ตอนที่ 84 ราชาจี้ปลุกใจ
ตอนที่ 84 ราชาจี้ปลุกใจ
"แข็งแกร่งจริงๆ!"
เมื่อมองไปยังหมาป่าปิศาจ 2 ตัวที่ได้ตายไป หลิน ยู ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาส่วนใหญ่จะมาจากเก็บค่าประสบการณ์ มันก็ดูง่ายดายเกินไป จริงๆแล้วมันไม่ได้ง่ายเลย
หลังจากเลื่อนขั้นสู่ระดับ 7
การโจมตีของ แบนชีเสน่หา ไม่ได้ถูกจัดกัดอยู่ในระยะการโจมตีเดิมอีกต่อไป มันสามารถกระจายเถาวัลย์ออกไปตามพื้นเพิ่งซุ่มโจมตีอย่างกระทันหัน
หลิน ยู ทดสอบระยะการโจมตีของเธอพบว่าระยะของมันคือ 70 เมตร มีนี้เป็นระยะทางน่ากลัวจริงๆ
เพียงแค่เขาคิดว่า
เมื่อศัตรูเขามาในระยะ 70 เมตรของเขา จู่ๆเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากใต้เท้าพร้อมกัน
ฉากนั้นน่าหวาดกลัวอย่างมาก
แน่นอนว่า หลิน ยู ไม่ได้มีรสนิยมชอบทรมานศัตรู เขาจะทำทุกอย่างเพื่อสังหารศัตรูเท่านั้น
หลังจากได้ทดสอบสกิลใหม่ของ แบนชีเสน่หา เข้ายังคงเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลทรายโกบีอย่างต่อเนื่องพร้องกับกองทัพพืชของเขา ค่อยหาร่องรอยของมอนสเตอร์ระดับ 6
ในที่สุด หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ค่าประสบการของนางพญาปิศาจโลหิตก็เต็มในที่สุด มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของเขา
[ขอแสดงความยินดีด้วย นางพญาปิศาจโลหิตทีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการอัพเกรดเป็นระดับ 7 การอัพเกรดต้องใช้แก่นแท้ดินแดนระดับ 6 คุณต้องการอัพเกรดหรือไม่?]
"อัพเกรด"
หลิน ยู เลือกที่จะอัพเกรดทันที ด้วยความหวัง
ผ่านไปชั่วพริบตาเดียว นางพญาปิศาจโลหิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นพืชที่มีพิษร้ายแรงรูปร่างคล้ายๆกับ แบนชีเสน่หา ตัวของมันปกคลุมไปด้วยหนามสีม่วง
[ชื่อ : แบนชีที่เหี่ยวเฉา]
[เผ่าพันธุ์ : พฤกษา]
[ระดับ : ระดับ 7 (0/2500)]
[ความแข็งแกร่ง : 808]
[ร่างกาย : 804]
[ความว่องไว : 625]
[วิญญาณ : 766]
[สกิล : ปราการพฤกษา , เถาวัลย์พิษ , หมอกพิษโลหิต , ทุ่งเหี่ยวเฉา (กางอาณาเขตพิษ ศัตรูที่เข้ามาในระยะของทุ่งเหี่ยวเฉา จะทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว)]
[หมายเหตุ : หนึ่งในสาม ร่างของแบนชี เหี่ยวเฉา เสน่ห์ และความบ้าคลั่ง เก่งในการพิษกัดกร่อนศัตรู พวกเขาพลังชีวิตลดลงเรื่อยๆและตายไปในที่สุด]
เวลานี้เอง
นางพญาปิศาจโลหิตก็ได้อัพเกรดไปเป็นอีกร่างหนึ่งของแบนชี นั้นคือ แบนชีที่เหี่ยวเฉา
เป็นอย่างที่ หลิน ยู คิดไว้ แบนชีสายนี้ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในการใช้พิษ จนถึงขนาดกางอาณาเขตออกมาได้
ทันทีที่มันเลื่อนนะดับสำเร็จ ก็มีออร่าสีม่วงๆแผ่ออกมาปกคลุมรอบรัศมีหลาย 10 เมตร
เมื่อวัชพืชธรรมดาบนดินได้สัมผัสเข้ากับออร่าสีม่วงนี้ มันก็เหี่ยวเฉาลงไปอย่างรวดเร็วราวกับพลังชีวิตของพวกมันดูดูดออกไป
โชคดีที่ทุ่งเหี่ยวเฉานี้ถูกควบคุมโดน แบนชีเหี่ยวเฉา ดังนั้นมันจึงไม่ผมกระทบต่อเขาหรือพืชตัวอื่นๆ
