NH-ตอนที่ 57 ฉันไม่ตามลูกครึ่งเอลฟ์
ลุกซ์ รู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัว และ แทบจะขยับกล้ามเนื้อไม่ได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บจากการตก
โชคดีที่กระดูกของเขาไม่หัก แต่มีเพียงรอยฟกช้ำอย่างหนักเท่านั้นจนทำให้เขาอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“จงออกมา เดียโบล!” ลุกซ์ เรียกคู่หูที่ไว้ใจได้ของเขาทันที
จากนั้น ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ก็นำยารักษาออกมาจากแหวนเก็บของ 2-3 ขวด ซึ่งให้ เดียโบล ช่วยเทลงบนร่างกายของเขา ส่วนที่เหลือ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ก็ดื่มมันเข้าไปจนทำให้เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
แม้ว่าเขาจะตกลงไปในส่วนลึกของรังโคโบลด์ แต่ก็ไม่มีโคโบลด์อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้ เพราะพวกมันทั้งหมดมัวแต่ยุ่งกับการไล่ตามพวกคนแคระที่กำลังหนีไปที่ทางออก
ลุกซ์ เรียกโซลบุ๊กของเขาออกมาเพื่อตรวจสอบดูว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
เมื่อเขาเห็นว่าเครื่องหมายของเฮเลนห่างไกลเขาออกไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ไปช่วย โคเล็ตต์ และ คนอื่นๆก่อนก็แล้วกัน” ลุกซ์ ตรวจสอบเส้นทางที่เขาจะใช้ไปช่วยเพื่อนของเขาทันที
เดียโบล ผงกหัวและเดินตาม ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มผมแดงไป พวกเขาได้วิ่งไปในเส้นทางเขาวงกตใต้ดินที่พวกโคโบลด์สร้างขึ้น
การเดินทางของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นนัก เนื่องจาก ลุกซ์ และ เดียโบล ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ตอนนี้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ได้อยู่ในแนวหลังของศัตรู หากพลาดพลั้งเพียงก้าวเดียว เขาสามารถจบชีวิตลงได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
หลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมงในการสำรวจชั้นล่างของรังโคโบลด์ที่เกือบถูกทิ้งร้าง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย
เช่นเดียวกับ โรบิน และ อนดี้ ลุกซ์พบว่าเพื่อนของเขาติดอยู่ในกรง อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ยังมีคนแคระอีกหลายคนถูกขังอยู่ในนั้นด้วยเช่นเดียวกันซึ่งมันทำให้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ประหลาดใจ
‘ในเมื่อฉันมาแล้ว ก็คงจำเป็นจะต้องช่วยพวกเขาทั้งหมด’ ลุกซ์ คิดและสั่งให้ เดียโบลผ่าแผ่นไม้ที่ขังพวกคนแคระคนอื่นๆเอาไว้
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ให้ความสำคัญกับการปล่อยเพื่อนของเขาให้เป็นอิสระก่อน เพราะพวกเขาคือเหตุผลที่ทำให้เขากล้าออกมาเสี่ยงอันตรายในรังโคโบลด์แห่งนี้
“พี่ใหญ่?” โคเล็ตต์ พึมพัมออกมาด้วยความประหลาดใจ “พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!”
“ฉันก็มาช่วยพวกเธอยังไงล่ะ” ลุกซ์ ตอบกลับ “จุ๊ๆ อย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวพวกเราจะถูกจับได้”
โคเล็ตต์ พยักหน้าอย่างเข้าใจและปิดปาก หลังจากเธอเป็นอิสระ เธอก็ไปที่ลังไม้ที่มุมห้องเพื่อเอาอุปกรณ์ของเธอและแหวนเก็บของ
แมทตี้ และ อาเซล ก็ทำแบบเดียวกัน เช่นเดียวกับคนแคระคนอื่นๆ ที่ ลุกซ์ และ เดียโบล ปล่อยให้เป็นอินสระ หลังจากแจกจ่าย โพชั่นรักษาแล้ว อาการบาดเจ็บของพวกเขาส่วนใหญ่ก็ได้รับการรักษา ซึ่งมันทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับโคโบลด์ที่จับพวกเขามาได้
คนแคระผมบอลนด์ตาสีฟ้า ได้เดินไปหา ลุกซ์ และ กล่าวขอบคุณที่ช่วยพวกเขา เขาได้แนะนำตัวเองโดยเขามีชื่อว่า ฮันส์
เขาเป็นหนึ่งในพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรกิวลิเว่น และฐานปฏิบัติการของเขาก็คือหมู่บ้านและเมืองต่างๆ ที่ใกล้กับฐานที่มั่นนอร์เรีย
คนแคระผมบลอนด์นี้ยังเป็นหัวหน้ากลุ่มพ่อค้าที่ว่าจ้างกลุ่มของโคเล็ตต์และกลุ่มนักผจญภัยอื่นๆ อีกหลายคนให้มาคุ้มกันขบวนสินค้าของเขา แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาได้ถูกโคโบลด์ซุ่มโจมตีและถูกจับตัวไป
ลุกซ์ จับมือคนแคระและพูดคุยกับทุกคนในถ้ำ
“ก่อนอื่น ให้ฉันอธิบายสถานการณ์ในปัจจุบันให้ฟังก่อน” ลุกซ์ กล่าวออกมา “ตอนนี้ ไรเดอร์จากนอร์เรีย กำลังมาที่นี่เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ฉันเป็นคนนำทางและพาแนวหน้าของพวกเขามาที่นี่เอง แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาจะต้องล่าถอยออกไปหลังจากช่วยคนได้ไม่กี่คน เพราะจำนวนพวกโคโบลด์ที่มีอยู่มากมาย”
“หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ ฉันได้ตกลงมาที่นี่เนื่องจากฝีมือของ นักเวทย์โคโบลด์ สำหรับกองทัพหลักของพวกมัน ตอนนี้พวกมันคงกำลังมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าหลักของรังในขณะที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่”
“อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง กำลังเสริมจากฐานที่มั่นนอร์เรียกำลังจะมาถึง และ พวกเขาจะดำเนินการช่วยเหลือพวกเราอีกครั้งและจัดการกับพวกโคโบลด์ในรังนี้”
ลุกซ์ เน้นย้ำว่า เขาเป็นคนนำทางพวกไรเดอร์นอร์เรียมาที่นี่เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาเป็นส่วนสำคัญของภารกิจ
หลังจากได้ยินรายงานของเขา คนแคระส่วนใหญ่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะพวกเขามีโอกาสที่จะออกไปจากที่นี่
“นายบอกว่านายเป็นคนนำพวกเขามาที่นี่?” ฮันส์กล่าวพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น “แสดงว่านายสามารถช่วยพาพวกเราออกไปจากที่นี่ได้ใช่ไหม?”
ลุกซ์ พยักหน้า อย่างไรก็ตาม คำพูดต่อมาของเขาก็ทำให้ทุกคนในถ้ำเงียบลง
“แม้ว่าฉันจะสามารถพาพวกคุณไปที่ทางออกได้ แต่ฉันไม่สามารถทำได้ในตอนนี้” ลุกซ์ ตอบกลับ “เหตุตผลเดียวที่ฉันมาถึงที่นี่ได้โดยที่ไม่ได้รับอันตรายก็เพราะพวกโคโบลด์ส่วนใหญ่ได้ปีนขึ้นไปยังชั้นบนและไล่ตามผู้บุกรุกไป ถ้าพวกเราขึ้นไปในตอนนี้ พวกเราคงถูกสับเป็นชิ้นๆ ดังนั้นทางที่ดีพวกเราควรรอให้กำลังเสริมมาถึง”
โคเล็ตต์ ที่ฟังอยู่ข้างๆ ได้แสดงความกังวลออกมาทันที
“พี่ใหญ่ แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” โคเล็ตต์ กล่าวถาม “หรือเราจะต้องนั่งรอเฉยๆ แบบนี้?”
