ตอนที่ 1276 สืบทอด
ความปรารถนายังไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตามหลังจากผลตอบรับและวิธีการลับของสาวน้อยจากเผ่าตระกูลร้อยบุปผาล้มเหลว ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจความจริงสวดภาวนาต่อพฤกษาชีวิต ไม่รู้ว่าเป็นกฎหรือมีข้อห้ามบางอย่างหรืออาจเป็นคำสาปจากพลังระดับเทพก็ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้กำเนิดเด็กผู้ชายกล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าคนรุ่นต่อไปจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ก็จะไม่มีผู้สืบทอดที่เป็นบุรุษที่สามารถรับช่วงและนำพาบันไดสวรรค์ทั้งหมดได้
“ท่านแม่....” หลังจากนางได้รับข่าวนี้ นางรู้สึกเศร้าไม่สบายใจ
แต่เพราะผลกระทบนี้จะไม่ทำให้นางซึมเศร้า
นางฝึกฝนอย่างหนักด้วยเจตจำนงราชันย์
เพราะ
นางตัดสินใจว่าจะแบกรับความรับผิดชอบของน้องชายผู้ที่ยังไม่สามารถปรากฏตัวและแบกรับความคาดหวังของมารดาและป้ารับสืบทอดชีวิตทั้งหมด แบกภาระบันไดสวรรค์ไว้บนไหล่นางเอง
กลับกลายเป็นจื้อจุนสร้างโลกฟื้นฟูบันไดสวรรค์และหอทงเทียน
นี่คือเป้าหมายใหม่ของนาง
เป็นเวลาหลายร้อยปีที่นางเดินอยู่ใต้ดวงดาวในโลกในมิติต่างๆและสังเกตเข้าใจชีวิตทั้งหมด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งเข้าใจความจริงทั้งหมดด้วยตาทิพย์อย่างชัดเจนนางสำรวจความลับของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ความเป็นจริงของโลกที่ผ่อนคลาย ในเวลาเดียวกันเพื่อเสริมสร้างภูมิปัญญาในการมองโลกเช่นเดียวกับการทำความเข้าใจชีวิตบางครั้งหมู่แมลงก็ตอมดอกไม้ที่โดดเดี่ยว รู้สึกถึงกลุ่มวัชพืชที่รวมตัวกันมากมาย
ไม่ใช่แค่การเติบโตในการสู้รบประสบการณ์ทั้งหมดของนางก็ยังก้าวหน้าด้วย
และความก้าวหน้านี้มีการเติบใหญ่อย่างมั่นคง
รอวันหนึ่ง
เมื่อมองกลับไปนางประหลาดใจที่พบว่านางข้ามผ่านระดับใหม่มาโดยไม่รู้ตัว....ในแดนนรกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน นางฆ่าพ่อมดปีศาจ ได้ฟังเพลงไพเราะของเอลฟ์ในป่าแสงจันทร์เดินทางเป็นพันไมล์ผ่านทะเลทรายที่ร้อน และมองดูดวงดาวในราตรีเปลี่ยวเหงา
เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่เห็นร่องรอย
นักสู้โบราณที่ครั้งหนึ่งหลุดออกมาจากผนึกทำลายบ้านเมืองในรัศมีร้อยลี้ได้ต่อสู้กับนางสามวันสามคืนและตายในที่สุดนางต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักที่ประตูเป็น ดวงตาที่เหนื่อยล้าแต่มีแววดื้อรั้นไม่ยอมแพ้ท้อถอย และด้วยความตั้งใจของนางเองนางได้ตั้งกฎที่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน นอกจากนี้นางยังได้อยู่ที่ใต้โลกพฤกษาก้าวขึ้นบันไดทีละก้าว และนางได้ตระหนักถึงมรดกเก่าๆ ของคนรุ่นก่อนได้เพิ่มพูนสติปัญญาของนาง
นางไม่ทราบว่าตนเองฝึกฝนทั้งวันทั้งคืนไม่รู้ว่าการฝึกจะจบลงเมื่อใด
เท่าที่รู้
ระดับเทพนั้นยังคงห่างไกล
ดูเหมือนว่าระดับเทพอยู่ใกล้แค่เอื้อมยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรู้สึกลึกซึ้งและลึกลับ
จนกระทั่งวันหนึ่งนางกลับไปที่หุบเขาแห่งชีวิตที่นางเคยใช้ชีวิตในนั้น มีเด็กสาวรับการอบรมมารยาทมาอย่างดีรอนางอยู่เงียบๆ แม้ว่านางจะดูตัวเล็ก แต่นางก็ดูโดดเด่นจากคนอื่นๆนางดูงดงามมีชีวิตชีวา นางเคยใช้ตาทิพย์มองเห็นอัจฉริยะมามากแล้ว แต่เด็กสาวผู้นี้ทำให้นางรู้สึกทึ่ง
“เจ้าคือสาวน้อยจากตระกูลร้อยบุปผาใช่ไหม?” นางรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ข้างหน้านางยังอายุเยาว์มาก แต่ฉลาดไม่เป็นรองนางเลย
“จื้อจุน! คนที่ท่านพูดถึงนั่นคือพี่สาวข้า!” เด็กสาวผู้งดงามเรียกตัวเองว่าฮัวเซียนและนางถูกพี่สาวส่งมาหาจื้อจุนเพื่อรายงานข่าวดี
“ข่าวดีอะไรกัน?” นางประหลาดใจเพราะนางไม่ได้ยินข่าวอะไรเกี่ยวกับบันไดสวรรค์มาหลายปีแล้ว
จู่ๆ นางรู้สึกตื่นเต้นในใจ
มีรัศมีที่น่าอัศจรรย์ปรากฏขึ้น
นางรีบถาม “พี่สาวเจ้าทำได้สำเร็จไหม?ภายใต้คำอธิษฐานขอให้เกิดเด็กทารกชาย?”
เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าตอบอย่างชาญฉลาด “ใช่แล้วแม้ว่าความปรารถนานั้นจะไม่ได้มาจากบุปผาต้นกำเนิด แต่พี่สาวข้าส่งมรดกและคำภาวนาแห่งชีวิตของนางไปที่เผ่ามังกรบูรพาอมตะด้วยผู้พิทักษ์แห่งเผ่าบูรพาอมตะ ทารกน้อยจะผ่านการเติบโตอย่างราบรื่น”
“แล้วคำสาปล่ะ?” นางไม่เข้าใจเลยว่าพี่สาวของฮัวเซียนทำได้อย่างไรรวมเอามรดกและพลังชีวิตฝากไว้ในบุตรของเผ่ามังกรบูรพาอมตะ? มังกรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นพบเผ่าบูรพาอมตะที่ยากจะพบเห็นหัวเห็นหางได้หรือ?แม้ว่าจะเห็นด้วย แต่พี่สาวของฮัวเซียนหาพวกเขาพบเจอได้อย่างไร? อย่าว่าแต่หอทงเทียนเลย แม้แต่แดนสวรรค์บนก็ยังหาร่องรอยเผ่าบูรพาอมตะไม่พบนางทำงานนี้สำเร็จได้อย่างไร? เผ่าบูรพาอมตะมักเกลียดกลัวคนต่างเผ่าพันธุ์มาโดยตลอดและไม่สนใจถ่ายทอดสายเลือดไปยังคนที่มิใช่เผ่าพันธุ์ตนเองและพวกเขายอมรับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนี้ได้อย่างไร? ถึงอย่างนั้นคำสาปของเทพซึ่งคงอยู่มานานหลายๆพันปีจะคลี่คลายได้อย่างไร?
“ท่านพี่มีผู้พิทักษ์ผู้ภักดียินดีใช้ลูกชายเขารับคำสาปโบราณไว้แทนยิ่งกว่านั้นเด็กน้อยเติบโตมาจากการดูแลของเผ่าบูรพาอมตะจนกระทั่งเมื่อเวลาที่เขาเติบโตเต็มที่จึงถูกอัญเชิญกลับมา.....” สาวน้อยชื่อฮัวเซียนอธิบายทีละคำๆ
“ทำได้สำเร็จจริงๆ หรือ?” นางรู้สึกประหลาดใจไม่มีใดเทียบ แม้ว่าจะไม่ใช่น้องของนางเองแต่เป็นผู้สืบทอดมาจากตระกูลร้อยบุปผาแต่เป็นบุรุษผู้จะช่วยปลดเปลื้องภาระบนบ่าของนาง บางทีสักวัน บางทีนางอาจยืนอยู่ต่อหน้ามารดาและป้าของนางเหมือนเมื่อก่อนมีน้องสาวหัวเราะเหมือนที่เคยเป็น และมีเด็กผู้ชายวิ่งอยู่รอบๆ ตัวนาง
“ฮืม.. เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนพยักหน้าตอนแรก
“แล้วจะให้ข้าทำยังไง?” นางรู้สึกว่าเด็กสาวชื่อฮัวเซียนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่นด้วยไม่ใช่แค่เพียงส่งข่าว
“ท่านพี่บอกว่านางต้องการให้จื้อจุนช่วยเป็นอาจารย์แนะนำ ให้เด็กน้อยได้เจริญเติบโต!”
“ทำไมนางไม่ดูแลด้วยตนเอง?”
