ตอนที่แล้วตอนที่ 1275 อย่างนั้นเราจะฝึกฝนในทิศทางนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1277 เหตุเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1276 สืบทอด


ความปรารถนายังไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตามหลังจากผลตอบรับและวิธีการลับของสาวน้อยจากเผ่าตระกูลร้อยบุปผาล้มเหลว  ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจความจริงสวดภาวนาต่อพฤกษาชีวิต ไม่รู้ว่าเป็นกฎหรือมีข้อห้ามบางอย่างหรืออาจเป็นคำสาปจากพลังระดับเทพก็ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้กำเนิดเด็กผู้ชายกล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าคนรุ่นต่อไปจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ก็จะไม่มีผู้สืบทอดที่เป็นบุรุษที่สามารถรับช่วงและนำพาบันไดสวรรค์ทั้งหมดได้

“ท่านแม่....” หลังจากนางได้รับข่าวนี้ นางรู้สึกเศร้าไม่สบายใจ

แต่เพราะผลกระทบนี้จะไม่ทำให้นางซึมเศร้า

นางฝึกฝนอย่างหนักด้วยเจตจำนงราชันย์

เพราะ

นางตัดสินใจว่าจะแบกรับความรับผิดชอบของน้องชายผู้ที่ยังไม่สามารถปรากฏตัวและแบกรับความคาดหวังของมารดาและป้ารับสืบทอดชีวิตทั้งหมด แบกภาระบันไดสวรรค์ไว้บนไหล่นางเอง

กลับกลายเป็นจื้อจุนสร้างโลกฟื้นฟูบันไดสวรรค์และหอทงเทียน

นี่คือเป้าหมายใหม่ของนาง

เป็นเวลาหลายร้อยปีที่นางเดินอยู่ใต้ดวงดาวในโลกในมิติต่างๆและสังเกตเข้าใจชีวิตทั้งหมด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งเข้าใจความจริงทั้งหมดด้วยตาทิพย์อย่างชัดเจนนางสำรวจความลับของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ความเป็นจริงของโลกที่ผ่อนคลาย ในเวลาเดียวกันเพื่อเสริมสร้างภูมิปัญญาในการมองโลกเช่นเดียวกับการทำความเข้าใจชีวิตบางครั้งหมู่แมลงก็ตอมดอกไม้ที่โดดเดี่ยว รู้สึกถึงกลุ่มวัชพืชที่รวมตัวกันมากมาย

ไม่ใช่แค่การเติบโตในการสู้รบประสบการณ์ทั้งหมดของนางก็ยังก้าวหน้าด้วย

และความก้าวหน้านี้มีการเติบใหญ่อย่างมั่นคง

รอวันหนึ่ง

เมื่อมองกลับไปนางประหลาดใจที่พบว่านางข้ามผ่านระดับใหม่มาโดยไม่รู้ตัว....ในแดนนรกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน นางฆ่าพ่อมดปีศาจ ได้ฟังเพลงไพเราะของเอลฟ์ในป่าแสงจันทร์เดินทางเป็นพันไมล์ผ่านทะเลทรายที่ร้อน และมองดูดวงดาวในราตรีเปลี่ยวเหงา

เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่เห็นร่องรอย

นักสู้โบราณที่ครั้งหนึ่งหลุดออกมาจากผนึกทำลายบ้านเมืองในรัศมีร้อยลี้ได้ต่อสู้กับนางสามวันสามคืนและตายในที่สุดนางต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักที่ประตูเป็น ดวงตาที่เหนื่อยล้าแต่มีแววดื้อรั้นไม่ยอมแพ้ท้อถอย และด้วยความตั้งใจของนางเองนางได้ตั้งกฎที่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน  นอกจากนี้นางยังได้อยู่ที่ใต้โลกพฤกษาก้าวขึ้นบันไดทีละก้าว และนางได้ตระหนักถึงมรดกเก่าๆ ของคนรุ่นก่อนได้เพิ่มพูนสติปัญญาของนาง

นางไม่ทราบว่าตนเองฝึกฝนทั้งวันทั้งคืนไม่รู้ว่าการฝึกจะจบลงเมื่อใด

เท่าที่รู้

ระดับเทพนั้นยังคงห่างไกล

ดูเหมือนว่าระดับเทพอยู่ใกล้แค่เอื้อมยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรู้สึกลึกซึ้งและลึกลับ

จนกระทั่งวันหนึ่งนางกลับไปที่หุบเขาแห่งชีวิตที่นางเคยใช้ชีวิตในนั้น มีเด็กสาวรับการอบรมมารยาทมาอย่างดีรอนางอยู่เงียบๆ  แม้ว่านางจะดูตัวเล็ก  แต่นางก็ดูโดดเด่นจากคนอื่นๆนางดูงดงามมีชีวิตชีวา นางเคยใช้ตาทิพย์มองเห็นอัจฉริยะมามากแล้ว แต่เด็กสาวผู้นี้ทำให้นางรู้สึกทึ่ง

