ตอนที่ 1308 เกลียดมากไม่มีทางหยุดได้
ใจกลางแท่นบูชายัญ
หมอกและฝุ่นม้วนตัวเป็นคลื่น
เงาดำที่ปรากฏขึ้นบนแท่นบูชายัญไม่ขยับเขยื้อนทำท่าดื่มด่ำเหมือนสุภาพบุรุษ
“นี่... นี่เกินไปแล้ว!” ถูว่านหลั่งเหงื่อแทบตาย นี่เขาต้องปรากฏตัวด้วยวิธีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แบบนั้นด้วยหรือ? อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนชอบเล่นการละเล่นเขาตัดสินใจอย่างลับว่า เมื่อมีโอกาสครั้งหน้าเขาจะทำแบบนี้บ้างเพราะดูแล้วอลังการเป็นบ้า! ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเขาทำได้อย่างมีสีสันอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับพวกบ้านนอกที่อยู่ข้างหน้านี้เหมือนกับกลายเป็นคนหัวโบราณ
ลมกระโชกพัดแรง หมอกควันที่บดบังสายตาค่อยๆกระจายและสลายไปตามลม
เงาดำยืนนิ่งอยู่ในกลางพื้นที่ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
ในที่สุด
ก็ปรากฏสถานะที่แท้จริง
ทุกคนกวาดตามองไม่ว่าจะเป็นมังกรสองหัวกู่อั๋งว่านกูซูแห่งเผ่ามังกรฟ้า หรือปีศาจหมีดำปีศาจหมูป่าแห่งเผ่านอสูรทมิฬและเผ่าเก้าหัว
แม้แต่คุณชายถูอี้ที่มักจะยิ้มและคงความสง่างามไว้เสมอเขาข่มความสงสัยอยากรู้อยากเห็นและความตกใจมองไปที่กลางพื้นที่ด้วยความสงสัยและตรวจสอบ เป็นครั้งแรกที่เขาอยากเห็นผู้แข็งแกร่งซึ่งปรากฏตัวบนกลางแท่นบูชาเขาต้องการเห็นเย่ว์ไตตันอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งหอทงเทียนที่ยังดึงดันต่อสู้กับเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจนถึงที่สุด
หลังจากฝุ่นจางลงเงาร่างนั้นปรากฏต่อหน้าทุกคน แต่ไม่ใช่เย่ว์ไตตัน
เป็นหมาสีทองแดงสกปรกตัวหนึ่ง
มันเป็นหมาที่ดูแย่มากๆหากมองเพียงครั้งเดียวแล้วไม่รู้สึกอยากทุบตีมันอีกผู้เห็นคงจะรู้สึกเสียอกเสียใจหากไม่ได้ทุบตีมัน
มันยืนตัวตรงอยู่ในพื้นที่เหมือนมนุษย์ชูเท้าหน้าทั้งสองเหมือนกำลังประกาศชัยชนะเหล่ตามองด้วยความเย่อหยิ่งลำพองเหมือนเจ้านายชั้นสูงโอ้อวดศักดิ์ฐานะดูถูกเหยียดหยามคนบ้านนอก ใครที่เห็นมันล้วนแต่อยากจะเอาหมัดซัดหน้าของมันด้วยความหมั่นไส้ แม้จะไม่ได้มีป้ายเขียนห้อยไว้แต่สีหน้าของมันคล้ายจะประกาศว่า ‘ตกใจอะไรกันนักหนาพวกเจ้าไม่เคยเห็นคน (หมา) หล่อมาก่อนในชีวิตหรือไง’และเหมือนกับซึงหงอคงที่ดีใจได้เสาค้ำสมุทรมาเป็นพลองอาวุธคู่ใจ
โชคดีที่นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีคนข้ามมิติคนที่สองในโลกนี้
ไม่เช่นนั้นเมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เขาคงโวยออกมาแน่นอน ‘เจ้าโง่! ความซื่อสัตย์ของเจ้าเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน!’
แน่นอนว่าเจ้าสุนัขขราคาต่ำนี้ไม่ต้องพูดถึงยังมีจอมงี่เง่าอันดับหนึ่งอีกคนหนึ่งก็คือเจ้างี่เง่าไห่ต้าฟู่ ถ้าเป็นเพราะเจ้าตัวข้างหน้านี้มิได้เป็นสุนัขอาจมีคนสงสัยว่ามันเป็นพี่น้องกับเจ้าอ้วนไห่ก็เป็นได้
“หมา? หมาหรือนั่น?”รอยยิ้มของถูอี้รูปงามค้างเหมือนกับลาวาภูเขาไฟที่เย็นตัวลงกะทันหัน
“........”
