ตอนที่ 1279 จุดสูงสุดและเส้นทางคดเคี้ยว
ขุนพลเทพเทียนกุ่ยมองดูมือของเสวี่ยทันหลาง
ที่สำคัญมีพลังงานที่น่ากลัวสามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่งทุกอย่าง พลังงานนี้มีลักษณะเฉพาะตนที่เยือกเย็นเป็นพิเศษไม่เพียงแต่มีลักษณะเฉพาะตนเท่านั้นแต่ยังแฝงไปด้วยเจตจำนงราชันย์จากความรู้แจ้งของเสวี่ยทันหลาง แม้ว่าเขาจะยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่เจตจำนงราชันย์คือสิ่งที่ขุนพลเทพเทียนกุ่ยไม่อาจประมาทได้ถ้าเขาไม่เตรียมตัวให้ดีและถูกบุรุษน้ำแข็งผู้นี้โจมตีเชื่อได้ว่าการต่อสู้จะพลิกกลับ 180 องศาทันที
เขาหายใจเข้าออกแรงขึ้น
เสียงคำรามดังเบาแต่พลังพายุสายฟ้าอย่างนั้นแข็งแกร่งพอจะสั่นสะเทือนหุบเขาซัคคิวบัส
รัศมีสีทองเจิดจ้ารวมเต็มร่างของขุนพลเทพเทียนกุ่ยและเปลี่ยนเป็นดาวหางทันที
เมื่อดาวหางพุ่งไปถึงบนฟ้าก็กลับตัวทันที
ในขณะจะกลับมา ดวงดาวสามารถดึงดูดดาวหางทั้งปวง
“ให้ข้าทำลายเอง!” เย่คงพุ่งไปที่ดาวหางที่วกกลับมาอย่างน่ากลัวและใช้หมัดทั้งสองปล่อยใส่ดาวหางราวกับภูเขาไฟระเบิดไม่ให้มันกลับไปหาขุนพลเทพเทียนกุ่ยเย่คงเคยต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาทั้งชีวิต เขามีประสบการณ์อย่างมากเมื่อคู่ต่อสู้พุ่งขึ้นไปในอากาศเขาเข้าใจความร้ายแรงของวิธีการโจมตีนี้สำหรับคนที่มีพลังระดับนี้อย่างขุนพลเทพเทียนกุ่ยถ้าเขาเคลื่อนไหวย่อมไม่ใช่การโจมตีที่ร้ายแรงแต่เป็นการหาพื้นที่เปิดเร่งความเร็วและใช้เวลาช่วย แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวนี้ยิ่งผ่านเวลาไปนานก็ยิ่งน่ากลัวแสดงว่าการเปลี่ยนแปลงของดาวหางนั้นก็คือการกลับมากระแทกพื้นและเชื่อว่าจะไม่มีใครรอดชีวิตจากการระเบิดครั้งนี้ได้
เหมือนกับไข่กระทบหิน
เย่คงกระโดดขึ้นไปและถูกดาวหางพุ่งชนแรง
แม้จะเป็นเวลาหนึ่งในพันวินาทีที่เขาดีดตัวขึ้นไปแล้วตลอดทั้งตัวคนเร็วกว่าดาวที่พุ่งลงพื้นถึงสิบเท่า
พื้นโลกหายวับไปอย่างเงียบงัน
และจากนั้น
เกิดคลื่นระเบิดขยายเป็นวงกวาดทำลายพื้นที่รอบๆอย่างรวดเร็ว และเมฆรูปดอกเห็ดลอยขึ้นจากตำแหน่งที่ชนกับเย่คง ความล้มเหลวในการขัดขวางด้วยพลังของเย่คงไม่มีทางป้องกันการวกกลับมาของดาวหางได้ของขุนพลเทพเทียนกุ่ยได้การกระทำเช่นนี้เหมือนไข่กระทบหินนอกจากทำให้ขุนพลเทพเทียนกุ่ยชะงักไปเล็กน้อยเท่านั้น
แต่หลังจากเย่คงเคลื่อนไหวแล้วเงาร่างสองสายขึ้นไปในอากาศพร้อมกัน
ลงมือสอดคล้องกันโดยปริยาย
ดาวหางที่ร่วงลงมาด้วยความเร็วสูงกับร่างเลือดเนื้อ
แม้ว่ากลับกันจะไม่เกิดอุบัติเหตุแต่สุดท้ายกลับเดินตามรอยของเย่คง ขุนพลเทพเทียนกุ่ยเปลี่ยนใจอย่างไม่คาดคิด
