Chapter 193 Unusual race
超凡种族
จวบจนฟ้าสว่าง,ซูเห่าก็ร่อนลงพื้น,ยืนอยู่ในหลุม.
เท้าของเขากระทืบลงบนพื้น,จ้องมองผลงานชิ้นเอง,อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจยาว“พลังทำลายที่มนุษย์สามารถสร้างได้,มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ.”
จากนั้นซูเห่าก็เริ่มค้นหาชิ้นส่วนบุตรแห่งฆาตกรรมอย่างระมัดระวัง,จากนั้นก็พบกับชิ้นส่วนกระดูกที่แตกหักจากพื้นที่ไกลออกไปซึ่งมีเนื้อบางส่วนติดอยู่.
ด้วยเนื้อดังกล่าวเพียงพอให้จักรพรรดิแห่งความวุ่นวายของลำดับมนุษย์พิษ,วิวัฒนาการเป็นบุตรแห่งฆาตกรรมได้,สำหรับซูเห่าเองก็เพียงพอให้ศึกษาเช่นกัน.
เขาเพียงต้องการชิ้นส่วนยีนของบุตรแห่งฆาตกรรมเท่านั้น.
ซูเห่ากวาดตามองพื้นดินและสภาพแวดล้อมรอบ ๆ,ทำได้แค่กล่าวขอโทษ.
เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า,มุ่งตรงไปยังเมืองซือหลิน.
บุตรแห่งฆาตกรรม,ลู่ ได้มาจบสิ้นที่ตรงนี้แล้ว.
ส่วนซูเห่าก็กลับห้องทดลอง,เพื่อศึกษายีนรูนต่อไป.
ซูเห่าบินเร็วมาก,เพียงไม่นานก็กลับถึงห้องทดลองแล้ว.
เขาเริ่มบันทึกยีนของบุตรแห่งฆาตกรรมเข้าไปในพื้นที่พิบบอล,จากนั้นก็เก็บรักษาเนื้อของบุตรแห่งฆาตกรรม,เสร็จสิ้นงานทุกอย่างก็นอนหลับพักผ่อน.
หลังจากลืมตาตื่น,เขาก็เรียก“หยาซาน,เตรียมอาหารให้ข้า,ยิ่งมากยิ่งดี!”
หนูตัวน้อยในฐานเวลานี้เริ่มหวีดร้องเสียงดังด้วยความหวาดกลัว,กำลังวิ่งพล่านในกรง
หยาซานที่สะดุ้ง,พร้อมกับเอ่ยรับเสียงดัง“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย! รอข้าสักพัก,ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยในทันที.”
......
หลังจากใช้พลังงานไปจำนวนมาก,ได้กินอาหารจนอิ่ม,ก็ทำให้เขาสบายตัวขึ้น.
หยาซานที่ลังเลเอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,เมื่อวานได้ยินเสียงระเบิดดังหรือไม่,แม้แต่แผ่นดินไหวรุนแรง,ข้าจึงต้องการถามว่า,เป็นท่าน.....”
หยาซานเคยเห็นระเบิดของซูเห่ามาก่อนแล้ว,หลังจากสัมผัสได้ถึงแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง,เขาก็บอกได้ทันทีว่าพี่ใหญ่เหว่ยคงกำลังต่อสู้กับใครสักคน!
ใช่แล้ว,หยาซานที่บอกได้ทันทีว่าแผ่นดินไหวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร,เป็นฝีมือของพี่ใหญ่เหว่ย,ดังนั้นจึงไม่ได้หนี!
ซูเห่าเอ่ยอย่างไม่แยแส“เจ้ากล่าวถูกแล้ว,เป็นข้าทำเอง! เสียงดังขนาดนั้นเลยรึ?”
หยาซานที่กลืนน้ำลายอึกใหญ่,ลอบคิดในใจ“พี่ใหญ่เหว่ย,ไม่เพียงแค่ดัง,ยังมากด้วย!”
ซูเห่าเอ่ย“สองวันก่อนข้าได้ออกไปด้านนอก,ค้นหาบุตรแห่งฆาตกรรมที่ไล่สังหารมนุษย์กลายพันธ์ไปทั่ว,จากนี้เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องบุตรแห่งฆาตกรรมแล้ว,ทำสิ่งที่เจ้าควรทำไป,ไม่ใช่ว่าจะย้ายไปเมืองฮุยหยางหรอกรึ? วางแผนเสร็จรึยัง.”
ปากของหยาซานที่อ้าค้าง,เต็มไปด้วยความตะลึงงัน.
เสียงที่ดังสนั่นนั่น,เป็นเพราะพี่ใหญ่เหว่ยสังหารบุตรแห่งฆาตกรรมอย่างงั้นรึ?
เขาจำได้ว่าพี่ใหญ่เอ่ยว่า เขาไม่ใช่คู่มือของบุตรแห่งฆาตกรรมหรอกรึ?
