ตอนที่ 1298 แม่รักลูกตลอดไป!
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ตงฟางหัวเราะอย่างมีความสุขเขาสงบใจเย็นมาก ตอนนี้เขาเลิกคิดและปล่อยวางความคิดที่ลึกซึ้งและเอาแต่หัวเราะลั่นอย่างเดียว
ในขณะที่กำลังหัวเราะอยู่นั้นไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ยังมีอีกคนหนึ่ง คนผู้นั้นเร้นตัวอยู่ในความมืดเงียบๆอยู่ก่อนแล้วและดูดซับพลังความเชื่อคลั่งไคล้และพลังของอสูรศึกที่แอบอ้างชื่อเย่ว์หยางขโมยมามันค่อยๆ ย่อยสลายช้าๆ และซึมซับพลังงานมหาศาลเปลี่ยนไปเป็นพลังเทพของตน
แตกต่างจากเสียงหัวเราะของตงฟางที่หัวเราะเสียงดัง คนผู้นี้หัวเราะอยู่ในความมืดเบามาก
เหมือนกับระลอกคลื่นที่เกิดจากสายลมบนผิวทะเลสาบยามค่ำคืน
เขาไม่เพียงแต่หัวเราะเท่านั้นทั้งยังปรบมือชื่นชม “เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางสมกับเป็นกุนซือนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จริงๆสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด นับว่าน่าทึ่งจริงๆ”
“มือสังหารเทพถูซื่อ,เจ้ายังกังวลว่าแผนล่มสลายหอทงเทียนยังจะมีเหตุเปลี่ยนแปลงอีกหรือ?” ตงฟางกลับคืนบุคลิกสงบตามปกติดวงตาของเขาแฝงไปด้วยภูมิปัญญาลึกซึ้ง
“ข้าตัดสินใจโจมตีและทำให้พวกมันพ่ายแพ้ยับเยิน!” มือสังหารเทพถูซื่อที่อยู่ในท่ามกลางความมืดย้อนถามด้วยความสงสัย “ก่อนที่ข้าจะลงมือโจมตีกวาดล้างหอทงเทียนเจ้าตอบข้าให้หายสงสัยได้หรือไม่? ข้าอยากรู้จริงๆ เย่ว์ไตตันรวมทั้งญาติสนิทมิตรสหายของเขาทำไมถึงต้องแบกรับพลังโชคชะตา ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเขาจะต้องทำอย่างนี้แน่นอน? นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา ตั้งแต่แรกเริ่มต้นจนถึงสถานการณ์ล่าสุดทุกอย่างเพื่อชัยชนะนี้ ตงฟาง! ทำไมเจ้าถึงมั่นใจตัวเองขนาดนี้ ด้วยพลังเทพของเจ้าบวกกับทักษะแฝงเร้นหมากรุกเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้จัดการสถานการณ์ของหอทงเทียนได้ทั้งหมด ข้าอยู่ตรงนี้มองดูเจ้าใช้กองทัพแดนสวรรค์บุกกดดันจากนั้นก็มาที่เกมกระดานหมากรุกส่วนตัวและหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามแบกรับพลังชะตา และเจ้าแอบอ้างชื่อขโมยพลังแสวงหาผลประโยชน์อย่างชาญฉลาดและในที่สุดปล่อยให้ญาติสนิทมิตรสหายของเย่ว์ไตตันแบกรับภาระชะตา เจ้าไม่จำเป็นต้องระเบิดเป็นจุลเพื่อฆ่าความหวังของหอทงเทียนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเจ้าก็ได้ อนาคตของหอทงเทียนจะตกต่ำอยู่ในห้วงเหวลึกโดยมิอาจฟื้นคืนได้ข้าขอถามสหายของข้า เจ้ารู้สึกอย่างไรกับความสำเร็จนี้?”