“พายุน้ำแข็ง!” พายุหมุนขนาดใหญ่ปะทุขึ้นจากปลายเท้าของเสวี่ยทันหลางเขาพุ่งไปหาดาวหางกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง ในท่ามกลางพายุน้ำแข็งดาวหางชะลอความเร็วโดยไม่คาดคิด พื้นที่ในหุบเขาซัคคิวบัสถูกแช่แข็งและเสวี่ยทันหลางได้รับเจตจำนงราชันย์มาจากประตูเป็นตายเขาแช่แข็งมิติเวลาได้
“มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างอุดมคติและความเป็นจริง การเสียสละและความเป็นมิตรสหายบางครั้งก็สู้ความสำเร็จไม่ได้ พลังคือทุกสิ่งทุกอย่าง!” เมื่อดาวหางถูกพายุหิมะชะลอความเร็ว ขุนพลเทพพุ่งออกมาพร้อมกับแสงปัญญา
เขาโน้มร่างออกมาครึ่งหนึ่งและเหวี่ยงหมัดดาวตก
หมัดทั้งสองกระแทกใส่ทุกอย่าง
เจตจำนงราชันย์รวมทั้งเสวี่ยทันหลางแตกสลายด้วยหมัดทั้งสองหมัดหวดใส่อกและท้องของเสวี่ยทันหลางโดยตรง
มองผิวเผินเสวี่ยทันหลางไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ด้านหลังร่างกายเขา พื้นด้านหลังถูกทำลายจากผลกระทบของระเบิดดวงดาวที่เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ต้านรับน่ากลัวยิ่งกว่าระเบิดขนาดใหญ่ แรงระเบิดกวาดไปทั่วภาคพื้นยอดเขาถูกระเบิดหายเหมือนถูกหมาป่ายักษ์กลืนกิน พื้นแยก ตรงกลางเป็นรอยลึกร้อยเมตร
การปรากฏขึ้นของแสงเจิดจ้าบาดตาทำให้เสวี่ยทันหลางมองไม่เห็นอะไร
เขาค่อยๆ ล้มลงกับพื้น
มือทั้งสองข้างอ่อนแรง
และในขณะที่ล้มเลือดไหลออกจากมุมปากของเขา เพียงกระบวนท่าเดียว กลุ่มที่ประกาศตัวว่าเป็นอัจฉริยะมีพลังรองจากยอดอัจฉริยะอย่างเย่ว์หยางถูกศัตรูฆ่าทำลายได้ทันที ทั้งที่ก้าวแรกเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ยอมเสียสละก่อนล่วงหน้า
“ไม่นะ!” องค์ชายเทียนหลัวรีบวิ่งขึ้นมาข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งและเปลี่ยนร่างกลายเป็นดาวตกเพลิงฟ้าและเล็งไปที่ขุนพลเทพเทียนกุ่ยและโจมตีใส่ศัตรู
“เด็กน้อย! ฟังข้าให้ดี พวกเจ้าต้องสู้กับข้าซึ่งหน้าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กลอุบายกับข้า!” ขุนพลเทพเทียนกุ่ยเหยียดมือคว้าคอองค์ชายเทียนหลัวและชูขึ้นในอากาศ
องค์ชายเทียนหลัวตั้งใจจะพินาศไปด้วยกันเป็นไปไม่ได้ที่จะดิ้นรนต่อสู้
ขณะนั้นเขาตระหนักถึงระดับการห่างชั้นของเขากับศัตรู
เท่ากับท้องฟ้า
มีเงาเหมือนกับภูเขาทอดทับลงมา
มันทุบศีรษะของขุนพลเทพเทียนกุ่ย แต่ขณะที่ขุนพลเทพเทียนนกุ่ยถูกโจมตี ท้องฟ้ากลายเป็นทะเลทันทีและเกิดวังวนขนาดมหึมาระเบิดดวงดาวคลุมไปทั้งร่างของขุนพลเทพเทียนกุ่ย
มือหยกเรียวยาวยืนออกมาจากความว่างเปล่าและแทงไปที่ดวงตาทั้งสองของขุนพลเทพเทียนกุ่ย
ขุนพลเทพเทียนกุ่ยถูกโจมตีแต่เขายังยิ้มที่มุมปาก
เขาก้มศีรษะลง
เบื้องหลังเงาดำกำปั้นขนาดยักษ์เฉียดแก้มของเขาโดยไม่คาดคิด แต่กระแทกใส่ร่างขององค์ชายเทียนหลัวอย่างหนักแทนและมือที่เหมือนหยกดึงรั้งโดยพลังดาวระเบิดทะลวงเงาดำที่เหมือนกับภูเขากำปั้นสีทองปรากฏที่ด้านหน้าเขาทันที