หยาซานที่จ้องมองพี่ใหญ่เหว่ยซ้ำอีกครั้ง,ก่อนคิดในใจ“พี่ใหญ่เหว่ยทรงพลังมาก,คาดไม่ถึงว่าจะถ่อมตัวขนาดนี้! ควรค่าให้ศึกษา,ข้าหยาซานควรจะถ่อมตัวให้ได้เหมือนพี่ใหญ่เหว่ย!”
ในเวลาเดียวกัน,ซูเห่าที่กินอาหารไปจำนวนมาก,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นจิงซี,เพื่อชดเชยจิงซีที่เสียไป.
หลังจากฟื้นฟูกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์,เขาก็เข้าจับหนูทดลองอีกครั้ง.
เริ่มวิจัยต่อทันที.
ก่อนอื่นเขาได้ตรวจสอบชิ้นส่วนยีนของบุตรแห่งฆาตกรรม,ซึ่งทำให้เขาดวงตาเบิกกว้างกลมโตทีเดียว.
บุตรแห่งฆาตกรรมไม่เพียงแค่มียีนลำดับมนุษย์พิษเท่านั้น,ยังมียีนของลำดับมนุษย์กลายพันธ์ของลำดับอื่น ๆ ด้วย.
กล่าวได้ว่ายีนที่สะสมได้มาอยู่รวมกัน,ราวกับว่าเป็นคลังสมบัติยีนก็ว่าได้.
“หลังจากตรวจสอบให้ระเอียดแล้ว,มันยังไม่สมบูรณ์,จากชิ้นส่วนยีนมีเพียงสี่ลำดับ,อย่างไรก็ตามนี่ก็น่าพรั่นพรึงแล้ว,นี่เขาเป็นตัวตนในตำนานไปแล้วรึ? นี่คือพระเจ้าหรือไม่? ไม่ ๆ,ควรจะเรียกว่าครึ่งเทพถึงจะถูกต้อง!
บุตรแห่งฆาตกรรมที่ผสานลำดับยีนเข้าด้วยกัน,ทำให้ซูเห่าตื่นตะลึง,นี่เท่ากับว่ามันเป็นหนึ่งในข้อมูลในการยกระดับสู่ขั้นถัดไปให้กับซูเห่าได้ก้าวตาม.
หลังจากศึกษายีนของบุตรแห่งฆาตกรรมไปพักหนึ่ง,เขาก็หยุด.
เพราะยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ.
“จากนี้,จะไม่มีใครมาขวางการศึกษายีนรูนแล้ว,ครั้งนี้ข้าจะต้องศึกษายีนรูน,ในร่างของหนูทดลอง.”
ซูเห่าที่กำหมัดเอ่ยเสียงเบา“ข้าต้องการออกแบบรูปแบบใหม่,สร้างสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา!”
สองเดือนถัดมา,ซูเห่าอายุ 18 ปี.
ซูเห่าที่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก,อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“ติ๊ง,ประสบความสำเร็จในการสร้างสายพันธ์ใหม่!”
เขาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง,เอ่ยพึมพำ“มา,สายพันธ์ใหม่”
หกเดือน,กับการสร้างหนูทดลองเป็นหนู“สว่างจ้า”
หนูทดลองที่ส่องแสงสว่างจ้า,หลังจากนั้นมันก็วิ่งเข้าไปในห้อง,ร่างของมันส่องแสงสว่างเหมือนกับดอกไม้ไฟเมื่อวิ่งเข้าไปในความมืดทำให้มันวิ่งพล่านไม่หยุด.
หนูทดลองพันใหม่ที่ตกใจกับแสงที่มันส่องออกมา,มันวิ่งไม่หยุดหวังว่าแสงจ้าบนร่างของมันนั้นจะดับลง.
อย่างไรก็ตามยิ่งมันวิ่งเท่าไหร่,แสงกับยิ่งสว่างยิ่งกว่าเดิม.
ในมุมมองของซูเห่า,สัตว์อสูรในชาติที่แล้วที่ส่องแสงได้นั้น,ไม่ได้มีพลังโจมตีที่ทรงพลังแต่อย่างใด,ทว่ามันกับมีความสามารถที่พิเศษเป็นอย่างมาก.
“ทว่าในเวลานี้,หนูทดลองไม่ได้ฉลาดนัก,มันไม่อาจควบคุมรูนสว่างจ้าบนร่างของมันได้!”
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้หาได้สำคัญ,การที่ทำให้รูนสว่างจ้าบนร่างของมันได้ก็พอแล้ว,ส่วนเรื่องเชาว์ปัญหานั้นไม่มีความจำเป็นต้องคิด.
ขอเพียงบันทึกยีนรูนเอาไว้ได้,ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว.
หนูทดลองสว่างจ้าประสบความสำเร็จในการส่องแสง,ต้องผ่านการทดลองมามากมายหลายครั้ง,ไม่ง่ายที่จะสำเร็จเช่นกัน.
