจ็บ..จางหู่กระพือปีกด้านหลังอ้อมไปดักหน้าเย่ว์หยางเพื่อขู่ให้เขาตกใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ในขณะที่ท้องฟ้าถูกฟันพลังเหมือนสายฟ้าฟันลงที่ศีรษะของเย่ว์หยางห้อยตกลงขณะที่จางหู่สอดเก็บดาบยักษ์เข้าฝักนั่นเป็นท่าเฉพาะตัวแสดงให้เห็นว่าปิดฉากการต่อสู้ เย่ว์หยางที่อยู่ในตำแหน่งเบื้องหลังเหมือนมีภาพไม้กางเขนซ้อนทับสลายกลายเป็นควันม้วนไปทั่วทุกทิศ
“พิชิตได้ในท่าเดียวจริงๆ” จางหลางยิ้มหยันและกล่าว “ข้าคิดว่าจะได้ขึ้นไปแสดงฝีมือบ้างไม่คิดเลยว่าเจ้าผู้นี้เป็นแค่กบปากกว้างหรือกระสอบใส่ฟางเท่านั้น”
บุรุษรูปงามถูอี้หัวเราะเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาหัวเราะก็ยังหัวเราะอย่างสุภาพ
ดูเหมือนว่าการสังหารเสร็จสิ้นในท่าเดียวของเขาเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่คุ้มค่าควรจะกล่าวถึงเลย
เขาอ้าปากและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับทุกคน ทันใดนั้นกลับมีอาการปวดท้องอย่างหนักของที่อยู่ในกระเพาะอาหารพุ่งออกมาจากลำคออย่างมิอาจระงับได้เศษอาหารและน้ำย่อยพุ่งออกมานับไม่ถ้วน ไม่มีเวลาคิด ไม่มีเวลาตอบโต้ คุณชายถูอี้กำลังอาเจียนอย่างเมามัน จู่ๆร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย ดวงตาเหลือกขาวและหมดสติไปในทันทีร่างของเขาล้มฟาดกับพื้นราวกับท่อนไม้... ใบหน้าหล่อเหลาของถูอี้คลุกกับสิ่งสกปรกที่ตนเองเพิ่งอาเจียนออกมา
“เกิดอะไรขึ้น?” เทพสังหารถูว่านตกใจอย่างหนักเขาไม่เห็นว่าใครโจมตีถูอี้
“หือ?...” ว่านกูซูคนงามก็ไม่เข้าใจนางหันไปมองมังกรสองหัว แต่ฝ่ายหลังก็มองดูงุนงงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างจางหู่และเย่ว์ไตตันแต่ผู้ที่ร่วงลงกับพื้นกลับเป็นคุณชายถูอี้ได้อย่างไร?
“ข้ามองไม่เห็นแม้แต่เงา!” เด็กหนุ่มผู้ดื้อรั้นมีสีหน้าไม่สบายใจ เขามองไม่เห็นสถานการณ์ แต่คาดว่าเย่ว์ไตตันเพิ่งจะลงมือ
“รวดเร็วมาก!” ในกลุ่มเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนอสูรเก้าหัวผู้ลึกลับรำพึงเบาๆ
จางหู่และจางหลางตกใจอย่างหนัก
นี่เป็นการโจมตีของเย่ว์ไตตันหรือ? เป็นไปได้อย่างไร! คุณชายถูอี้เป็นนักสู้ระดับเทพแล้วและมีพลังเหนือกว่าสองคนมากนัก เย่ว์ไตตันทำร้ายเขาได้อย่างไร? นอกจากนี้ภายใต้การจับตาดูของฝูงชนมากมาย ไม่มีใครมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น หากเย่ว์ไตตันทำเช่นนั้น เขาไม่น่าจะมีเวลาทำได้ทันแม้ว่าเขาจะอยู่ในที่นั้นก็ตาม แต่เขาไม่น่าจะมีเวลาใช้ร่างอวตารโจมตีคุณชายถูอี้ได้
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อพวกเขางงงวยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีทันใดนั้นพวกเขาต่างคนต่างมองเห็นอีกฝ่ายหน้าอกยุบลงเป็นรอยหมัดพร้อมกัน
ทั้งสองคนรู้สึกแปลกประหลาดที่ถูกอีกฝ่ายหนึ่งโจมตีอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัวได้อย่างไร?นอกจากนี้รอยหมัดลึกนี้ใครเป็นคนโจมตี? โจมตีตั้งแต่เมื่อไหร่? พลังที่หนักหน่วงอย่างนี้ควรเป็นหมัดที่ต่อยตรงๆ ไม่ใช่หรือ?จะมีวิธีต่อยทำร้ายโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัวได้อย่างไร?