ภายในเสี้ยวหนึ่งในหมื่นวินาทีก็เปลี่ยนเป็นลำแสงนับพันสายโจมตีใส่ขุนพลเทพเทียนกุ่ยที่แทบไม่ได้อยู่ในสภาพป้องกันตัว
พลังโจมตีนี้รุนแรงอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้เย่คง พี่น้องตระกูลหลี่เสวี่ยทันหลางองค์ชายเทียนหลัวและแม้กระทั่งมือหยกและเงาดำก็คอยปกปิดซ่อนการโจมตีสุดท้ายได้สำเร็จพวกเขายอมสละชีวิต
เหมือนกับโจมตีด้วยพลังพายุสุริยะ
และเป็นการลอบโจมตี
สายเกินไปที่จะรอให้ขุนพลเทพเทียนกุ่ยตั้งหลักได้
“ไปตายซะ!” ขุนพลเทพเทียนกุ่ยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยคำรามอยู่ในหูของเขาและจากนั้นร่างของเขาที่เหมือนดาวหางจมอยู่ภายใต้การระดมโจมตีด้วยพลังพายุสุริยะ..... พายุสริยะกวาดล้างไปทั้งภาคพื้นเป็นเวลานาน ยากจะคืนสู่สภาพมิติดังเดิมท้องฟ้าพื้นโลกหายไปกับการโจมตีครั้งนี้
เมื่อแสงสว่างหายไปหมด
มีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงกลาง
กลับเป็นขุนพลเทพเทียนเฉิงที่หายตัวไปก่อนหน้านี้
เป็นเขาที่เพิ่งโจมตีทำลายล้างและเอาชนะขุนพลเทพเทียนกุ่ยผู้ไร้เทียมทาน...นี่เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่? ผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้ของเย่คงและเจ้าอ้วนไห่และสหายมิใช่หรือ? เขาร่วมมือกับเสวี่ยทันหลางฆ่าขุนพลเทพเทียนกุ่ยได้อย่างไร?
“เจ้าลิง, เจ้าหน้าโลงศพ อย่าเพิ่งตาย! ข้าคุณชายโดนเล่นงานหนักกว่า พวกเจ้าจะมาตายด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อยนี่หรือ? ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าตาย ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!” เงาใหญ่และน่าเกลียดคลานออกมาจากพื้นและขุดพื้นรอบๆอย่างบ้าคลั่ง เขาตั้งใจว่าจะขุดเย่คงและเสวี่ยทันหลางที่เพิ่งถูกฆ่าเพื่อหลอกล่อศัตรู
เจ้าของมือเรียวยาวสีขาวก็คืออสูรนางนวลนางรับร่างองค์ชายเทียนหลัวเอาไว้ หน้าอกของเขามีรูทะลุรอยหนึ่ง
นี่คือพลังโจมตีสุดท้ายของขุนพลเทพเทียนกุ่ย
เดิมทีการโจมตีนี้ต้องการสังหารนางนวลสายลมแต่องค์ชายเทียนหลัวใช้ร่างของเขารับพลังโจมตีแทนนางนวลสายลม ส่งผลให้เขากระดูกหักอวัยวะภายในบอบช้ำสาหัส ยากจะรอดชีวิตได้
“พวกเขาจะไม่เสียสละอย่างไร้ประโยชน์เราสามารถฆ่าเทียนกุ่ยได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จแล้ว” ขุนพลเทพเทียนเฉิงกัดฟัน“เราจะรีบจากไปทันทีและตงฟางจะพบว่าข้ากบฏ ถ้าเจ้ามัวพิรี้พิไรเหมือนหญิงหม้ายอย่างนั้นการเสียสละของพวกเขาจะไร้ผล! เพื่อชัยชนะสุดท้าย การสูญเสีย และเสียสละเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้บางทีในศึกต่อไปผู้เสียสละอาจเป็นเรา...”
“ทำไมเจ้าไม่ออกมาโจมตีให้เร็วกว่านี้?เจ้า เจ้าเป็นคนฆ่าเจ้าลิง!” เจ้าอ้วนไห่จับคอเสื้อขุนพลเทพเทียนเฉิงและแผดเสียงอย่างบ้าคลั่ง
“หากปราศจากการเสียสละของพวกเขาโดยไม่มีการหลอกล่อเจ้าคิดว่าข้าจะสามารถฆ่าเทียนกุ่ยด้วยพลังของข้าได้หรือ?เขามีพลังเป็นอันดับสองรองจากจื่อเว่ยพลังของเขาถ้าเอาไปเทียบกับขุนพลเทพไท่หยางที่เจ้าเอาชนะได้แข็งแกร่งมากกว่าสิบเท่า หากข้าไม่มีทักษะแฝงเร้นขุดรากถอนโคนอย่างข้าต้านรับเขาได้ไม่เกินสามกระบวนท่า! เจ้าต้องสงบใจ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะตายอย่างสูญเปล่า! ในขณะนี้เราต้องไปกันต่อจนกว่าจะเจอขุนพลเทพจื่อเว่ยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกลอบโจมตีมีความเป็นไปได้ว่าอาจช่วยให้เย่ว์ไตตันกอบกู้สถานการณ์ต่อสู้กลับมาได้บ้าง...” ขุนพลเทพเทียนเฉิงไม่อาจสงบใจได้ต่อไปเขาใช้หมัดทุบร่างปีศาจของเจ้าอ้วนไห่ทันทีพร้อมทั้งสบถอย่างโมโห “เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องร่วมเสี่ยงชีวิตกับพวกเจ้ามากมายเพียงไหน? ข้าเดิมพันชีวิตตัวเองและชีวิตครอบครัวของข้าโอกาสสำเร็จมีไม่ถึงหนึ่งในหมื่น แต่ก็ยังร่วมสู้กับพวกเจ้า เจ้าเข้าใจไหมว่าข้าต้องเสียสละมากมายเพียงไหน?เจ้ารู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าล้มเหลว? ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น ทั้งครอบครัวทั้งตระกูลเผ่าพันธุ์คนที่ข้ารักเป็นหมื่นเป็นแสนจะตายโดยไร้ที่กลบฝัง!”
“ข้าไม่สนใจ พวกเขาต้องไม่ตาย แผนไม่ได้เป็นอย่างนี้เป็นเพราะเจ้าเปลี่ยนแผนและฆ่าพวกเขา!” เจ้าอ้วนไห่ในร่างอสูรหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด
“เจ้าคิดว่าข้าต้องการทำอย่างนั้นหรือ? ข้าต้องลงมือให้สำเร็จเต็มร้อย ถ้าข้าไม่สามารถกำจัดรากได้เราก็ไม่สามารถเอาชนะขุนพลเทพเทียนกุ่ยได้แล้วเราจะทำอะไรได้เพื่อตอบโต้ตงฟาง? เจ้าคิดว่าข้าไม่ต้องการกำจัดหรือ? การไม่ยอมทำความเข้าใจจะทำให้การเสียสละของพวกเขาสูญเปล่าเข้าใจหรือเปล่า? เจ้าคุณชายงี่เง่า เจ้ามีชีวิตที่ราบรื่นไม่เคยพบเจอกับความพ่ายแพ้ เจ้าคิดว่าชัยชนะจะได้มาโดยไม่ต้องเสียสละเลยอย่างนั้นหรือ? ก่อนนั้นเป็นเย่ว์ไตตัน ตอนนี้เขาตายแล้วเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเข้มแข็ง ตอนนี้เจ้าเป็นอิสระอยู่คนเดียวเจ้าต้องการให้พวกเขาตายเปล่าหรือไม่? เจ้าทำอะไรอื่นได้บ้างนอกจากร้องไห้?” ขุนพลเทพเทียนเฉิงเตะร่างปีศาจของเจ้าอ้วนไห่ออกไป