หลิน ยู รู้สึกได้ว่า ความแข็งแกร่งของทุ่งเหี่ยวเฉานี้มันไม่สามารถทำให้ศัตรูตายได้ในเวลาอันสั้น แต่มันเหมือนพิษที่ค่อยกัดกิน บั่นทอนพลังชีวิต ค่อยทำให้ศัตรูที่ตกอยู่ในอาณาเขตตายอย่างช้าๆ
ดังคำที่กล่าว เมื่อศัตรูอ่อนแอ ฉันก็จะแข็งแกร่งขึ้น
ปล่อยพิษไปกัดกร่อนก่อนพอใกล้ตายเขาก็ค่อยเชือด
หลิน ยู ชอบ แบนชีเหี่ยวเฉามาก
ต่อไปก็เหลือเพียง มังกรเงาพฤกษา ระดับ 6 เท่านั้น
หลิน ยู เปิดดูข้อมูลมังกรเงาพฤกษาและมองไปที่มัน ค่าประสบการณ์มาถึง 479 แต้มแล้ว เขาต้องสังหารมอนสเตอร์ระดับ 6 อีก 21 ตัวเพื่อยกระดับขึ้น
แต่เมื่อเขามองไปยังท้องฟ้า มันเกือบจะถึงเที่ยงวันแล้วเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วในการล่ามอนสเตอร์
"ดูเหมือนว่าเขาต้องไปล่าต่อในสนามรบหมื่นอาณาจักร"
หลิน ยู ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงล้มเลิกแผนการที่จะล่าต่อ
ขณะที่เขาคิดเกี่ยวมัน เนื่องจากสงครามหมื่นอาณาจักรเป็นการต่อสู้กันของทุกอาณาจักร มันจึงไม่น่าจะขาดแคลนมอนสเตอร์
ถึงตอนนั้น หากเขาพบมอนสเตอร์ระดับ 6 อีก 21 ตัว เขาจะให้มังกรเงาพฤกษาสังหารมันเพื่อขึ้นเป็นระดับ 7
เขาขี่มูรันชิ กลับไปดินแดนพร้อมกับกองทัพพืช
ในระหว่างที่เขาเดินทางกลับอยู่นั้น จู่ๆก็มีข้อความแจ้งเตือนดังขึ้นในช่องแชทภูมิภาค
"สหายร่วมอาณาจักรทั้งหลาย สงครามหมื่นอาณาจักรใกล้เข้ามาแล้ว ในนามแห่ง อาณาจักรหวงหวู่ ขอให้พวกท่านได้รับชัยชนะกลับมาอย่างปลอดภัย"
เสียงแจ้งเตือนที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
หลิน ยู ซึ่งกำลังเดินทางก็ตกใจทันที
เขาเปิดไปยังช่องแชทภูมิภาคทันที ตรวจสอบดู พบข้อความที่ติดประกาศอยู่ด้านบน ห่อหุ้มด้วยแสงสีทอง
แท้จริงแล้วมันเป็นข้อความเสียง
หลิน ยู จำได้ว่าช่องแชทภูมิภาคนี้มีฟังก์ชั่นการส่งข้อความเสียงอยู่ แต่ละข้อความนั้นต้องใช้พลังเวทย์ 10000 แต้ม ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเห็นใครส่ง
ใครกันที่ใช้พลังเวทย์ 10000 แต้มทิ้งขว้างขนาดนี้
หลิน ยู มองไปยังชื่อที่ส่งข้อความออกมาโดยไม่รู้ตัว
จี้ ซิงเหอ!
ราชาแห่งอาณาจักรหวงหวู่
ปรากฏว่ากษัตริย์แห่งเหล่าขุนนางให้กำลังพวกเขาก่อนที่จะออกเดินทาง หลิน ยู ก็ตระหนักได้ทันที
ข้อความด้านล่างก็ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาหลายคนเห็นกษัตริย์พูดกับพวกเขา รวมทั้งเหล่าขุนนางระดับสูงบางคนได้ส่งข้อความมาหากษัตริย์
หลังจากนั้นไม่นาน ข้อความของ จี้ ซิงเหอ ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
"การต่อสู้ของโลกยังคงเป็นไปตามปกติ จะมีการจัดอันดับจากจำนวนศัตรูที่ถูกสังหาร"
"ผู้ที่ได้รับตำแหน่งสูงสุดจะได้รางวัลจากฉันเป็นการส่วนตัว มันเป็นรางวัลสำหรับความสำเร็จในการสังหารศัตรู"
"ได้โปรดเถอะ สหายร่วมอาณาจักรข้า สังหารพวกมันให้เฮี้ยนเพื่อทวีปดำดึกบรรพ์ของเรา!!!"
