ตอนที่ 91 วิญญาณอาฆาตจู่โจม
ตอนที่ 91 วิญญาณอาฆาตจู่โจม
ในเวลาต่อมา
หลิน ยู ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในป่า ค่อยซุ่มสังหารราชันที่ผ่านทางมา
ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ราชันเกือบ 20 คนถูกสังหารภายใต้เงื้อมมือของเขา หากเขาลงมือแล้วไม่มีใครสามารถรอดไปได้
ราชันเหล่านั้นให้พลังแก่เขาเป็นจำนวนมาก
อย่างน้อยก็คนละ 2000 หรือ 3000 พลังเวทย์
มีหลายคนที่ได้พลังเวทย์ถึงหมื่นแต้ม มือของพวกเขาเปื้อนเลือดราชันไปเป็นจำนวนมาก
เมื่อรวมกันแล้ว พลังเวทย์ที่มีอยู่ในตอนนี้ของ หลิน ยู ก็ทะลุ 100000 ในที่สุด
นี้คงเป็นเพราะสมบัติสนามรบยากที่แย่งชิงมาได้ มันต้องใช้เวลา
หลิน ยู จึงคอยซุ่มโจมตีราชันที่จะเข้ามาแทน
อันดับการสังหารของเขาเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 900 มาเป็น 500 กว่าแล้วในตอนนี้ เขายังไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการตกเป็นเป้าหมาย
นอกจากนี้ เพียงแค่ดูจากรายชื่อนี้ คนเหล่านี้ก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร
เมื่อเห็นว่าสมบัติสนามรบถูกนำออกไปแล้ว ราชันที่เข้าร่วมแย่งชิงค่อยๆแยกย้ายกันออกไป หลิน ยู ก็จากไปอย่างเงียบงันพร้อมกับกองกำลังพืชของเขา
หลังจากที่เดินทางไปรอบๆสนามรบแล้ว ในวันนี้เขาสังหารมอนสเตอร์กับราชันไปเป็นจำนวนมาก ในที่สุดท้องฟ้าก็มืดลงอีกครั้ง
หลิน ยู โชคดี ที่ใมวันนี้ไม่ได้เจอกับราชันที่มีทหารระดับ 7 มากกว่าเขาเลย ดูเหมือนเขาจะถูกส่งมายังสนามรบที่ค่อนข้างอ่อนแอ
หลังจากหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับพักผ่อนในคืนนี้ได้แล้ว เขาก็ออกเดินทางไปล่าราชันจากโลกอื่นอีกครั้ง
ถ้าหากเขาได้เจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่าหรือมีทหารมากกว่าเขา เขาจะรีบนำเหล่าพืชของเขาหลบหนีออกไปโดยเร็ว เขานั้นจะไม่ลงมือหากไม่มั่นใจว่าจะสังหารได้
เขาอาศัยวิธีนี้ ดำเนินการไปอย่างราบรื่นจะกระทั่งมาถึงสมบัติสนามรบครั้งที่ 3 ปรากฏขึ้น
จำนวนสมบัติที่ปรากฏในครั้งนี้นั้น เป็นไปตามที่เขาคิดว่าไว้ มันปรากฏออกมาแค่ 3 ชิ้น
ในทางกลับกัน จำนวนราชันที่ปรากฏตัวเพื่อเข้าแย่งชิงนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
มีราชันจำนวนมากจากทุกสารทิศมาเข้าร่วมการแย่งชิงสมบัติในครั้งนี้
เสียงกรีดร้องกระจายไปทั่วทุกมุมของสนามรบ คุณจะได้ยินแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากสนามรบ
หลิน ยู ใช้โอกาศนี้ในการซุ่มโจมตีเหล่าราชันจากโลกอื่นไปได้มากกว่า 1 โหล ได้พลังเวทย์มาอีก 110000
รวมกับพลังเวทย์ที่มีอยู่ มันมากกว่า 200000 แล้ว
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกได้ชัดเจนว่ายิ่งผ่านไปนานเท่าไร ความแข็งแกร่งของเหล่าราชันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ความยากในการสังหารก็ค่อยๆมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ราชันที่เขาพบในตอนนี้มีทหารระดับ 7 คนละ 1 ถึง 2 ตัวไม่มากก็น้อย ซึ่งมันทำให้เขาเริ่มสูญเสียทหารมากขึ้น