“เจ้าคือสาวน้อยจากตระกูลร้อยบุปผาใช่ไหม?” นางรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ข้างหน้านางยังอายุเยาว์มาก แต่ฉลาดไม่เป็นรองนางเลย

“จื้อจุน! คนที่ท่านพูดถึงนั่นคือพี่สาวข้า!” เด็กสาวผู้งดงามเรียกตัวเองว่าฮัวเซียนและนางถูกพี่สาวส่งมาหาจื้อจุนเพื่อรายงานข่าวดี

“ข่าวดีอะไรกัน?”  นางประหลาดใจเพราะนางไม่ได้ยินข่าวอะไรเกี่ยวกับบันไดสวรรค์มาหลายปีแล้ว

จู่ๆ นางรู้สึกตื่นเต้นในใจ

มีรัศมีที่น่าอัศจรรย์ปรากฏขึ้น

นางรีบถาม “พี่สาวเจ้าทำได้สำเร็จไหม?ภายใต้คำอธิษฐานขอให้เกิดเด็กทารกชาย?”

เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าตอบอย่างชาญฉลาด “ใช่แล้วแม้ว่าความปรารถนานั้นจะไม่ได้มาจากบุปผาต้นกำเนิด  แต่พี่สาวข้าส่งมรดกและคำภาวนาแห่งชีวิตของนางไปที่เผ่ามังกรบูรพาอมตะด้วยผู้พิทักษ์แห่งเผ่าบูรพาอมตะ ทารกน้อยจะผ่านการเติบโตอย่างราบรื่น”

“แล้วคำสาปล่ะ?” นางไม่เข้าใจเลยว่าพี่สาวของฮัวเซียนทำได้อย่างไรรวมเอามรดกและพลังชีวิตฝากไว้ในบุตรของเผ่ามังกรบูรพาอมตะ?   มังกรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นพบเผ่าบูรพาอมตะที่ยากจะพบเห็นหัวเห็นหางได้หรือ?แม้ว่าจะเห็นด้วย แต่พี่สาวของฮัวเซียนหาพวกเขาพบเจอได้อย่างไร?  อย่าว่าแต่หอทงเทียนเลย แม้แต่แดนสวรรค์บนก็ยังหาร่องรอยเผ่าบูรพาอมตะไม่พบนางทำงานนี้สำเร็จได้อย่างไร? เผ่าบูรพาอมตะมักเกลียดกลัวคนต่างเผ่าพันธุ์มาโดยตลอดและไม่สนใจถ่ายทอดสายเลือดไปยังคนที่มิใช่เผ่าพันธุ์ตนเองและพวกเขายอมรับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนี้ได้อย่างไร?  ถึงอย่างนั้นคำสาปของเทพซึ่งคงอยู่มานานหลายๆพันปีจะคลี่คลายได้อย่างไร?

“ท่านพี่มีผู้พิทักษ์ผู้ภักดียินดีใช้ลูกชายเขารับคำสาปโบราณไว้แทนยิ่งกว่านั้นเด็กน้อยเติบโตมาจากการดูแลของเผ่าบูรพาอมตะจนกระทั่งเมื่อเวลาที่เขาเติบโตเต็มที่จึงถูกอัญเชิญกลับมา.....”  สาวน้อยชื่อฮัวเซียนอธิบายทีละคำๆ

“ทำได้สำเร็จจริงๆ หรือ?”  นางรู้สึกประหลาดใจไม่มีใดเทียบ  แม้ว่าจะไม่ใช่น้องของนางเองแต่เป็นผู้สืบทอดมาจากตระกูลร้อยบุปผาแต่เป็นบุรุษผู้จะช่วยปลดเปลื้องภาระบนบ่าของนาง บางทีสักวัน  บางทีนางอาจยืนอยู่ต่อหน้ามารดาและป้าของนางเหมือนเมื่อก่อนมีน้องสาวหัวเราะเหมือนที่เคยเป็น และมีเด็กผู้ชายวิ่งอยู่รอบๆ ตัวนาง

“ฮืม.. เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนพยักหน้าตอนแรก

“แล้วจะให้ข้าทำยังไง?” นางรู้สึกว่าเด็กสาวชื่อฮัวเซียนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่นด้วยไม่ใช่แค่เพียงส่งข่าว

“ท่านพี่บอกว่านางต้องการให้จื้อจุนช่วยเป็นอาจารย์แนะนำ ให้เด็กน้อยได้เจริญเติบโต!”