“อกเจ้า....” ทั้งสองคนต่างต้องการชี้บอกรอยหมัดที่อกของกันและกัน
พริบตาที่พวกเขาอ้าปาก
ทั้งจางหลางและจางหู่ต่างคนต่างอาเจียนอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับคุณชายถูอี้
ร่างของจางหู่สั่นสะท้านสองตาเหลือกขาวและร่างของเขาล้มลง จางหลางเหมือนกับต้นไม้ที่ถูกโค่นล้มลงกับพื้นแท่นบูชายัญเสียงดังสนั่นในเวลาไม่ถึงวินาที
สายลมพัดเอื่อย
ควันในพื้นที่จางหายไปปรากฏร่างของเย่ว์หยางและฮุยไท่หลางยืนอยู่บนพื้น
เทพสังหารถูว่านและคนอื่นในที่สุดก็มองเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนก่อนหน้านี้เย่ว์ไตตันที่พวกเขาคิดว่าถูกฟันด้วยดาบในกระบวนท่าเดียวถูกตัดศีรษะเลือดสาดกระเซ็นในห้าก้าวและตายไปแล้วแต่ร่างกายของเขาไม่มีอะไรสะอาดราวกับเพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำและดื่มกินอย่างคล่องคอไม่มีอะไรตื่นเต้น
เย่ว์หยางเห็นสายตาแปลกๆ ของทุกคนเขารีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ขอโทษทีข้าเพิ่งกลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพราะข้าเห็นว่ายังมีเวลาเหลือข้าเลยกินอาหารว่างสองถ้วย อย่างหนึ่งเป็นน้ำทิพย์เทพธิดาหนึ่งถ้วยอีกถ้วยหนึ่งเป็นน้ำชายามบ่าย ทุกท่านรอกันมานานแล้วอาจจะรู้สึกว่าข้ามาช้าไปหน่อย อันที่จริงข้าสามารถเร่งความเร็วได้และข้าก็รีบแล้วรับรองได้ว่าจะไม่ทำให้เวลาอันมีค่าของพวกเจ้าต้องสูญเปล่า”
ซูด!!
ฮุยไท่หลางที่อยู่ข้างๆเขาเคี้ยวกินลูกชิ้นเนื้ออย่างอร่อยปาก เป็นการสนับสนุนว่าเจ้านายของมันไม่ได้โกหก
บุรุษหนุ่มหัวดื้อปากอ้าค้างจนแทบถึงพื้น
พระเจ้า!
นี่มันการต่อสู้ประสาอะไรกัน? เป็นการรังแกกลั่นแกล้งกันชัดๆ!
ถูอี้เทพรุ่นที่สองนอนคลุกอาหารเก่าที่ตนอาเจียนออกมาและถูกเจ้าทุบตีเหมือนกับขยะได้ แน่ใจนะว่าเจ้าไม่ใช่เทพจริงๆ? การแสร้งทำตัวเป็นหมูกินเสือของเจ้าไม่ใช่เรื่องตลกแน่ คุณชายถูอี้เป็นนักสู้ระดับเทพเจ้ารังแกได้รังแกดี ไม่กลัวบ้างหรือว่านักรบระดับเทพตื่นขึ้นมาคงร้องไห้เสียใจและแขวนคอตาย?
แต่อย่างไรก็ตามคนมีพรสวรรค์ทำอย่างนี้นับว่าเหมาะแล้ว!
