ตอนที่ 1302 ตื่นขึ้น
เจ้าอ้วนไห่ลืมตาขึ้นและพบว่าตนเองติดอยู่ในดวงกลมสีทอง
นอกลูกกลมออกไป ดูเหมือนเป็นพื้นที่ปั่นป่วนไม่สิ้นสุด
ไม่อาจมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ง่าย
ร่างของเขา
ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
แม้แต่การขยับนิ้วก็ยังรู้สึกหนักอึ้ง แต่ความคิดของเขาปราดเปรียว เจ้าอ้วนไห่ยังจำความอึดอัดใจเมื่อเขาฉี่ราดที่นอนตอนเด็กได้ มันแปลกมากเขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? เขาเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งชีวิตแบกรับพลังชะตาให้กับเย่ว์หยางและกลายเป็นความว่างเปล่าไม่ใช่หรือ?
เกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนเขายังมีชีวิต?
ขณะที่เขายังงุนงงหลังจากไตร่ตรองนานนับร้อยครั้งทันใดนั้นความกดดันบนร่างกายก็หายไป ลูกแก้วกลมทองใสที่คลุมตัวแตกกระเทาะออกไปราวกับเปลือกไข่ และร่างที่ใหญ่โตไม่สามารถควบคุมตนเองได้หล่นตุ้บลงบนพื้นดินที่แปลกประหลาดไม่มีเมฆหรือหมอก ที่นี่ท้องฟ้าโปร่งใสเล็กน้อย แต่ไม่แตกต่างจากพื้นดินมากนัก นอกจากนี้ยังอยู่ในสภาวะสับสนวุ่นวายเช่นเดียวกับโลกคัมภีร์ที่กำลังถูกสร้างและยังไม่เปิดใช้งาน
“นี่ที่ไหนกัน? โอว, ข้ายังไม่ตาย ข้า ข้ายังไม่ตาย!” เจ้าอ้วนไห่ยกมือขึ้นและสังเกตเป็นเวลานานในที่สุดเขาหยิกแก้มแรงๆ และพบว่าเจ็บปวดแทบทนไม่ได้เขาประหลาดใจและอดตะโกนขึ้นไม่ได้
“มีคำกล่าวว่าคนดีอายุไม่ยืนยาว คนเลวตายยากตายเย็น นี่เป็นเรื่องจริง!” มีเสียงดังกรอกหูเขาอีกฝ่ายคือเย่คงนั่นเอง
“เจ้าลิงผอม! เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ?” เจ้าอ้วนไห่หันไปมองและกระโดดกอดเย่คงอย่างดีใจ
เขาพบว่า
เขาไม่เคยตื่นเต้นซาบซึ้งมาก่อนในชีวิต
หากไม่ใช่เพราะเย่คงเอามือกันไว้เจ้าอ้วนไห่คงจูบเขาไปแล้ว “เยี่ยมมากเจ้าลิง! ถ้าเจ้าตาย ต่อไปข้าไม่มีคนทะเลาะด้วยชีวิตคงเหงาแย่ ข้าคงใช้เวลาอย่างยากลำบาก!”
องค์ชายเทียนหลัวปรบมือหัวเราะลั่น “เย่คงพูดถึงความรู้สึกของสหายและครอบครัวหรือเปล่า? ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นสักขีพยานมิตรภาพในระหว่างพวกเจ้า!”
หน้าของเย่คงบิดเบี้ยว เพื่อนแสนรัก? กับเจ้าอ้วนไห่นี่นะ?
บัดซบ!
เรื่องแบบนี้ ถ้าปล่อยให้พูดกันไปเขาคงรู้สึกอยากอาเจียนเป็นแน่
ที่แย่ที่สุดคือเสวี่ยทันหลางคนที่ไม่ชอบนินทาใครยังแกล้งพูดด้วยความอิจฉา “มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ข้าเห็นแล้ว!”
