ตอนที่ 1304 ความสุขเจ็บปวด กังวลมากขึ้น
บันไดสวรรค์?
นักรบที่เข้ามาฝึกในบันไดสวรรค์จะได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว
บันไดหินที่เหมือนขั้นบันไดปรากฏอยู่ใต้โลกพฤกษา ต่างจากบันไดสวรรค์ที่แท้จริงบันไดศิลาที่นี่ไม่มีพลังที่บรรพบุรุษนับไม่ถ้วนทิ้งไว้ ไม่มีพลังกดดันจากกฎสวรรค์และอำนาจพลังที่ตั้งไว้แต่โบราณที่นี่มีแต่เจตจำนงของเย่ว์หยางและพลังกฎสวรรค์ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าก่อนนั้น ความยากในการไต่บันไดแตกต่างจากบันไดสวรรค์แท้ ที่นี่เย่ว์หยางลดระดับความยากถึงร้อยเท่าแม้ว่าจะเป็นนักรบระดับปราณก่อกำเนิดหรืออสูรศึกก็สามารถขึ้นบันไดสวรรค์หมื่นขั้นได้อย่างสบาย
ลักษณะของบันไดศิลาคล้ายกับบันไดจริงๆเพียงแต่ขั้นแรกก็มีความเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วน
ทันทีหลังจากนั้น
ที่จุดเริ่มต้นของบันได จะมีจัตุรัสขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
คล้ายกับชั้นล่างของหอทงเทียนที่เป็นทางเข้าทวีปมังกรทะยานซึ่งรายล้อมไปด้วยทะเลและภูเขา มีเชือกขึงระหว่างเสาโทเท็มยักษ์ทั้งสองบนเสาโทเท็มยักษ์มีศาลาอยู่ด้านบน ที่สำคัญที่สุดมีลานจัตุรัสของหอทงเทียนแท้ๆ
ด้านขวาไม่ไกลคือค่ายฉางอู่สถานที่ซึ่งเย่ว์หยางพบกับจื้อจุนเป็นครั้งแรก
ในอดีตเคยเป็นวังของต้าเซี่ย
ที่ประทับของจุนอู๋โหย่ว
ข้างในนั้นมีลานกว้างที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและพวกพ้องเคยอาศัยอยู่และวังต้าเซี่ย ที่ซึ่งเย่ว์หยางแสดงฝีมือระดับปราณก่อกำเนิดเป็นครั้งแรกรายละเอียดต่างๆ สมบูรณ์ไม่มีข้อบกพร่อง แต่ที่ขอบวังต้าเซี่ยถัดไปเป็นสถาบันฉางจิงและสถาบันฉางชุนเฉิงล้วนถูกสงครามทำลายไปแล้วมีแม้กระทั่งปราสาทตระกูลเย่ว์ที่เย่ว์หยางพาแม่สี่ไปกอบกู้ชื่อเสียง
บ้านปราสาทที่ถูกทำลายปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอย่างน่าอัศจรรย์ไม่ว่าจะเป็นราชวัง ปราสาทสถาบันและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทางเข้า สำนักต่างๆที่ถูกทำลายไปแล้ว กลับปรากฏอีกครั้งภายใต้พลังเทพ มีปราสาทใหญ่สี่ตระกูลคือตระกูลเสวี่ย ตระกูลฟง ตระกูลเหยียน และสำนักปราสาทแก้วทะเลตะวันออก สำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกสำนักตำหนักภูตจันทราเหนือ สำนักภูเขาหมอกลอยฟ้าแดนใต้สิ่งปลูกสร้างสำนักความรู้ต่างๆ ค่อยผุดขึ้น สิ่งที่ทำให้พวกเอลฟ์ทองโห่ร้องร่าเริงดีใจ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในป่าเอลฟ์ทองโบราณและต้นไม้ทองเกิดขึ้นบนเนินใต้พฤกษาโลก แต่สภาพแวดล้อมถูกแทนที่ด้วยป่าหยกและวังห้าธาตุเพียงแต่ไม่เหมือนเดิมที่มีทะเลสาบ
ตำหนักซัคคิวบัสตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาตรงข้ามป่าเอลฟ์ ห่างออกไปเป็นภูเขาทลายจองจำของทวีปมังกรทะยานเป็นที่ตั้งของวังมาร พวกเผ่าพันธุ์ปีศาจดูเหมือนจะมีความสุขกับวังหินอัคนี
วิหารนักษัตรสิบสองราศีบนชั้นหนึ่งของหอทงเทียนเดิมและสามตำหนักกองกำลังมนุษย์ ดิน ฟ้า ที่ไม่มีทางจะอยู่รวมกัน กลับมาอยู่พร้อมกัน
ด้านบนเหนือพวกเขาเป็นประตูเป็นตายแห่งชั้นที่สิบ
โลกสามารถก่อเกิดสิ่งนี้
ผู้สร้างโลกก็คือเย่ว์หยางคนเดียว
นอกจากเขาแล้ว เปลี่ยนเป็นนักสู้ระดับเทพคนอื่นในโลกใช้เวลาเป็นล้านปีก็ไม่มีทางสร้างโลกที่เหลือเชื่อนี้ขึ้นได้
ในท่ามกลางเปลวเพลิงสงครามป้อมสายฟ้าหอทงเทียนชั้นที่หกยังคงตั้งตระหง่าน
นี่คือสถานที่แรกที่เย่ว์หยางใช้ชื่อไตตันและอาศัยอยู่กับทหารบริวารและพวกทาสที่ภักดี เขาไม่ลืมพาพวกเขากลับบ้านที่สงบสุข
ในด้านข้าง
นั่นคือเกาะอัคคีที่ตั้งอยู่ที่หอทงเทียนชั้นเจ็ดซึ่งเย่ว์หยางได้รู้จักกับจักรพรรดินีสมุทรคนรักของเขาครั้งแรกและอีกที่หนึ่งคือหมู่เกาะฝนดาวตกแห่งทะเลไร้ขอบเขตของหอทงเทียนชั้นสิบ ภูมิประเทศและอาคารอีกนับไม่ถ้วนที่เย่ว์หยางได้เยี่ยมชมเป็นเช่นนี้ แต่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกแม้ว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะดูแปลก แต่คนเห็นกลับไม่รู้สึกแปลก
ตรงกันข้ามกลับมีการแสดงถึงความสามารถทางศิลปะที่ไม่เหมือนใคร
ผู้คนทั้งที่เคยอยู่และไม่เคยอยู่ ทั้งเคยเห็นและไม่เคยเห็นทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ทั้งหมดที่เคยผ่านตาผ่านความคิดภูมิปัญญาของเย่ว์หยางจะปรากฏอยู่ภายในพฤกษาโลก มีทิวทัศน์ของทวีปมังกรทะยาน หอทงเทียนมีทิวทัศน์ของแดนสวรรค์ แม้แต่ในพื้นที่ฝึกฝนที่เย่ว์หยางรู้และเข้าใจหรือสร้างเป็นภูมิทัศน์เป็นการส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเป็นทุกอย่างที่อยู่ใต้พฤกษาโลกเท่านั้น แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดเหลือเชื่อเกิดรอบต้นไม้ใบ หรือเกิดในเกาะลอยฟ้า ทะเลสาบ มหาสมุทร ใครๆ ก็มั่นใจได้ว่า
ในอนาคตอันใกล้
บ้านทุกคนจะอยู่ใกล้พฤกษาโลก
รอจนวังเทียนหลัว ทางเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ วิหารนำทางระเบียงเวลา ฯลฯ แต่เกิดจากข้อมูลลึกลับที่ได้รับจากการฝึกฝนพลังคู่รักภายใต้พฤกษาโลกหรือโลกที่มีพื้นที่วุ่นวาย โลกที่เกิดใหม่ค่อยๆ เสร็จสิ้น
บ้านน้อยในเมืองไป๋ซือเฉิง และบ้านสวนในหุบเขาภมรร้อยบุปผานั่นคือพื้นที่ซึ่งเป็นโลกใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นในที่สุด
ทุกคนเข้าใจ
นี่คือสถานที่พักพิงที่เย่ว์หยางได้สร้างให้พวกเขา