“นี่... ท่านพี่บอกว่านางไม่ใช่ยอดฝีมือสายนักสู้เหมือนกับจื้อจุนท่านนางไม่สามารถสอนลูกน้อยและฝึกปรือได้ดีแบบท่าน นอกจากนี้นางยังมีสัญญากับเผ่าบูรพาอมตะว่านางไม่สามารถดูแลและชี้นำทารกให้เติบโตได้นางเป็นได้แต่เพียงมารดาในนาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือท่านพี่ได้รับสืบทอดจากภูมิปัญญาโบราณที่มีความหมายลึกซึ้งนางต้องเข้าสู่แดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อความรู้แจ้ง... ต่อจากนั้น บางทีนางอาจจะไม่กลับมา นางอาจจะข้ามแดนสวรรค์หรือแดนสวรรค์บนมุ่งสู่โลกของเผ่าบูรพาอมตะโดยตรง ถ้าจื้อจุนไม่เห็นด้วย ก็จะคงเหลือแต่เพียงฮัวเซียน ข้าสับสนจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร!” เด็กสาวชื่อฮัวเซียนขอร้องอย่างอ่อนใจ
“นางรู้แจ้งระดับเทพแล้วหรือ? นางถึงสามารถเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อการรู้แจ้ง!” นางตกใจพี่สาวแห่งตระกูลร้อยบุปผากลับเป็นอัจฉริยะมากยิ่งกว่าจื้อจุนอย่างนางหรือนี่?
“พี่สาวทิ้งคัมภีร์เทพของนางไว้ให้ข้า แต่ฮัวเซียนไม่สามารถรับไว้ได้เพราะเป็นภาระที่หนักสำหรับพี่สาว...” สาวน้อยฮัวเซียนพูดถึงคัมภีร์เทพ
“แน่นอน, นี่นางเก่งกว่าข้าอีกหรือนี่?” นางหัวเราะ
ความกดดันที่หนักหน่วงและมองไม่เห็นในหัวใจนางสลายหายไปไม่เหลือร่องรอย ปรากฏว่ามีเด็กสาวจากตระกูลร้อยบุปผามีอัจฉริยภาพและทักษะแฝงเร้นที่โดดเด่นขึ้นมาและมีสติปัญญามากกว่านาง ทั้งบันไดสวรรค์และหอทงเทียนไม่จำเป็นต้องสนับสนุนอย่างเดียวและไม่จำเป็นต้องรับภาระทำงานคนเดียว นอกจากพี่สาวของฮัวเซียนยังมีน้องชายที่เกิดมาและกำลังเติบโตเป็นน้องชายที่ท่านแม่ท่านป้าตั้งความหวังไว้แต่กลับไม่มาเกิด หลังจากเขาเติบโตเขาจะต้องรับดูแลบันไดสวรรค์จัดการหอทงเทียนสามารถหนุนโลกค้ำฟ้าได้... ตระกูลราตรี ตระกูลร้อยบุปผา ตระกูลภมรและตระกูลแสงจันทราล้วนแต่ทำงานกันอย่างหนักจริงๆ!
นางไม่ได้อยู่คนเดียวไม่ได้ต่อสู้คนเดียว!
เมื่อก่อนนี้อาจจะใช่แต่ต่อไปในอนาคตจะไม่ใช่อย่างแน่นอน
เพราะมีพวกเขาและมีเขาที่จะกลายเป็นน้องชายนางแต่อาจกลายเป็นศิษย์ของนางด้วย!
“ก็ได้, ข้าสัญญาไว้ก่อนนั้นแล้วเราจะพยายามอย่างหนักร่วมกัน กลับไปบอกพี่สาวของเจ้าได้ ขอบคุณที่นำข่าวดีมาบอกข้า!” นางหัวเราะและทันใดนั้นนางรู้สึกว่าไม่มีแรงกดดันที่ไหล่นางอีกต่อไป โลกทั้งใบเปล่งประกายมีชีวิตชีวาการฝึกฝนที่ติดอยู่ในสภาพคอขวดของนางก็สามารถบรรลุผ่านได้สำเร็จ
“ขอบคุณจื้อจุน, ฮัวเซียนจะพยายามอย่างหนักและเมื่อทารกเติบโตขึ้น ถ้าเขาอยู่คนเดียวเขาคงจะเดียวดายมากดังนั้นฮัวเซียนจะหาทางมีน้องสาวให้เขาสักคนสองคน ข้าเชื่อว่าพอมีน้องสาวอยู่ด้วยเขาจะไม่รู้สึกเดียวดาย”
สาวน้อยนามฮัวเซียนหัวเราะเบาๆ
เมื่อนางจากไป จื้อจุนพึมพำเบาๆ
นางหัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว
ดูเหมือนว่าจะมีวิธีค้นพบที่ดีจากสมองน้อยๆที่น่ารัก “ท่านแม่ ท่านป้าท่านได้ยินหรือไม่? ไม่ใช่แต่เพียงข้าเท่านั้น ทุกคนพยายามกันอย่างหนัก! โปรดปกป้องพวกเราต่อไปภายใต้ดวงดาว ภายใต้สายตาของท่าน พวกเราจะไม่เดียวดายอีกต่อไปเราจะเติบโตได้อย่างสบายใจเสียที!”
