NH-ตอนที่ 41 ตกปลาท่ามกลางความโกลาหล (1)
ขณะที่ทุกคนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด พื้นดินใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือน และ มอนสเตอร์หลายตัวก็พากันอพยพหนีไป
มด แมลงปีกแข็ง ผึ้ง แมลงวัน เต่าทอง แมงมุมหมาป่า ผีเสื้อ และ แมลงอื่นๆ อีกมากมาย - ที่ลุกซ์ พบเห็นเป็นครั้งแรก ทั้งหมดต่างวิ่งหนีไปในทิศทางตรงกันข้ามกับฝูงยุงที่บินใกล้เข้ามา
ผุงแถบแดง ตัวเดียว อาจจะไม่ใช่ภัยคุกคามอะไรมากมาย อย่างไรก็ตาม หากเป็นฝูงที่มีจำนวนนับพันตัวก็เป็นคนละเรื่องกัน
เพียงแค่ถูกกัดครบ 10 ครั้ง ก็ทำให้เหล่าคนแคระเป็นอัมพาตได้ใน 1 ชั่วโมงแล้ว หากเผชิญหน้ากับยุงนับพัน แน่นอนว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในสวนฟิกาโร ที่จะสามารถต่อกรกับมันได้ พวกมันคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้เช่นเดียวกัน
สำหรับตอนนี้ คนแคระและมอนสเตอร์ต่างเพิกเฉยกันและกันและจดจ่ออยู่กับการมองหาที่ซ่อนที่ปลอดภัย
“ตามพวกมดไป!” ลุกซ์ ตะโกนสั่งการ “บางทีพวกเราอาจจะซ่อนตัวในรังหรืออะไรซักอย่างได้”
โคเล็ตต์ และ พรรคพวกของเธอทำตามคำสั่งของ ลุกซ์ โดยไม่รู้ตัว ยกเว้น โรบิน แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากเห็นเพื่อนๆ ของเขาทำตามคำสั่งของฮาล์ฟเอลฟ์ เขาก็ตัดสินใจไม่พูดอะไรและวิ่งตามพวกเขาไป
ในเวลานี้พวกเขาสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องจำนวนมากท่ามกลางสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากแมลงที่ถูกฝูงยุงเข้าครอบงำ แม้ว่าพวกคนแคระจะตัวเล็ก แต่พวกเขาก็เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกของเอลิเซียม บางครั้งพวกเขายังวิ่งเร็วกว่าพวกมอนสเตอร์ด้วยซ้ำ!
เมื่อความโกลาหลเกิดขึ้น ฝูงมดก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้เพื่อกลับไปยังรังของพวกมัน ปาร์ตี้ของลุกซ์ และ คนแคระอีกหลายคนที่รู้ว่าพวกมันกำลังวางแผนอะไร พวกเขาก็รีบตามไปด้านหลังทันที
15 นาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงรังมดที่มีมดทหารหลายตัวคอยตรวจตราบริเวณนั้น
“เดียโบล นักรบโครงกระดูก จงออกมา!” ลุกซ์ สั่งการ ทันใดนั้น นักรบอันเดดทั้งสองตัวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านข้างเขา ฮาล์ฟเอลฟ์ หนุ่มคิดไอเดียได้ในขณะที่พวกเขากำลังหนียุงและตัดสินใจที่จะลองทำดู
โคเล็ตต์ และ คนอื่น ๆ มองลุกซ์อย่างแปลกๆ แต่ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มเพียงแค่บอกให้พวกเขาตามมดเข้าไปในรัง
ที่น่าแปลกก็คือไม่มี มดทหารตนใดที่หยุดพวกเขาและปล่อยให้คนแคระเข้าไปในอาณาเขตของตนเอง
หลังจากออกคำสั่ง อันเดด ทั้งสองตัวของ ลุกซ์ ก็เข้าไปในพื้นที่ปลอดภัยของ รังมด ที่อยู่ด้านข้าง พร้อมกับมดตัวอื่นๆ
หลังจากที่มดตัวสุดท้ายเข้าไปในรังแล้ว มดทหารก็ปิดทางเข้า ซึ่งทำให้พวกคนแคระและฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ให้ตายเถอะ ฉันเกือบจะเป็นบ้าไปแล้วไหมล่ะ” แอนดี้ วางมือลงบนหน้าอกเพื่อทำให้หัวใจที่เต้นแรงของเขาสงบลง
อาเซล พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ถึงกระนั้นก็น่าเสียดาย ถ้าพวกยุงไม่มา ปาร์ตี้จบการศึกษานั้นคงจะสามารถเอาชนะ ตั๊กแตนตาแดงได้สำเร็จไปแล้ว”
โคเล็ตต์,แมทตี้,เฮเลน และ โรบิน พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
คนแคระที่ติดตามปาร์ตี้ของพวกเขาในรังมดก็คิดแบบเดียวกัน แต่มีเพียงฮาล์ฟเอลฟ์เท่านั้นที่ไม่ทำเช่นนั้น เพราะเขาไม่สนใจการสนทนาของพวกเขา ที่ด้านข้าง เขานั่งไหว่ห้างอย่างเงียบ ๆ โดยที่หลับตา
ตอนนี้เขากำลังทดสอบอะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
ในสายตาของเขา เขามองดูโลกสีเทาที่ไม่มีสีอื่นอยู่ในนั้น
