NH-ตอนที่ 42 ตกปลาท่ามกลางความโกลาหล (2)
“พี่ใหญ่ลุกซ์ พี่กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?” โคเล็ตต์กล่าวถาม “หรือว่าพี่เหนื่อยจากการวิ่ง?”
ลุกซ์ลืมตาและยิ้มออกมา “นิดหน่อย พวกเราพักที่นี่ชั่วคราวเถอะ เพราะฝูงยุงยังอยู่ข้างนอก ฉันได้ใช้เดียโบลออกไปตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง พวกเราจะออกเดินทางเพื่อกลับไปที่หมู่บ้านลีฟทันที”
“อืม” โคเล็ตต์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
หลังจากที่ทำให้ สมาชิกในปาร์ตี้มั่นใจแล้ว ลุกซ์ก็หลับตาลงอีกครั้งเพื่อเชื่อมต่อกับเดียโบล
การต่อสู้เริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ยุงเกราะดำได้ปิดล้อม ตั๊กแตนตาแดง และใช้กลยุทธ์โจมตีแล้วถอย โดยใช้พวกยุงแถบแดงเป็นเหยื่อล่อ
เป้าหมายของพวกมันก็คือการทิ้งพิษอัมพาตไว้ในตัวของเหยื่อจนกว่าเหยื่อจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
หลังจากกำจัดพวกยุงไปนับร้อยตัวแล้ว การเคลื่อนไหวของ ตั๊กแตนตาแดง ก็ค่อย ๆ เฉื่อยชาลงจากความเหนื่อยล่า อีกทั้งพิษภายในร่างกายของมันก็เริ่มออกฤทธิ์
ยุงเกราะดำ ไม่ยอมปล่อยโอกาสและฝังตัวดูดเลือดแหลมเข้าไปในบริเวณที่ไม่มีการป้องกันทันที
หลายนาทีผ่านไป ตั๊กแตนตาแดงได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย เสียงกรีดร้องของมันเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและความคับข้องใจก่อนที่ร่างของมันจะทรุดตัวลงกับพื้น
หลังจากที่ส่งยุงธรรมดาเข้าไปตรวจสอบ 2-3 ตัว เพื่อให้แน่ใจว่า ตั๊กแตนตาแดง ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ในที่สุด ยุงเกราะดำก็เข้าไปเก็บโกยรางวัลของพวกมัน
ลุกซ์มองดูยุงเกราะดำนับ 10 ตัว เริ่มแทงเข็มไปที่ร่างของมอนสเตอร์อัลฟ่าและดูดเลือดของมัน
ร่างกายของพวกมันเปล่งแสงขณะที่พวกมันดูดซับเลือดคุณภาพสูงของเหยื่อ สิ่งนี้คล้ายกับพวกคนแคระที่อัพเลเวลหลังจากเก็บค่าประสบการณ์จนครบ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุด งานเลี้ยงของพวกยุงเกราะดำก็สิ้นสุดลง จากนั้นพวกมันก็ส่งเสียงหึ่งเป็นชุดกก่อนที่จะบินไปทางเหนือตามลูกน้องของมัน
หลังจากที่ ลุกซ์ แน่ใจว่าพวกยุงหายไปหมดแล้ว เขาก็สั่งให้เดียโบล เดินตรงไปที่ซากศพที่นอนอยู่บนพื้น
ลุกซ์ จ้องมองไปที่ มอนสเตอร์ระดับสูงที่เป็นที่ภาคภูมิใจแห่งสวนฟิกาโร่ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงเปลือกแห้ง ๆ ที่ไร้ชีวิตชีวา ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ไม่ได้รู้สึกสงสารการตายของ มอนสเตอร์อัลฟ่าแต่อย่างใด สิ่งที่เขารู้สึกถึงคือความตื่นเต้น เขารีบสั่งให้ เดียโบล และ นักรบโครงกระดูกลากศพกลับไปที่รังมดที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่
เนื่องจาก ตั๊กแตนตาแดง ไม่มีเลือดในร่างกายอีกต่อไป ตัวของมันจึงเบาลงมาก ดังนั้น อันเดดทั้ง 2 ตัวจึงไม่มีปัญหาในการลากพวกมันกลับมาที่รังมดตามความต้องการของลุกซ์
เมื่ออันเดดทั้งสองมาถึงที่หมาย ทางเข้าของรังก็เปิดออก และ ลุกซ์ ก็รีบออกมารับรางวัล
โคเล็ตต์ และ คนแคระคนอื่น ๆ ที่ติดตามฮาล์ฟเอลฟ์ออกมาด้านนอก พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจหลังจากเห็นร่างของมอนสเตอร์อัลฟ่าตรงหน้าพวกเขา
“พี่ใหญ่ลุกซ์ ไม่ใช่ว่านี่คือตั๊กแตนตาแดงหรอกเหรอ!” โคเล็ตต์ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจได้ขณะที่เธอเห็นร่างของมอนสเตอร์อัลฟ่า
“ใช่” ลุกซ์ตอบกลับ “พวกยุงได้ฆ่าพวกมันเมื่อไม่นานนี้ และ ฉันขอให้อันเดดของฉันลากมันกลับมาที่นี่”
