ตอนที่ 82 สงครามหมื่นอาณาจักร
ตอนที่ 82 สงครามหมื่นอาณาจักร
"นายท่าน เมืองซวนเย่อยู่ที่นั้น"
ผ่านมาแล้วกว่าชั่วโมง
ในที่สุด หลิน ยู และ เหว่ย กัง ก็ผ่านป่าออกและพบกับเมืองซวนเย่
"นั้นหน่ะเหรอเมืองซวนเย่"
หลิน ยู ซ่อนตัวอยู่ในป่าย่องไปตามพู่มไม้ เขาเห็นประตูเมืองตั้งอยู่ในที่สุดปลายของถนน มีอักษะสีทอง 3 ตัว "เมืองซวนเย่" แขวนอยู่บนประตูเมือง
นี้มันแตกต่างจากที่ หลิน ยู คิดเอาไว้ เมืองซวนเย่นี้ ดูทรุดโทรมอย่างมาก
ถึงแม้ว่ามันจะดูยิ่งใหญ่กว่าเมืองหวงซามาก แต่ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะได้รับความเสียหายอย่างหนักมา
ไม่เพียงแต่กำแพงเมืองจะพังทลายลงเท่านั้น แม้แต่ถนนก็ยังเต็มไปด้วยหลุมบ่อ มีร่องรอยการต่อสู้อยู่ที่หนแห่ง
ผ่านประตูเมืองเข้า จะเห็นพื้นที่ขนาดใหญ่มีบ้านเรือนและอาคารจำนวนมากที่ถูกทำลาย ทั้งหลายเป็นซากปรักหักพัง ดูย่ำแย่อย่างมาก
"สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกทำลายจะการต่อสู้กันของเจ้าเมืองคนเก่ากับราชันหน้าใหม่คนนั้น มันต้องใช้เวลาอีกมากในการสร้างขึ้นมาใหม่"
เหว่ย กัง ที่อยู่ข้างๆอธิบายกับเขา
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ภายในเมืองซวนเย่ จะน่าเวทนามากกว่าที่ หลิน ยู คิดไว้
เนื่องจากเหตุการณ์การต่อสู้กันระหว่างเจ้าเมือง ทำให้เจ้าที่รักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น
ด้านนอกประตู จะสามารถเห็นผู้ฝึกตนจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้าไป
แม้ว่า หลิน ยู จะให้สามารถผ่านเข้าไปง่ายๆได้ด้วยหลิง ซี แต่ตัวเขานั้นยังเป็นเพียงราชันระดับ 6 หากถูกปิดล้อม เขาก็ยากที่จะรอดไปได้
หลิน ยู ได้ส่งมังกรเงาพฤกษาบินออกไปเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ในเมืองจากทางด้านบน
ด้วยข้อมูลที่ได้รับจาก มังกรเงาพฤกษา ในไม่ช้า เขาก็พบว่าถนนในเมือง มีสัตว์ร้ายหุ้มเกาะเดินตรวจตราอยู่ภายในเมืองจำนวนมาก พวกมันมีร่างกายที่ดูแข็งแกร่ง
มันคงจะเป็นทหารของราชันหน้าใหม่คนนั้น และเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ภายใต้เขา
เป็นดังที่ เหว่ย กัง ได้บอกเข้าไว้ ราชันคนใหม่ของเมืองซวนเย่ เป็นราชันเผ่าจักรกล
"เวรยามในเมืองเข้มงวดกว่าด้านนอกซะอีก ดังนั้นตอนนี้น่าจะเข้าไปได้ยาก"
หลิน ยู พูดด้วยเสียงเบา
"ใช่แล้วขอรับ" เหว่ย กัง พยักหน้าเห็นด้วย "มันง่ายนักที่จะออกมาด้านนอก แต่ยากในตอนเข้านี่ละ ผมคิดว่าเราควรจะรอเข้าไปในตอนที่ตลาดเปิด ชาวเมืองเหล่านั้นจะออกมาซื้อของที่ตลาดกัน"
"มีมอนสเตอร์อยู่แถวนี้บ้างไหม" หลิน ยู มองไปยังเหว่ย กัง
"มีขอรับ แม้ว่ามันจะมีมอนสเตอร์ออกมาเป็นบางครั้งบางคราว บริเวณ รอบๆเมืองซวนเย่ แต่โดยส่วนมากมันจะเป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำมันไม่เป็นภัยต่อเมือง ถึงแม้ว่าจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงโผล่ออกมา ผู้ฝึกตนในเมืองซวยเย่ ก้จะออกมาจัดการพวกมันในทันที ดังนั้นที่นี้จึงค่อนข้างปลอดภัย"
"มันเป็นอย่างนี้นี่เอง"
หลิน ยู ตะหนักได้ในทันที
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่พบกับมอนสเตอร์ระดับสูงเลยตลอดทางที่ผ่าน ปรากฏว่าพวกมันถูกกำจัดไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากพื้นที่ๆอยู่ใกล้กับเมืองซวยเย่ยังมีผู้ฝึกตนระดับ 6 อีกเป็นจำนวนมาก มอนสเตอร์เหล่านั้นจึงไม่กล้าเข้าใกล้ คาดว่าพวกเขาคงจะออกล่ามอนสเตอร์ระดับสูงในพื้นที่ห่างไกลกัน
หลังจากที่ให้ มังกรเงาพฤกษาบินตรวจสอบรอบเมืองซวนเย่แล้ว
จากนั้น หลิน ยู ก็พูดว่า "หลังจากที่ตรวจสอบอีกซักรอบแล้ว พวกเราก็กลับกันเถอะ!"
