Chapter 196: Spring, which chooses
春天,选哪1个
เกี่ยวกับภูมิปัญญาของจูเห่าเหริน,ซูเห่าไม่ได้คาดหวังมากนัก,โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยาซานที่เพิ่งเรียนรู้หนังสือ.
หลายปีมานี้,หยาซานได้ทำตามคำแนะนำของซูเห่า,ได้สร้างวิทยาลัยซือหลิน ขึ้นในเมืองซือหลิน,ให้ผู้คนได้เรียนหนังสือโดยเฉพาะ,สอนความรู้ทั่วไปและทักษะการดำเนินชีวิต.
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ การปลูกฝังแนวคิดเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กลายพันธ์และคนธรรมดา.
การศึกษาที่ดี,คือการปลูกฝังตั้งแต่ยังเด็ก,เพียงสิบปีหลังจากนั้น,แนวคิดวัฒนธรรมของโลกนี้ก็จะเปลี่ยนไป.
ระบบการศึกษานี้,ได้กระจายไปถึงเมืองฮุยหยาง,ตามความต้องการของหยาซาน,และได้เปลี่ยนชื่อสถาบันเป็นวิทยาลัยซือหลิน สาขาต่าง ๆ.
ซูเห่าได้ออกความเห็นว่าควรเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยซะ ไม่ควรเป็นหนึ่งเดียวกันมากเกินไป,เพราะสถาบันการศึกษาคือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร,ไม่ควรทำให้เป็นโครงสร้างองค์กรจนเกินไป,ซึ่งมันง่ายที่จะถดถอยได้.
อย่างไรก็ตามซูเห่าไม่อาจควบคุมได้,ท้ายที่สุดก็ต้องปล่อยไปตามกระแส,ให้เผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินเป็นคนกำหนดพวกมันเอง.
สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ,เพียงแค่องค์ความรู้และวิธีการสอนเป็นไปตามที่เขาต้องการก็พอแล้ว.
ห้าวันหลังจากนั้น,ซูเห่าก็เรียกหยาซานเข้ามาในห้องทดลอง,เริ่มแรกเขาได้บอกให้หยาซานใช้จิงซีเพียง 1 ใน 10 ของเขา,หลังจากที่วิวัฒนาการสำเร็จ,เพื่อป้องกันอักขระรูนไม่อาจควบคุมได้.
จากนั้นเขาก็ฉีดน้ำยาปรับเปลี่ยนยีนเข้าไปในร่างของหยาซาน.
หยาซานที่ความง่วงจู่โจม,พร้อมกับหลับไป,รอคอยให้ยีนในร่างถูกปรับเปลี่ยน.
ยีนที่ซูเห่าปรับปรุงนั้น,ไม่ใช่ยีนของจูเห่าเหริน,ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนร่างเหมือนบุตรแห่งชีวิต,ทว่าเป็นการบังคับใส่ยีนใหม่ลงไปในสายยีน.
เมื่อหยาซานตื่นขึ้นมา,เขาก็พบว่าในร่างกายของเขานั้นมีรูปแบบยีนรูน“หมุนวน”สถิตอยู่.
รูปแบบยีนดังกล่าวนี้,เริ่มก่อตัวเป็นโครงข่ายจิงซีภายในร่างของเขา,ท้ายที่สุดอีกวันโครงข่ายจิงซีก็ไม่เปลี่ยนอีกต่อไป.
หยาซานพบจิงซีในร่างกายของเขาที่มีมากมายโคจรเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่,กำเนิดเป็นระบบจิงซีที่สมบูรณ์,แม้แต่ยังมีช่องว่างจำนวนมากที่สามารถเติมจิงซีเข้าไปได้อีก,และยังเป็นช่องว่างที่มหึมามาก.
หยาซานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“พี่ใหญ่เหว่ย,ลึกล้ำจริง ๆ!”
ซูเห่าสร้างโล่เกราะเพชรขึ้นมา,วางไว้ด้านหน้าหยาซาน“ลองทดสอบความสามารถ”หมุนวน“ของเจ้า”
หยาซานที่กำหมัดพร้อมกับต่อยไปยังโล่เพชรทันที.
“ตูมมมมม!”หยาซานต่อยไปยังเกราะเพชรด้วยหมัดหมุนวน ระเบิดเสียงดังสนั่น.
หยาซานเอ่ยด้วยความดีใจประหลาดใจ“ทักษะนี้ใช้ง่ายมาก,ราวกับเป็นสันชาติญาณ,แข็งแกร่งมาก!”
ซูเห่าเผยยิ้ม“หลังจากจิงซีของเจ้าถูกเติมเต็ม,เจ้าจะพบความแตกต่างยิ่งกว่านี้,นอกจากนี้....”
จากนั้น,ซูเห่าก็เผยยิ้มให้กับหยาซาน“หยาซาน,ข้าจะมอบภารกิจให้กับเจ้า,เป็นหน้าที่สำคัญมาก!”
หยาซานเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายของซูเห่า,ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา“ภารกิจอะไรรึ?”
ซูเห่าเอ่ย“เจ้าไปหาผู้หญิงมาให้กำเนิดบุตรสักคนซะ!”
หยาซานที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต“!!!”
ภารกิจอะไร? พี่ใหญ่เหว่ยเอาจริงรึ?
หยาซานเอ่ย“เรื่องนี้......”
ซูเห่าเอ่ย“หืม? ไม่มีเป้าหมายอย่างงั้น? ต้องการให้ข้าช่วยหาให้หรือไม่?”
หยาซานที่โบกมือไปมาทันที“เรื่องนี้...คือ....มี! มีเป้าหมายแล้ว,ข้าจะพยายามหาวิธี...”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“เช่นนั้นก็ดี,ผ่านมานานแล้ว,เจ้าควรจะหาคู่หูให้กับตัวเองได้แล้ว.”
ซูเห่าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แต่อย่างใด,ด้วยขอบเขตบุตรแห่งชีวิต,ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องการจับคู่กับเขา.
มนุษย์กลายพันธุ์ต่อหน้าลำดับอื่นย่อมไม่ถูกสะกดข่มทางสายโลหิต,ทว่าหยาซานนั้นมียีนที่ทรงพลังมาก,แม้แต่ลำดับอื่นก็ยังถูกสะกดข่มไปด้วย แม้เขาจะเป็นลำดับมนุษย์เกราะก็ตาม.
นอกจากนี้,ซูเห่ายังฝังชิ้นส่วนยีนพิเศษให้กับหยาซาน,สามารถที่จะเข้าไปยุ่งกับไข่หลังจากปฏิสนธิได้.
อย่างไรก็ตามที่น่าเศร้าที่เด็กที่เกิดขึ้นสามารถสืบทอดยีนมนุษย์กลายพันธ์ขั้นที่สามคือขั้นสูงสุดแล้ว,สูงจากนั้นจำเป็นต้องกลืนกินเนื้อเหมือนเดิม.
ต้องไม่ลืมว่ายีนของเผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินไม่ได้วิวัฒนาการอัตโนมัติ,ทว่ามาจากการปล้นชิงยีนของสัตว์ร้าย.
ซูเห่าพบว่า,เหตุผลที่เด็กเผ่าพันธุ์จูเห่าเหรินนั้นไม่สามารถที่จะทนยีนที่ทรงพลังได้,ดังนั้นครรภ์มารดาจึงทำการคัดเลือกยีนและทำลายยีนขั้นสี่ขึ้นไปโดยอัตโนมัติ.
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของซูเห่าไม่ได้ศึกษาการสืบทอดยีนมนุษย์กลายพันธ์,ทว่าเพื่อทดสอบว่ายีนรูน,หมุนวน ของหยาซานนั้น,สามารถสืบทอดไปยังทายาทรุ่นต่อไปได้หรือไม่?
ด้วยเหตุนี้,เขาจึงต้องใช้หยาซานทดลองครั้งนี้.
แล้วทำไมซูเห่าไม่ทดลองด้วยตัวเอง,ซูเห่าได้ให้คำตอบกับตัวเองว่า,เขาได้สลักอักขระสัมผัส บนร่างด้วยตัวเอง,ไม่ได้เกิดจากยีนรูน,และเขายังไม่ค่อยชอบสตรีจูเห่าเหรินด้วย.
......
หลังจากหยาซานออกจากห้องทดลองซูเห่า,ภายในใจของเขา แม้นว่าด้านนอกดูเงียบสงบ.
ทว่าเขากับกำลังคิดถึงบุตรสาวของตัวเอง,และคิดถึงบุตรชายที่เคยมี,ทว่าบุตรชายก็ตายไปแล้ว,ทำให้เขาไม่เคยคิดจะมีบุตรอีก.
อย่างไรก็ตามด้วยคำพูดพี่ใหญ่เหว่ย,เขาจำเป็นต้องรับฟัง,โดยเฉพาะพี่ใหญ่เหว่ยได้บอกว่ามันเป็นภารกิจ,ด้วยเหตุนี้,เขาจึงรู้สึกสับสนอยู่เช่นกัน.
หยาซานดูลังเลคิดอยู่นาน,เวลานี้กำลังคิดถึงเป้าหมายหญิงสาวที่จะเป็นคู่เขา
พิเศษและงดงาม.
ยิ่งหยาซานคิดก็ยิ่งรู้สึกอักอ่วน.
ไม่ใช่ว่าเขากังวลว่าจะไม่มีสตรีใดยินดี มีเด็กกับเขา.
ทว่า...มันมีมากเกินไป,ไม่รู้จะเลือกใคร!
ใช่แล้ว,หยาซานที่เป็นหัวหน้าใหญ่แก๊งซือหลิน,ย่อมมีคนล้อมรอบมากมาย.
อย่างไรก็ตามหลายปีมานี้หยาซานระงับใจของตัวเองเอาไว้,แม้แต่ใช้หลักการสามเข้มงวดสี่ขยันห้าไม่กระทำ,รักษาศีลธรรมอย่างเคร่งครัด.
ครั้งนี้เป็นภารกิจของพี่ใหญ่เหว่ย,หยาซานพร้อมที่จะสละใบหน้าของเขา,เลือกสตรีที่จะมีเด็ก!
“เลือกใครดี? พวกเธอทั้งหมดเต็มไปด้วยเสน่ห์! ไม่อาจละเลยได้,ไม่อาจเลือกเพียงคนเดียวได้....”
ความคิดมากมายที่ต่อต้านกันไปมาในสมองของหยาซาน.
หนึ่งเดือนถัดมา,หยาซานจิตใจสงบลง,พลังฟื้นฟูสู่จุดสูงสุด,จึงได้เอ่ยลาซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าคงไปราว ๆ หนึ่งเดือน,เดือนนี้...ข้าจะทำภารกิจที่พี่ใหญ่ให้มาให้สำเร็จ!”
ซูเห่าเอ่ย“ลุยเลยหยาซาน! ไม่ต้องยั้ง!”
หยาซานพยักหน้าหลายครั้ง,จิตวิญญาณที่พลุ้งพล่านฮึกเหิม,ราวกับทหารกล้ากำลังออกรบ,กระโดดขึ้นสู่อากาศ,บินกลับเมืองฮุยหยาง.
5-6 ชั่วโมงนับว่านาน,หากแต่กับรวดเร็วมากสำหรับหยาซาน,ขณะร่อนลงนอกเมืองฮุยหยาง,เขาเผยท่าทางลังเล,แต่ก็ตัดสินใจอย่างหนักแน่นขณะก้าวเข้าเมือง.
“ภารกิจของพี่ใหญ่เหว่ย,ข้าพร้อมสังเวยตัวเอง”
“เพื่อภารกิจของพี่ใหญ่เหว่ย,ข้าจะต้องเสียสละบ้าง.”
......
หยาซานที่ก้าวเข้ามา,ขณะล้างสมองตัวเองด้วยคำพูดของเขาซ้ำ ๆ,ก้าวเข้าไปยังสำนักงานใหญ่แก๊งซือหลิน,หยาซานเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเที่ยงธรรม.
เขาเข้าไปในห้องทำงานผู้บริหาร,เห็นบุตรสาวไท่นี่กำลังนั่งอ่านเอกสาร,โดยมีราชาวิปลาสโนวหลินเป็นผู้ช่วยเธออีกที.
ในเวลานั้นไท่นี่และโนวหลินรู้ว่าหยาซานกลับมาแล้ว,โหวหลินที่พยักหน้ารับเอ่ยออกมาทันที“พี่ใหญ่หยาซาน,ท่านกลับมาแล้ว!”
ไท่นี่ที่ร่างกายผอมเพรียวสง่างาม,ดวงตาเป็นประกาย,ลุกขึ้นก้าวไปคล้องแขนหยาซานเอ่ยออกมาว่า“พ่อ,มาก็ดีแล้ว,มีเรื่องที่ต้องให้พ่อตัดสินใจ!”
หยาซานที่กัดฟัน,อดไม่ได้ที่จะมองรูปร่างหน้าตาของราชาวิปลาสโนวหลิว
“อืม! ยอดเยี่ยม,เหมาะจะให้กำเนิดบุตร!”
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของหยาซานวันนี้ไม่ใช่เธอ,หยาซานที่สูดหายใจลึก,พร้อมกับคลายมือไท่นี่,เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“ไท่นี่,เรื่องที่เจ้าตัดสินใจนั้นดีอยู่แล้ว,ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ.”
หยาซานหันหน้าไปหาราชาวิปลาสโนวหลิน“โนวหลิน,ช่วยข้าเรียก ราชาเงา นานา,บอกว่าข้ามีเรื่องต้องการพบเธอ,ให้เธอมาพบข้าที่บ้านด้วย.”
โนวหลินที่ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ไม่ค่อยถูกต้องนัก,ก็พยักหน้า“รับทราบพี่ใหญ่หยาซาน.”
กล่าวจบหยาซานก็เดินออกไป! กลับไปรอที่บ้าน.
ไม่นาน,เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น,เสียงสดใส ดังขึ้นมา“พี่ใหญ่หยาซาน,ท่านกลับมาแล้ว! กำลังหาข้าอยู่รึ?”
เป็นราชาเงา นานา! นั่นเอง.