“ทำไมนางไม่ดูแลด้วยตนเอง?”

“นี่... ท่านพี่บอกว่านางไม่ใช่ยอดฝีมือสายนักสู้เหมือนกับจื้อจุนท่านนางไม่สามารถสอนลูกน้อยและฝึกปรือได้ดีแบบท่าน นอกจากนี้นางยังมีสัญญากับเผ่าบูรพาอมตะว่านางไม่สามารถดูแลและชี้นำทารกให้เติบโตได้นางเป็นได้แต่เพียงมารดาในนาม  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือท่านพี่ได้รับสืบทอดจากภูมิปัญญาโบราณที่มีความหมายลึกซึ้งนางต้องเข้าสู่แดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อความรู้แจ้ง...  ต่อจากนั้น บางทีนางอาจจะไม่กลับมา นางอาจจะข้ามแดนสวรรค์หรือแดนสวรรค์บนมุ่งสู่โลกของเผ่าบูรพาอมตะโดยตรง  ถ้าจื้อจุนไม่เห็นด้วย ก็จะคงเหลือแต่เพียงฮัวเซียน  ข้าสับสนจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร!” เด็กสาวชื่อฮัวเซียนขอร้องอย่างอ่อนใจ

“นางรู้แจ้งระดับเทพแล้วหรือ? นางถึงสามารถเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อการรู้แจ้ง!”  นางตกใจพี่สาวแห่งตระกูลร้อยบุปผากลับเป็นอัจฉริยะมากยิ่งกว่าจื้อจุนอย่างนางหรือนี่?

“พี่สาวทิ้งคัมภีร์เทพของนางไว้ให้ข้า  แต่ฮัวเซียนไม่สามารถรับไว้ได้เพราะเป็นภาระที่หนักสำหรับพี่สาว...” สาวน้อยฮัวเซียนพูดถึงคัมภีร์เทพ

“แน่นอน, นี่นางเก่งกว่าข้าอีกหรือนี่?”  นางหัวเราะ

ความกดดันที่หนักหน่วงและมองไม่เห็นในหัวใจนางสลายหายไปไม่เหลือร่องรอย  ปรากฏว่ามีเด็กสาวจากตระกูลร้อยบุปผามีอัจฉริยภาพและทักษะแฝงเร้นที่โดดเด่นขึ้นมาและมีสติปัญญามากกว่านาง  ทั้งบันไดสวรรค์และหอทงเทียนไม่จำเป็นต้องสนับสนุนอย่างเดียวและไม่จำเป็นต้องรับภาระทำงานคนเดียว นอกจากพี่สาวของฮัวเซียนยังมีน้องชายที่เกิดมาและกำลังเติบโตเป็นน้องชายที่ท่านแม่ท่านป้าตั้งความหวังไว้แต่กลับไม่มาเกิด   หลังจากเขาเติบโตเขาจะต้องรับดูแลบันไดสวรรค์จัดการหอทงเทียนสามารถหนุนโลกค้ำฟ้าได้... ตระกูลราตรี ตระกูลร้อยบุปผา ตระกูลภมรและตระกูลแสงจันทราล้วนแต่ทำงานกันอย่างหนักจริงๆ!

นางไม่ได้อยู่คนเดียวไม่ได้ต่อสู้คนเดียว!

เมื่อก่อนนี้อาจจะใช่แต่ต่อไปในอนาคตจะไม่ใช่อย่างแน่นอน

เพราะมีพวกเขาและมีเขาที่จะกลายเป็นน้องชายนางแต่อาจกลายเป็นศิษย์ของนางด้วย!

“ก็ได้, ข้าสัญญาไว้ก่อนนั้นแล้วเราจะพยายามอย่างหนักร่วมกัน กลับไปบอกพี่สาวของเจ้าได้ ขอบคุณที่นำข่าวดีมาบอกข้า!”  นางหัวเราะและทันใดนั้นนางรู้สึกว่าไม่มีแรงกดดันที่ไหล่นางอีกต่อไป  โลกทั้งใบเปล่งประกายมีชีวิตชีวาการฝึกฝนที่ติดอยู่ในสภาพคอขวดของนางก็สามารถบรรลุผ่านได้สำเร็จ

“ขอบคุณจื้อจุน, ฮัวเซียนจะพยายามอย่างหนักและเมื่อทารกเติบโตขึ้น ถ้าเขาอยู่คนเดียวเขาคงจะเดียวดายมากดังนั้นฮัวเซียนจะหาทางมีน้องสาวให้เขาสักคนสองคน ข้าเชื่อว่าพอมีน้องสาวอยู่ด้วยเขาจะไม่รู้สึกเดียวดาย”

สาวน้อยนามฮัวเซียนหัวเราะเบาๆ

เมื่อนางจากไป  จื้อจุนพึมพำเบาๆ

นางหัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว

ดูเหมือนว่าจะมีวิธีค้นพบที่ดีจากสมองน้อยๆที่น่ารัก  “ท่านแม่ ท่านป้าท่านได้ยินหรือไม่? ไม่ใช่แต่เพียงข้าเท่านั้น ทุกคนพยายามกันอย่างหนัก!  โปรดปกป้องพวกเราต่อไปภายใต้ดวงดาว ภายใต้สายตาของท่าน พวกเราจะไม่เดียวดายอีกต่อไปเราจะเติบโตได้อย่างสบายใจเสียที!”