“แผนดี แต่เลือกเป้าหมายผิดไปหน่อย”ขุนพลเทพเทียนกุ่ยที่พวกเขาคิดว่าตายไปแล้วปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของขุนพลเทพเทียนเฉิง
ทันทีที่เขาปรากฏตัวขุนพลเทพเทียนเฉิงแทบทรุดตัวล้มลง
เจ้าอ้วนไห่และนางนวลสายลมแสดงสีหน้าผิดหวัง
แข็งแกร่งเกินไป! ขุนพลเทพเทียนกุ่ยแข็งแกร่งมากกว่าขุนพลเทพไท่หยางผู้หยิ่งยโสถึงสิบเท่าในสถานการณ์เช่นนี้ภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงและทักษะแฝงเร้นของขุนพลเทพเทียนเฉิงที่ใช้พลังถอนรากหญ้าและไม้ตายโดยไม่เป็นอะไรเลยทำให้พวกเขาสิ้นหวัง “เป็นไปไม่ได้นี่เป็นภาพลวงตาที่ตงฟางสร้างขึ้นมา มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้!” ขุนพลเทพเทียนเฉิงเหงื่อเยียบเย็นหลั่งออกจากหน้าผากของเขาไหลลงดิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า, เทียนเฉิงความจริงตั้งแต่เจ้าหายไป ข้าก็รู้ว่าลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าเล่นแล้วเจ้าต้องการกบฏหรือ? ขุนพลเทพผู้บ้าบิ่นซื่อสัตย์ ก่อนจะต่อต้านเทพข้าอยากรู้จริงๆ อะไรคือเหตุผลกระตุ้นให้เจ้ามีความคิดกบฏ? แม้ว่าข้าจะไม่เห็นด้วยแต่ข้าก็ขอชื่นชมความกล้าหาญของเจ้าที่กล้าหาวิธีตอบโต้เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางได้ เทียนเฉิง! เจ้าเป็นนักรบคนแรกในประวัติศาสตร์ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์!” ขุนพลเทพเทียนกุ่ยยื่นมือออกมากดไหล่ของขุนพลเทพเทียนเฉิงจนคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นไม่ให้เขามีโอกาสหลบหนีได้ด้วยมือข้างเดียว
ขุนพลเทพเทียนกุ่ยยกมือขวาสูง “ขณะที่ข้าพูดว่าข้าจะส่งเจ้าสู่เส้นทางปรภพข้าจะไม่รายงาน เพราะความกล้าหาญของเจ้า ข้าจะให้เกียรติกับความซื่อสัตย์ของเจ้าข้าใจดีที่สุด อาจบอกได้ว่าข้าเป็นสหายที่ดีที่สุดของเจ้า”
ต่อสู้ดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ ทันใดนั้นขุนพลเทพเทียนเฉิงกัดฟันคว้าข้อมือซ้ายของขุนพลเทพเทียนกุ่ยที่กดอยู่บนไหล่ของเขาและตะโกน “เจ้าอ้วนไห่, เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?เจ้าไม่ไปตอนนี้ เจ้าต้องการรอให้ทุกคนที่นี่ตายกันหมดใช่ไหม? ไม่ต้องมาช่วยข้าแล้ว เจ้าอ้วนไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า ถ้าเจ้าโชคดีสามารถรอดชีวิตได้จนถึงเวลาที่เย่ว์ไตตันชนะโปรดช่วยข้าดูแลครอบครัวของข้า ข้าไม่เคยขอร้องใครมาก่อนในชีวิต ตอนนี้ข้าขอร้องเจ้า รีบหนีไปเร็วๆ อย่าให้ข้าต้องตายอย่างไร้ความหมายและไร้ประโยชน์ที่นี่!”