มันยังคงเป็นข้อความเสียง ที่ล้อมรอบด้วยกรอบสีทอง
เมื่อรวมเข้าเสียงที่ดูสงบนิ่ง ของ จี้ ซิงเหอ มันทั้งสง่างามและน่าดึงดูดอย่างแปลกประหลาด
คำพูดเพียงแค่ 3 ประโยคนี้ ทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเหล่าราชันลุกโชน มันพรุ่งพร่านดั้งเพลิงที่โหมกระหน่ำ
เหล่าราชันทั้งหมดถูกเชื่อมโยงกันด้วยจิตวิญญาณแห่งดารต่อสู้อย่างเหนียวแน่น
ไม่เว้นแม้เกระทั่งหลิน ยู
เขาเหมือนได้พลังบางอย่างจากการที่ข้อความนี้ มันทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน
หลังจากที่เฝ้าดูช่องแชทอยู่อีกพักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็กลับมาถึงดินแดน เมื่อเขามองไปแว่บแรก เห็น เซียว ฉางกุ้ย กับ เหว่ยกัง มารออยู่ที่ด้านนอกเมืองหวงซา พร้อมด้วยชาวเมืองกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ดูเหมือนพวกเขาจะออกมานอกเมืองหมดเลย
"นายท่านกลับมาแล้ว"
เมื่อเห็น หลิน ยู ขี่มูรันชิมา เซียว ฉางกุ้ยก็รีบเข้าไปหาพร้อมกับชาวเมืองทันที
"พวกชาวบ้านออกมาที่นี้ทำไมกัน"
หลิน ยู สั่งให้มูรันชิ ค่อยๆช้าลงจนไปหยุดท่ามกลางฝูงชนพอดี
ในเวลานี้เอง เซียว ฉางกุ้ย เดินออกมาจากฝูงชนเข้ามาหาเขา
"นายท่าน ท่านกำลังจะไปสมรภูมิอาณาจักรใช่ไหม?"
"นี้หัวหน้าเซียวรู้จักสมรภูมิหมื่นอาณาจักรด้วยงั้นเหรอ"
หลิน ยู ดูประหลาดใจ
"แน่นอน ข้ารู้จักขอรับ" เซียว ฉางกุ้ยตอบหลิน ยู กลับมาด้วยความเคารพ "ในทุกๆ 3 เดือน เหล่าราชันจะถูกวาปไปที่นั้น พวกเราทุกคนเคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน ข้าเคยได้ยินมาว่าที่นั้นอันตรายมาก นายท่าน ท่านต้องระวังตัวนะขอรับ พวกข้าคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีนายท่าน!"
ใบหน้าของ เซียว ฉางกุ้ย นั้นเต็มไปด้วยความกังวล
แม้แต่รอบก็เป็นแบบนั้น สายตาของทุกคนจ้องมองมาที่เขา
สุดท้ายแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พวกรอจะกระทั่งพบกับ หลิน ยู ราชันที่เปี่ยมไปด้วยควาเมตตาและคุณธรรมสูงส่ง เขานั้นได้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่เมืองหวงซา ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น
หากราชันของเขานั้นได้ตายในสงครามหมื่นอาณาจักร นั้นคงจะหมายถึงภัยพิบัติสำหรับพวกเขาและเมืองหวงซา เช่นกัน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับ หลิน ยู
เมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของพวกชาวเมือง หลิน ยู ก็แอบถอนหายใจออกมา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฮ่าๆ ไม่ต้องเป็นหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ ในช่วงเวลา 3 วันที่ฉันไม่อยู่นี้ เมืองหวงซาจะถูกดูแลโดยพวกคุณ"
"ถึงนายท่านไม่บอก พวกเราก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว"
"แกร๊ซ"
เสียงเหมือนท้องฟ้ากำลังแตกออกที่ด้านนอกของเมืองหวงซา ดวงตาทุกคนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น