ตอนที่ 1300 เส้นทางไม่หวนกลับ
หอทงเทียนชั้นที่สิบ
ในขณะที่กองทัพอัศวินมังกรนักรบเลือดมังกรทั้งสองกลุ่ม ทหาร นักรบทหารรับจ้างที่ติดตามสนับสนุนเย่ว์หยางตกอยู่ในสภาพคลั่งไคล้ทันใดนั้นพวกเขาเหมือนถูกควบคุมด้วยมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นทั้งหมดจึงค่อยหลุดออกจากความบ้าคลั่งและตื่นขึ้น
พวกเขาไม่มีเวลาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพวกเขาและความจริงที่โหดร้ายตามมาหลังจากนั้น
ถูกหลอก!
พวกเขาถูกหลอกโดยไม่คาดคิด ถูกหลอกอย่างน่าสมเพชยิ่งนัก “โปรดทราบ, สหายที่รักของข้า, ไม่สิสหายชาวเมืองทั้งหลาย ที่เจ้าได้ยินนั้นเป็นข้าเอง เป็นคนที่พวกเจ้าเกลียดชังเข้ากระดูกดำคนที่พวกเจ้าอยากฉีกเนื้อออกเป็นพันๆ ชิ้นและดื่มเลือดกินเนื้อข้า ถลกหนังมาปูนอนข้าคือตงฟางผู้ชั่วร้าย คนทรยศหอทงเทียน ในแดนสวรรค์เรียกข้าว่าเจ้าตำหนักใหญ่แห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ข้าได้ยืมชื่อของคุณชายสามตระกูลเย่ว์เพื่อหลอกลวงเจ้าพวกมดแมลงผู้โง่เขลาและขโมยพลังศรัทธาของพวกเจ้าพร้อมกับพลังของอสูรศึกที่พวกเจ้าทำสัญญาด้วยเช่นกัน บางทีพวกเจ้าอาจยังสับสน บางทีพวกเจ้าอาจยังงงงวยหรืออาจจะโกรธจนปอดและหัวใจจวนเจียนจะระเบิดก็เป็นได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีความสัมพันธ์กันเพราะความโกรธของพวกเจ้าจะไม่เปลี่ยนความจริงที่โง่เขลาของพวกเจ้าไปได้แม้แต่น้อยตรงกันข้ามศรัทธาของพวกเจ้าพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเจ้าต่ำต้อยเล็กน้อยเพียงไหน สหายที่รัก! อาจจะบอกได้ว่าพวกเจ้าไร้ความสามารถก็คงไม่ผิดไปนัก ความโง่เป็นภาพสะท้อนสติปัญญาที่แท้จริงของพวกเจ้า ข้าไม่ต้องการโจมตีพวกเจ้า แต่พวกเจ้าไม่มีอะไรที่สมควรได้รับการยกย่องนอกจากส่งความโง่เง่าคลั่งไคล้ปริมาณมากมาให้ข้า.....นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงในการบอกความจริงกับพวกเจ้า จงฆ่าตัวตายอย่างโกรธแค้นติดตามคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่ไม่ประสบความสำเร็จซะเถอะ จงตายไปด้วยกัน!”
“อะไรนะ?”แม้ว่าพวกเขาจะหวังว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เสียงของตงฟางนั้นแทรกซึมอยู่ในแก้วหูทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะอุดหูก็ตามแต่เสียงก็ยังชอนไชผ่านไปถึงใจของพวกเขาได้
“หอทงเทียนต้องไม่มีความหวังในอดีตข้าได้สาบานไว้แล้วว่าจะต้องทำลายมันด้วยน้ำมือตนเองและจะไม่ลืมน้ำใจของพวกเจ้าที่ช่วยเติมเชื้อเพลิงเร่งให้มันพังพินาศเร็วขึ้น ความโง่เขลาของพวกเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจและมันช่วยข้าได้อย่างมาก น่าเสียดายที่คุณชายสามโชคร้าย เพราะมีคนโง่เง่าอย่างพวกเจ้าเป็นพวก เดิมทีเขาก็ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก แต่เพราะต้องแบกรับการโจมตีอย่างมากมายทั้งข้ายังได้ความโง่ของพวกเจ้าช่วยด้วย จึงทำให้เขาทำอะไรก็ติดขัดไปหมดจริงหรือเปล่า? หรือไม่จริง เป็นเพราะพวกเจ้าพวกเจ้าต่างหากที่ทำลายเย่ว์ไตตัน!”