ตอนนี้เย่คงไม่อยากทำอะไร เขาอยากตาย
เจ้าอ้วนไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์ดี หากเขายังไม่ตายในฐานะเพื่อนนี่นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี! เขารีบเข้ามาหาทั้งจับมือและกอดทีละคนองค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางกอดทักทายด้วยความยินดีพี่น้องตระกูลหลี่ที่เพิ่งหลุดออกมาและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เว้น
“ในฐานะพี่ใหญ่ข้ามีลางสังหรณ์กล้าแข็งมานานแล้วในที่สุดเจ้าเด็กเย่ว์หยางก็ทำได้สำเร็จแน่นอน เราไม่อาจตายได้ ฮ่าฮ่าข้าเดาถูกฮ่าฮ่า อัจฉริยะไม่มีใดเทียบ เราคุณชายเป็นอัจฉริยะอยู่เสมอ!” เจ้าอ้วนไห่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เต้นแร้งเต้นกาดีใจ
“อัจฉริยะ? งี่เง่าขนานแท้!” เย่ คงอดต่อยปลายคางเจ้าอ้วนไห่จนลอยขึ้นไปในอากาศไม่ได้
“นี่ที่ไหน?” เขาร่วงลงมาที่พื้นอีกครั้ง
แต่รอจนกระทั่งลงมายืนที่พื้น
นกนางนวลสายลมบินมาหาและแปลงร่างเป็นมนุษย์
เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นจนหัวใจแทบกระดอนออกมาจากลำคอรีบเข้าไปหานางนวลสายลม แต่เมื่อเขาเอื้อมมือทำท่าจะกอดนาง เท้าน้อยๆยันใส่หน้าเขากระเด็นออกไปร้อยเมตร “เจ้าตัวประหลาด เจ้าเป็นใคร? กล้าเสียมารยาทกับข้าได้อย่างไร?และพวกเจ้าเล่า? พวกเจ้าเป็นใคร? ทำไมข้ามาปรากฏตัวที่นี่?”
เย่คงและคนอื่นมองดูตกตะลึงกันหมด
อะไรกัน
นางนวลน้อยที่แปลงร่างเป็นมนุษย์สูญเสียความจำหรือ?
เมื่อมองดูนัยน์ตานาง ไม่เหมือนกับว่าโกหกสายตานางมีความงงงวยและหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยไม่สามารถแสร้งแสดงออกได้
คนที่น่าสมเพชที่สุดคือเจ้าอ้วนไห่เขาคิดว่าได้ใจหญิงงามนางนวลสายลมผู้ที่เขาไม่ต้องการให้นางแบกรับพลังชะตาเกินกำลัง แม้ว่าจะเปลี่ยนชะตาได้แต่ความทรงจำของนางกลับหายไป นับเป็นโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึงจริงๆ! เขายกมือค้างอย่างลำบากใจยังไม่มีเวลาทำใจกับการกลายเป็นคนแปลกหน้า
“ข้า ข้า ขะ..”เจ้าอ้วนไห่รู้สึกว่าแม้มีถึงสามพันปากก็ยากจะพูดเหตุผลออกมาได้ เขาได้แต่กระวนกระวาย
“ความจริง เรื่องเป็นเช่นนี้” โชคดีที่เย่คงและคนอื่นไม่ได้ถูกทำร้ายเขาอธิบายให้นางฟัง มิฉะนั้นเจ้าอ้วนไห่คงแขวนคอตายและนี่คงเป็นความกระทบกระเทือนใจที่สุดในชีวิตของเขา
นางนวลสายลมเบิกตากว้างฟังเรื่องราวอย่างจริงจังและระมัดระวังตัวแต่นางไม่แน่ใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ชายเทียนหลัวพูดถึงอดีตของนาง
นางคัดค้านทันทีและส่ายหน้าโบกมือปฏิเสธ “ไม่ ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะชอบเขา ถ้าเจ้าจะแต่งนิยายหลอกข้าก็ควรจะมีเหตุผลให้มากกว่านี้ ข้าจะไปชอบเจ้าอ้วนนี่ได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนข้าไม่ได้มีรสนิยมหนักหนาอย่างนั้น แม้ว่าข้าจะไม่ชอบผู้ชายหล่อเหลามาก่อน แต่ข้าไม่ได้ชอบเจ้าอ้วนผู้นี้มันไร้เหตุผลเกินไป พวกเจ้าไม่ต้องโกหกข้า บางทีข้าอาจเคยเป็นนกที่เขาเคยจับได้และขังข้าไว้ในกรง แต่เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะชอบเขา ข้าแน่ใจเต็มร้อย ไม่ว่าเจ้าจะร้องไห้ยังไง ข้าก็ไม่มีทางชอบเจ้า!”
เจ้าอ้วนไห่ตะลึง
โชคชะตาลิขิตว่าเขายากที่จะได้รับความรักที่ใฝ่ฝันยามเมื่อเขาตาย แต่พอเขากลับได้ชีวิตกลับมานางกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า ถ้านางต้องการล้อเล่น ก็อย่าล้อเล่นนานนัก
“สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อ?” เจ้าอ้วนไห่ถามอย่างอ่อนใจ
“ไม่, ข้าไม่เชื่อ!” นางนวลสายลมยังคงยืนยัน
“แล้วเจ้าจะชอบข้าได้ยังไง?ข้าหมายถึง ข้ายังต้องไล่ตามง้อเจ้าสร้างความประทับใจให้เจ้า ไม่ว่าเจ้าจะจำได้หรือไม่ข้าจะทำให้เจ้าประทับใจด้วยความจริงใจยิ่งกว่าเดิมเท่าตัว!” เจ้าอ้วนไห่ยิ่งพูดก็ยิ่งมั่นใจเขารอดชีวิตมาได้ ตราบใดในอนาคตเมื่อเขาพยายามหนักขึ้น เขาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน
“อย่าทำเรื่องไร้ประโยชน์อย่างนั้นเลย!” น่าเสียดายที่นางนวลสายลมไม่คล้อยตาม
เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้เย่คงและพวกได้แต่มองหน้ากันอย่างอึดอัด
น่างงงวยเกินไป
ใครจะคิดกันเล่าว่านางนวลสายลมที่ร่ำไห้คร่ำครวญ“ข้าจะไม่ตีเจ้าอีกต่อไป ข้าจะทำดีกับเจ้ามาทำสัญญากับข้าอีก อย่าทิ้งข้า อย่าปล่อยข้าไว้คนเดียว’ นางนวลสายลมลืมอดีตอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามไม่มีวิธีอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ต่อให้พูดมากกว่านี้
นางนวลสายลมไม่เชื่อ ไม่มีทาง แม้ว่าเขายืนยันทำเช่นนั้นแต่กลับได้ผลที่ตรงกันข้าม
“นี่ไม่เป็นไร ถ้ายังทะเลาะกันได้ก็ยังมีความหวัง!” การแบกรับพลังชะตาเพื่อให้เย่ว์หยางสำเร็จเป็นเทพราชันย์เป็นการกระทำที่ท้าทายตราบที่มีความจริงใจ ในโลกนี้ยังมีอะไรยากอยู่อีก
“พอเถอะ!” เสวี่ยทันหลางแค่นเสียงเบาๆ
“เฮ้,ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้าก็มีทักษะแฝงเร้นลิ้นพิษทักษะนี้ซ่อนเร้นไว้ลึกเกินไปหรือเปล่า?” เย่คงสงสัยว่าพลังชะตาจะทำให้คนผู้นั้นเปลี่ยนไปหรือไม่
ขณะที่พวกเขากำลังถอนหายใจ ระหว่างโลกกับสวรรค์พวกเขาไม่รู้ว่านี่คือที่ใด ทันใดนั้นจู่ๆ คนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นออกมาจากช่องมิติว่างบางคนพวกเขาก็รู้จัก บางคนก็ไม่รู้จัก มีทั้งมนุษย์และมิใช่มนุษย์มีกระทั่งแม้แต่คนที่พวกเขาคิดไม่ถึง ทุกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ทุกอาณาจักรที่ผุดเกิดขึ้นมาเองไม่เพียงแต่พวกเย่คงเท่านั้นที่ตกใจ พวกเขาเองก็ตกใจเช่นกัน
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบเจอสหายและคนที่รู้จัก
อย่างเช่นหัวหน้าจินฟันทองเปากู่หัวกลมซึ่งเป็นนักแสวงหาผลประโยชน์และกำไร แน่นอนว่ากลุ่มนี้ย่อมมีเจ้ากบจั๊ดด์ที่เป็นคนจำพวกเดียวกัน
และเช่นกันพวกจากแดนสวรรค์ที่มาพบเจอกันอย่างหมิงลี่ฮ่าวหนุ่มผมงูฉางฟงนักสู้จากแดนสวรรค์เมื่อมาพบกันก็อดจับมือกันไม่ได้
