ตอนที่ 1281 ผู้พิทักษ์เกราะแก้ว
หอทงเทียน
ชั้นที่สิบทวีปกวงหมิงซึ่งเป็นอยู่ของเผ่ามนุษย์วิหค
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนำกลุ่มบุกฝ่าเอาชนะอุปสรรคขัดขวางทั้งหมดมีทหารแดนสวรรค์นับล้านรอพวกนาง และฝ่ายศัตรูมีผู้จอมภพแดนสวรรค์ทั้งจากแดนสวรรค์ตะวันออกเหนือและตะวันตกนำทัพ และจัดรูปขบวนที่น่ากลัวรอนางอยู่ ใครจะรู้กันว่าที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนี้ สถานที่สู้รบดุเดือดและขอกำลังช่วยเหลือในตอนแรกตอนนี้กองทัพแดนสวรรค์ถอยทัพด้วยเหตุผลบางอย่างเหลือแต่เพียงสนามรบที่ยุ่งเหยิงและศัตรูเพียงเล็กน้อยเกินคาดหมายองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไปมาก
“เจ้าเป็นใคร?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยตามข่าวกรองไม่มีคนแบบนี้
ตอนนี้มีคนหกคนอยู่ข้างหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
พวกเขาสวมชุดรบ
ที่ออกมาแบบมาโดยเฉพาะเจาะจง
มีจารึกอักขระรูนสวรรค์ที่มีความหมายว่า‘ทำลาย’อยู่บนหน้าอกชุดรบเหมือนเป็นยี่ห้อสินค้า ทวีปกวงหมิงมีเผ่าพันธุ์ประหลาดมาได้อย่างไร? พวกเขามาที่นี่ทำไม? หรือว่ามาเพื่อชื่อเสียงและแสวงหาประโยชน์?
ยอดนักรบเหล่านี้ที่จารึกอักขระรูนสวรรค์บนชุดนักรบนั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษ? หรือว่าเป็นทหารรับจ้าง?หรือตระกูลลับจากแดนสวรรค์บน? อย่างไรก็ตามไม่ว่ากรณีใดๆ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามารถตัดสินได้ง่ายๆคือพวกเขามีเจตนาไม่ดี
“ความจริงเราไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าแต่ก่อนจะให้พวกเจ้าตายและให้พวกเจ้ากลัวมากยิ่งขึ้นข้าตัดสินใจบอกความจริงเจ้า” บุรุษยักษ์น่ากลัวสูงห้าเมตรทำให้ภาพรวมของเขามั่นคงเหมือนภูเขาที่ไม่สั่นคลอนต่อการโยกคลอน อย่างไรก็ตามรูปร่างของเขาสมส่วนสง่างามมากเขาไม่เพียงแต่ไม่งุ่มง่ามเหมือนยักษ์ทั่วไปแต่เป็นมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่รูปร่างสง่างาม
ก็เหมือนกับนักรบแดนสวรรค์หลายคน ยักษ์ทองผู้นี้ตั้งอาวุธไว้ข้างหน้า
ดูเหมือนเป็นง้าวยาว
แต่ด้านบนเป็นดาบยาวสีแดงโลหิต
เพียงมองดูแว่บแรกก็รู้ได้ว่านี่เป็นอาวุธวิเศษที่สามารถคร่าชีวิตได้
ถ้าให้ทหารปีศาจแปลกประหลาดเช่นนั้นโจมตีเชื่อได้ว่าต่อให้รอดได้โดยไม่ตาย แต่จะต้องเจ็บปวดเสียเลือดเนื้อและคงเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ที่ยากเยียวยา ยักษ์ทองกวาดตามองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและพวกนอกจากนี้ยังมองดาบเทพพยัคฆราชในมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมทั้งอาวุธของคนอื่นด้วยเช่นกันอีกห้าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังยักษ์ทองให้ความสนใจหญิงงามที่อยู่ด้านหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นอู๋เหิน เย่ว์หวี่ จุ้ยมาวอี้และราชันย์ปีศาจใต้ ดูเหมือนพวกเขาจะสนทนาด้วยภาษาลับและเลือกคู่ต่อสู้ของตน
“เรามาจากเผ่ากลืนสวรรค์ ตั้งแต่นักรบหอทงเทียนปรากฏตัวในแดนสวรรค์เผ่าเราก็ถือกำเนิดแล้ว เราเกิดมาเพื่อฆ่าพวกหอทงเทียนขอบอกไว้เลยว่าเราคือฝันร้ายและศัตรูธรรมชาติของพวกเจ้า!”