ตอนนี้เย่ว์หยางก็รู้สึกเหมือนกันเขาเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว
เขาเข้าใจทุกอย่าง
แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้พบเห็นมารดาผู้นั้นจนกระทั่งบัดนี้ ไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนางไม่รู้ว่านางตั้งความปรารถนาได้อย่างไรและนางเรียกตัวเขากลับมาจากโลกเดิมนั้นได้อย่างไร และนางมีสัมพันธ์ใดกับนักพรตเต๋าผู้นั้น แต่เขารู้อยู่บ้างว่าเขาที่แต่เดิมเป็นเด็กกำพร้ายังมีมารดาคนหนึ่ง! มีคนที่รักห่วงใยและดูแลเขาเสมอ!
เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างแม่ลูกตามคติชาวโลก
ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาอะไร
ไม่ว่าจะรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างไร
ตราบเท่าที่
นางสร้างชีวิตให้เขาเอง... ในจิตวิญญาณของเขาเองได้รับถ่ายทอดทุกอย่างมาจากชีวิตนาง
ความจริงไม่ใช่แค่นางผู้เป็นมารดาเท่านั้นแต่ยังมีอีกหลายคนมากนัก เช่นจื้อจุน, มารดาและท่านป้าของนางเด็กสาวผู้อยู่ในความฝันของนาง, รวมทั้งคนที่มีส่วนร่วมทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จัก ถือว่าเป็นเหมือนมารดาพวกนางร่วมอธิษฐานด้วยกันร่วมกันสร้างชีวิตให้กับตัวเขา!
หลังจากเกิดเป็นชีวิตรูปแบบหนึ่งมีสายเลือดรูปแบบของเผ่าบูรพาอมตะได้รับการชี้แนะสืบทอดความรู้สติปัญญา จนมีความสำเร็จเป็นของตนเอง
กระทั่งถึงความนิรันดรในที่สุด
นี่คือกระบวนการชีวิตของเขาเองและทิศทางในอนาคต
“เข้าใจแล้ว ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว...” เย่ว์หยางค่อยๆ ลืมตาและพบว่าทุกอย่างหายไปเขากลับไปอยู่ที่ทะเลสาบสว่างสดใสของบันไดสวรรค์ชั้นที่หนึ่งล้านและหันไปทางจื้อจุนผู้ที่ใช้สำนึกเทพของนางผสานชีวิตของเขาและนำทางเขา!
เขาอดไม่ได้ที่จะหันมากอดจื้อจุนผู้โดดเดี่ยวเดียวดายและแข็งแกร่งนางคือผู้ที่เขาอยากกอดมานานแล้ว แต่ไม่กล้าทำ
ไม่เพียงแต่กอดเท่านั้น
แต่เขายังจูบนางอย่างดูดดื่ม
เขาจูบหน้าผากน้อยของนางจูบคิ้วเรียวบาง จูบนัยน์ตาและแก้มและริมฝีปากสีชมพูที่พูดไม่ออกเพราะตกใจสั่นสะท้าน.....สตินางที่ได้รับการปกป้องโดยเจตจำนงราชันย์แตกกระจายราวกับกระจกเป็นครั้งแรกที่มีคนบังอาจหยาบคายรุกล้ำเข้ามาใจจิตใจนางและผสานกับจิตวิญญาณของนาง...บางทีอาจเป็นตั้งแต่วันเกิด หรือก่อนเขาเกิด เขามีชะตาที่สักวันจะต้องเชื่อมวิญญาณกับนางอย่างวันนี้
ท้องฟ้าไร้ขอบเขตคอยหนุนประคับประคองพื้นโลกใครเล่าจะรู้ความจริง!
********
ตระกูลราตรี – จักรพรรดินีราตรี, หัวซิ่วรี่,
ตระกูลร้อยบุปผา - มารดาเย่ว์หยาง,แม่สี่
ตระกูลภมร - อี้หนานและตระกูล
ตระกูลจันทรา - จื้อจุน, เทียนฟา
สรุปก็คือ เย่ว์หยางเป็นชาวบันไดสวรรค์