มังกรสองหัวกู่อั๋งและว่านกูซูกับคนอื่นที่เหมือนกับตายไปครึ่งหนึ่งรู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
นี่พวกเขากลัวกับการปรากฏตัวของหมาตัวหนึ่งหรือนี่?
ไม่มีทาง
ถ้าพูดเรื่องนี้ออกไปคงอับอายยันโลกแตกทำแบบนี้ยังกล้าสู้หน้าผู้คนได้อีกหรือ? เจ้าหมาตัวนี้โผล่มาจากไหน? เจ้าหมาชั้นต่ำนี้จะเจียมเนื้อเจียมตัวสักหน่อยไม่ได้หรือ? การกินอุจจาระเป็นหน้าที่ของมันนี่มันบังอาจหมายปองเนื้อล่ำและกระดูก เจ้านายของมันต้องถูกฆ่าทั้งเป็น ถึงกล้าใช้หมาสวะแบบนี้?บังอาจใช้พลังระเบิดให้พวกเขากลัวอย่างนั้นหรือ?
ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ดี! หน้าอย่างนี้ดูเท่มากเยี่ยมสมกับเป็นกลุ่มนักสู้ปราณฟ้า เยี่ยมสมกับเป็นนักสู้ระดับเทพ! ปรากฏว่าตกใจกลัวหมาสกปรกตัวหนึ่งของหอทงเทียน! ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกันนักสู้แดนสวรรค์ ยังสู้หมาตัวหนึ่งไม่ได้ ไม่ไม่มีอะไรเหลวไหลไร้สาระยิ่งกว่านี้อีกแล้ว” ตอนแรกคนพวกนี้แสดงสีหน้าฉงนและอิจฉา ต่อมาก็หัวเราะอย่างไม่ยั้ง
ตอนแรกกลั้นหัวเราะ
พอเริ่มหัวเราะก็ไม่อาจหยุดยั้งได้
พวกเขางอตัวลงกับพื้นใช้มือทุบพื้นด้วยความสะใจหัวเราะจนน้ำตาไหล แต่ก็ยังรู้สึกยากจะเข้าใจ
ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเจ้าหมาราคาต่ำเดินออกมาจากกลางลานบูชายัญและผายลมอีกครั้งหนึ่ง
เสียงผายลมนั้นดังมาก
มันหมุนตัวหันก้นไปทางเทพสังหารถูว่าน
และผายลมเสียงดังยาวดังยิ่งกว่าหวูดรถไฟตอนลอดอุโมงค์เป็นร้อยเท่า แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลแต่ว่าถูว่านกับคนอื่นถูกลมจากการผายลมเป่าใส่หน้า นี่เป็นเรื่องที่น่าหดหูใจยิ่งกว่าคนแก่ถูกขืนใจ
“ตาย! แกต้องตาย!” จางหู่ที่อารมณ์ไม่ดีทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาต้องการเข้าไปฉีกเจ้าหมาบ้านี่ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แต่ก่อนที่เขาจะทันเคลื่อนไหว
บางทีไม่ถึงหนึ่งในร้อยวินาที
ด้านหลังสุนัขมีคนปรากฏเพิ่มอีกคนหนึ่ง
ทันทีที่เขาปรากฏด้านหลังเขาเตะโด่งเจ้าสุนัขนั่นกระเด็นออกไปจนหายกลายจุดเล็กๆ
เมื่อสุนัขนั้นร่วงลงมาจากท้องฟ้ามันกระแทกกับพื้นแท่นบูชายัญอย่างรุนแรงจนแผ่นดินสั่นสะเทือน
ความโกรธยังไม่หายไป
เขายกเท้า
และย่ำใส่สุนัขตัวนั้นอย่างไร้เหตุผล
“ข้าสั่งให้แสดงเรื่องสนุกๆแต่เจ้าบังอาจตดใส่หน้าข้า ข้าบอกให้เจ้าหลบไป ไอ้เจ้าหมาตาบอดแต่เจ้ากลับแย่งบทเด่นบนเวทีของข้า! ในฐานะแบบอย่างอันดับหนึ่งของหอทงเทียน ฝ่ากระแสวุ่นวายของโลก บุรุษผู้ขับเคลื่อนบรรยากาศของโลกทำให้ชาวโลกจับตามองและสาวๆต้องกรี๊ดกร๊าดร้องวิ่งตาม แต่เจ้าพยายามแย่งบทเด่นของข้าผู้เป็นนายหรือ? ถ้าสาวๆทั้งหมดมองมาที่เจ้าตัวเดียวแล้วใครจะรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่ไร้เหตุผลนี้? เป็นเพราะเจ้ามีบทน้อยก็เลยคันเนื้อคันตัวใช่ไหม? เป็นแค่หมาเฝ้าบ้าน แต่แทนที่จะรู้จักนอบน้อมถ่อมตัวให้สมฐานะกลับแย่งบทเด่นของเจ้านาย นั่นเท่ากับกำลังหาที่ตาย!” ขณะนั้นพวกเขาเห็นบุรุษคนหนึ่งเดินตามออกมาด้านหลังมีภาพลักษณ์กักขฬะหยาบกร้านเหมือนกับอันธพาลข้างถนนมากกว่า
มีภาษิตของชาวแดนสวรรค์ผุดขึ้นมาในใจทุกคน ‘นายเป็นเช่นใด บ่าวก็เป็นเช่นนั้น’
ในทางกลับกันก็เหมือนกัน
บ่าวแสดงออกอย่างไรนายก็แสดงออกอย่างนั้น
มีการใช้สายลมเพื่อครอบงำตบตาคนที่เห็นขนาดสุนัขยังน่าอายขนาดนี้ เจ้านายจะน่าอับอายขนาดไหน
เป็นไปได้ไหมว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือคนที่เอ่ยก็อาจทำให้ผู้คนระอาจนตายทั้งเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของหอ ทงเทียน เย่ว์ไตตันผู้ทรงพลังหรือไม่?