เขาได้ทำการบันทึกรูนและทดลอง ใช้เวลาเป็นอย่างมาก,รวมทั้งยีนที่เพิ่มจิงซีให้กับหนูทดลองเพื่อที่จะสามารถใช้งานยีนรูนได้.
ซูเห่าได้ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าในการฝั่งชิ้นส่วนยีนลงไป,มีหนูทดลองจำนวนมากที่ต้องสละชีวิตในการทดลองนี้.
หนูเห่าที่จับหนูสว่างจ้าที่วิ่งพล่านใส่กรงเอาไว้,ก่อนที่จับหนูตัวอื่นเพื่อนำมาทดลองต่อ,ในเวลานั้นเขากับพบว่าหนูทดลองเวลานี้ไม่พอให้ทดลองแล้ว.
ซูเห่าจึงเปิดห้องทดลอง,พร้อมกับเรียกหยาซานให้เขามาช่วยจับหนูมาให้หน่อย.
ก่อนที่เขาจะนึกอะไรได้,สองเดือนก่อนหยาซานได้นำสมาชิกแก๊งซือหลินจำนวนมาก,ย้ายไปยังเมืองฮุยหยางทางตะวันออก.
ในเวลานี้ในเมืองซือหลิน,มีเพียงแค่เขาและหนูทดลองเท่านั้น.
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องลงมือจับหนูทดลองจำนวนมากด้วยตัวเอง.
ซูเห่าที่เผยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก“ข้าอยู่ตัวคนเดียว! ตอนนี้ชินแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า,ศึกษายีนรูนต่อไป! น่าสนใจ.”
เขาที่เอ่ยเสียงเบา,ก่อนที่จะกลับห้องทดลอง,และเริ่มวิจัยยีนรูนต่อไป,ทว่าในเวลาไม่นานเขาสัมผัสได้ถึงจิงซีที่คุ้นเคยจากเรดาร์.
“หืม? หยาซาน,เขากลับมารึ?!”
จากเรดาร์ของซูเห่า,เป็นหยาซานที่บินด้วยความเร็วสูงและมุ่งตรงมายังเมืองซือหลิน.
ต้องไม่ลืมว่าเมืองฮุยหยางกับเมืองซือหลินอยู่ไม่ใกล้เลย,แม้แต่หยาซานบินด้วยความเร็วสูงสุด,ยังต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง.
ในเวลานี้หยาซานกลับมาแล้ว,ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญจึงมาหาเขา,ดังนั้นซูเห่าจึงยังไม่กลับเข้าไปในห้องทดลอง,ยืนรอหยาซานที่สวน.
ไม่นาน,ก็เห็นร่างของหยาซานที่บินมา.
เกราะเพชร,ปีกเพชรที่ส่องประกายระยิบระยับงดงาม.
หยาซานร่อนลงพื้นเสียงดัง.
เขาบินเป็นเวลานาน,ขณะลงพื้นจึงขาเป็นเหน็บจึงยืนไม่มั่นคง,ทรุดลงไปกองบนพื้น,ซูเห่าเอ่ยออกมาทันที“โย่,หยาซานเจ้ากลับมาแล้ว,ดูเหมือนว่าทักษะลงพื้นของเจ้าจะไม่พัฒนาเลยนะ!”
หยาซานที่เอ่ยอย่างขัดเขิน“พี่ใหญ่เหว่ยก็พูดไป,ข้าบินมาตั้งนาน,ไม่ใช่ว่าลืมวิธีลงพื้น,ทว่าแขนละขาของข้ามันเป็นเหน็บชาต่างหาก ฮ่าฮ่าฮ่า”
ซูเห่าเอ่ย“แล้วเจ้ากลับมาทำอะไร? มีเรื่องสำคัญอะไรอย่างงั้นรึ?”
หยาซานที่เอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง“แน่นอน,ข้าได้ศึกษาอาหารจานใหม่ได้,จึงรีบมาที่นี่,เพื่อทำให้พี่ใหญ่เหว่ยชิมโดยเฉพาะ!”
ซูเห่า“....”
หยาซานที่เห็นพี่ใหญ่เหว่ยไม่ตอบสนอง,จึงเอ่ยออกมาว่า“สองสามวันนี้,ข้ากลัวว่าพ่อครัวคนอื่นจะไม่ทำให้พี่ใหญ่เหว่ยพอใจ,ข้าจึงเดินทางโดยไม่พักเลย,เพื่อกลับมาทำให้ท่านทาน.”
หยาซานที่เก็บเกราะเพชร,จากนั้นก็เปลี่ยนมันเป็นมีดทำครัว“พี่ใหญ่เหว่ยโปรดรอสักครู่,ข้าจะทำอาหารให้ท่านทันที!”
ซูเห่าที่สร้างโต๊ะเก้าอี้เพชรขึ้นมา,ก่อนจะนั่งรอในสวน,จ้องมองหยาซานที่กำลังวุ่นวายกับการทำอาหาร,ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน,ก่อนที่จะถอนหายใจ“หยาซาน,ไม่เสียแรงที่ฝึกฝนมา!”