“สถานการณ์ทั่วไปน่ะหรือ?” ตงฟางฟังแล้วไตร่ตรองอยู่นาน จากนั้นตอบทันที
“เจ้ากำลังพูดถึงแนวโน้มทั่วไปไม่ใช่หรือ?” มือสังหารเทพถูซื่อยังคงงง
“ถูกแล้ว ความล่มจมสูญสลายของหอทงเทียนถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่หมื่นปีก่อนและแม้กระทั่งยอดฝีมือก่อนนี้ไม่มีใครช่วยได้ แน่นอนว่าหมายถึงนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลีและจักรพรรดิอวี้จ้านฟงเป็นแค่ส่วนน้อย”
หลังจากตงฟางพูดจบเขาหยุดและนิ่งไปชั่วขณะ
ดูเหมือนว่าเขากำลังระลึกถึงความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในชีวิตที่ผ่านมาในอดีต
เป็นเวลานานมากสำหรับตงฟางที่จะดึงความรู้สึกกลับคืนมาเขาบอกเล่าต่อมือสังหารเทพถูซื่อต่อ “ข้าก็แค่ผลักดันเรือไปตามน้ำ เหยียบย่ำหอทงเทียนที่กำลังจะล่มจมไม่ได้ทำอะไรมาก สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องทำมากเกินไปตราบใดที่แนวโน้มทั่วไปยังคงเป็นเช่นนี้ ความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั้น ก็เหมือนกับบดขยี้ฟางบนหลังอูฐเพียงพอจะทำให้หอทงเทียนตกต่ำดำดิ่งสู่ห้วงเหวลึก”
“สำหรับเย่ว์ไตตันและผองเพื่อนญาติสนิทและมิตรสหายของเขาทำไมเลือกที่จะทนแบกรับชะตาพวกเขาน่ะหรือมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง มนุษย์มีความกล้าที่จะลองในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จักและเชื่อถือในสิ่งต่างๆ ปาฏิหาริย์ที่ไม่มีตัวตน ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งเชื่อมาก ในฐานะที่ข้าเคยเป็นหนึ่งในนั้น ข้ารู้ดีอยู่แล้ว ถ้าข้าดูจากมุมมองพวกเขา ข้าอาจเลือกวิธีนั้นเช่นกัน ข้าไม่ต้องการปราบปรามนักรบแห่งหอทงเทียนให้เด็ดขาด หลายคนมีความยืดหยุ่นและฟื้นตัวได้เร็วอย่างง่ายดายภายใต้แรงกดดันที่รุนแรง นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละที่หายากซึ่งนักรบแดนสวรรค์ยากจะเข้าใจ!”
“ถ้าข้าแข็งขืนฆ่าเย่ว์ไตตัน อย่างนั้นเขาต้องสู้ตอบโต้กลับด้วยพลังทั้งหมดของเขา เขาจะยอมเสียสละตนเองเหมือนอย่างจักรพรรดิอวี้จ้านฟง เขาต่อสู้และร่วมกับสหายใช้พลังผนึกเป้าหมายที่เขาสามารถทำได้ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาจทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อให้สถานการณ์เปลี่ยน
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเห็น ดังนั้นข้าจะไม่ใช้มาตรการที่รุนแรง ข้าจะใช้การแข่งขันทางปัญญามากขึ้นภายใต้แรงกดดันสูง ข้าสร้างภาพลวงตาแห่งความหวังเพื่อที่ว่า ไม่ปล่อยให้พวกเขาหมดหวังในทันทีและโจมตีศัตรูด้วยความตื่นตาตื่นใจในอดีตจักรพรรดิอวี้จ้านฟง หอทงเทียนได้พยายามมาหลายพันปีข้าไม่ต้องการเห็นคนอย่างเขาคนที่สองปรากฏตัวอีกครั้ง และข้าไม่ต้องการเห็นเย่ว์ไตตันเกิดเป็นครั้งที่สอง... นักรบมนุษย์เติบโตก้าวหน้าได้เร็วมากหลายพันปีผ่านไปเพียงพอต่อการให้กำเนิดนักรบที่ทรงพลังและเทพ! หากเราไม่ได้รู้แต่เนิ่นๆและปล่อยให้เย่ว์ไตตันเติบโตอย่างราบรื่นไม่สิ้นสุดก็จะไม่เป็นอย่างที่เห็นในวันนี้”
“ในอดีตนั้นข้าได้สาบานแล้วที่จะทำลายหอทงเทียนด้วยมือข้าเอง และข้าได้ลงมือทำด้วยตนเอง” ตงฟางแหงนหน้าหัวเราะ“สิ่งใดที่ข้าไม่สามารถเอามาได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันมีอยู่ไปนอกจากนี้ข้ายังจะมองดูมันค่อยๆล่มสลายตกลงในห้วงเหวลึกที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนนั่นเป็นเหตุการณ์ที่มีความสุขในชีวิต!”