ถูว่านในฐานะเทพ และคุณชายถูอี้เป็นต้น หลายคนอย่างมังกรสองหัวว่านกูซูเคยเห็นเย่ว์ไตตันมาก่อน พวกเขายืนยันว่าใช่ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือบุรุษหนุ่มที่ปรากฏตัวออกมาก็ทุบตีสัตว์เลี้ยงของตนเองก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์หรือเย่ว์ไตตันที่ตงฟางและทุกคนหาตัวไม่พบ
ถูว่านหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
เย่ว์ไตตันผู้นี้คือคนที่ตงฟางยังรับมือไม่ได้อีกหรือ?
อ่อนแอขนาดนี้มีชีวิตยืนยาวมาได้อย่างไร?พลังของเจ้าเด็กนี่แย่กว่าคำที่ร่ำลือกันเสียอีก
“โฮ่ง โฮ่ง (ข้าสัญญาว่าจะเชื่อฟังแต่โดยดี!)” ฮุยไท่หลางเปลี่ยนบุคลิกทันที มันเชิดหน้ากระดิกหางดีใจเหมือนกับจะสัญญาว่ามันจะทำตัวเป็นสุนัขที่ดี เป็นสุนัขในอุดมคติมีความรู้คู่คุณธรรมและอยู่ในระเบียบวินัยอันดีงาม
“เฮอะ,เจ้าต้องเล่นให้น้อยลง!” เย่ว์หยางไม่หยุด เขาทุบตีจนพอใจ
“เจ้านายต้องชนะ”ฮุยไท่หลางรีบประจบจากนั้นทำท่าทางใหม่
“ไสหัวไปจากนี่!” เย่ว์หยางไม่คล้อยตาม
“ที่แท้เจ้าก็คือเย่ว์ไตตันนี่เองด้วยพลังระดับเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอเป็นพนักงานเก็บขยะบนแดนสวรรค์ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ท่านตงฟางและท่านถูซื่อผู้ยิ่งใหญ่กับนักสู้แดนสวรรค์บน ทำไมพวกเขาถึงได้มองเจ้าแตกต่างออกไป?” มนุษย์เผ่าแมลงที่ยืนอยู่หลังคุณชายถูอี้นามว่าจางหลางอดแค่นเสียงเยาะเย้ยไม่ได้
“จางหลาง! บางทีคุณชายเย่ว์ไตตันอาจมีทักษะแฝงเร้นเฉพาะตัวเองจะไปมองแค่เรื่องพลังของเขาอย่างเดียวได้อย่างไร? ในแดนสวรรค์มีผู้รู้คงแก่เรียนอยู่มากมายแต่สถานะของพวกเขาสูงส่งเกินกว่านักรบระดับเดียวกันมากมาย บิดาข้าและคนอื่นๆก็ยังให้เกียรตินับถือ บางทีทักษะอัจฉริยภาพของคุณชายเย่ว์ไตตันอาจเป็นไปในทำนองนี้ก็ได้” คุณชายถูอี้เทพรุ่นสองของตระกูลกลับมายิ้มได้อีกครั้งใบหน้าที่แข็งกระด้างเหมือนกับหินภูเขาไฟพอยิ้มได้ก็เหมือนกับสายลมพัดในฤดูใบไม้ผลิ
“ข้าเกรงว่ามันคือขยะจริงๆข้างในกลวงว่างเปล่ามีแต่ก้อนฟาง” จางหลางแค่นเสียงเยาะเย้ย
“ฮ้าด..เช้ย!” เย่ว์หยางได้ยินแล้วเขาทำจมูกฟุดฟิดและจามเสียงลั่น
เขาดีใจ
เขาทำสีหน้าประมาณว่า ‘ไม่ว่าสาวคนไหนก็คิดถึงเขาทั้งนั้น’ก่อนที่เขาจะจามเป็นครั้งที่สองและเปลี่ยนสีหน้าทำนองว่า ‘มีคนแอบนินทาลับหลัง’ เย่ว์หยางคลำจมูก ผลของการจามสองครั้งต่างกันโดยสิ้นเชิงครั้งแรกแสดงว่าสาวๆ กำลังคิดถึง ครั้งที่สองแสดงว่ากำลังด่าเขาลับหลัง ขณะที่เย่ว์หยางหันกลับไปทางคุณชายถูอี้และมนุษย์แมลงจางหลางเตรียมพูดคุยสนทนาเขาจามออกมาเป็นครั้งที่สาม
ฮ้าด..เช้ย
แล้วจามสามครั้งติดกันหมายความว่ายังไง? อืม..สงสัยจะเป็นหวัด!