ตอนนี้เย่ว์หยางก็รู้สึกเหมือนกันเขาเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว

เขาเข้าใจทุกอย่าง

แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้พบเห็นมารดาผู้นั้นจนกระทั่งบัดนี้ ไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนางไม่รู้ว่านางตั้งความปรารถนาได้อย่างไรและนางเรียกตัวเขากลับมาจากโลกเดิมนั้นได้อย่างไร และนางมีสัมพันธ์ใดกับนักพรตเต๋าผู้นั้น แต่เขารู้อยู่บ้างว่าเขาที่แต่เดิมเป็นเด็กกำพร้ายังมีมารดาคนหนึ่ง! มีคนที่รักห่วงใยและดูแลเขาเสมอ!

เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างแม่ลูกตามคติชาวโลก

ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาอะไร

ไม่ว่าจะรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างไร

ตราบเท่าที่

นางสร้างชีวิตให้เขาเอง... ในจิตวิญญาณของเขาเองได้รับถ่ายทอดทุกอย่างมาจากชีวิตนาง

ความจริงไม่ใช่แค่นางผู้เป็นมารดาเท่านั้นแต่ยังมีอีกหลายคนมากนัก เช่นจื้อจุน, มารดาและท่านป้าของนางเด็กสาวผู้อยู่ในความฝันของนาง, รวมทั้งคนที่มีส่วนร่วมทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จัก ถือว่าเป็นเหมือนมารดาพวกนางร่วมอธิษฐานด้วยกันร่วมกันสร้างชีวิตให้กับตัวเขา!

หลังจากเกิดเป็นชีวิตรูปแบบหนึ่งมีสายเลือดรูปแบบของเผ่าบูรพาอมตะได้รับการชี้แนะสืบทอดความรู้สติปัญญา จนมีความสำเร็จเป็นของตนเอง

กระทั่งถึงความนิรันดรในที่สุด

นี่คือกระบวนการชีวิตของเขาเองและทิศทางในอนาคต

“เข้าใจแล้ว ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว...”  เย่ว์หยางค่อยๆ ลืมตาและพบว่าทุกอย่างหายไปเขากลับไปอยู่ที่ทะเลสาบสว่างสดใสของบันไดสวรรค์ชั้นที่หนึ่งล้านและหันไปทางจื้อจุนผู้ที่ใช้สำนึกเทพของนางผสานชีวิตของเขาและนำทางเขา!

เขาอดไม่ได้ที่จะหันมากอดจื้อจุนผู้โดดเดี่ยวเดียวดายและแข็งแกร่งนางคือผู้ที่เขาอยากกอดมานานแล้ว แต่ไม่กล้าทำ

ไม่เพียงแต่กอดเท่านั้น

แต่เขายังจูบนางอย่างดูดดื่ม

เขาจูบหน้าผากน้อยของนางจูบคิ้วเรียวบาง จูบนัยน์ตาและแก้มและริมฝีปากสีชมพูที่พูดไม่ออกเพราะตกใจสั่นสะท้าน.....สตินางที่ได้รับการปกป้องโดยเจตจำนงราชันย์แตกกระจายราวกับกระจกเป็นครั้งแรกที่มีคนบังอาจหยาบคายรุกล้ำเข้ามาใจจิตใจนางและผสานกับจิตวิญญาณของนาง...บางทีอาจเป็นตั้งแต่วันเกิด หรือก่อนเขาเกิด เขามีชะตาที่สักวันจะต้องเชื่อมวิญญาณกับนางอย่างวันนี้

ท้องฟ้าไร้ขอบเขตคอยหนุนประคับประคองพื้นโลกใครเล่าจะรู้ความจริง!

********

ตระกูลราตรี – จักรพรรดินีราตรี, หัวซิ่วรี่,

ตระกูลร้อยบุปผา - มารดาเย่ว์หยาง,แม่สี่

ตระกูลภมร - อี้หนานและตระกูล

ตระกูลจันทรา - จื้อจุน, เทียนฟา

สรุปก็คือ เย่ว์หยางเป็นชาวบันไดสวรรค์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด