บทที่86
“หา? รอน เรือโจรสลัดลำนั้นกำลังแล่นมาทางเรา” นามิพูดด้วยความกังวลแล้วสายตาของเธอก็เบี่ยงไปมองรอน
“ไม่ต้องห่วงไป” รอนโบกมือ “มันก็แค่กลุ่มโจรสลัดเล็ก ๆเอง เธอจะกลัวอะไรล่ะ?”
“ก็จริง นายเก่งยิ่งกว่าใครนี่” นามิอดเห็นด้วยไม่ได้จริง ๆ จากที่ผ่านมาเธอเห็นความเก่งเขาบ่อยแล้ว
เรือโจรสลัดทั้งสองลำเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆและพวกเขาก็กำลังจะสวนกัน
“ว้าว ฮ่าฮ่าฮ่า เรือของพวกแกกล้าเอามาออกทะเลด้วยเหรอ” เหล่าลูกเรือของวาโปลูต่างหัวเราะเรือและเหล่าลูกเรือของรอน
“ไอ้สารเลว พวกมันกล้ามาหัวเราะพวกเราได้ยังไง!” ทาชิงิกัดฟันกรอด
“เจ้าพวกนี้ เราต้องสอนบทเรียนให้กับพวกมันเสียบ้างแล้ว” นามิเองก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นเดียวกันกับคนอื่น ๆ
“คุณรอน พวกเขาดู... นิสัยน่าขยะแขยงจริง ๆ!” คายะเขย่าแขนรอนแล้วพูดสิ่งที่คิดออกมาทันที
“ไม่ต้องห่วง พวกมันก็แค่พวกอ่อนแอน่ะ ไม่ต้องกังวลไปนะ”
“คุณรอน พวกเขามีของดีอยู่มากมายเลย คุณเห็นไหม ปืนใหญ่ของพวกเขาก็มีเยอะมากนะ” เจ้าหญิงวีวีชี้ไปที่เรือของวาโปลู
ทันใดนั้นเสียงของทุกคนก็เงียบลง ปืนใหญ่จากเรือของวาโปลูได้ระดมยิงใส่เรือแมรี่ทันที
“พวกมันหาเรื่องตายกันจริง ๆ” รอนตะโกน เขาขยับร่างกายของเขาแล้วพุ่งไปปัดกระสุนปืนใหญ่ทุกลูกให้เบี่ยงทิศทางออกไปข้าง ๆ หากเขาไม่กลัวว่าวาโปลูจะตาย เขาก็คงปัดกระสุนพวกนั้นไปที่เรือของอีกฝ่ายไปแล้ว
“อะไรน่ะ!”
ลูกเรือที่อยู่บนเรืออีกฝ่ายเห็นภาพที่น่าเหลือเชื่อแบบนี้ก็ตกใจแล้วตะโกนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “เขา เขา เขา เขา... เขาเตะกระสุนปืนใหญ่ด้วยเท้าของเขาเลยงั้นเหรอ?”
“ไอ้เลวเอ๊ย!” วาโปลูอดโกรธไม่ได้ “พวกแกทุกคน อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ ชักอาวุธออกมาแล้วไปฆ่าพวกมันให้หมดซะ!”
“ครับฝ่าบาท!” ลูกเรือกลุ่มหนึ่งที่ได้ยินคำสั่งก็ได้แต่ทำตามและปิดบังความกลัวที่มีต่อรอน พวกเขาชักอาวุธออกมาแล้วเตรียมข้ามเรือไปฆ่ากลุ่มของรอนบนเรือแมรี่
“เฮ้อ” รอนถอนหายใจ จากนั้นฮาคิก็ถูกเขาใช้เคลือบไปที่ดาบ
ชิ้ง!
แสงดาบสว่างวาบ ดาบซังไดคิเทซึถูกชักออกมาอย่างรวดเร็ว
ภายใต้ออร่าดาบที่น่าขนลุก ลูกเรือทุกคนของวาโปลูที่พุ่งเข้ามาต่างก็มีเลือดออกแล้วพวกเขาก็ล้มลงไปหรือไม่ก็ตกลงทะเลไปตาม ๆกัน ไม่มีสักคนเดียวที่ขึ้นไปบนแมรี่ได้
“แข็งแกร่งจริง ๆ!” มิสโกลเด้นวีคมองหลังของรอน เธออดหวาดกลัวไม่ได้
“อะไร!” เมื่อวาโปลูเห็นสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขากำลังเห็นอยุ่ เด็กหนุ่มหน้าเขาอายุยังไม่มาก แต่เขามีพลังที่สามารถฟันดาบง่าย ๆคนของเขาก็เสียชีวิตไปมากมาย
“ยิง! เราต้องยิงมัน!” วาโปลูตวาดอย่างเดือดดาล “มันคงหมดแรงแล้ว ตอนนี้มันคงหมดแรงที่จะโจมตีต่อ เราต้องยิงมันให้ตาย ฆ่ามันให้ได้!”
“ทราบแล้วครับฝ่าบาท!” ลูกเรือทั้งสองไม่กล้าปฏิเสธแล้วทำตามคำสั่งทันที
“เฮ้อ!” รอนถอนหายใจ มันไม่มีประโยชน์แม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนขนาดไหนก็ตาม
รอนมองไปที่ลูกเรือของวาโปลูที่ถูกสังหารไป รอนจับซังไดคิเทซึแน่นแล้วพริบตาต่อมาแสงจากคมดาบก็สว่างวาบ เหล่าลุกเรือทุกคนบนเรือของวาโปลูเสียชีวิตกันหมดทุกคน เหลือเพียงวาโปลูคนเดียวที่ยังรอดอยู่
วาโปลูหันศีรษะที่แข็งทื่อไปมองดูศพคนตายรอบ ๆ แล้วเขาก็พบว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่
“ทาชิงิ ไปมัดมันให้ฉันหน่อย” รอนมองวาโปลูแล้วสั่งทาชิงิที่ยืนอยู่ข้าง ๆเขา
ทาชิงิพึมพำนิดหน่อย แต่เธอก็ทำตามแต่โดยดี เธอถือเชือกแล้วเดินไปบนเรืออีกฝั่งหนึ่ง
“แก... แกเป็นใคร แกเป็นตัวอะไร?” วาโปลูตื่นตระหนก สีหน้ามีแต่ความหวาดกลัว
“ฉันเป็นใครนายยังไม่รู้เลย” รอนส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ข้อมูลของเขากระจายไปทั่วโลก วาโปลูที่อยู่ตรงหน้าเขายังไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ในฐานะโจรสลัด หมอนี่ล้มเหลวมาก
“แก แก แก...” วาโปลูสีหน้ากลายเป็นน่าเกลียด แต่ก็อดกลัวไม่ได้ เขารีบพูดขอร้องรอนอย่างหวาดกลัว “ไว้ชีวิตฉันด้วย ไว้ชีวิตฉันด้วย ฉันยังไม่อยากตาย!”
วาโปลูมองทาชิงิที่เดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อย ๆ แล้วมองรอนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ใจของเขาเต้นแรง พอสบโอกาส วาโปลูก็วิ่งไปหารอนอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันให้ใครตั้งตัว ปากของเขาอ้าออกแล้วงับไปที่รอนอย่างโหดเหี้ยม
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจะกินแกซะ!”
‘นี่คือความสามารถของผลบาคุ บาคุสินะ’ รอนมองวาโปลูที่อ้าปากกำลังงับเขา ใบหน้าของเขาไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการทำอะไร
มิสโกลเด้นวีคตกตะลึง แต่มันสายเกินไปแล้วที่เธอจะตะโกนเตือน
มิสวาเลนไทน์ที่อยู่ข้าง ๆเห็นภาพนี้หัวใจของเธอก็พองโต ดีมาก ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็เจออันตราย ตราบใดที่อักฝ่ายบาดเจ็บสาหัส เธอก็จะร่วมมือกับมิสโกลเด้นวีคคุมเรือลำนี้ นอกจากรอนแล้ว ผู้หญิงบนเรือลำนี้ใครต่อสู้ได้บ้างล่ะ เวลาแบบนี้ควรไขว่คว้าเอาไว้