เหมือนกับพี่น้องที่ไม่ได้พบเจอกันมาหลายปี
และมีอารมณ์อ่อนโยนเป็นพิเศษ
แน่นอนว่ายังมีอดีตศัตรูเก่าต่างเปลี่ยนอาวุธเป็นผ้าไหมแพรพรรณ(จากศัตรูเป็นมิตร)ตัวอย่างในประวัติศาสตร์เช่นราชินีเอลฟ์ทองกับราชินีซัคคิวบัสทั้งสองฝ่ายพบปะทักทายอย่างเป็นกันเองเป็นมิตรภาพที่หล่อหลอมขึ้นมาหลังจากแบ่งปันโชคชะตา
บางทีอาจไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ยังไม่สายเกินกว่าจะสร้างมิตรภาพขึ้นมาในบัดนี้
พวกเขายังเข้าใจด้วยว่าหลังจากชะตาพลิกกลับแล้วทุกอย่างในอดีตจะเปลี่ยนไปเผ่าพันธุ์ของพวกเขาจะผูกติดกับผู้นำคนใหม่ในฐานะบริวารผู้ติดตามเย่ว์ไตตันเป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มต่อสู้กันเหมือนเมื่อก่อนในกลุ่มเอลฟ์ทองนั้นไม่ได้มีแค่ลีนและแอนนาซึ่งร่วมฝึกอยู่ในกลุ่มของเย่ว์หยางเท่านั้นแต่ยังมีเป่าเอ๋อที่เหมือนกับเป็นน้องสาวของเขา แต่เผ่าซัคคิวบัสทุกคนรู้จักคุณชายสามตระกูลเย่ว์ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับพรจากซัคคิวบัสนับหมื่นนำโดยราชินีซัคคิวบัสอวยพรงานแต่งงานระหว่างเขากับเทียนฟาที่วังซัคคิวบัส
กล่าวอีกนัยหนึ่งในอนาคตทั้งสองเผ่าพันธุ์นี้ถึงจะไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันแต่ก็เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
ความเกลียดชัง การทะเลาะแก่งแย่งจะนำอนาคตมาให้หรือ?
รอยยิ้มและความรักต่างหากจะขจัดความเกลียดชังได้
ทั้งสองเผ่าพันธุ์ต้องทำ และถึงเวลาต้องทำกันเดี๋ยวนี้
พวกเอลฟ์ทองที่ทุกคนกระตือรือร้นแสวงหาและเผ่าพันธุ์ซัคคิวบัสที่พวกเขาเคยได้ยินแต่ชื่อทุกคนกำลังโอบกอดกันปฏิบัติกันเหมือนกับเป็นพี่น้อง และเช่นเดียวกันกับสองเผ่าพันธุ์นี้เผ่าพันธุ์อื่นหรือมนุษย์ที่มีความแค้นต่อกันแม้จะเป็นเผ่าปีศาจมีสติปัญญาน้อยต่างวางอคติยอมรับความสัมพันธ์ใหม่
แม้ว่าเย่ว์หยางจะยังไม่ปรากฏตัวแต่ทุกคนรู้ว่าเขาทำได้สำเร็จ
อีกไม่นานเทพราชันย์คนใหม่จะมาถึง
แต่โชคชะตา
ด้วยความพยายามและเสียสละของผู้สนับสนุนทุกคนเป็นผลให้เกิดอนาคตใหม่
อัศวินมังกร นักรบเลือดมังกรและนักรบนับไม่ถ้วน ทหารรับจ้างทาสส่งเสียงโห่ร้องฉลองความยินดีพร้อมกันเสียงกึกก้องราวกับแผ่นดินจะถล่มทลายในท่ามกลางโลกที่มีพื้นที่ปั่นป่วนซึ่งยังสร้างไม่เสร็จอย่างสมบูรณ์นักรบของทวีปมังกรทะยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุนอู๋โหย่ว ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าตื่นเต้นน้ำตาคลอ
เทพราชันย์เกิดได้ยากยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ใดๆแต่นี่เกิดมาได้ด้วยพลังสนับสนุนของพวกเขา
นอกจากนี้คนผู้นี้ยังมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพวกเขา!
เขาเป็นผู้เยาว์ที่เติบโตขึ้นมาขณะที่พวกเขามองเห็นเป็นประจักษ์ถึงความก้าวหน้าทีละขั้นๆจนกระทั่งได้มีวันนี้ ความภาคภูมิใจเช่นนี้หาคำพูดใดๆ มาอธิบายไม่ได้
เทพเจ้า
ด้วยมือของเขาเองและด้วยการสนับสนุนของเขาจึงเกิดการสร้างเทพได้!
แม้กระทั่งพลังของเทพนี้ยังเหนือยิ่งกว่านักสู้ระดับเทพทั่วไปเทพราชันย์
ขณะที่กลุ่มอสูรนับไม่ถ้วนบินออกมา และฮุยไท่หลางปรากฏตัวลอยอยู่ในท้องฟ้าราวกับราชาครองโลกมันแหงนหน้าขึ้นฟ้าหอนเรียกเจ้านาย ทุกคนรอคอยการมาถึงของเขาอย่างกระตือรือร้น
เพราะบุรุษผู้นี้ ทุกคนถึงได้ทอดทิ้งทุกอย่างทิ้งทั้งชีวิตมองผ่านความเป็นความตายที่ยากลำบาก สนับสนุนเขาโดยไม่มีความเสียใจหรือเรียกร้องอะไร
ตอนนี้ ในพื้นที่สร้างใหม่ ยังไม่มีพื้นที่อื่นเพราะโลกยังปั่นป่วน
ทุกคนมองหาการปรากฏตัวของเขา
เขา
ต้องมีเขา
จากนั้นก็มีปาฏิหาริย์เหมือนกับโลกที่ยังไม่สมบูรณ์ยังอยู่ในความปั่นป่วนโกลาหล ตราบเท่าที่เขาปรากฏตัว พวกเขาเชื่อว่าโลกจะกลับมาสวยงามทันที! แม้ว่าเขาจะยุ่งมากและยังไม่สามารถสร้างโลกที่สวยงามที่สุด จากนั้นทุกคนจะสนับสนุนเขาร่วมสร้างโลกที่อยู่ในสภาวะปั่นป่วนนี้ทำให้เป็นบ้านเมืองที่งดงามที่สุดในโลก!
แค่รอให้เขาปรากฏตัว รอให้เขาออกมา รอให้เขาพยักหน้า “ออกมาเถอะ ไม่ใช่แค่ฮุยไท่หลางเท่านั้นพวกเราทุกคนก็ใจร้อน อยากพบท่านผู้ที่เราสนับสนุนเต็มที่เพื่อให้เลื่อนเป็นเทพจอมราชันย์ผู้สง่างามรุ่งเรืองด้วยศักดิ์ศรี! มาเถิด ท่านอาจจะหลับอยู่จงตื่นขึ้นมา ท่านได้ยินเสียงพวกเราไหม?” เย่คงตะโกนร้อง พร้อมกับเสียงเห่าหอนเรียกของฮุยไท่หลาง
“ตื่นเถิด! ตื่นเถิด!” เสียงผู้คนชูมือตะโกนร้องพร้อมกับเย่คง
นอกจากนี้ยังมีคนนับไม่ถ้วนยกมือทาบอกตะโกนลั่นพร้อมกันอธิษฐานในใจขอให้เขาออกมา
บางทีเพราะพลังเสียงเรียกร้องบุรุษผู้หนึ่งที่หลับอยู่ในท่ามกลางพื้นที่ปั่นป่วนของโลกคัมภีร์ค่อยๆลืมตาขึ้น...