ทันใดนั้น ฝูงยุงก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา สิ่งนี้ทำให้ เดียโบลหยุดเคลื่อนไหว และ ฝูงยุงก็บินผ่านเขาไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขาอีก
เห็นได้ชัดว่าโครงกระดูกที่ปราศจากเลือด ไม่ใช่สิ่งที่พวกมันสนใจ
ในขณะนั้นเอง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลุกซ์ หลังจากที่เขาทดสอบว่าทฤษฏีของเขานั้นถูกต้อง เขาสั่งให้ เดียโบล และ นักรบโครงกระดูก ค้นหาร่องรอยของ ตั๊กแตนตาแดงทันที
เขาได้แบ่งปันความสัมพันธ์พิเศษกับสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อของเขาทำให้เขาสามารถสื่อสารกับอีกฝ่ายได้ในระดับหนึ่ง
สิ่งนี้มันทำให้ ลุกซ์ มองเห็นและได้ยินสิ่งที่ เดียโบล มองเห็นและได้ยิน ซึ่งมันทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นหมากที่เป็นประโยชน์สำหรับเขาในสถานที่วุ่นวายแบบนี้
ลุกซ์มองเห็นซากแมลงแห้งๆ เกลื่อนกลาดโดยรอบ ซึ่งทำให้เขาตระหนักได้ว่าการโจมตีของพวกยุงนั้นร้ายแรงเพียงใด
โชคดีที่เขาไม่เห็นศพคนแคระเลย ซึ่งมันทำให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง เพราะ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มไม่ชอบที่จะเห็นเด็กตาย ไม่ว่าจะเป็นคนแคระหรือมนุษย์
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องบางอย่างก็ดังไปถึงหูของ เดียโบล ลุกซ์สั่งให้สิ่งมีชีวิตมีชื่อของเขาวิ่งไปตามทิศทางที่มีเสียงทันทีเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ทันทีที่ เดียโบลไปถึงบริเวณนั้น เขาก็ได้ยินเสียงหึ่งๆ ดังไปทั่ว
มีดอกไม้ยักษ์เกลื่อนพื้นพร้อมกับพวกยุงจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกผ่าครึ่ง
ในระยะไกล เขาเห็นตั๊กแตนตาแดงที่กำลังอ่อนแอ โดนพวกฝูงยุงรุมกินโต๊ะ
เกราะด้านนอกของ ตั๊กแตนตาแดง แข็งเป็นอย่างมาก ดังนั้นการกัดของยุงจึงไม่สามารถทะลวงมันได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ไม่ได้หยุดให้พวกยุงมองหาจุดอ่อนในสถานที่ที่มันสามารถดูดเลือดได้เพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในสวนฟิกาโร
หลังจากปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความหงุดหงิด ตั๊กแตนตาแดง ก็เปิดปีกและบินขึ้นไป จากนัน้มันก็สร้างลมกรรโชกที่รุนแรงพัดพายุงเหล่านี้ออกไป
ภายในฝูงยุงที่หนาแน่น ปรากฏยุงดำจำนวน 12 ตัว ที่มีขนาดใหญ่กว่ายุงแถบแดงทั่วไปถึง 2 เท่า
ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ทั้งหมดในสวนฟิกาโรจากหนังสือบันทึกที่ยิ่งใหญ่แห่งเอลิเซียมแล้ว และ เขาจำได้อย่างรวดเร็วว่าพวกมันคืออะไร
“ยุงเกราะดำ” ลุกซ์ ครุ่นคิดขณะที่เขาสังเกตุมอนสเตอร์ระดับ 1 จากระยะไกล
ยุงเกราะดำนี้มีความเฉียบคมและความแข็งแกร่งมากพอที่จะเจาะเกราะภายนอกของตั๊กแตนตาแดงได้
หลังจากเห็นพวกมัน ตั๊กแตนตาแดง ก็รีบบินหนีไปทันที เพราะสถานะบ้าดีเดือดของมันเพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อไม่กี่นาทีก่อน และ ตอนนี้มันอยู่ในสภาพที่อ่อนแอและย่ำแย่จนถึงที่สุด อีกทั้ง ตั๊กแตนตาแดง ยังมีบาดแผลที่หน้าอกที่เกิดจากมือหอกที่ปาร์ตี้ก่อนหน้านี้โจมตีใส่มัน
เมื่อยุงโจมตีร่างของมัน มันก็พยายามปิดปากแผลด้วยเล็บของมัน เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงตัวใดพุ่งเป้าไปที่ส่วนที่พวกมันสามารถเจาะเลือดได้
โดยพื้นฐานแล้ว พวกยุงย่อมไม่ปล่อยให้เหยื่อที่อ่อนแอหลุดมือไป ดังนั้นพวกมันจึงไล่ตามตั๊กแตนตาแดงทันที
บนพื้นดิน เดียโบล และ นักรบโครงกระดูกได้ติดตามพวกเขาไปอย่างไม่ลดละ
การไล่ล่ากินเวลานานถึง 10 นาที จนกระทั่งตั๊กแตนตาแดงอ่อนแอลงในที่สุดและหล่นลงมาชนเข้ากับดอกไม้ยักษ์
เมื่อรู้ว่ามันถูกต้อนจนมุม ตั๊กแตนตาแดง ก็กรีดร้องออกมาและยกกรงเล็บของมันขึ้นเพื่อต่อสู้จนตัวตาย
ยุงเกราะดำไม่ได้โจมตีทันที แต่ ยุงแถบแดง ได้พุ่งเข้าใส่ มอนสเตอร์อัลฟ่าที่กำลังจะล้มลง