ลุกซ์ ส่ายหัวทันที “ที่นี่ใหญ่เกินไปและมันยากที่จะป้องกันตัว พวกเราจะหาที่หลบซ่อนตัว และ รอทีมช่วยเหลือมาถึง”
ลุกซ์ เรียกหนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียมออกมา เพื่อมองหาจุดซ่อนตัวที่มีขนาดเล็กพอที่จะป้องกันฝูงโคโบลด์จำนวนมาก
“ตามฉันมา” ลุกซ์ ตอบกลับ “ฉันพบสถานที่ที่จะให้พวกเราหลบซ่อนตัวแล้ว”
“แล้วทำไมพวกเราจะต้องตามนายไปด้วย?” คนแคระคนหนึ่งกล่าวพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันจะไม่ขอตาม ลูกครึ่งเอลฟ์”
ลุกซ์ ไม่สนใจแม้แต่จะเหลือบมองไปที่คนแคระที่ไม่พอใจ เขาได้บอกโคเล็ตต์และคนอื่นๆให้ตามเขาไป ซึ่งเขาทำอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะอยากจะตามมาหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับเขา
เมื่อเห็นท่าทีเฉยเมยของเขา คนแคระที่ไม่พอใจก็ส่งเสียงสาปแช่งออกมาทันที
ในทางกลับกัน ฮันส์ ได้หรี่ตาลงขณะที่เขาเดินตามหลัง ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สนใจพวกเขาเลย
คนแคระผมบลอนด์เป็นพ่อค้า เมื่อพูดถึงการทำการค้าและเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้า เขามักจะใช้สัญชาตญาณของตัวเอง
ตอนนี้ สัญชาตญาณของเขากำลังบอกให้เขาตาม ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ไป
เมื่อเห็นการกระทำของ ฮันส์ คนแคระสองคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็เดินตามหลังไปเช่นเดียวกัน
คนแคระที่เหลือที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพ่อค้าที่ถูกลักพาตัวมาจากที่อื่น พวกเขาได้แต่มองหน้ากันอย่างตกตะลึง
การเดินไปรอบๆ รังโคโบลด์โดยไม่มีแผนที่ที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้ คนแคระบางคนยังรู้สึกว่า ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม พูดถูก หากพวกเขาพยายามไปที่ทางออกในตอนนี้ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความตายอย่างแน่นอน
หลังจากสำรวจอุโมงค์ใต้ดิน ลุกซ์ ก็พาเพื่อนๆของเขาไปที่ส่วนลึกของถ้ำเล็กๆ ที่ดูเหมือนว่าพวกโคโบลด์จะใช้ที่นี่เป็นที่ทิ้งขยะ
กลิ่นเหม็นเน่าได้โชยไปทั่วอากาศ และ ทำให้พวกคนแคระย่นจมูก แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น
แม้แต่ฮันส์ก็ยังคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่ดีในการซ่อนตัว เพราะคงไม่มีโคโบลด์ตัวไหนที่จะพาพวกมาหาพวกเขาในบริเวณนี้
ทางเดินนี้ค่อนข้างคับแคบ มันใหญ่พอที่จะให้คนแคระที่โตเต็มวัยเพียงคนเดียวเดินลงไปได้ และ เพดานก็เตี้ยจนทำให้ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ต้องหมอบลงเล็กน้อยและเดินไปตามอุโมงค์
หลังจากมาถึงที่หมาย ลุกซ์ ก็ใช้แหวนเก็บของเปล่าที่เขาได้รับมาจากห้องขังเพื่อเก็บขยะไปให้มากที่สุด
คนแคระอย่างโคเล็ตต์ที่มีสกิลชำระล้างได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลดกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนเหล่านี้
หลายนาทีผ่านไป กลิ่นที่น่ารำคาญก็หายไป ซึ่งทำให้พวกคนแคระรู้สึกขอบคุณมาก
แม้ว่าถ้ำที่นี่จะเล็กกว่าสถานที่ที่พวกเขาเคยถูกคุมขังเป็นนักโทษ แต่มันก็มากพอที่จะบรรจุพวกเขาทั้งหมด
“ฟังนะ ฉันจะตั้งกฏบางอย่างในขณะที่พวกเราอยู่ที่นี่” ลุกซ์ กล่าวพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ก่อนอื่น ไม่อนุญาติให้ทุกคนพูดคุยกันเสียงดัง หากโคโบลด์บางตัวหรือพวกโคโบลด์มาที่นี่ สิ่งสำคัญก็คือพวกเราจะต้องฆ่าพวกมันโดยเร็วที่สุดโดยไม่ให้พวกมันส่งเสียงแจ้งเตือน”