“ไม่!”อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรกุมศีรษะด้วยความรู้สึกเจ็บปวดพวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะถูกศัตรูใช้เป็นเครื่องมือและในทางกลับกันกลับสร้างผลกระทบต่อคุณชายสามตระกูลเย่ว์อย่างไม่อาจย้อนกลับได้
“ข้าไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว!” หลายคนเงื้ออาวุธของตนเอง และพวกเขาไม่ต้องการมีชีวิตต่อความคิดแรกของพวกเขาคือฆ่าตัวตาย
“ลาก่อน, สหายที่ฉลาดของข้าข้าจะไม่มีวันลืมพวกเจ้า ในประวัติศาสตร์โลกพันปี คนโง่ๆอย่างพวกเจ้าหาได้ยากจริงๆ! ทุกวินาทีที่พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ทำให้อากาศเสียมลภาวะเป็นพิษทำลายความบริสุทธิ์ของหอทงเทียน ข้าไม่รู้จักสิ่งมีชีวิตอย่างพวกเจ้าแล้วพวกเจ้ายังบากหน้ามีชีวิตต่อไปได้อย่างไร มดแมลงอย่างพวกเจ้ารีบๆ ยกมือฆ่าตัวตายไปเสียดีกว่านั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว!” เสียงของตงฟางฟังชัด ทำร้ายจิตใจยิ่งกว่าปีศาจ หลังจากทุกคนได้ยินมีความรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกทิ่มแทงด้วยมีดคมจนหลั่งโลหิต
เมื่อภาพตงฟางหายไปในความว่างเปล่าทหารแทบทุกคนล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงเหมือนดินโคลนเหลว ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
แต่ละคนเอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหัวใจ เดิมทีพวกเขาต้องการติดตามคุณชายสามตระกูลเย่ว์ร่วมกันต่อต้านการรุกรานจากแดนสวรรค์เพื่อปกป้องบ้านเกิดทุกคนจิตใจระอุกรุ่นเลือดลมพลุกพล่านต่อสู้ด้วยพลังเต็มที่เพื่อสร้างอนาคตให้หอทงเทียน
แต่บัดนี้ไม่มีเกียรติยศมีแต่ความอัปยศอดสู และความโง่เขลาเท่านั้นที่จะตราตรึงตลอดไป
ทำไม?
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
ทำตามความเชื่อศรัทธาผิดด้วยหรือ?
เมื่อกองทหารทั้งหมดร่ำไห้ด้วยความรู้สึกละอายมีทหารนับไม่ถ้วนยกอาวุธขึ้นเตรียมพร้อมจะขจัดความเจ็บปวดและความละอายใจด้วยเลือดจากลำคอพวกเขาทันใดนั้นมีคนลุกขึ้นยืนชูแขนตะโกนเสียงดังสนั่น “เจ้าพวกโง่!ความตายไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาสักหน่อย! พวกเจ้าทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ศัตรูหัวเราะอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น! ฟังให้ดี ถ้าพวกเจ้ายังมีเหตุผลมีความสามารถคิดได้ ก็อย่าปล่อยให้ความตื่นตกใจครอบงำพวกเจ้าสิ่งที่พวกเจ้ากำลังทำอยู่นี้นั่นเป็นความประสงค์ต้องการของเจ้าคนทรยศ เขากำลังรอการใช้ชีวิต เลือดเนื้อ วิญญาณของเราก็เท่ากับเป็นการบูชายัญตามที่เขาต้องการ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วนั่นจะส่งผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ต่อคุณชายสามตระกูลเย่ว์ พวกเจ้าต้องการมีส่วนร่วมกับการกระทำอย่างนี้หรือ? พวกเจ้าแน่ใจไหมว่าต้องการทำเช่นนั้นจริงๆและต้องการผลักดันคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่พากเพียรอย่างหนักลงเหว ลุกขึ้นยืน,ถ้าเราจะตายก็ต้องตายด้วยศรัทธาของเรานั่นจะทำให้เป้าหมายที่เราเสียสละมีคุณค่ามากขึ้น!”
“ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนั้น เราถูกหลอกขโมยเอาพลังและพลังอสูรไป และไม่มีทางต่อสู้ร่วมกับเย่ว์ไตตันได้ แต่เราไม่อาจตายแบบนี้ แม้ว่าเราจะตายเราต้องช่วยเย่ว์ไตตันให้สำเร็จ เขาต้องการความความช่วยเหลือของเราแม้จะเป็นเพียงบทบาทเล็กๆ เราก็ต้องไม่ยอมแพ้!เราไม่มีความแข็งแกร่ง แต่เรามีร่างกาย มีชีวิต มีลมหายใจมาเถิดเรามาแบกรับชะตาของเย่ว์ไตตันกัน ตราบเท่าที่เราทุ่มชีวิต เราต้องช่วยเย่ว์ไตตันได้อย่างแน่นอน!” เหลยปัน ผู้เยาว์แห่งตระกูลเหลยและพูดสนับสนุนทูตมังกรจางหลานอี้
“เราทำได้หรือ?” อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรลุกขึ้นยืนและดวงตาพวกเขาเป็นประกายอีกครั้ง
“แน่นอน เรายังมีชีวิตอยู่ นี่คือสิ่งที่ศัตรูต้องการหลอกลวง แต่ไม่สามารถหลอกลวงได้ เราต้องใช้มันเพื่อแลกกับความสำเร็จของคุณชายสามตระกูลเย่ว์!” ผู้ที่ยืนขึ้นตอนนี้คือองค์ชายเผ่าภูตบูรพาหลงผาน
เขาคือโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิมังกรแต่เป็นพี่ชายของราชันย์ปีศาจใต้และเป็นสามแม่ทัพใหญ่ของกองทัพอัศวินมังกร
เพราะบุคลิกของเขาสบายๆรักอิสระ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถมากแต่เขาไม่สนใจวิทยายุทธ์จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเขาได้รับแรงบันดาลใจจากยอดฝีมือดาวรุ่งอย่างเย่คงเจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางในทวีปมังกรทะยาน ก่อนจะเข้าร่วมกลุ่มอัศวินมังกร เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งจนเป็นถึงผู้บัญชาการใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่าผู้บัญชาการใหญ่อีกสองคนจากเผ่าโยวหมิงและตำหนักจันทรา
เขายืนขึ้นและยืนยันคำพูดของทูตมังกรจางหลานอี้และเหลยปันทำให้พวกอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรสงบลง
“เรามาลุกขึ้นยืนอีกครั้งมาช่วยกันแบกรับชะตาของเย่ว์ไตตันต่อไป เขาจะไม่ยอมแพ้แน่นอน และเราต้องไม่ยอมแพ้แม้ว่าเราจะไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่....”
“สหายของเราทุกท่านเราคือสหายศึกที่สนิทกันที่สุดในหอทงเทียน...”
“คราวนี้เราจะไม่ถูกศัตรูล่อลวงอีกต่อไป ข้ารู้สึกถึงพลังแห่งชะตาอีกครั้งต่อให้ร่างกายของข้าจะแหลกราญกลายเป็นธุลีข้าจะไม่สนใจอีกต่อไปตราบใดที่ประสบความสำเร็จ ตราบใดที่ร่างกายของข้าได้รับผลโชคชะตาเพียงเล็กน้อย ชะตาของข้าจะไม่ก้มหัวให้เจ้า แม้ว่าข้าจะสู้เจ้าไม่ได้แต่บุรุษที่ข้าสนับสนุน เขาจะต้องเชิดหน้ายืดอกและบีบเจ้าไว้ในเงื้อมมือของเขา! ต่อให้ร่างกายข้าสูญสลายไปแล้วมีความสำเร็จ ถ้ามันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นอนาคตของบุรุษผู้นั้นได้ข้าก็ยอม! การมีอยู่ของข้าคือความภักดีความแน่วแน่ไม่มีพลังใดจะสั่นคลอนศรัทธาข้าได้อีก...”
อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรยืนขึ้นทีละคนและพวกเขาจับมือร่วกัมนต้านทานพลังดึงดูดของชะตา
ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้
ตอนนี้พวกเขาจะไม่บ่นเกี่ยวกับน้ำหนักของพลังชะตาอีกต่อไป
พวกเขาไม่สนใจความเป็นความตายอีกต่อไปเพราะพวกเขาเหลืออยู่แต่ชีวิตเท่านั้น
ในท้องฟ้าแสงเทพฉายลงบนใบหน้าและมือร่างกายของบุรุษผู้ภักดีเหล่านี้ทำให้พวกเขาดูสงบสำรวมเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้!
แสงจากสวรรค์ส่องออกมาจากม่านเมฆขยายเพิ่มมากขึ้นๆในท้ายที่สุดกลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่มองดูเหมือนน้ำตกแสง ภายใต้ลำแสงนี้ดูเหมือนว่าความชั่วร้ายและสิ่งสกปรกโสมมทั้งหมดในโลกได้รับการชำระให้บริสุทธิ์การละทิ้งและเสียสละอันบริสุทธิ์นี้ใกล้เคียงกับความภักดีนิรันดร
นี่คือคำตอบที่เงียบซึ่งเขามีต่อผู้หลอกลวง
นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนที่ดีที่สุดของผู้ติดตาม
ในอีกพื้นที่หนึ่ง
ภาพเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางปรากฏอยู่ต่อหน้าคนอื่นส่งเสียงเสียงที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ แต่สิ่งที่เสียงนี้เปิดเผยไม่ได้เป็นการเยาะเย้ยหรือกระทบกระเทียบแต่เป็นการล่อลวงและสมรู้ร่วมคิด
“เหยียนพั่วจวินและฟงชิซาเป็นที่รู้จักกันดีในนามว่าคือสามดาวรุ่งมือสังหาร แต่ตอนนี้ดูตัวเจ้าเองสิยังเป็นคนแข็งแกร่งอยู่อีกหรือไม่? ครั้งหนึ่งเจ้าเคยได้รับเกียรติร่วมกับเสวี่ยทันหลางตอนนี้เจ้าลองดูตัวเองสิ สถานะนักสู้หายไปไหน? เจ้าอยู่ต่อหน้าเย่ว์ไตตันยังด้อยกว่าสุนัขตัวหนึ่ง! ใช่แล้วแม้แต่สุนัขเฝ้าบ้านฮุยไท่หลางยังน่ากลัวยิ่งกว่าเจ้า แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจเมื่อเทียบกับเจ้า! ไม่, เจ้าด้อยยิ่งกว่าสุนัขไม่มีอะไรดีกว่าขยะอย่างเจ้าอ้วนไห่ ไห่ต้าฟู่ ปกติแล้วเจ้านั่นเป็นถังขยะ เป็นโคลนใต้เท้าเจ้า แล้วตอนนี้เล่า? เขาเหยียบหัวผ่านพวกเจ้าทำให้พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอจะผายลมต่อหน้าเขา...นี่คือชีวิตที่เจ้าต้องการใช่ไหม?นี่คือความแข็งแกร่งและทักษะแฝงเร้นที่แท้จริงของเจ้าหรือ? โอว ไม่ พวกเจ้าเป็นผู้มีพรสวรรค์มากที่สุด แต่เจ้าริษยาเย่ว์ไตตัน เขาโจมตีเจ้าไม่เพียงแค่นั้น ไม่เพียงแต่สุนัขของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าอ้วนไห่ที่มีความเป็นขยะมากที่สุด เย่คงที่เกือบอดอาหารตายและสองพี่น้องตระกูลหลี่ที่เป็นทหารรับจ้างที่ไม่สามารถเข้ากันได้เจ้าพวกนี้บังอาจตีเจ้าที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของพระเจ้า ฮ่าฮ่า เย่ว์ไตตันชอบเล่นแบบนี้มากที่สุด! ถ้าพวกเจ้าต้องการไปต่อก็ต้องกลายเป็นแบบเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ที่เคยเป็นขี้โคลนใต้เท้า เจ้าอาจมีชีวิตต่อไปได้โดยเทียบกับสุนัขข้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว... แต่เจ้าจงรู้ไว้ว่าเจ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า! ฟังให้ดี เย่ว์ไตตันกำลังจะตายหอทงเทียนจะพินาศในอีกไม่ช้าโดยมิอาจกู้คืนได้ เจ้าคืออนาคตของหอทงเทียน ใช่แล้วเจ้าได้ยินถูกต้อง เจ้าเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในหอทงเทียนหากเจ้าต้องการก็จงพยักหน้า เจ้าจะได้รับพลังที่แข็งแกร่งร้อยเท่า พันเท่าหรือพลังที่แข็งแกร่งกว่าที่เจ้ามีหมื่นเท่า โดยเจ้าไม่ต้องจ่ายราคาใดๆตราบใดที่เจ้าเต็มใจยอมรับ เจ้าจะได้รับสถานะทุกอย่าง อะไรที่เจ้าอ้วนไห่เย่คง เสวี่ยทันหลางมีจะกลายเป็นขยะเมื่อเทียบกับที่เจ้ามีอย่าว่าแต่พวกเขาไม่รอดแล้ว พวกเขาไม่มีดีแม้เท่าปลายนิ้วเท้าเจ้า! จงพยักหน้า ตราบใดที่เจ้าต้องการข้าสามารถมอบความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่เจ้าได้ทันทีทั้งหอทงเทียนจะไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า!”
