961 - ระฆังปราศจากจุดเริ่มต้น
961 - ระฆังปราศจากจุดเริ่มต้น
เย่ฟ่านจับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้อาวุโสแปดยัดเข้าไปในหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิด ก่อนที่เขาจะควบคุมโลงศพทองแดงให้บินลงมาข้างล่างอีกครั้ง
“ท่านประมุขพวกเราต้องเก็บโลงศพนี้ไว้” ผู้อาวุโสอาวุโสคนหนึ่งกล่าวด้วยความโล�
“ถูกต้อง โลงศพทองแดงนี้น่ากลัวเกินไป ต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ฝังอยู่ภายในสามารถต่อสู้กับอาวุธของจักรพรรดิได้ มันคุ้มค่าที่จะศึกษา!” อีกคนเห็นด้วย
“หุบปาก! หลังจากนี้ผู้ใดกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณคนคนนั้นจะถูกประหารโดยไม่ละเว้น”
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้คำรามเสียงดัง
“เด็กน้อยคนนี้สร้างภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้กับตระกูลของเรา ท่านประมุขไม่อาจปล่อยให้มันจบลงเช่นนี้ได้?”
ผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลจี้รู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่ง
“ถ้าใครยังกล้าคัดค้านอีกข้าคงต้องใช้กฎของตระกูลแล้ว”
เสียงของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้เต็มไปด้วยความเย็นชา จากนั้นเขาก็ยื่นมือขนาดใหญ่ออกไปขวาผู้อาวุโสหกและผู้อาวุโสเก้าซึ่งถูกคนของเขาควบคุมไว้ตั้งแต่แรกโยนเข้าไปในคุกแห่งความว่างเปล่าของตระกูลทันที
“หลังจากนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องออกมาอีกแล้ว!”
หลังจากนั้นไม่นานจี้ฮ่าวเยว่ร่างราชันย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนตะวันออกก็ได้รับการปล่อยตัว
ในค่ำคืนนั้นเย่ฟ่านกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานเลี้ยงนี้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือบุคคลแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
เขาเพิ่งเริ่มฝึกฝนมาไม่กี่ปีแต่กลับมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเหล่าผู้อาวุโสที่มีอายุหลายพันปี อีกทั้งเย่ฟ่านยังเป็นอัจฉริยะแปดต้องห้ามที่น่าสะพรึงกลัวอีกด้วย
ในอนาคตผู้คนเริ่มคิดแล้วว่าหากเขาได้กลายเป็นครึ่งเซียนระดับสูงสุดจริงๆ เขาอาจจะต่อสู้กับผู้อมตะได้เลย
ท้ายที่สุดเพื่อเห็นแก่หน้าของตระกูลจี้เย่ฟ่านจึงปล่อยผู้อาวุโสแปดคืนให้กับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลจี้เพื่อลงโทษตามกฎของตระกูล
ราชันศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ก็ทำอย่างเหมาะสม เขาจับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้อาวุโสแปดของตระกูลโยนเข้าไปในคุกแห่งความว่างเปล่าโดยไม่อนุญาตให้เขาสร้างร่างกายขึ้นมาอีก
การปฏิบัติเช่นนี้ถือว่าเป็นการให้เกียรติเย่ฟ่านอย่างสูง เย่ฟ่านไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว เขารู้ว่าในอนาคตเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นการจะฆ่าคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร
“ลูกชายของข้าถูกนกกระเรียนพาตัวไปตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสองขวบ เจ้าของกระเรียนตัวนั้นรู้หรือยังว่าลูกชายของข้าถูกร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณฆ่าตายแล้ว!”
บิดาของหวังเถิงคร่ำครวญด้วยความเศร้าโศก รอบตัวของเขามีผู้คนจากตระกูลหวังมากมายคอยควบคุมไม่ให้เขาท้าทายเย่ฟ่านขึ้นอีก
ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในมือ การท้าทายเขาก็เป็นเหมือนการร่อนหาที่ตายอย่างไร้ประโยชน์เท่านั้น
เย่ฟ่านรู้ดีว่าราชวงศ์โบราณไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะใส่ใจคำพูดของบิดาหวังเถิง เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งปะทุขึ้นที่นี่อีกครั้ง
“ตัง ตัง”
ทันใดนั้นก็มีเสียงระฆังดังขึ้นในความว่างเปล่า สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เมื่อระฆังครั้งที่สองดังขึ้น มันเหมือนคลื่นปั่นป่วนกระทบฝั่ง แตกต่างจากครั้งก่อนมาก มันทำให้ใจของทุกคนแตกสลาย ราวกับ หัวใจของพวกเขาพังทลาย
“ระฆังปราศจากจุดเริ่มต้น!”
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ลุกขึ้นและแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง ในขณะเดียวกันยอดฝีมือระดับสูงที่อยู่ในงานเลี้ยงต่างก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจเช่นกัน
“ระฆังโบราณของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นจริงๆ !”
ยอดฝีมือของตงหวงหลายคนได้พบกับหายนะในตอนที่โจมตีภูเขาสีม่วง แม้กระทั่งควบคุมอาวุธเต๋าสุดขั้วสามชิ้นอยู่ในมือก็ไม่สามารถทำอันตรายต่อระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นได้
“สวรรค์เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ผู้คนตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นไปได้อย่างไร ทำไมระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นถึงดังในภาคใต้”
“เป็นไปได้ไหมว่าระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นถูกนำออกมาที่ภาคใต้แล้ว!”
หัวใจของหลายคนเต้นแรง มีใครบางคนนำระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นมาที่ภาคใต้ เขาทำเช่นนี้เพื่ออะไร?