คนแคระทั้งหมดพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พวกเขาไม่ได้มีข้อตำหนิกับกฏที่ ลุกซ์ ตั้งไว้
“กฏข้อที่สองคือพยายามพูดคุยกันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกคนควรพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะเราจำเป็นจะต้องใช้พลลังอย่างมากเพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้”
คนแคระพยักหน้าอย่างเห็นด้วยอีกครั้ง
“อย่างสุดท้าย หากเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุดขึ้น เช่นถ้าพวกเราถูกค้นพบ ทุกคนพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด” ลุกซ์ กล่าวออกมา “ฉันมั่นใจว่าพวกเราจะสามารถยืนหยัดต่อต้านได้ หากพวกเราทำงานกันเป็นทีมและช่วยกันป้องกัน”
“โครงกระดูกของฉันจะทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันและปิดกั้นทางเข้าถ้ำนี้ แต่หากพวกโคโบลด์เปิดการโจมตีอย่างเต็มที่และหลุดรอดไปได้ ทุกคนจะต้องช่วยกันป้องกันอย่างเต็มที่และอย่าปล่อยให้มันทะลวงแนวป้องกันของเรามาได้”
คนแคระผงกหัวเป็นครั้งสุดท้ายและพยายามพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูกำลัง
ลุกซ์ นั่งอยู่ข้างทางเข้าถ้ำเพื่อใช้การได้ยินที่ละเอียดอ่อนของเขาในการตรวจจับใครก็ตามที่กำลังมุ่งหน้ามายังทิศทางของเขา
โคเล็ตต์,แมทตี้ และ อาเซล เหนื่อยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงหลับไป โดยปล่อยให้ลุกซ์เป็นคนเฝ้ายาม
คนแคระตัวน้อยได้พัฒนาศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาเห็นว่าอีกฝ่ายได้ฝ่าฟันอันตรายมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด
ลุกซ์ มองดูเด็ก ๆ ที่หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง ดังนั้นมันถึงเวลาที่เขาจะเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
เดียโบลได้เดินมาหาเขาและมอบแหวนเก็บของสีดำให้กับ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม
ลุกซ์ รับมันมาและตรวจดูสิ่งของข้างใน
เขาพบคอร์มอนสเตอร์นับร้อยในแหวนอันนี้ สิ่งนี้ทำให้ ลุกซ์มีความสุขมาก เหตุผลหลักที่เขาทิ้ง เดียโบล และ นักสู้โครงกระดูกไว้เบื้องหลังก็เพราะจะได้ปล้นคอร์จากศพของพวกโคโบลด์
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มรู้ว่าพวกไรเดอร์นอร์เรีย ไม่มีเวลาที่จะเก็บคอร์มอนสเตอร์เหล่านี้ในขณะที่พวกเขาบุกเข้าไปในรังเพื่อที่จะช่วยโรบิน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ลุกซ์ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่เขาจะได้รับสิ่งของเหล่านี้มาแบบฟรีๆ เขารู้ว่าหากทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี เขาสามารถมุ่งหน้าไปทางใต้ และ สามารถพึ่งพาตัวเองเพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆของเขา
เพราะงั้นชายหนุ่มจึงได้หยิบคอร์มอนสเตอร์ออกมาจากแหวนเก็บของและเริ่มแปลงเป็นแต้มสกิล
เขาจะใช้คอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่ออัปเกรดตัวเอง เดียโบล และ นักสู้โครงกระดูกของเขา
ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับ 3 พวกเขาก็จะสามารถยืนหยัดได้ และ แสดงให้พวกโคโบลด์ได้เห็นว่ามันเป็นความพยายามที่ว่างเปล่าที่จะฆ่าพวกเขา