“ในฐานะที่เป็นเทพข้าชื่อถูว่าน อยู่มาตั้งแต่ยุคนางพญาผู้พิชิตของเจ้า นักรบเผ่ากลืนฟ้ารับหน้าที่สังหารนักรบจากหอทงเทียนนั่นคือเป้าหมายและภารกิจของเรา” ยักษ์ทองกล่าวและให้ความสนใจดาบเทพพยัคฆราชในมือขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน “เพราะในอดีตมีสถานการณ์แปลกประหลาดทำให้ข้าพลาดโอกาสตัดศีรษะของจักรพรรดิอวี้จ้านฟง แต่เราเทพผู้นี้นี่แหละจะตัดศีรษะของเย่ว์ไตตัน และก่อนที่ข้าจะตัดหัวของเย่ว์ไตตันข้าไม่ถือสาที่จะตัดศีรษะภรรยาและนางสนมของเย่ว์ไตตันให้หมดก่อนก็ได้ และไม่ต้องมาถกถึงเรื่องความยุติธรรมความชั่วร้ายกับข้ามีแต่ความตายเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายสุดท้ายของแต่ละฝ่าย ดังนั้นอย่าหวังใช้คำพูดซาบซึ้งเรียกน้ำตาหรือความประทับใจจากเรามันเปล่าประโยชน์ และขอแนะนำพวกเจ้าให้คิดหาวิธีตายที่เร็วขึ้นและลดความเจ็บปวดก่อนตายยังจะดีเสียกว่า”
“ดูเหมือนว่าพูดไว้ชัดเจนแล้วดังนั้นพวกเจ้าทุกคนต้องตายให้กับข้า!” ทันทีที่ยักษ์ทองชื่อถูว่านพูดจบพวกเขาไม่เปิดโอกาสให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดทันที
ง้าวสีแดงฟันออกราวกับสายฟ้า
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยกดาบเทพพยัคฆราชในมือต้านรับและเบี่ยงตัวหลบนางพบว่าง้าวแดงของถูว่านเหมือนกับสิ่งมีชีวิต มันยืดขยายอย่างไม่คาดคิด
แย่แล้ว
เจ้าสิ่งที่อยู่ในมือของเขาคืออาวุธตัดศีรษะที่อันตราย
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้พลังพลิกเปลี่ยนท่าอย่างคาดไม่ถึงแต่ยังไม่ทันความเร็วของท่าไม้ตายของฝ่ายตรงข้ามที่หนักหน่วงและรวดเร็ว
ยิ่งไปกว่านั้นง้าวโลหิตแปลกประหลาดนี้ยังยืดขยายได้เรื่อยๆคมมีดโค้งขยายอ้อมมาถึงด้านหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอย่างรวดเร็ว
“เกราะแก้ว!”
อู๋เหินยกมือพร้อมกับหลับตา
เหมือนศีรษะของนางปรากฏสายรุ้งพร่างพรายนัยน์ตา
และไม่เพียงแต่รอบๆตัวองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเท่านั้นแต่รอบร่างของสหายที่อยู่ในสนามรบทุกคนได้รับการปกป้องจากกำแพงแก้วใสที่ยากจะทำลายอู๋เหินเป็นคนจิตใจงดงามมีเมตตาซึ่งนั่นขัดขวางต่อการพัฒนาก้าวหน้าพลังโจมตีของนาง แม้ว่านางจะมีพลังปราณราชันย์นางก็ยังเป็นหญิงงามอู๋เหินผู้ไม่ยินดีลงมือฆ่าศัตรูก่อน อู๋เหินมีความคิดเช่นนี้เป็นของตนเองการสู้รบทำสงครามไม่ถูกกับจริตของนางตั้งแต่เกิดนางเป็นผู้อำนวยการสถาบันที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานวิจัยเป็นภรรยาผู้อ่อนโยนของเย่ว์หยางต่างจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและสตรีคนอื่น นางไม่สนใจติดตามเย่ว์หยางเพื่อสู้ในสนามรบแต่เต็มใจเป็นช้างเท้าหลังคอยติดตามช่วยเหลือเขาให้ตระหนักรู้เติบโตก้าวหน้า
ด้วยบุคลิกเช่นนั้นของอู๋เหินนางจึงถูกมองว่าไม่ใช่นักสู้ในสนามรบที่มีชื่อเสียง
อย่างไรก็ตามด้วยบุคลิกประจำตัวเช่นนี้ความรู้แจ้งในพลังการป้องกันตัวของนางจึงเหนือกว่าห่างไกลจากสตรีอื่น
เมื่อนางสวมเกราะแก้วชูโล่แก้วใช้สนามพลังแก้วผลึกและปณิธานราชันย์ที่ไม่เหมือนใครในสนามรบอย่างนั้นแม้แต่นักรบระดับเทพก็ไม่มีทางทำลายพลังป้องกันของนางได้
หญิงงามอู๋เหินสู้ได้ไม่ย่อท้อ
รูปแบบการต่อสู้ของนางไม่ใช่รุก
แต่เป็นการตั้งรับ