รูปของตงฟางปรากฏอยู่ข้างหน้าเหยียนพั่วจวินและฟงชิซา
เสียงเหมือนกับอสรพิษ
ชอนไชเข้าไปในแก้วหู
ไม่,เสียงนี้สามารถแทรกซึมเข้าไปในหัวใจพวกเขาได้โดยตรง แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะใช้มืออุดหูก็ตามแต่ก็ไร้ประโยชน์
“ตราบเท่าที่ข้าพยักหน้ารับข้าจะได้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดหรือ?” ดวงตาของเหยียนพั่วจวินเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่ต้องการที่จะปฏิเสธว่าเขาโหยหาพลังความแข็งแกร่งมากมายเพียงไหนในช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนพากเพียร? นั่นไม่ใช่เพื่อพลังที่แข็งแกร่งหรือ! เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าใดเจ้าอ้วนไห่ดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นนั้น! ถ้าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเย่ว์หยางและเสวี่ยทันหลางก็ว่าไปอย่าง แต่เจ้าอ้วนไห่เคยเป็นขยะชิ้นใหญ่และในตอนนี้สามารถเอาชนะตัวเขาได้อย่างง่ายดาย ถ้าไร้ประโยชน์แล้วยังจำเป็นต้องฝึกหนักอีกหรือ?
“พั่วจวิน, เจ้าไม่อาจเชื่อคำที่ตงฟางพูด?เขาเป็นคนทรยศไม่ใช่หรือ!” ฟงชิซากระวนกระวายและเขารู้สึกว่าปณิธานเหยียนพั่วจวินกำลังหวั่นไหว
“ข้าเป็นผู้ทรยศต่อหอทงเทียน ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นที่โปรดปรานของเทพเชื่อมั่นในความรักและได้รับการสนับสนุนจากหอทงเทียนมากที่สุด ข้ากล้าพูดได้ว่าก่อนนั้นผู้ติดตามของข้าไม่น้อยไปกว่าเย่ว์ไตตัน แต่ว่าข้าได้อะไรกลับมา? ต่อหน้าความสัมพันธ์ข้าแพ้บุรุษที่ด้อยกว่าข้าเพียงเพราะความสัมพันธ์ที่หนุนอยู่เบื้องหลังเขาเพียงเพราะต้นกำเนิดเขามีเกียรติและข้าคืออุปสรรคสำคัญที่สุดต่อกฎของการปกครองของผู้อื่นในที่สุดข้าก็กลายเป็นคนทรยศหอทงเทียน!นี่คือข้าและภาพที่แท้จริงของเจ้าในวันนี้! เจ้าเคยเป็นคนใจกล้าอย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้ เจ้าปล่อยให้เย่ว์ไตตันเหยียบย่ำข้ามเจ้าในทางตรงกันข้าม เจ้าอ้วนไห่ที่มีสัมพันธ์อันดีกับเย่ว์ไตตันได้เปลี่ยนจากสถานะขยะที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นคุณชายไห่ทันที... ตอนนี้เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ความสัมพันธ์มีความสำคัญมากแค่ไหนไม่มีใครหนุนหลังเจ้า เจ้าฝึกฝนอะไรได้บ้าง? ฟังข้าให้ดีเหยียนพั่วจวินถ้าเจ้าต้องการ ข้าสามารถรับเจ้าเป็นศิษย์ได้และมอบทุกอย่างในหอทงเทียนให้เจ้า เจ้าไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าปกครองหอทงเทียนทั้งหมดใช่ไหม?” ตงฟางยิ้มมุมปาก เขายิ้มมองดูเหยียนพั่วจวินผู้ที่เขากำลังล่อลวงอยู่ข้างหน้านี้”
“ข้า...”เหยียนพั่วจวินไม่ต้องการปฏิเสธว่าเขาถูกล่อลวง
“อย่าทำอย่างนี้ ตงฟางกำลังโกหกล่อลวงเจ้า พั่วจวิน!สิ่งที่ไม่ใช่ความสามารถของตัวเองก็เป็นเหมือนฟองน้ำ พอรวมตัวกันก็แตกไปเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ถ้าเจ้าต้องการเช่นนี้ข้าจะไม่หน่วงเหนี่ยวเจ้า แต่ข้าจะไม่ร่วมเส้นทางกับเจ้าอีก ข้าไม่ปฏิเสธว่าข้าอิจฉาทันหลางและเย่คงและคนอื่นๆ มาก แต่เจ้าก็เห็นเช่นกันว่าเจ้าอ้วนไห่ก็มีความพากเพียรพยายามอย่างเพียงพอถึงมีวันนี้ได้เราควรสร้างสมดุลทางจิตใจ ไม่ใช่ความริษยา แต่ถึงจะริษยาก็ต้องไล่ล่าความสำเร็จอย่างขยันขันแข็งความสัมพันธ์มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมีแต่ความเชื่อมั่นศรัทธาของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด.. พั่วจวิน ข้าขอเรียกชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายข้าตัดสินใจแล้ว ขอทิ้งทุกอย่างติดตามเย่ว์ไตตันข้าจะสละพลังน้อยนิดแบกรับชะตาของเขาและชะตาของหอทงเทียน!” ฟงชิซาไม่รู้สึกกลัวตายอีกต่อไปแต่ภายใต้การล่อลวงของตงฟางกลับเสริมความเชื่อของเขา
แสงเทพศักดิ์สิทธิ์ฉายลงมาจากอากาศ
คลุมทั้งศีรษะของเขา
เขาถือคัมภีร์อัญเชิญใบหน้าและดวงตาของเขาเปล่งประกาย และดูเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้า
เหยียนพั่วจวินเห็นแล้วน้ำตาไหลพรากใบหน้าของเขากระตุกเกร็งแต่ในท้ายที่สุดศรัทธาก็ชนะการล่อลวงได้เขาถือคัมภีร์อัญเชิญไว้ในมือของเขาเช่นกัน “สหายเก่าของข้า คู่แข่งของข้า พี่น้องข้า ข้าผิดไปแล้วแต่ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าต้องยืนสู้ตามลำพัง อนาคตของหอทงเทียนไม่ได้เป็นของข้า ข้าเป็นคนโลภ โปรดยกโทษให้ข้า ขอให้ข้าร่วมเดินทางกับเจ้าข้าอยากเป็นคนดีที่สุดในโลก แต่เมื่อเทียบกับคนที่ดีที่สุดในโลกแล้ว ข้าต้องการสหายผู้ร่วมหยอกล้อเล่นหัวมากกว่า”
แสงเทพศักดิ์สิทธิ์คลุมตัวเหยียนพั่วจริวและฟงชิซาไว้ในพริบตาเดียว
แผนล่อลวงของตงฟางล้มเหลว
ดูเหมือนว่ามีอุบัติเหตุคาดไม่ถึงเล็กน้อย
จากมุมมองของเขาฟงชิซาไม่ต้องพูดถึง แต่เหยียนพั่วจวินอย่างน้อยก็ถูกล่อลวงได้และอธิบายไม่ได้เช่นกันว่าความเชื่อก็เป็นการล่อลวงอย่างหนึ่งแม้ด้วยการสมัครใจตายของฟงชิซายอมแบกพลังชะตาก็ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง
เป็นเพราะระดับการล่อใจไม่เพียงพอหรือ? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการล่อลวงด้วยคิดระดับเทพ!
เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้กลับไปหาเย่ว์เทียนเย่ว์เยี่ยน เย่ว์ฟงและคนอื่น
“หนอนน้อยที่น่าสมเพชอย่างเจ้าไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากเย่ว์ไตตันอย่างแท้จริงเจ้าควรจะเสียสละแบกรับชะตาเพื่อเขาอีกหรือ? เจ้าทำเช่นนี้มีประโยชน์อะไร? เจ้าคิดว่าเขาจะขอบคุณเจ้าหรือ? เจ้าคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จด้วยการกระทำเช่นนี้จริงหรือ? ทำไมข้าถึงมีเวลาว่างมาพูดคุยกับเจ้าอย่างนี้เล่า? นั่นเป็นเพราะเขามีชะตาถูกกำหนดให้ต้องล้มเหลว! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เจ้ายังคงต้องเผชิญชะตาของเจ้าอย่างหนักและคิดจะหัวเราะเยาะข้าอย่างนั้นหรือ? นึกถึงอดีตของเจ้าสิเย่ว์เทียน เจ้าเป็นหลานชายของบุตรคนโตเจ้าจะสละสิทธิ์ในตระกูลเย่ว์ทั้งหมดหรือ? เย่ว์เยี่ยน!เจ้าเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรือ? เย่ว์ฟง เจ้ามีพรสวรรค์และอนาคตที่ดีแต่เจ้าคิดว่าพี่สามของเจ้าให้เวลาเจ้ามากกว่าตัวเขาหรือไม่? เย่คงตายแล้ว เจ้าอ้วนไห่ก็ตายไปแล้ว เสวี่ยทันหลางตายแล้วทุกคนตายแล้ว ฟงชิซาและเหยียนพั่วจวินก็เดินมาถึงทางตันของชีวิตแล้ว ตอนนี้หอทงเทียนยังจะเหลือใครอีก? มีแต่พวกเจ้าเท่านั้น...ตราบใดที่พวกเจ้าพยักหน้าเบาๆ จากนั้นพวกเจ้าจะได้ทุกอย่างทันที เย่ว์เทียน! ไม่เพียงแต่เจ้าจะสามารถฟื้นฟูทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลเย่ว์ได้ แต่เจ้ายังสามารถเป็นเจ้าปกครองหอทงเทียนทั้งหมด เย่ว์เยี่ยนเจ้าสามารถเปลี่ยนจากขยะไปเป็นนักสู้ระดับเทพได้ทันที เด็กน้อยเย่ว์ฟง อนาคตของเจ้าจะไร้ขีดจำกัด...”
คำพูดของตงฟางเหมือนลูกศรทิ่มแทงความรู้สึกภายในหัวใจของเย่ว์เทียน
เย่ว์ฟงยังเล็กและปณิธานยังไม่มั่นคง
เขาร้องไห้จ้าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
เขาไม่ต้องการทรยศพี่ชายและหวังว่าจะมีอนาคต เขาไม่มีผู้ใหญ่ในตระกูลคอยปลอบใจ เข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรได้แต่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
นอกจากร้องไห้เสียงดังเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้
แต่เย่ว์เทียนและเย่ว์เยี่ยนพี่ชายทั้งสองเห็นได้ชัดว่าตกหลุมกับดักแห่งศรัทธาแล้ว
บางทีในวินาทีต่อมาพวกเขาอาจพยักหน้ายอมรับเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยของตงฟางที่น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจและพยักหน้ารับเบาๆ... ขณะที่หัวใจของเย่ว์ฟงกำลังหวาดกลัวไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีทันใดนั้นมือใหญ่ของเย่ว์เทียนลูบศีรษะเขาเบาๆ และส่งเสียงที่เย่ว์ฟงฟังแล้วรู้สึกเหลือเชื่อ“น้องเก้า! ในใจของเจ้า ข้าเป็นที่ชายที่ดีที่สุดหรือไม่?แม้ว่าเสี่ยวซานจะรุ่งเรืองขึ้นมา แต่เขาก็ให้อะไรมากมายแก่เจ้า แต่ก็ยังด้อยกว่าข้าใช่ไหม! ข้าทำเจ้าเจ็บปวดที่สุดไม่เพียงแต่ก่อนเท่านั้น แต่ยังมีภายหลังอีกด้วย! เป็นพี่ใหญ่จะทำแบบนี้ได้อย่างไรจะเป็นตัวอย่างให้น้องไม่ได้ใช่ไหม?”
เย่ว์เยี่ยนเตะก้นเย่ว์ฟงเขาส่งเสียงด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด “น้องเก้า! พี่สี่เสียคนไปแล้วเจ้าคิดอย่างนี้ใช่ไหม? ข้าเย่ว์เยี่ยนต่อให้เป็นสวะแต่ข้าจะไม่ทรยศต่อตระกูล ข้าเป็นลูกหลานตระกูลเย่ว์ มีจิตใจไม่ย่อท้อเจ้าคิดว่าข้าพยักหน้าแล้วจะยอมเป็นสุนัขเลี้ยงของคนอื่นหรือ? ข้าไม่อาจเทียบกับพี่สามที่ไร้เทียมทานของเจ้าได้แต่ข้าเย่ว์เยี่ยนมีความภูมิใจในศักดิ์ศรีของตนเอง และข้าก็เคยถูกล่อลวงมาหลายครั้งแล้วฮ่าฮ่าฮ่า คนอย่างข้าน่ะหรือจะเป็นนักสู้ระดับเทพ? ช่างหัวมันเถอะถ้าโกหกข้าไม่ได้ อย่างดีก็คงโกหกหลอกเด็กได้ ข้ายอมตาย คนไร้ความสามารถอย่างข้า ไร้ประโยชน์ แต่ข้าไม่ต้องการความเมตตาจากคนอื่น! ข้าเย่ว์เยี่ยนไม่ขอเลียก้นใครเพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งโว้ย!”
“พี่ใหญ่ พี่สี่ ฮือออ!” เย่ว์ฟงเมื่อได้ยินก็ร้องไห้หนักขึ้น แต่ตอนนี้เขาโล่งใจตอนแรกเขาร้องไห้เพราะความกลัว แต่ตอนนี้เขารู้ไห้เพราะความภูมิใจพี่ชาย
“งั้นพวกเจ้าก็จะตายกันหมด...” ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของตงฟางกลายเป็นเคร่งเครียด
“เราไม่รบกวนเจ้า เราจะไม่ยอมหลงผิดอีกเรายังดีกว่าคนทรยศอย่างเจ้า ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเราจะกลายเป็นวีรบุรุษได้!” เย่ว์เทียนหัวเราะ เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญ แสงเทพสามสายฉายลงมาจากท้องฟ้าคลุมทั้งตัวเขาเย่ว์เยี่ยน เย่ว์ฟง จากนั้นไม่รอให้ตงฟางได้มีโอกาสพูดลำแสงเทพฉายจากฟากฟ้ารับผู้เยาว์ตระกูลเย่ว์ ตระกูลเสวี่ย ตระกูลฟงและตระกูลเหยียนที่ตั้งใจตายอย่างบริบูรณ์ ไม่เปิดโอกาสให้ตงฟางได้ล่อลวง บางทีพวกเขาคงไม่สามารถทนต่อการล่อลวงของตงฟางได้แต่พวกเขามีความตั้งใจแน่วแน่อย่างหนึ่งคือจะไม่ทรยศตลอดไป
ตงฟางแหงนหน้ามองดูอากาศ
เป็นเวลานาน
เขาไม่พูดอะไรสักคำ
เงาร่างของมือสังหารเทพถูซื่อถอนหายใจยาว “ตงฟาง!บ้านเกิดของเจ้ามีพวกหัวแข็งดื้อรั้นมากกว่าบ้านเกิดข้าเสียอีก บางทีคงเป็นเพราะเหตุนี้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ถึงได้ทุ่มกำลังทำลายให้หมดสิ้น ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า ถ้ามีทางเลือก ใครจะยอมเป็นคนทรยศ อย่างไรก็ตามถ้าเราอยู่บนเส้นทางแล้วก็ต้องไปต่อให้จบเพราะเราไม่สามารถย้อนกลับได้... ทางเลือกของชีวิตก็คือทางเลือกของโชคชะตา เราตัดสินชะตาของเราเองโดยไม่ได้ตั้งใจ! นี่คือตัวเลือกของเราเองไม่ว่าจะถูกหรือผิดไม่มีอะไรสำคัญ นี่คือเส้นทางที่ไม่มีทางย้อนกลับ มีแต่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น!”