มือสังหารเทพบุรุษผู้ซ่อนตัวในความมืดฟังเงียบๆด้วยความชื่นชม
เมื่อเขาฟังแล้ว
เกิดความเงียบอยู่นาน
เขาสังเกตว่าการหัวเราะของตงฟางนั้นไม่ได้มีความสุขเหมือนอย่างที่เห็นอย่างผิวเผินในทางตรงกันข้ามเขารู้สึกว่าเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางที่อยู่ต่อหน้าเขานักสู้ระดับเทพผู้มีสติปัญญาราวกับมหาสมุทรเหมือนกับมีความเสียใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ และเขาอดถามไม่ได้ “ตงฟาง! เจ้าทำลายหอทงเทียนเพื่อรับเอาแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจริงๆ หรือ? เจ้ามีความสุขความพอใจจริงๆ หรือ?”
ตงฟางฟังสักครู่แล้วส่ายหน้า “ไม่, พูดตามตรง ข้าไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นแดนล่มสลายแห่งทวยเทพมีสมบัติมากมาย แต่ของเหล่านั้นไม่ได้ใช้แลกเปลี่ยนข้าไม่ได้คิดถึงของเหล่านี้ ข้าเชื่อว่าเจ้าเข้าใจว่าบางอย่างคนอย่างเราไม่มีทางรับได้ดังนั้นสำหรับเจ้า ข้าจะเสนอให้ข้าขอพลังศรัทธาได้ไหม? สำหรับการทำลายหอทงเทียน ในใจของข้ามีความพึงพอใจและความสุขอยู่แล้ว...ข้าไม่อาจพูดได้ว่าไม่มีอะไร ข้าไม่อาจพูดได้ว่าข้าพอใจและมีความสุขมากเช่นกัน! ข้ามีความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก ข้ามีความสุขจากความสำเร็จ แต่ก็มีความเศร้าและสับสนเล็กน้อยที่สำคัญสถานที่แห่งนี้เคยเป็นมาตุภูมิของข้า เป็นสถานที่ซึ่งข้าเคยทิ้งเสียงหัวเราะและน้ำตามากมายไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะไม่กลับคืนมา! สิ่งที่สูญหายไปนั้นจะหายไปตลอดกาลข้าไม่ได้นึกฝันต้องการเป็นเจ้านายปกครองอีกต่อไป ในทางกลับกันสิ่งที่ข้าได้รับ จะอยู่ในเงื้อมมือข้าเป็นอย่างดี และจะไม่ยอมให้มันหลุดมือไปได้ง่าย อย่างเช่นตำแหน่งและอำนาจของเจ้าตำหนักใหญ่ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ในทุกวันนี้! อีกอย่างหนึ่งก็คือภูมิปัญญาและความสามารถของข้าสามารถผลักดันหอทงเทียนจนมีสภาพอย่างทุกวันนี้!”
มือสังหารเทพซึ่งอยู่ในความมืดเห็นด้วย “ข้าเข้าใจดีเช่นกันเพราะข้าทำสิ่งเดียวกันนี้เมื่อตอนนั้นเพื่อฝังอดีตด้วยมือของข้าเองสำหรับสิ่งที่ข้ามีอยู่แล้ว ข้าได้ทำอย่างเดียวกับที่เจ้าได้ทำลายหอทงเทียนเพียงแต่ข้าทำได้เด็ดขาดมากกว่าเจ้า”
“ดังนั้นนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เจ้ามีชื่อว่ามือสังหารเทพในตอนนี้”รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของตงฟาง
“จะเรียกว่าอะไรก็คงไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือแดนสวรรค์ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นคนที่อยู่เบื้องหลังชื่อนี้!” มือสังหารเทพถูซื่อหัวเราะขึ้นบ้างเสียงหัวเราะของเขาสั่นสะเทือนในระดับลึกราวกับว่าโลกบรรจุพลังภูเขาไฟสั่นสะเทือนรอคอยเวลาปะทุระเบิดครั้งใหญ่
“ถ้าเป็นไปได้ เจ้าอย่าได้ฆ่าเย่ว์ไตตัน” ตงฟางมีคำขอ