ความปรารถนาลึกๆของนางคือใช้พลังของตนเองปกป้องคนรักและน้องๆ ของนางตามวิถีของนางเองมีแต่เย่ว์หยางผู้เป็นสามีที่รู้และเขาเท่านั้นที่เข้าใจความเพียรพยายามอย่างหนักและความมุ่งมั่นของนางในเรื่องนี้ นางไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการสู้รบ พลังของนางไม่ได้ถูกใช้ออกมาอย่างชัดเจน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางไม่มีความก้าวหน้าเมื่อใดก็ตามที่เย่ว์หยางมีพลังก้าวหน้านางกับสามีของนางที่ฝึกฝนพลังคู่รักด้วยกันก็ย่อมก้าวหน้าเป็นธรรมดา
วันนี้เมื่อหอทงเทียนตกอยู่ในวิกฤตอันตรายครั้งใหญ่
สาวงามอู๋เหินมุ่งมั่นจะปกป้องคนรักและพี่น้องของนางในที่สุดนางเปล่งประกายพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
สามารถตัดกระแสง้าวโลหิตที่มีพลังครอบคลุมพื้นที่หมื่นเมตรจนขาดไปได้ง้าวโลหิตเป็นของวิเศษชั้นเทพใหญ่เป็นอันดับสองของเผ่ามังกรกลืนสวรรค์ที่ถูว่านใช้โจมตีแต่กลับถูกขัดขวางโดยกำแพงแก้วผลึกของหญิงงามร่างกายบอบบางราวกับกระดาษ! เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร?
ไม่เพียงแต่ถูว่านที่เป็นหัวหน้าเท่านั้นแต่นักรบเผ่ามังกรกลืนสวรรค์คนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังของเขายังปากอ้าตาค้างไปด้วยเช่นกัน
กำแพงแก้วสามารถต้านทานอาวุธระดับเทพได้หรือนี่?
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นกำแพงแก้วที่บางพอๆกับกระดาษหรือ?
ของอย่างนี้
ยังเรียกว่ากำแพงแก้วได้อีกหรือ?
แต่ความจริงปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา แม้ว่าจะดูเหมือนเหลือเชื่อแทบบ้าแต่นี่เป็นความจริงของการโจมตีที่แข็งแกร่ง
“.......”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกับพวกรู้สึกเหลือเชื่อ พวกนางหันไปมองอู๋เหินทีละคนๆ ราวกับว่าเพิ่งรู้จักนางตอนนี้อู๋เหินมีสีหน้าจริงจังนางเปลี่ยนไปจากช่วงเวลาสุภาพอ่อนโยนตามปกติซึ่งเป็นอุปนิสัยของนาง นางค่อยๆลืมตาคล้ายแก้วใสและจ้องมองไปทางถูว่านและนักรบเผ่ามังกรกลืนฟ้าที่กำลังโกรธจากการลอบโจมตี “เจ้าเป็นแค่เทพเทียม เลิกความคิดทำร้ายน้องๆข้าได้แล้ว แม้ว่าจะไม่เต็มใจทำสงครามส่วนตัวกับใครแต่ข้าสัญญากับเขาไว้แล้วว่าข้าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี ฉะนั้นอย่ามาทำดุร้ายต่อหน้าข้า!”
ด้านหลังของอู๋เหินมีปีกแก้วที่ยอดเยี่ยมงดงามคู่หนึ่งมิอาจบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้
นั่นคือพื้นฐานปณิธานราชันย์ของนาง
โล่ม่านพลังแก้วผลึกขยายออกไปจนสุดไม่เพียงแต่ครอบคลุมองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเท่านั้นแต่ยังผลักดันถูว่านที่อยู่ตรงข้ามองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกห่างไปอีกด้วย
ยักษ์ทองชื่อถูว่านโกรธแทบคลั่ง
เขายื่นมือขวาและใช้พลังกดต้านโล่แก้วผลึก
ตั้งใจจะทำลายให้แตกกระจาย
แต่พลังนักสู้ระดับเทพอย่างเขาไร้ประโยชน์ในที่สุดเขายกอาวุธเทพ ‘สายเลือด’ ในมือขึ้นโจมตีร่วมกันเป็นร้อยครั้งแต่ไม่สามารถทำให้โล่แก้วสั่นสะเทือนหรือเกิดรอยขีดข่วนได้!
“บัดซบ!นี่เป็นไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ใช่นักสู้ระดับเทพแต่เจ้าสร้างโล่พลังที่ข้าแม้ใช้อาวุธเทพก็ยังทำลายไม่ได้ยังไง?” ถูว่านคิดไม่ออกว่าในโลกนี้มีทักษะแฝงเร้นแบบนี้ได้อย่างไร? ทั้งยังมีคนที่รู้แจ้งสร้างโล่แก้วป้องกันการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ? สตรีที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่คิดจะโจมตีคนอื่นตลอดชีวิตหรือ? ต่อให้เป็นศัตรูก็ตามอย่างนั้นหรือ?