ลุกซ์ ไม่สามารถซ่อนความเสแสร้งบนใบหน้าของเขาได้ ในขณะที่เขาเข้าใกล้ 1 ใน มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพื้นที่เริ่มต้น
ขณะที่เขาจ้องมองมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า เขามีความรู้สึกว่าถ้ามอนสเตอร์อัลฟ่าไม่ได้รับบาดเจ็บและอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ พวกยุงคงไม่กล้าสู้มันแบบตัวต่อตัว
แต่โชคดีที่ตอนนี้มันเหลือแต่ศพแห้ง ดังนั้นลุกซ์จึงมองไปที่มันอย่างหิวกระหาย
คนแคระที่อยู่กับพวกเขาไม่สามารถซ่อนความอิจฉาบนใบหน้าได้ในขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ ตั๊กแตนตาแดง กรงเล็บของตั๊กแตนตาแดง สามารถมอบให้กับช่างตีเหล็กเพื่อประดิษฐ์เป็นอาวุธเทียมระดับพิเศษได้
อีกทั้งเกราะภายนอกของมันก็ยังสามารถนำไปใช้สร้างชุดเกราะที่หายากที่พอจะทนทานการโจมตีส่วนใหญ่ของพวกมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่สามารถพบได้ในโซนเริ่มต้น
แน่นอนว่ารางวัลที่แท้จริงก็คือ คอร์มอนสเตอร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มค่าสถานะให้กับผู้คนและมีโอกาสที่จะได้รับ 1 ในสกิลของ ตั๊กแตนตาแดง
มอนสเตอร์อัลฟ่าตัวนี้มีสกิล 3 อย่างได้แก่ ,ฟาดฟันด้วยความโกรธ,สายลมกรรโชก และ บ้าดีเดือด
สกิลเหล่านี้มีประโยชน์แม้กับพวกแรงค์มือใหม่เองก็ตาม นี่คือเหตุผลที่คนแคระส่วนใหญ่ที่ทำพิธีจบการศึกษาก่อนออกเดินทาง พวกเขามักจะมองหาผลประโยชน์ก่อนที่จะออกเดินทาง โดยเฉพาะการได้รับคอร์ของมอนสเตอร์อัลฟ่าในโซนเริ่มต้น
เมื่อเห็นท่าทางที่อัจฉาและละโมบของคนแคระที่อยู่โดยรอบ ลุกซ์ จึงตัดสินใจใช้แหวนที่คุณย่าเวร่ามอบให้เขาก่อนที่เขาจะออกจากฐานที่มั่นวิลการ์ด
แหวนนี้มีชื่อว่า ‘แหวนเก็บมอนสเตอร์’ มันสามารถทำให้เขาสามารถเก็บศพของมอนสเตอร์ได้ทุกขนาด ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมันก็คือมันสามารถเก็บมอนสเตอร์ได้ครั้งละ 10 ตัวเท่านั้น
ถึงกระนั้นมันก็เป็นของวิเศษที่สามารถทำให้เจ้าของสามารถแบกเหมืองหินกลับบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจ้างคนในการขนส่ง
ลุกซ์ ได้วางมือลงบนศพของมอนสเตอร์และเปิดใช้งานแหวน ทันใดนั้น ร่างของ ตั๊กแตนตาแดงก็หายไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้เลย
ฮาล์ฟเอลฟ์ค่อนข้างพอใจ เพราะเขาได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในการได้รับผลประโยชน์นี้
สิ่งนี้ทำให้เขานึกถึงสิ่งที่คุณย่าเวร่าบอกเขาเกี่ยวกับการ ตกปลาท่ามกลางความโกลาหล
แม้ว่าเขาจะรู้สึกแย่เล็กน้อยกับปาร์ตี้ที่ท้าทายตั๊กแตนตาแดงก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่รู้สึกผิดที่รับเอามอนสเตอร์อัลฟ่านี้มาเป็นของตัวเอง เพราะท้ายที่สุด คนที่จัดการมันคือพวกยุง และ ไม่ใช่เขาที่เจตนาแย่งเหยื่อไปตั้งแต่แรก
เขาเป็นเพียงผู้พบเห็นที่พบศพโดยบังเอิญและรับมันกลับบ้าน ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถจับผิดในสิ่งที่เขาทำ เพราะถ้าคนอื่น ๆ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขา พวกเขาก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน
เพียงแต่น่าเสียดายที่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่ ลุกซ์ วางแผนเอาไว้หลังจากที่เขามาถึงหมู่บ้านลีฟ
พวกคนแคระที่ได้เห็นการกระทำอันห้าวหาญของเขาได้กระจายข่าวไปยังเพื่อนๆ ของพวกเขา และแน่นอนว่าเรื่องนี้ได้ไปถึงหูของกลุ่มคนแคระที่ต่อสู้กับ ตั๊กแตนตาแดง ก่อนที่พวกฝูงยุงจะบุกเข้ามา ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้ ลุกซ์ รู้สึกปวดหัว และ ตอนนี้เขาต้องคิดว่าจะจัดการกับผลที่ตามมาอย่างไรดี