“หือ?” มือสังหารเทพถูซื่อสงสัย
“การแบกรับชะตาล้มเหลวญาติสนิทมิตรสหายทุกคนตายไป อสูรศึกสมบัติเทพพังทลาย คนรักและภรรยาไม่เหลือรอดต้องมีความเสียใจอย่างไม่รู้จบสิ้น ความทรมานเช่นนั้น แย่ยิ่งกว่าตายข้าต้องการให้เขาต้องร้องไห้เพราะความเจ็บปวดทรมานนี้ตลอดไป... จะมีอะไรที่น่าทุกข์ทรมานยิ่งไปกว่าการเสียใจไม่รู้จบประทับอยู่ในใจไปชั่วนิรันดร์เล่า?” เมื่อตงฟางพูดเช่นนี้หลังจากมือสังเทพได้ยินเขาอดสั่นสะท้านไม่ได้
บางครั้งความตายก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางความสิ้นหวังทั้งเป็นสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าตายอยู่คู่กับอนาคตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เย่ว์หยางที่กำลังนอนอยู่ในจุดเริ่มต้นอยู่ในจุดที่แทบจะเป็นบ้า
เขาถูกพลังเทพชะตาสูงพันเมตรบดขยี้ เขาไม่สามารถขยับนิ้วได้เลยและเป็นไปไม่ได้ที่จะดิ้นรน
ถ้าเขาทำได้เขาไม่ต้องการให้เจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่นๆ เลือกวิธีแบกรับพลังเช่นนี้เขาไม่ต้องการให้ทุกคนสังเวยชีวิต! การแบกรับพลังชะตา ต้องมีวิธีที่ดีกว่านั้นอยู่ก่อนแน่นอนเพียงแต่วันนี้เป็นไปไม่ได้
ปรากฏว่ามีเวลาอีกสามวัน
และนั่นยังไม่จบ
ทำไมกัน?
เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นถึงต้องเลือกแบกพลังชะตาเกินกำลังจนกระทั่งตาย?
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ! สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือทุกคนใช้วิธีนี้รวมทั้งญาติพี่น้องเพื่อนพ้องครูบาอาจารย์ พันธมิตรและผู้ใต้บังคับบัญชา และแม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียที่อยู่ต่อหน้าเขาในท้ายที่สุด เขากลัวว่าพวกนางเริ่มเดินบนเส้นทางนี้...จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทุ่มเทมากมายมหาศาลเพื่อแบกรับชะตา?
ถ้าเป็นเช่นนี้กู้สถานการณ์กลับมาได้จะมีอะไรแตกต่างกันเล่า?
ไม่!
นี่ไม่ใช่ความหวังที่แท้จริงแม้แต่น้อย!
ใครก็ได้บอกทุกคนทีใครจะย้อนข้อผิดพลาดนี้ ใครจะมานำทุกคนกลับสู่เส้นทางอมตะที่งดงามแท้จริง?
จากส่วนลึกของหัวใจเย่ว์หยางเขาไม่เคยพยายามแสดงความปรารถนาที่แรงกล้าในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังความเศร้าและเสียใจที่สุด หัวใจของเขาโหยหาการรู้แจ้งที่ไกลเกินสติปัญญาของเขาเอง
ใครจะช่วยข้าได้?
ข้าเป็นแค่เด็กอ่อนแอจากโลกอื่น สำหรับแม่สี่เขาไม่มีเวลามากพอจะแสดงความกตัญญูน้องสาวที่รักเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ ไม่สามารถปกป้องคนรักในอ้อมอกได้ เขาจะแบกรับชะตาและพลิกฟื้นหอทงเทียนและผู้ที่สนับสนุนเขาได้อย่างไรข้าเป็นอัจฉริยะที่ล้านปีจะพบได้ครั้งเดียวในหอทงเทียนและข้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์แต่ข้ายังอายุน้อยเกินไป เทียบกับปีศาจเฒ่าตงฟางข้ายังเป็นเด็กน้อย ใครก็ได้บอกทีว่าข้าควรจะทำอย่างไร?