จนกว่าสมบัติจะถูกแย่งชิงไป
ในตอนนี้เขาเหลือทหารระดับ 7 4 ตัวและระดับ 6 56 ตัวเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะนับปิศาจต้นไม้ระดับ 7 ที่หลิง ซี เรียกออกมาด้วย แต่มันก็เพิ่มขึ้นมาเพียงตัวเดียวแถมมันยังไม่ถาวรอีกด้วย
"ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะใช้ไม่ได้ผลอีกแล้วในวันพรุ่งนี้"
หลิน ยู พึมพำออกมา
พลังเวทย์ 200000 กว่านี้เพียงพอแล้วสำหรับเขาในการนำไปใช้
เขาไม่ได้โลภ แต่หากมีโอกาศได้มาเพิ่มเขาก็ไม่รังเกียจที่รับมัน
เขาออกจากสนามรบทันทีด้วยทหารที่เหลืออยู่ ไกลออกไปจากสถานที่ชิงสมบัติ
อย่างไรก็ตามทุกอย่างมันกับตาลปัตร
เขาไปได้ไม่ไกลจูู่ๆ ก็มีร่างๆ หนึ่งลอยมาขวางทางของเขาไว้ พร้อมกับกองทหารที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ทำไมรู้สึกๆแปลก
ราวกับนี้เป็นกองทัพวิญญาณ
พวกมันเป็นทหารรูปร่างมนุษย์ที่มีแสงสลัวๆเปล่งประกายออกมาทั่วร่าง
เมื่อรวมเข้ากับกองทัพวิญญาณอาฆาตที่บินอยู่ในอากาศ มันจึงดูแปลกตาอย่างมาก
นี้มัน ราชันที่เป็นวิญญาณ
นี้เป็นครั้งแรกของหลิน ยู
ที่ได้เขาได้เห็นราชันคนอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอันตราย
ในเวลาเดียวกัน อีกฝ่ายก็มองมาที่เขาเชjนกัน
จากเข้าก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูค่อยข้างตลก "มนุษย์ จงมอบพลังเวทย์มาให้ฉันซะ เดี๋ยวจะเหลือศพสวยๆเอาไว้ให้"
ดูเหมือนมันจะสื่อสารกับเขาได้นะ
หลิน ยู ตกใจ
แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็กลายเย็นชา
"ฮ่าๆ มันก็ยังไม่แน่หรอกว่าใครจะเป็นศพ"
"ในเมื่อเป็นแบบนั้น สงสัยฉันต้องจัดการด้วยตัวเองซะแล้ว นายนี้โชคดีจริงๆที่ได้ตายด้วยน้ำมือของพวกเราแดนจิตวิญญาณดั้งเดิม"
หลังจากที่อีกฝ่ายพูดจบเข้าก็ไม่ได้พูดอะไรกับหลิน ยู อีก เขาสั่งให้กองทัพวิญญาณพุ่งเข้าโจมตี หลิน ยู ทันที
ฝั่ง หลิน ยู ก็ไม่รอช้าสั่งให้เหล่าพืชรอบตัวเขาโจมตีเหมือนกัน
หวืดดด หวืดดดด---
ในชั่วพริบตา เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นกลางอากาศ
เถาวัลย์ของนางพญาปิศาจโลหิตพุ่งออกไปปะทะกับฝูงวิญญาณอาฆาตที่เข้ามา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลินยูคิดไม่ถึง ก็คือ เถาวัลย์เหล่านั้นผ่านร่างของเหล่าวิญญาณอาฆาต เถาวัลย์เหล่านั้นไม่สามารถหยุดมันเอาไว้ได้ เหล่าเถาวัลย์ค่อยเหี่ยวเฉาและร่วงลงมาทีจะเส้นๆ ราวกับพวกมันหมดพลัง
"ไอ้โง่เอ้ย การโจมตีทางกายภาพหน่ะไม่ได้ผลกับวิญญาณอาฆาตของข้าหรอก เอาละ จัดการมันเอาวิญญาณของมันเส้นสังเวยให้ข้า!!"
ด้วยเสียงที่ดังหลั่นของอีกฝ่าย ความเร็วของวิญญาณอาฆาตเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นในทันที พวกมันมาถึงหลินยู ในพริบตาเดียว
หลิน ยู หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่หวาดกลัวเขาเลย
เมื่อเห็นวิญญาณอาฆาตจำนวนมากพุ่งเข้ามาหาเขา เขาก็ระเบิดฝ่าเท้าออกมา พุ่งหนีออกไป ปล่อยให้วิญญาณอาฆาตเหล่านั้นโจมตีอากาศที่ว่างเปล่า
"เปล่าประโยชน์ เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!"
เสียงอันหยิ่งยโสดังขึ้นอีกครั้ง
กองทัพพืชของหลิน ยู โจมตีใส่วิญญาณอาฆาตเหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อช่วยเหลือราชันของพวกมัน แต่ทั้งหมดกับทะลุผ่านร่างของวิญญาณอาฆาตไปจนหมด
ในชั่วพริบตา นายพลพรายไม้ 2 ตัว กับนางพญาปิศาจโลหิต 1 ตัว ก็ถูกเหล่าวิญญาณอาฆาตดูดกลืนพลังชีวิตไป มันทรุดลงกับพื้นราวกับกองไม้ผุๆ
ฝูงวิญญาณอาฆาตยังคงไล่ตาม หลิน ยู ต่อ
วิญญาณอาฆาตเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงระดับ 6 แม้แต่ทหารระดับ 7 ก็ยังไม่สามารถจัดการกับมันได้ นับประสาอะไรกับทหารระดับ 6
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ความคิดของ หลิน ยู
ในตอนนั้นเอง ดอกไม้บนหัวของแบนชีเสน่ห์หาก็เปิดออก ระลอกคลื่นขนาดใหญ่ลอยออกไปในอากาศปกคลุมฝูงวิญญาณอาฆาต
วิญญาณอาฆาตเหล่านั้นชนเข้ากับระลอกคลื่นที่แบงชีสเน่หาปล่อยออกมา พวกมันสูญเสียทิศทางในทันที และเริ่มเคลื่อนที่อย่างสับสบไปบริเวณรอบๆ
หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็สลายตัวไปในอากาศทีละตัวราวกับลูกโปร่งที่ถูกปล่อยลม
มันได้ผล!
หลิน ยู รู้สึกยินดี เขาหยุดทันที
ดูเหมือนว่าเหล่าวิญญาณอาฆาตนี้ก็มีจุดอ่อนอยู่เหมือนกัน เมื่อเจอเข้ากับการโจมตีที่แปลประหลาดนี้
เพียงพริบตาเดียวเหล่าวิญญาณอาฆาตทั้งหมดก็โดนระลอกคลื่นโจมตีสลายหายไป ไม่เหมือนแม้แต่ตัวเดียว ทำให้ราชันวิญญาณที่อยู่ตรงข้ามตัวสั่นอย่างรุนแรง
"เป็นไปได้ยังไงกัน"
เขาไม่คิดว่าเผ่าพืชจะมีพลังโจมตีทางจิตด้วย
เขาหันหลังกลับและวิ่งหนีทันทีด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความหวาดกลัว พร้อมกับวิญญาณอาฆาตที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวของเขา ความเย่อหยิ่งที่เคยมีตอนนี้หายไปจนหมด
ในตอนที่เขาหันหลังและกำลังจะวิ่งหนีนั้น
ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นก็ควบคุมเขาเอาไว้
ร่างกายที่เดิมกำลังจะหลบหนีก็กลายเป็นหยุดนิ่ง เขาตกตะลึงในทันที
จากนั้นหนามไม้ของหลิง ซี ก็พรุ่งออกมาพร้อมกับเสียง "ฟลุ๊บบ!" เจาะทะลวงกลุ่มแสงบนหัวของเขาอย่างแม่นยำอย่างไร้ปราณี
ในวินาทีต่อมา ร่างกายของรวมเข้ากลับวิญญาณอาฆาตทั้งหมดกลายเป็นกลุ่มควันสีฟ้ากระจายออกไปในอากาศ
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้สังหารราชันต่างโล่ระดับ 6 สำเร็จได้รับพลังเวทย์ 90000 แต้ม แก่นแท้ดินแดนระดับ 6 1 อัน]
ดูเหมือนว่ากลุ่มแสงบนหัวของเขาจะเป็นจุดอ่อน มันถูกทำลายด้วยการโจมตีของหลิง ซี
ยิ่งไปกว่านั้น พลังเวทย์ที่อีกฝ่ายสะสมไว้ยังมากถึง 90000 แต้ม
ทำให้พลังเวทย์ที่หลิน ยู มีในตอนนี้มีมากกว่า 300000 แต้ม
มันเป็นพลังเวทย์จำนวนมหาศาลเลยทีเดียว
ชายหนุ่มคนนี้คงสังหารราชันไปเป็นจำนวนมาก
ก็ไม่แปลกเลยด้วยกองกำลังที่แปลกประหลาดของเขาทำให้มันยากที่ป้องกัน
ด้วยความประสาทของเขา
ครั้งนี้ หากหลิน ยู ไม่มีแบนชีสเน่หาระดับ 7 เกรงว่าวันนี้คงจะเป็นจุดจบของเขาเช่นกัน
"ดูเหมือนในวันสุดท้ายต้องระวังตัวให้มากกว่านี้"
ในตอนเที่ยงของพวกพรุ่งนี้ เวลา 3 ในวันสนามรบหมื่นโลกก็จะหมดลง เขาจะถูกวาปกลับไปยังทวีปดึกดำบรรพ์
ในตอนนี้นั้น ราชันที่รอดชีวิตมาได้ล้วนแต่แข็งแกร่ง
ราชันบางคนยังมีแม้กระทั่งทหารระดับ 7 ที่มากกว่าเขา หากได้เผชิญหน้ากับพวกเขา มันต้องเป็นการต่อสู้ที่อันตรวจจนเขาคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน วิธีที่ดีที่สุดคือหาที่ซ่อน จนถึงช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้แล้วค่อยวาปกลับ
วิธีทั้งปลอดภัย
ดังนั้นหลิน ยู จึงไม่ได้ออกไปไหนอีกเขาหาสถานที่พักผ่อนและฟื้นฟูชั่วคราว