ก่อนหน้านี้เป็นบ้านทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นสำหรับทุกคนเป็นการตอบแทนหรือยกย่องผู้ที่สนับสนุนเขา เฉพาะพื้นที่เล็กที่สุดและง่ายที่สุดเท่านั้นที่เขาสร้างเพื่อตัวเขาเอง หนึ่งนั้นคือบ้านอบอุ่นที่เขาอาศัยอยู่กับน้องสาวสองคนกับแม่สี่และที่หนึ่งคือบ้านสวนน้อยงดงามที่เขาอาศัยอยู่กับเสวี่ยอู๋เสียองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว อี้หนานและคนอื่นๆ ที่มีความทรงจำที่แสนหวานงดงาม
มีความคิดหนึ่งถูกส่งผ่านไปในพื้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดทันที
เห็นได้ชัดว่าเป็นพลังไม่มีใครเทียบ
เป็นการส่งข้อความจากใจถึงใจ
นั่นคือความคิดและเสียงของเย่ว์หยาง
“ก่อนอื่นขอให้ข้าได้กล่าวขอบคุณกับทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนข้าตอนนี้ข้ากำลังตื่นเต้น มีคำพูดมากมายแต่ยากจะอธิบายออกมาได้หมด ตอนนี้ข้าอยากร่วมยินดีสนุกสนานมีความสุขกับทุกคนจริงๆ แต่เวลาเรามีไม่มากการต่อสู้ยังรอข้าอยู่ คนทรยศตงฟางและผู้บุกรุกจากแดนสวรรค์จำนวนมากที่จับจ้องหอทงเทียนยังไม่ถูกขับไล่ ข้าไม่อาจอยู่ตรงนี้ได้ในตอนนี้หวังว่าพวกท่านจะยกโทษให้ข้า เย่ว์ไตตันยินดีต้อนรับทุกท่าน ที่นี่โลกใหม่แห่งนี้จะเป็นบ้านสำหรับทุกคนที่จะอยู่ร่วมกันในอนาคตและทุกคนจะได้รับการต้อนรับที่นี่เสมอ ไม่ว่าพวกท่านเต็มใจจะอยู่ที่นี่ไปตลอดหรือกลับไปที่หอทงเทียนหรือออกไปจากที่นี่แล้ว ที่นี่ก็ยังยินดีต้อนรับเมื่อพวกท่านกลับมา เนื่องจากโลกนี้ยังมีข้อจำกัดในด้านเวลา โลกใหม่จึงยังไม่สามารถบรรลุความสมบูรณ์แบบได้ยังมีอีกหลายแห่งหลายที่ต้องแก้ไข แต่ตอนนี้ข้ามีเวลาไม่พอ เอาไว้เมื่อได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ในอนาคตเสียก่อน และที่นี่ข้าหวังว่าทุกคนจะเข้าร่วมและสร้างบ้านในอนาคตของเราด้วยกัน รอให้ชนะตงฟางเสียก่อน ข้าเย่ว์หยางจะมาร่วมฉลองยินดีกับทุกท่านและจะนำพวกท่านบุกแดนสวรรค์ล้างอายให้หอทงเทียนหลายพันปี!”
“เข้มแข็งมากสมแล้วที่เป็นน้องของข้าเป็นพี่ใหญ่” เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นมากจนตัวสั่น
“เจ้าเป็นคนโรคจิตหรือเปล่า?” นางนวลน้อยผู้สูญเสียความทรงจำถอนหายใจ
“โอว, เจ้าก็ยอมพูดด้วยกับข้าหรือนี่?” เจ้าอ้วนไห่ดีใจแทบคลั่ง
“ถ้าเจ้านับคำสบถด่าไปด้วย นั่นก็ใช่” ทันทีที่นางนวลสายลมคิดถึงเมื่อมีคนบอกว่านางชอบเจ้าอ้วนน่ารังเกียจนี้มาก่อนนางอยากเอาหัวโขกเต้าหูตายนักทุกครั้งที่คิดถึงร่างกายนางสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ ก่อนนี้นางตาบอดไม่เคยเห็นเจ้าอ้วนนี้มาจริงๆ หรือ?นางหลงรักคนผู้นี้ที่เหมือนจอมปีศาจได้อย่างไร? นี่เป็นเรื่องหนักหนาเกินไปแล้ว!