เสวี่ยอู๋เสียยังคงอธิษฐาน
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางมีความต้องการจะละทิ้งทุกอย่างในโลกแค่ต้องการกอดพวกนางแน่นๆ...แม้ว่าในวินาทีต่อมาฟ้าจะถล่มแผ่นดินทลายก็ยังดีกว่าการเฝ้าดูพวกนางเสียสละโดยช่วยอะไรไม่ได้
“ลูกแม่! เจ้าจำได้ไหม ไม่ว่าเวลาใดแม่จะสนับสนุนเจ้าอยู่เสมอ!” มีเสียงที่ไพเราะยิ่งกว่าธรรมชาติใดๆเป็นล้านเท่าดังขึ้น บางทีอาจดังมากจากฟากฟ้าบางทีอาจเป็นเสียงสะท้อนก้องทางวิญญาณ ไม่ใช่เพียงเย่ว์หยางเท่านั้น แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียที่กำลังอธิษฐาน แม้แต่จักรพรรดิหัวซิ่วรี่และแม่สี่ผู้นั่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยพร้อมกันและอุทานออกมา เป็นเสียงที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใดสามารถล้างอารมณ์มืดมัวด้านลบในใจทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ภายใต้เสียงที่ไพเราะนี้ ความเกลียดชังและความสิ้นหวังทั้งหมดระเหยหายไปอย่างไร้ร่องรอย โลกวิญญาณในปัจจุบันของเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียนั้นสะอาดบริสุทธิ์ไม่ถูกรบกวนจากเงามรณะที่แทรกแซงโดยตงฟางและนักสู้แดนสวรรค์คนอื่นๆ ที่ตั้งใจทำลายความหวังใหม่เสียงนี้เหมือนทำให้ความหวังที่ถูกทำลายมานานงอกขึ้นมาใหม่ดุจเมล็ดพันธุ์เติบโตกลายเป็นสิ่งนิรันดร์ “ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม จงอย่ายอมแพ้เพราะลูกคือเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังที่แม่ทิ้งไว้ให้โลกนี้! เมื่อมีเจ้าโลกนี้ย่อมมีความหวัง เมื่อมีเจ้าโลกนี้จะไม่มีทางถูกความเจ็บปวดโศกเศร้าครอบงำ จะมีแต่การพูดคุยอย่างมีความสุขและเสียงหัวเราะนั่นเป็นสิ่งที่เจ้าจะนำมาให้ทุกคน... ลูกแม่เจ้าเองจะได้รับความสุขเป็นผลตอบแทนเช่นกัน!”
“แม่ขออวยพรลูก แม่รักลูกตลอดไป!”
พลังลึกลับที่เขาไม่รู้ว่าส่งมาจากไหนได้รองรับภาระพลังชะตาสูงถึง3,600 เมตรอย่างง่ายดาย
นี่
คือพลังของท่านแม่หรือ?
นี่คือแนวทางและความหวังที่นางนำมาให้เขาหรือ?
ในขณะนั้นเย่ว์หยางรู้สึกว่าสตรีลึกลับคอยปกป้องเขาอยู่เบื้องหลังเงียบๆการให้ของนางไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ไม่ได้มาเป็นรูปร่างมนุษย์อย่างชัดเจนไม่ได้ออกมาดูแลแสดงความรักของมารดา นี่คือความรักของมารดาในตำนานหรือ? ท่านแม่ตัวเขาเองก็มีแม่ที่แท้จริงด้วย ไม่ใช่มารดาในนามของสหายผู้น่าสงสาร (คุณชายสามตัวจริง)แต่เป็นตัวเขาที่เป็นเด็กหนุ่มข้ามโลก เป็นมารดาของเขาที่บอกว่าได้อธิษฐานต่อพฤกษาบุปผาแห่งชีวิตเขาไม่รู้ว่านางกลายเป็นผู้มอบความรักให้กับเด็กหนุ่มผู้ข้ามมาจากโลกอื่นได้ยังไง
ก่อนนี้เขารู้สึกได้เหมือนความรักนี้อยู่ในตัวแม่สี่ แต่เขาไม่เคยรู้สึกชัดเจนเหมือนวันนี้
จนกระทั่งตอนนี้ เขาจึงเข้าใจ
ปรากฏว่ามารดาเขาอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพียงแต่เขาไม่เคยรู้ตัว!
“ท่านแม่ ท่าน ท่านจริงๆหรือ?ข้าโดดเดี่ยวยิ่งนัก ท่านเป็นแม่ของข้าหรือเปล่า?” เย่ว์หยางอยากตะโกนก้องฟ้ายิ่งนัก แต่เขาหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านแม่...”