เย่ว์หยางรีบกล่าวขอโทษคุณชายถูอี้และจางหลาง “ข้านึกว่าพวกเจ้าแอบนินทาลับหลังข้านึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะเป็นหวัด! ขอโทษจริงๆ แต่เจ้าช่วยคุยให้ดังขึ้นสักนิดได้ไหมเห็นว่าพูดคุยถึงขยะอะไรสักอย่าง พูดกับข้าตรงๆ ได้ไม่ต้องเกรงใจ ข้าเป็นเด็กดีมาตลอด ไม่เคยสร้างเรื่องใส่ร้ายผู้ใด แน่นอนว่าพวกเจ้าอาจจะชอบเพราะว่านั่นคืองานอดิเรกของพวกเจ้า ข้าไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนในโลกนี้มีสมองเหมือนกับเจ้า มันก็สมเหตุผลดีแล้ว ถ้าเจ้าไม่ปัญญาอ่อนก็คงไม่รู้หรอกว่าสติปัญญาของข้าเหนือกว่าแค่ไหน!”
รอยยิ้มของเทพถูอี้เทพรุ่นที่สองค้างเติ่งเหมือนหินลาวาที่เย็นตัวลง
ทุกคนตะลึง
ปากอ้าตาค้าง
คนเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนฝืนยิ้มให้กันและมั่นใจว่านี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่แม้แต่ตงฟางยังปวดเศียรเวียนเกล้ากับเขาไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่วาจาเชือดเฉือนก็ทำให้หลายคนอึดอัดใจได้
มนุษย์เผ่าแมลงสาบจางหลางตัวสั่นด้วยความโกรธขณะที่เขาเตรียมพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางที่ทำตัวเด่นเท่กว่าเขาจางหู่แมลงปีกแข็งชิงลงมือก่อน เขาใช้มีดแสงที่ตัดได้กระทั่งมิติโจมตีสังหารทันที
ในพื้นที่นั้นเย่ว์หยางอดตื้นตันใจไม่ได้
ในที่สุดก็ได้ลงมือเสียที!
จากในตอนแรก
เขาเกรงว่าเมื่อตอนที่เขาปรากฏตัวเขากลัวว่าศัตรูจะหนีกระเจิงโดยไม่ยอมสู้ ตอนนี้เขาสบายใจแล้ว และยั่วให้ศัตรูโกรธ มาเถอะ เราคุณชายแทบจะรอไม่ไหวพร้อมจะทุบตีลงมือให้สมอยากพวกเจ้าพร้อมจะร้องไห้หรือยัง พวกเจ้าไม่ควรมาทำตัวไร้มารยาทกับเราคุณชายมาสู้กันเลย ข้าไม่เกี่ยงจะต้องสู้กันนานแค่ไหน
ถ้าคนที่บุ่มบ่ามใจร้อนที่อยู่เหนือหัวเราะยินดีรับ เย่ว์หยางพร้อมจะมอบรางวัลศัตรูยอดนิยมให้กับเขา
หรือรางวัลศัตรูดีเด่น!
เมื่อคนที่อยู่ในเหตุการณ์ลังเลพวกเขากระโดดถอยออกไปและมองดูอย่างเย็นชา
เขามีความตั้งใจอะไรกันแน่
หรือว่านี่คือจิตวิญญาณการอุทิศตนในตำนาน
นั่นคือความเสียสละที่ยิ่งใหญ่‘เราไม่ลงนรก แล้วใครจะลงนรก!’
เย่ว์หยางตื่นเต้นมากจนอดตะโกนตื่นเต้นมิได้ ‘บ้าจริง ต้องคงความเกลียดนี้ไปเรื่อยๆ อย่าได้เลิกรา!”