“เจตจำนงราชันย์ของข้าจะไม่มีทางหวั่นไหวเจ้ารู้แต่เพียงวิธีทำลาย แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสร้างขึ้นอย่างไรแล้วจะทำลายปราการนิรันดรของข้าได้อย่างไร....” อู๋เหินไม่ยินดีจะอธิบาย นางรู้ว่าพลังของถูว่านที่อยู่ต่อหน้านางเหนือกว่านางมากแต่นี่ไม่มีความหมายแต่อย่างใด
เพียงแต่ทำความเข้าใจกับความนิรันดรของเทพที่แท้จริงเท่านี้ก็ยกระดับพลังของเกราะปราการแก้วที่สร้างขึ้นโดยเจตจำนงราชันย์ได้
พลังบางครั้งไม่ได้มีอำนาจเหนือทุกอย่าง
นี่คือความหมายที่แท้จริงที่นางได้รู้แจ้งจากสติปัญญาของคนรักนาง
อ่อนหยุ่นสยบแกร่งกร้าวเหมือนกับน้ำสาดเซาะหิน ช้าสยบรวดเร็วความรู้แจ้งด้วยตนเองนี้ถูกถ่ายทอดมาที่นางผ่านกระบวนการฝึกพลังคู่รักก้าวหน้าไปด้วยกัน.. เรื่องเช่นนี้ปรากฏว่าถูว่านในฐานะเทพเทียมมองผิวเผินมีพลังระดับเทพแต่เขาก็ยังถูกสังเกตเห็นได้ในครั้งเดียว
“ไม่สำคัญ อย่าพูดว่าเป็นไปไม่ได้เลยต่อให้พวกเจ้าซ่อนตัวอยู่ในกระดองเต่านี้ตลอดชีวิต เราก็ไม่สนใจ” ยักษ์ทองถูว่านสงบใจลงได้ทันทีเขาแกล้งสะบัดแขน อาวุธเทพ ‘สายเลือด’ กลับคืนมาเป็นรูปง้าวสะพายอยู่ด้านหลัง เขาแกล้งเป็นหยุดต่อสู้และผ่อนคลายสบายๆ “กำจัดทุกชีวิตบนหอทงเทียนคือเป้าหมายของเผ่ากลืนสวรรค์ของเราเราจะเหลือพวกเจ้าไว้ทีหลังและค่อยทรมานช้าๆ นับว่าไม่เลว นอกจากนี้ถ้าพวกเจ้าคิดว่าเกราะปราการแก้วของเจ้าให้ความปลอดภัยได้นั่นเป็นเรื่องน่าตลกอย่างหนัก... ข้าถูว่านเป็นเพียงทัพหน้าของเผ่ามังกรกลืนสวรรค์ในการกำจัดเข่นฆ่าชาวหอทงเทียนเท่านั้น กำลังหลักที่แท้จริงคือมือสังหารเทพถูซื่อเทียบข้ากับพี่ชายของข้าแล้ว ข้าจะกลายเป็นคนดีที่ได้รับการสรรเสริญทันที....ฮ่าฮ่าฮ่า จงค่อยๆ รอคอยไปเถอะหลังจากที่เราได้กำจัดเผ่าพันธุ์ในหอทงเทียนหมดสิ้นแล้ว เราจะกลับมาดูสถานการณ์ที่น่ากลัวของพวกเจ้าที่อยู่ในสภาพคิดตายก็ตายไม่ได้ คิดอยู่ก็อยู่ไม่ได้”
“มือสังหารเทพ? ถูซื่อ?”องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงเยาะเย้ย “ข้าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน!”
นางเดินออกมานอกโล่กำแพงแก้วทันที
ภายใต้สายตาที่มองดูอย่างเหลือเชื่อของถูว่านกับพวกดาบเทพพยัคฆราชถูกยกขึ้นช้าๆ “ก่อนที่มือสังหารเทพอะไรนั่นจะมาถึง ข้าจะส่งของขวัญให้เขาก่อน! ข้าเชื่อว่าถ้าเขาเห็นศีรษะของเจ้าอยู่ต่อหน้าเขาคงจะได้รู้ถึงความจริงใจในของขวัญของข้า! สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ก่อนพวกเจ้าจะตาย องค์หญิงผู้นี้จะให้พวกเจ้าได้ตายๆ ฟรีๆจะได้รู้ว่าหอทงเทียนไม่ใช่ที่ให้หมาแมวจรจัดที่ไหนมาเพ่นพ่านกันได้ง่ายๆ”
*** *** ***