"ได้เลยขอรับ"
พวกเขาทั้ง 2 ขี่มูรันชิ วนรอบเมืองซวนเย่อีกครั้ง จากนั้นก็กลับไปยังเมืองหวงซาทันที
หลังจากที่สำรวจเมืองซวนเย่แล้ว
ทำให้หลิน ยู รู้ได้อย่างชัดเจนถึงช่องว่างระหว่างเมืองหวงซา กับเมืองอื่นๆ
แม้มันจะทรุดโทรมแต่เมืองหวงซาก็เทียบกับเมืองอื่นๆไม่ติด
หากเขาต้องการที่จะพัฒนาอย่างรวดเร็วขึ้น เขาต้องมีความแข็งแกร่งเพียง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถรวบรวมบุคคลที่มีความสามารถพิเศษมาอยู่กับเขาได้
ดังนั้นหลังจากที่กลับมายังเมืองหวงซา หลิน ยู ก็ออกจากดินแดนไปกับกองทัพพืชของเขาเข้าไปยังส่วนลึกทะเลทรายโกบี เพื่อรวบรวมพลังเวทย์อีกครั้ง
ในอีกไม่กี่วันถัดมา
เขายังเดินทางไปยังทะเลทรายโกบีอย่างต่อเนื่อง ล่ามอนสเตอร์และพัฒนาความแข็งแกร่งของเขา
จนกระทั่งวันที่ 5 ในที่สุดเขาก็อัญเชิญทหารได้ครบ 120 ตัว
ในหมู่พวกมันมีพืชประเภทสัตว์ร้าย 30 ตัว พืชต่อสู้อีก 80 ตัว
ส่วนที่เหลืออีก 10 ตัวคือทีมเพาะพันธุ์เมล็ดและทีมสนับสนุนของเขา
"ในที่สุดก็อัญเชิญพวกมันเต็มซักที นี้มันไม่ง่ายเลย"
ภายในดินแดนของหลิน ยู ตอนนี้มีทหารพืชมากกว่า 100 ตัวอยู่ตรงหน้าเขา เขารู้สึกเหมือนกับทำบางอย่างสำเร็จ
เขามองไปยังนางพญาปิศาจโลหิตทั้ง 2 ตัว กับ มังกรเงาพฤกษา ที่รอดชีวิตจากหลบหนีออกจากภูมิภาคเริ่มต้น พวกมันมีค่าประสบการณ์มากกว่า 400 แล้ว คงใช้เวลาอีกเพียงไม่นานพวกมันก็จะเลื่อนเป็นระดับ 7 เหมือนกับ หลิง ซี
หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน จำนวนผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองหวงซาก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิมที่มีอยู่ 500 คนในตอนแรกคนนี้เขามีชาวเมืองมากกว่า 1000 คนแล้วในปัจจุบัน
พลังความศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็น 103 แต้ม ซึ่งมันทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
ต่อไปก็เป็นเรื่องของการสร้างอาณาเขต
ตราบใดที่อาณาเขตถูกสร้างขึ้น มันจะสามารถดึงดูดผู้คนให้มาทีนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวผู้ฝึกตน หรือพ่อค้า
เมื่อมีคนเพิ่มมากขึ้นพลังความศรัทธาของเขาต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดูเหมือนการเลื่อนขั้นไประดับ 7 จะอยู๋เพียงแค่เอื้อมมือ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลิน ยู ก็เปิดเข้าไปดูในช่องแชทภูมิภาคว่ามีข่าวสารอะไรใหม่ๆบ้าง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือหัวข้อของการพูดคุยของราชันในคือนี้ทำให้เขาสนใจ
"พี่น้องทั้งหลาย ใกล้ได้เวลาออกไปลุยกันอีกครั้งแล้ว พวกนายพร้อมหรือยัง"
"ไม่ต้องบอกหรอก เตรียมเสร็จนานแล้ว รอแค่ถึงพรุ่งนี้เที่ยง"
"ครั้งก่อนฉันฆ่าไปได้ 10 คน ครั้งนี้ฉันจะฆ่าให้มากกว่าเดิม!"