“เจ้าด่าว่าข้าได้ไม่เป็นไร จะทุบตีด้วยความรักเพราะคันไม้คันมือก็ช่าง อาจเป็นเพราะตั้งแต่ข้ายังเด็กข้าคุ้นเคยกับการพูดเล่นไร้สาระก็เลยสุขภาพแข็งแรง ดูกล้ามข้าเสียก่อน!” เจ้าอ้วนไห่เบ่งไขมันอวด
“.......” นางนวลสายลมเกือบอาเจียน
“เย่ว์หยางมีเรื่องยุ่งยากมากมายต้องทำ และยังต้องรีบต่อสู้เขาไม่สามารถแยกร่างออกมาพูดคุยได้ ไม่มีทางมาในตอนนี้ แต่ไม่สำคัญ เราสามารถพักอยู่ที่นี่ก่อนเพื่อพักฟื้น ทุกคน! การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ยาวนานและหนักหน่วงยังมีอีกหลายศึกที่เราจะต้องร่วมสู้กันในอนาคต ตอนนี้เราควรตั้งถิ่นฐานของกลุ่มสร้างบ้านสร้างเรือนกันก่อนแล้วค่อยรอให้เย่ว์หยางเรียก! ฟังให้ดี เราต้องพร้อมที่สุดในการต่อสู้แค่รอให้เขาสั่งเท่านั้น!” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าแสดงทัศนคติแทนลูกศิษย์ของเขา นี่เป็นการยืนยันทัศนคติเชิงบวกของเหล่าผู้อาวุโสที่มีต่อผู้ติดตามและบริวารหลายคน พวกเขาสนับสนุนทุกคนและช่วยพูดเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทุกคน
หลังจากอาจารย์จิ้งจอกเฒ่า จุนอู๋โหย่ว ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ผู้เฒ่าหนานกงและผู้เฒ่าคนอื่นต่างเสนอความเห็นกันคนละเล็กน้อยแล้ว
และด้วยคำพูดที่เย่ว์หยางได้ติดต่อมาก่อนและรับคำแนะนำจากผู้อาวุโสเหล่านั้น
ผู้ติดตามทุกคนอยู่ในอารมณ์ที่ดี
พวกเขาปรบมือโห่ร้องอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มนำก่อนพวกเขาเดินไปตามทางจนถึงที่โปรดปรานของตนและบินกลับไปบ้านที่คุ้นเคยที่สุดของพวกเขา... บ้านดั้งเดิมอาจถูกศัตรูทำลายไปแต่จะสำคัญอะไร? คุณชายสามตระกูลเย่ว์สร้างให้พวกเขาใหม่ และในโลกใหม่แห่งนี้บ้านแห่งนี้กลายเป็นบ้านใหม่ของพวกเขา
ในโลกใหม่ใบนี้เย่ว์ไตตันมอบของกำนัลที่น่าอัศจรรย์ พวกเขายังจะกลัวว่าจะไม่มีบ้านที่อยู่อาศัยของตนเองอีกหรือยังจะกลัวอีกหรือว่าบ้านที่สร้างขึ้นใหม่นี้ด้อยไปกว่าบ้านเดิมแต่ก่อนของพวกเขา?
นั่นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
อย่าว่าแต่มีบ้านเลย ต่อให้ไม่มี พวกเขาก็สามารถใช้สองมือสร้างขึ้นมาใหม่ย่อมได้
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องทำตอนนี้คือเตรียมตัวให้พร้อมในสภาพสมบูรณ์ที่สุดถึงตอนนั้นคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะเปิดโลกและสร้างโลก ใช้พลังเทพเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
คุณชายสามจงเจริญ
“ขอให้คุณชายจงเจริญ”
“บ้านข้า บ้านข้า ข้ามีบ้านแล้ว!”
เมื่อพวกเขารีบเข้าไปภายในบ้านของพวกเขาและพบเห็นทุกอย่างสวยงามสมบูรณ์กว่าบ้านเดิมพวกเขาอดร่าเริงยินดีมิได้
การมีบ้าน
นั่นเป็นเรื่องดี
หลังจากกลับมาบ้านพวกเขาพบว่าความงดงามของบ้านมิอาจเทียบกันได้แต่สภาพใจของพวกเขารู้สึกว่ายอดเยี่ยม
ต่างจากผู้ติดตามที่กำลังกลับเข้าบ้านตอนนี้เย่ว์หยางรู้สึกปวดหัว
เขาต้องการหัวเราะอย่างมีความสุข แต่ว่าเขาไม่อาจทำได้
เพราะเขาพบเจอปัญหาใญ่
ปัญหานี้
อาจกล่าวได้ว่า ใหญ่เกินกว่าเขาจะรับมือได้
เรื่องก็คือเย่ว์หยางจมอยู่กับการหลับใหล และตื่นขึ้นเพราะความสะดุ้งตกใจทางวิญญาณในอดีตเพื่อให้การตอบแทนผู้ที่ติดตามสนับสนุนเขา เขาตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่ปั่นป่วน กระบวนการสมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อผิดพลาดไม่มีปัญหา ซึ่งเดิมทีเย่ว์หยางก็พอใจมาก
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกภูมิใจอย่างมากและในไม่ช้าเขาก็พบว่าเขาลืมอารมณ์ลืมทุกอย่างขณะสร้างโลกที่งดงามจากนั้นเขารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายในตนเอง การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเรื่องพลังหรือพัฒนาขอบเขตพลังแต่เป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด จนเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
อุบัติเหตุในตอนแรกเกิดง่ายมาก
มีดรุณีน้อยคนหนึ่งกำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยางยังไม่ยอมตื่น
หากดรุณีน้อยนี้คือเสวี่ยอู๋เสียหรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเย่ว์หยางก็คงกอดไม่ปล่อย
ถ้าดรุณีน้อยนี้คือโล่วฮัวหรืออี้หนานมันจะง่ายกว่านี้ อย่าว่าแต่แค่กอดเลยเขาอาจจะกลายเป็นหมาทำเรื่องที่มนุษย์ผู้ชายอยากทำ
ถ้าดรุณีน้อยในอ้อมแขนของเขาเป็นนางเซียนหงส์ฟ้าหรือราชันย์ปีศาจใต้
เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นเลย
เขาสามารถสนุกตามน้ำได้
ปัญหาที่ทำให้เย่ว์หยางรู้สึกปวดหัวอย่างไม่น่าเชื่อจนศีรษะพองโตเป็นสามเท่าก็คือสาวน้อยที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาไม่ใช่พวกนางดังที่กล่าวมาแต่เป็นคนที่เขามองทีไรจะรู้สึกปวดตับตัวสั่นนางคือดาวข่มในชีวิตเย่ว์หยางมาทั้งชีวิตยกเว้นแต่เทพธิดากระบี่ฟ้าและหญิงสาวที่เกิดจากพลังปราณกระบี่ฟ้า แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังไม่ทำให้เย่ว์หยางสำรวมมือเท้าได้
เพราะนางคือจื้อจุน!