“ไม่, ข้าจะไม่ไป ข้าไปไม่ได้ข้าจะตายอยู่ที่นี่พร้อมกับเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าลิงกับพวกตายหมดแล้ว ข้าไม่ต้องการมีชีวิตต่อไป!” เจ้าอ้วนไห่ในร่างปีศาจไม่ถอยแต่วิ่งเข้าหาขุนพลเทพเทียนเฉิงที่แทบจะกระอักโลหิตทันที
นางนวลสายลมยังคงใจเย็นเตรียมพร้อมที่จะบังคับพาตัวเขาหนีไป
คาดไม่ถึง
ขุนพลเทพเทียนกุ่ยปาดมือขวาเบาๆมิติแตกแยกทันที ร่างของเย่คง เสวี่ยทันหลางองค์ชายเทียนหลัวและสองพี่น้องตระกูลหลี่โดนโยนออกมาทั้งหมด ทุกคนยังไม่ตายแต่ถูกน้ำแข็งพิเศษผนึกไว้จนดูเหมือนรูปสลักน้ำแข็ง แต่ศพที่ปรากฏก่อนหน้านั้นกลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่ผสานรวมกับพลังของขุนพลเทพเทียนกุ่ยและกลับคืนมาที่ร่างของเขา
“กองทัพของพวกเจ้าทั้งหมดถูกทำลายไม่มีใครรอดอย่าว่าแต่ข้ามีความสามารถและเวลามากพอจับเจ้าเลยต่อให้ทำไม่ได้ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้ง่ายแค่พวกเจ้าไม่กี่คนยังบังอาจใช้ลูกไม้ต่อหน้าข้าอีกหรือ? ระเบิดก่อนหน้านี้ของเสวี่ยทันหลางข้าก็รู้ความคิดผีสางของพวกเจ้าแล้ว ดังนั้นข้าจึงทำเป็นเล่นตามน้ำ... เทียนเฉิง,ข้าไม่ต้องการปฏิเสธความกล้าของเจ้า แต่เจ้าไม่ค่อยโอนอ่อนผ่อนตามต้องการกบฏต่อเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางหรือฮ่าฮ่าฮ่า แม้แต่เฒ่ากระดูกผุกร่อนอย่างข้ายังไม่กล้าคิด เจ้ามันบ้าระห่ำจริงๆ!” ขุนพลเทพเทียนกุ่ยดึงมือออกและเตะขุนพลเทพเทียนเฉิงกระเด็นไปสิบเมตรจากนั้นแหงนหน้าหัวเราะ
“?” เจ้าอ้วนไห่และขุนพลเทพเทียนเฉิงมองหน้ากันเองสีหน้างงงวยกันทั้งคู่
ขุนพลเทพเทียนกุ่ยผู้นี้เป็นอะไรไป?
ทำไมเขาถึงไม่ฆ่าพวกเขา?
มีเพียงนกนางนวลสายลมที่มีดวงตาฉลาดมากดวงตานางเป็นประกายแวววาวและนางตระหนักถึงความเป็นไปได้บางอย่างนางดีใจชั่วครู่หนึ่งน้ำตานางก็ไหลออกมาแม้ว่านางต้องการเช็ดออกแต่ก็ทำไม่ได้ “กบฏหรือ? น่าสนใจดีและน่าติดตามข้าจะไม่ร่วมด้วยได้อย่างไร? เจ้าควรรู้ไว้ว่าตั้งแต่สู้กับจักรพรรดิอวี้เมื่อหกพันปีก่อนข้าก็มีความคิดเช่นนั้นแต่ข้าไม่มีโอกาสดำเนินการ ครั้งนี้ข้าตัดสินใจแล้ว ขอบ้าไปกับพวกเจ้าด้วย มันน่าประหลาดใจไหม? ถ้าข้าเข้าร่วมด้วย ยังมีโอกาสสำเร็จได้บ้างหรือเจ้าต้องการกบฏด้วยกำลังของเจ้า? ต้องการจะพลิกสถานการณ์หรือ? ล้อเล่นแน่ๆ!” คำพูดของขุนพลเทพเทียนกุ่ยทำให้เทียนเฉิงตกตะลึง คนที่อยากกบฏกลับกลายเป็นขุนพลเทพเทียนกุ่ยผู้ซื่อสัตย์ตลอดกาลหรือนี่?