"ฮ่าๆ แน่ใจงั้นเหรอ รอดกลับมาให้ได้ก่อนเถอะ"
"เพื่อนเรามาร่วมทีมกันไหม ฉันซื่อสัตย์ไว้ใจได้ ไม่มีทางแทงข้างหลังนายอย่างแน่นอน"
เมื่อมองดูการพูดคุยอยู่นั้น ใบหน้าของ หลิน ยู ก็เต็มไปด้วยความสงสัย เขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน
แต่เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
ราวกับว่ากำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีราชันหน้าใหม่บางคนอดไมได้ที่จะส่งข้อความถามออกไป
"พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกัน วันออกเดินทางหมายความยังไง"
"ฮ่าๆ นี้มันคำถามเดียวกันกับตอนที่ฉันเพิ่งมาถึงที่นี้เลย ฉันงงไปหลายวันเลย"
"เป็นไปได้ไหมว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น"
สิ่งที่พวกเขาถามออกมา คือสิ่งที่หลิน ยู ต้องการจะถามเหมือนกัน
เนื่องจากมีคนถามไปก่อนเขาแล้ว มันจึงช่วยเขาประหยัดพลังเวทย์ไปได้ 100 สำหรับการส่งข้อความ
ราชันหน้าเก่าที่กำลังพูดคุยกับอยู่นั้นพอเห็นคำถามของเขาก็พากันส่งข้อความไปเยอะเย้ย
"ฮ่าๆ เจ้าหน้าใหม่นี้กลัวจนตัวสั่นเลย พรุ่งนี้จะมีการวาปหมู่ หากพวกแกไม่อยากตาย ก็มีพัฒนาเข้าละ"
"แย่แหะ ฉันได้ยินว่ามีเรื่องแบบที่อาณาจักรอื่น ไม่แน่ใจว่ามีราชันหน้าใหม่ตายที่นั้นกี่คนกัน"
"ฉันจำได้เหมือนกันตอนที่ฉันมาที่นี้ครั้งแรก ฉันสับสนมาก โชคดีที่ฉันผ่านมันมาได้"
"ฉันเดาว่าคงมีราชันหน้าใหม่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งต้องตายในครั้งนี้"
"ตายครึ่งหนึ่งงั้นเหรอ หัวเก่าเกินไปแล้ว ตายครึ่งที่หมายถึงนี้คืออย่างน้อยนะ"
"อย่าไปแกล้งให้พวกเขาตกใจซิ พวกเขาอยู๋อาณาจักรเดียวกับพวกเรานะ การแจ้งเตือนจะมาถึงเร็วๆนี้พวกรอได้เลย"
หลังจากเฝ้ามอง
นี้มันคืออะไรกัน
หลิน ยู ซึ่งเฝ้าดูข้อความก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
อย่างไรก็ ก่อนที่เขาจะได้คิดเกี่ยวกับมัน เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของราชันทุกคน
[เหล่าราชันที่รัก ศึกหมื่นอาณาจักรจะเปิดในตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ โปรดเตรียมตัวให้พร้อม]
[ในเวลานั้น ราชันทุกคนจะถูกบังคับให้วาปไปสนามรบหมื่นอาณาจักร ซึ่งจะกินเวลาทั้งหมด 3 วัน]
[ในช่วงที่สนามรบเปิด ดินแดนทั้งรวมทั้งอาณาเขตจะได้รับการปกป้อง ไม่ได้รับความเสียหายจากภายนอก]
[ในสนามรบ คุณได้พบกับศัตรูจากทุกอาณาจักรบนทวีปดึกดำบรรพ์ ตลอดทั้งสมบัติและทรัพยาการในการพัฒนาดินแดน จงต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ และพยายามเอาชีวิตรอบให้ได้ในสนามรบ!]