ถ้าเป็นไปได้เย่ว์หยางอยากจะพัวพันตอแยองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสักพันครั้งให้นางไล่ทุบตีไล่ฟันสักหมื่นครั้ง แต่เขาก็ไม่ต้องการล่วงเกินจื้อจุนสักครั้ง
น่าเสียดายที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามต้องการ เมื่อเย่ว์หยางสร้างโลกใหม่เสร็จด้วยความพึงพอใจและเมื่อเขากำลังจะออกไปอวดกับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเขาก้มหน้าดูก็พบว่าจื้อจุนนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนเขาเงียบๆ
ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือร่างนางเปลือยเปล่าบอบบางขาวราวกับหยกเนื้อดี
ไม่สำคัญว่าเสื้อผ้านางจะเรียบร้อย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างหนักหนาความจริงก็คือจื้อจุนอยู่ในอ้อมกอดเขาในสภาพร่างกายอย่างนี้ เขาจะอธิบายได้อย่างไรมือใหญ่ของเขากดอยู่บนหน้าอกนาง?
เป็นที่คาดกันว่าทันทีที่นางตื่นขึ้น นางอาจฆ่าตัวตาย!
เย่ว์หยางจะบอกว่าเขาไม่กลัว
นั่นเป็นการโกหก
เทียบกับจื้อจุนแล้วองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลายเป็นแมวน้อยที่แสนเชื่องไปในทันที!
เย็นไว้ๆ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้? เย่ว์หยางรู้สึกว่าสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือต้องไม่ปัดความรับผิดชอบทั้งคงไม่ยอมปล่อยหญิงงามไร้เทียมทานมีผัสสะที่ยอดเยี่ยมนี้ไป แทนที่จะตกใจก่อนที่หายนะจะมาเยือน เขาพยายามสงบใจคิดถึงกระบวนการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่น่าลุ่มหลงนี้... “ความรู้สึกนี้ดีจริงๆ ไม่อยากรั้งมือกลับเลย”
“แต่ ช่างเรียบลื่นจริงๆ ถ้าข้าไม่อยากตายเร็วก็ต้องคิดหาทาง อ๊า..ข้ากำลังจะตาย” ต้องนึกถึงกระบวนการและความจริงก่อนถ้าปล่อยแล้ว ยังกลับไปจับอีก เขาคงโดนตัดมือแน่เมื่อนางตื่นขึ้น
“แต่ข้าทนไม่ได้ จื้อจุนผู้ยอดเยี่ยมอยู่อ้อมกอดของข้า ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก บ้าจริง”
“จะเอายังไงดี?”
เย่ว์หยางกระวนกระวาย
เขาต้องคิดหาวิธีที่ดีในทันทีแต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขาไม่มีสมาธิกับการคิดในตอนนี้
เวลาผ่านไปจื้อจุนอาจตื่นได้ทุกเวลาถึงเวลานั้นนางอาจตัดเขาเป็นสิบแปดชิ้น และประกอบจัดท่าใหม่อีกสามสิบหกท่า
โธ่เว้ย!
มันน่ากลัวเกินไป
ทั้งที่มีความสุข ทั้งเจ็บปวดน่าหวาดกลัวแต่ไม่เต็มใจจะปล่อยมือ นี่คือสถานการณ์ของเย่ว์หยางในตอนนี้