“อาจเกิดจากโลงศพทองแดงนั้นก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้นับว่าแปลกประหลาดที่สุด” ชายชราหลายคนพึมพำด้วยความกลัว
“หรือเจ้ากำลังบอกว่าภายในโลงศพทองแดงคือซากศพของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น?”
ชายชราอีกคนกระซิบเบาๆ
ตระกูลจี้ซึ่งเป็นทายาทโดยตรงของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มีความรุ่งเรืองอย่างถึงที่สุด พวกเขาดำรงตระกูลมานานนับแสนปีโดยไม่มีผู้ใดกล้าท้าทาย
ตอนนี้เสียงระฆังทำให้ตระกูลของพวกเขาสั่นสะท้าน ชื่อระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นซึ่งดังก้องในประวัติศาสตร์และนำความกดดันมาสู่ผู้คนอย่างไม่รู้จบ
ทุกคนไม่เข้าใจว่าระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นมาปรากฏตัวที่ภาคใต้ได้อย่างไร
“ความโกลาหลไม่แตกแยก ฟ้าและดินวุ่นวาย เวิ้งว้างคลุมเครือ ไม่มีใครมองเห็น ตั้งแต่กาลเริ่มต้น ความยิ่งใหญ่ได้ถูกทำลาย ความใสและความขุ่นมัวแยกกันไม่ออก”
นอกประตูตระกูลจี้ เสียงเพลงที่ไพเราะถูกร้องขึ้น แต่เสียงของผู้ที่ร้องเพลงนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นชายชราคนหนึ่ง
ในเวลาเดียวกัน เสียงระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงของมันดังจนทำให้แก้วหูของผู้คนจำนวนมากสั่นไหวจนคล้ายจะแตกออกจากกัน
ผู้คนเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เป็นไปได้หรือไม่ว่าสิ่งมีชีวิตอมตะมาเยือนตระกูลจี้แล้ว
“ข้าสืบเชื้อสายมาจากบรรพชน ข้าได้ยินว่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณมาถึงโลกใบนี้แล้ว ข้าได้รับคำสั่งจากบรรพชนให้รอคอยเขาอยู่ที่นี่” เสียงที่แก่ชราดังขึ้นอีกครั้ง
หลายคนหวาดกลัว ทายาทคนสุดท้ายของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น? สถานะนี้สูงจนน่าตกใจ ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จ!
“คนผู้นี้ต้องเป็นทายาทที่ได้รับมรดกของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นเสียงของเขาจะไม่สามารถเล็ดลอดเข้าสู่ตระกูลจี้ได้” ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
เมื่อผู้คนได้ยินสิ่งที่เขากล่าว พวกเขาก็ยิ่งสับสนมากขึ้น และเกือบจะยืนยันว่านี่คือคนที่ได้รับมรดกของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นจริงๆ
“อีกไม่กี่ปีพวกเราก็ต้องตายแล้ว ออกไปดูกันเถอะ”
ชายชราคนหนึ่งกล่าวและลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเอง
ทุกคนบินออกจากดินแดนบรรพชนของตระกูลจี้เพื่อมองหาทายาทของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นคนนั้น
“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเป็นใคร เหตุใดจึงมาเยือนตระกูลจี้ของเรา” ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ถาม
“ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสอันใด ข้าได้ยินมาว่ามีคนกำลังพยายามสร้างปัญหาให้กับร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ ข้าเลยมาที่นี่เพื่อเดินเล่น”
เสียงที่แก่ชราดังขึ้นอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันเสียงระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นที่ถูกตีขึ้นก็ทำให้จิตใจของทุกคนวูบไหวด้วยความกลัว
“มียอดฝีมือลึกลับมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเย่ฟ่าน!”
“ทายาทของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มีความเกี่ยวข้องอะไรเย่ฟ่าน!”
หัวใจของหลายคนบีบรัดเข้าหากัน และบางคนก็แอบดีใจที่ไม่เคยเป็นศัตรูเย่ฟ่าน
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณอยู่ที่นี่ ข้าต้องการรับเขาเป็นศิษย์และส่งต่อความลับในการเดินทางผ่านทะเลแห่งดวงดาวที่ไม่สิ้นสุดของบรรพชนผู้ยิ่งใหญ่” เสียงเก่านั้นอ่อนโยนมาก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของหลายคนก็บิดเบี้ยวไปในทันที ฝ่ายตรงข้ามต้องการถ่ายทอดมรดกของจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้นให้กับเย่ฟ่าน
“เรียนผู้อาวุโส ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณอยู่ที่นี่ พวกเราไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้กับเขา” ชายชราจากตระกูลจี้กล่าวด้วยความนอบน้อม
อย่างไรก็ตามราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้กลับขมวดคิ้วแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เย่ฟ่านเดินออกไปพร้อมกับโลงศพทองแดงที่ถูกแบกอยู่บนหลังของเขา เขาคาดเดาได้แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร
“พี่ใหญ่ เขาสบายดี” ทันใดนั้นเสียงของเด็กหญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
“จุ๊ๆ หุบปาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสียงของเราจะขยายออกไปกี่เท่า”
เสียงที่หยาบคายดังขึ้นอีกครั้งและสีหน้าของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“บูม”
กระจกแห่งความว่างเปล่าสาดส่องแสงอันน่าสะพรึงกลัวให้พุ่งเข้าหาต้นกำเนิดเสียงนั้นทันที
“ปัง!”
เมื่อภาพมายาที่ปกคลุมตระกูลที่ถูกทำลายลง สุนัขสีดำตัวใหญ่และเด็กหญิงตัวเล็กๆอายุประมาณสี่ขวบก็ปรากฏตัวขึ้น