การเหยียบคนแบบนี้เป็นการกลั่นแกล้งที่นับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ... ทันในนั้นเด็กหนุ่มอสูรหัวดื้อเข้าใจทันทีว่าทำไมแบบอย่างของเขาอย่างมังกรปีศาจถึงได้กลายเป็นพี่น้องกับเย่ว์ไตตันผู้นี้
“อุ๊บ...”คุณชายถูอี้ฟื้นคืนสติทันที เขาลืมตาขึ้นและพบว่าตนเองนอนอยู่บนกองคราบอาเจียนของตนเอง เขามีนิสัยจริงจังกับเรื่องความสะอาดเขาระเบิดอารมณ์ทันที ตัวบุคคลโดดขึ้นไปส่งเสียงคำรามอยู่บนอากาศดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แฝงไปด้วยพลังรุนแรงยิ่งกว่าภูเขาไฟปะทุร้อยเท่ารัศมีบนร่างกายแผ่ออกมาเป็นพันสาย พลังเทพที่เก็บงำไว้ในร่างตลอดเวลาถูกปลดปล่อยจนถึงระดับเทพ
ฮ่า...........คุณชายถูอี้แหงนหน้ากู่เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งรูปลักษณ์เดิมหล่อเหลาหายไปอย่างสิ้นเชิง
กล้ามเนื้อที่ตัว แขน หน้าอก ท้องน้อยเอวและขาขยายตัวออก จนตามร่างกายแข็งราวกับหนามเดือยและเงี่ยงกระดูกจำนวนมากกำลังงอกอย่ารวดเร็ว ข้อต่อบิดบวมผิดรูป ฟัน กรงเล็บที่แหลมคมงอกและที่กีบเท้ามีปลายแหลมคม เสื้อผ้าปริแตกมีรอยเลือดเป็นหนวดคล้ายหางงู ก่อนนี้คุณชายถูอี้ที่หล่อเหลามองไปที่ว่านกูซูผู้น่ารักนางมองดูแล้วใจสะท้านแทบอยากเข้าไปแอบอิงหนุนนอน
แต่พอมองเดี๋ยวนี้
นางหมดความอยากทันที
คนที่หล่อเหลากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่ากอริลลา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหางงูที่ยื่นออกมาเหมือนผมและมีพิษทำให้ว่านกูซูขนลุกหวาดผวา
หลังจากคุณชายถูอี้กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมแม้ว่าจะดูน่าเกลียดแต่เขาก็มีพลังมาก
เพลิงเทพปะทุออกจากร่างกลายเป็นสนามพลังเพลิงเทพ
ทั่วทั้งแท่นบูชายัญทั้งหมด
คุณชายถูอี้ต้องการแผดเผาด้วยเจตจำนงของเขา
มังกรสองหัวกู่อั๋ง ราชินีว่านกูซูอสูรหมีดำ อสูรหมูป่า หากพวกเขาไม่เห็นโอกาสและหลบหนีได้เร็วพอพวกเขาอาจจะถูกโจมตีอย่างหนักมอดไหม้เป็นจุลภายใต้เปลวไฟทำลายล้างนี้ แม้แต่เทพสังหารถูว่านที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่มยังถูกไฟเทพบีบบังคับให้ถอยออกไปสามก้าวติดต่อกันจนพ้นแท่นบูชายัญอย่างไม่เต็มใจ
“ตาย, ไม่มีใครไม่มีเหตุผลกลใดที่จะให้อภัยแมลงต่ำต้อยอย่างเจ้าอีกต่อไป! เมื่อเผชิญหน้ากับบุตรเทพผู้สูงศักดิ์ เจ้ากล้าโจมตีอย่างไร้ยางอายได้อย่างไร? ใช้ทักษะธรรมชาติของเจ้าโจมตีผู้คนเมื่อพวกเขาไม่ทันระวังตัวอย่างนั้นหรือ?สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มากที่สุดก็คือการที่เจ้าบังอาจทำให้ใบหน้าอันสูงส่งและบริสุทธิ์ของโอรสเทพผู้นี้แปดเปื้อนด้วยการกระทำนี้ เจ้าจะต้องตายสักสิบล้านครั้ง!” หลังจากคืนร่างที่แท้จริงแล้ว เสียงของถูอี้เปลี่ยนไปจากเดิมทีนุ่มนวลสง่างามกลายเป็นเสียงแตกพร่ายิ่งกว่าหนูร้อยตัวทะเลาะยื้อแย่งอาหารกันในกองขยะเน่าเสีย ต้องบอกว่าแย่กว่าร้อยเท่า
เย่ว์หยางเด็กหนุ่มผู้ข้ามมิติมาจากโลกอื่นไม่ต้องฟังเสียงรบกวนนี้เขาจะรู้สึกไม่พอใจได้อย่างไร?
ความอดทนทางจิตใจนั้นแข็งแกร่งมาก
แต่เมื่อได้ยินตอนนี้
ทันใดนั้นเขาขมวดหน้านิ่วขมขื่นพยามยามเอานิ้วอุดหูหวังว่าจะไม่มีเสียงน่ารังเกียจแทรกเข้ามาในหู ถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้หนูน่ารำคาญเข้ามาวิ่งเล่นในหูของเขามากกว่าที่จะฟังเสียงนี้
มันเจ็บปวดเกินไป!
แต่ไม่มีวิธีใดที่จะทำเช่นนี้ได้ เพราะปากที่ส่งเสียงดังนั้นอยู่บนใบหน้าคนอื่นแม้ว่าเขาต้องการปิดปากนั้น แต่ก็ยังทำไม่ได้
“เข้าใจแล้วปรากฏว่าตงฟางส่งเจ้ามาตาย อย่างนั้นมือสังหารเทพถูซื่อ เจ้ามีเหตุผลอะไรถึงต้องประกาศสงครามกับหอทงเทียนพร้อมกับกำจัดข้าต้องเข้าใจกฎของการตัดสินใจรบให้ดี! เนื่องจากเป็นความตั้งใจดีของตงฟางแน่นอนข้าจึงยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก คำสั่งเสียสุดท้ายไม่เหมาะกับเจ้า ต้องทรมานเจ้าอีกสักหน่อย เราจะแสดงการต้อนรับของเราชาวหอทงเทียนเราอีกเล็กน้อย!” เย่ว์หยางเข้าใจทันทีว่าทำไมมือสังหารเทพถูซื่อไม่ซ่อนตนอยู่เบื้องหลังโดยไม่ถูกกำจัด? คาดว่าแดนสวรรค์บนก็มีข้อตกลงเช่นกันเงื่อนไขของการรุ่งเรืองของหอทงเทียน หากยอดฝีมือระดับเทพต้องการลงมือเขาต้องมีเหตุผลในการลงมือ
และคุณชายถูอี้ผู้นี้ก็มีพลังแค่ระดับเทพเทียมเป็นเพียงเหยื่อที่บิดาของเขาและตงฟางส่งมาเป็นเครื่องสังเวย
เย่ว์หยางต้องการฆ่าเขา
ถูซื่อจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะแก้แค้นให้ลูกชายเพื่อรักษาคุณธรรม
แน่นอนว่าเมื่อรู้ว่าเป็นแผนการของตงฟางแต่ความตายถูกส่งมาถึงประตู จะฆ่าหรือไม่ฆ่าดี ถ้าสุภาพกับเจ้าขยะนี่นั่นคือคุณธรรมที่รับไม่ได้! นอกจากนี้แม้ว่าพวกเขาจะสมองน้อยแต่พวกเขาก็พอเข้าใจได้ว่าเขาถูกใช้เป็นเหยื่อสังเวยไม่ใช่หรือ?
เพื่อไม่ให้เปลืองน้ำลายและความตั้งใจดีของตงฟางเย่ว์หยางตัดสินใจ
ส่งลูกเทพข้างหน้าไปหาความตาย
ฆ่าอย่างมีมนุษยธรรม
“ตาย, ดูเพลิงเทพของโอรสเทพนี้มีพลังคลื่นระเบิดด้วยอ๊าค.... คลื่นระเบิดไฟ...” ตอนนี้คุณชายถูอี้ไม่มีความสามารถในการคิดเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะและเสพติดพลังของตนเอง เดิมทีพลังเหล่านี้ไม่ได้มาจากการฝึกฝนของเขาเอง แต่เป็นของขวัญจากบิดาที่เป็นเทพและไม่มีขอบเขตพลังที่แน่นอนเพียงพอ และเขามีนิสัยที่ตรงกันเมื่อระเบิดพลังเต็มที่แล้วในสายตาของเขาจะไม่เห็นสิ่งอื่นใดอยู่สายตานอกจากการทำลายล้าง
ในตำแหน่งของเย่ว์หยางเขารวบรวมเพลิงเทพที่ระเบิดออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้เหมือนกับเป็นน้ำตกเพลิงเทพ